แม้ว่ายาเสพติดจะเป็นสิ่งที่ผลิตขึ้นเพื่อมนุษย์ แต่กลับกลายเป็นว่าไม่ได้มีแค่มนุษย์เท่านั้นที่เสพติดสารสังเคราะห์อย่างยาเสพติด เพราะเร็ว ๆ นี้ ผลวิจัยออกมาว่าผงขาวอย่างโคเคนสามารถสร้างผลกระทบเป็นวงกว้างและทำให้สิ่งมีชีวิตอื่นนอกจากมนุษย์เสพติดมันได้เช่นกัน เพราะยาเสพติดไม่เพียงแต่ทำลายร่างกายของมนุษย์และส่งผลกระทบในแง่ลบต่อสังคมเท่านั้น ธรรมชาติเองก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ด้วยเหตุนี้เองทำให้เหล่านักวิจัยได้ออกมาเตือนว่าโคเคนที่ปนเปื้อนลงในแหล่งน้ำกำลังส่งผลกระทบอย่างมากต่อปลาไหลที่อาศัยอยู่ในยุโรปและโคเคนนั้นส่งผลกับตัวปลาไหล รวมถึงส่งผลต่อวงจรการผสมพันธุ์ ถ้าปลาไหลติดโคเคนก็เสี่ยงทำให้สูญพันธุ์ได้ เนื่องด้วยปริมาณโคเคนที่ปนเปื้อนในแหล่งน้ำทั่วทั้งยุโรป ทำให้นักวิทยาศาสตร์ได้ทดลองและวิจัยเพื่อหาคำตอบเกี่ยวกับผลกระทบของโคเคนต่อเหล่าปลาไหล โดยการใส่ผงโคเคนลงในตู้ปลาที่อยู่ในห้องปฏิบัติการและรอผลเป็นเวลากว่า 50 วัน หลังจากที่ทีมวิจัยใส่โคเคนลงในตู้ปลาในปริมาณเทียบเท่ากับแหล่งน้ำที่มีสารเสพติดปนเปื้อน ก็พบความผิดปกติบางอย่างที่เกิดขึ้นกับปลาไหล เพราะพบสารเสพติดตกค้างอยู่ในร่างกายของปลาไหลจำนวนมากทั้งในสมอง กล้ามเนื้อ ผิวหนัง รวมถึงเหงือกที่มีอาการกล้ามเนื้อบวมผิดปกติ รวมถึงฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงโดยใช้เวลาเพียงแค่ 10 วันเท่านั้น ท้ายที่สุดแม้จะย้ายปลาไหลไปยังตู้ที่มีน้ำบริสุทธิ์แล้วแต่ปลาไหลเหล่านี้ก็ยังคงมีอาการผิดปกติจากสารเสพติดที่ได้รับ Capaldo หนึ่งในทีมวิจัยกล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่าทุกส่วนในร่างกายของปลาไหลได้รับผลกระทบทั้งหมด สิ่งน่ากลัวที่สุดคือโคเคนที่อยู่ในน้ำจะเข้าไปเพิ่มระดับคอร์ติซอลซึ่งเป็นฮอร์โมนกลุ่ม steroid ที่จะหลั่งออกมาเมื่อเกิดความเครียด กระตุ้นตับให้สร้างน้ำตาลออกมาสู่กระแสเลือด ส่งผลให้ร่างกายกระตุ้นการใช้ไขมันมากขึ้น ปัญหาจากการต้องการไขมันนั้นส่งผลต่อปลาไหลเป็นอย่างมาก เนื่องจากวงจรชีวิตของปลาไหลนั้นจะต้องสะสมไขมันให้เพียงพอก่อนจะออกเดินทางไกลเพื่อไปผสมพันธุ์ และเมื่อระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลเพิ่มสูงขึ้นก็จะส่งผลให้การผสมพันธุ์ของปลาไหลกลายเป็นเรื่องยาก เพราะเมื่อกล้ามเนื้อของปลาไหลเกิดอาการบวม จะทำให้ความสามารถในการว่ายน้ำระยะไกลลดลง นอกจากนี้เมื่อปลาไหลที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำที่มีโคเคนปนเปื้อน พวกมันจะไม่ต้องการการผสมพันธุ์ตามธรรมชาติส่งผลให้อัตราการสืบพันธุ์ลดลง และถึงแม้จะย้ายปลาไหลที่มีโคเคนอยู่ในร่างกายไปยังแหล่งน้ำสะอาดแล้ว แต่เหล่าปลาไหลที่ได้รับโคเคนก็ไม่สามารถฟื้นตัวได้ในระยะสั้น ๆ จึงเป็นปัญหาระยะยาวที่ส่งผลต่อระบบนิเวศน์ แล้วทำไมถึงได้มีโคเคนอยู่ในแหล่งน้ำทั่วทั้งยุโรป ? นั่นเพราะโคเคนเป็นหนึ่งในยาเสพติดที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย และสามารถเดินทางผ่านน้ำหรือปัสสาวะของผู้เสพจากห้องน้ำลงสู่บ่อบำบัดน้ำเสียและไหลลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ รวมถึงในบางครั้งที่เหล่าผู้เสพและผู้ขายต้องการทำลายหลักฐานก็มักจะนำผงขาวไปทิ้งลงน้ำกันเป็นจำนวนมาก โดยในวารสาร Science of the Total Environment ก็ได้ยืนยันแล้วว่าปลาไหลยุโรปมีความเสี่ยงที่จะเสพติดโคเคนจริง
แม้เป็นเรื่องยากจะยอมรับ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเหล่าพ่อค้ายานั้นมีอิทธิพลทั้งในธุรกิจบนดินและใต้ดิน แถมยังมีส่วนในการดำเนินกิจการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ การเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ที่บางครั้งกฎหมายก็ยากที่จะต้านทานอำนาจของเม็ดเงินที่เหล่าพ่อค้ายามี แต่ความราบรื่นก็ไม่ได้เป็นของทุกคนที่ทำอาชีพนี้ มีน้อยคนนักที่จะร่ำรวยมหาศาล จำนวนมากต้องล้มตายหรือจบชีวิตลงในคุก UNLOCKMEN จึงจะพาไปทำความรู้จักกับเหล่าพ่อค้ายาที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ว่าเขาได้เงินเหล่านั้นมาจากไหน และเอาเงินเหล่านั้นไปทำอะไรบ้าง 5. KHUN SA ทรัพย์สินราว 5 พันล้านเหรียญ ขุนส่า หรือ จางชีฟูที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ จันทร์ จางตระกูล ราชายาเฮโรอีนผู้ล่วงลับที่ครอบครองเขตพื้นที่แถบสามเหลี่ยมทองคำทางภาคเหนือของไทยและใช้เป็นฐานการผลิตยาเสพติด ได้รับการจัดอันดับให้เป็นพ่อค้ายาที่ร่ำรวยที่สุดในโลกอันดับ 5 ด้วยเม็ดเงินที่ได้มาจากการค้าฝิ่น เฮโรอีน รวมถึงธุรกิจใต้ดินต่าง ๆ ขุนส่ามีอิทธิพลมากต่อระบบการเมืองของพม่าเพราะเขาคือผู้นำกองทัพเมิงไตที่ร่วมต่อสู้เพื่อเรียกร้องเอกราชให้กับชนกลุ่มน้อยชาวไทใหญ่ในประเทศพม่า จนกระทั่งลุกลามเป็นสงครามฝิ่น ค.ศ. 1967 ถึงแม้ว่าจะมีรายได้มากมายจากการค้ายา แต่ขุนส่าได้กล่าวถึงธุรกิจของตัวเองว่าที่ทำไปทั้งหมดเพราะต้องการจะปลดแอกตัวเองจากการกดขี่ของกองทัพพม่าตั้งแต่ปี 1947 และเฮโรอีนคือหนทางทำเงินที่รวดเร็วที่สุดเพื่อนำเงินทั้งหมดทุ่มไปกับการซื้ออาวุธสงครามเพื่อต่อสู้ 4. Jorge Luis Ochoa Vásquez ทรัพย์สินราว 6 พันล้านเหรียญ สามพี่น้องตระกูล Ochoa นำโดย Jorge Luis
ปฏิเสธไม่ได้ว่าค่านิยมการใช้ยาเสพติดคู่กับการมีเซ็กซ์นั้นเป็นวัฒนธรรมที่อยู่คู่กับสังคมมนุษย์มาอย่างยาวนาน ไม่ใช่แค่ในประเทศไทย แต่เป็นทั่วทั้งโลก นับวันก็ยิ่งได้รับความนิยมขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นเราจึงอยากนำบทความนี้จาก Rooster Magazine มาเผยแพร่ให้ทุกคนได้ทราบ เราไม่ได้ส่งเสริมสนับสนุนความวิเศษของยาเสพติดเมื่อใช้คู่กับเซ็กซ์ แต่เป็นการให้ความรู้ความเข้าใจเพื่อที่ทุกคนได้รู้เท่าทันพิษภัยของมันและไม่หลงตกเป็นทาสของความสุขสุดขีดแค่เพียงชั่วคราวเหล่านี้ Ecstasy Ecstasy หรือที่ทุกคนคุ้นเคยกันดีในชื่อ ‘ยาอี’ เป็นยาเสพติดที่ออกฤทธิ์ทั้งกระตุ้นและหลอนประสาท มีสูตรโครงสร้างคล้ายกับ เมทแอมเฟตามีน หรือ ยาบ้า แต่มีฤทธิ์ที่รุนแรงกว่าถึง 10 เท่า เสพโดยการรับประทาน บ้างนิยมเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน ในรูปแบบเม็ดหรือแคปซูล จัดอยู่ในกลุ่มยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ตาม พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 “ปัญหาสำคัญของการมีเซ็กซ์ในขณะเสพยาอีนั้น ไม่ว่าจะผู้ชายหรือผู้หญิง การจะถึงจุดสุดยอดนั้นเป็นเรื่องยาก อาจจะต้องใช้เวลามากกว่าปกติหลายเท่า ไม่ว่าในขณะนั้นอารมณ์ทางเพศจะพลุ่งพล่านแค่ไหน ดังนั้นทางที่ดีอาจจะต้องจัดการช่วยตัวเองก่อน ให้อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ ก่อนจะลงสู่สนามจริง” – ชายหนุ่มวัย 27 “สำหรับผม ยาอีมีส่วนช่วยให้อารมณ์ทางเพศเพิ่มขึ้นพอสมควร แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกสนุกสนาน หัวใจเต้นเร็ว จนในบางครั้งก็ยากที่จะโฟกัสกับเซ็กซ์ตรงหน้า และแน่นอนว่าการจะเสร็จสมอารมณ์หมายนั้นเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร บางครั้งอาจใช้เวลามากกว่า 1 ชั่วโมงเลยทีเดียว” – ชายหนุ่มวัย 23 โคเคน โคเคน หรือในภาษานักเสพมักนิยมเรียกว่า ‘โค้ก’
โคเคนคือสารเสพติดที่มีลักษณะเป็นผงสีขาว ออกฤทธิ์กระตุ้นประสาท วิธีการเสพส่วนใหญ่จะนิยมสูดดมผ่านทางจมูก แต่ก็สามารถนำมาสูบในรูปแบบ Crack Cocaine ได้เช่นกัน เมื่อโคเคนเข้าสู่ร่างกาย ระดับสารโดพามีนในสมองก็จะถูกกระตุ้น ทำให้ผู้เสพรู้สึกตื่นตัว มั่นใจในตัวเอง มีความสุข แต่เมื่อฤทธิ์ของมันหมด ทุกอย่างก็จะกลับตาลปัตร ผู้เสพจะเริ่มมองโลกในแง่ร้าย มีอาการซึมเศร้า หมดกำลังใจ จะว่าไปแล้วระดับการออกฤทธิ์ของโคเคนนั้นคล้ายกับเส้นทางชีวิตของผู้ที่ทำให้มันแผ่กระจายไปทั่วโลก คือเริ่มต้นด้วยความยิ่งใหญ่ มีอำนาจล้นฟ้า ร่ำรวยจนมองธนบัตรเป็นกระดาษชำระ ก่อนที่สุดท้ายจะลงเอยด้วยการเป็นศพข้างถนน ถูกขังลืมในคุก หรือไม่ก็ต้องหลบหนีไปทั้งชีวิต ผงสีขาวที่เป็นทั้งพระเจ้าและปีศาจร้ายนี้อยู่คู่กับประวัติศาสตร์การมัวเมาของโลกมาอย่างยาวนาน แต่ถ้าจะพูดถึงยุคทองของโคเคน ช่วงเวลาที่เจ้าผงสีขาวนี้แพร่กระจายไปทั่วโลก กลายเป็นยาเสพติดยอดฮิต คงต้องย้อนกลับไปในช่วงยุค 70 ณ ประเทศโคลอมเบีย ที่ในเวลานั้นเต็มไปด้วยแก๊งค้ายามากมาย ซึ่งสิ่งที่ตามมาคือความขัดแย้ง สงคราม การนองเลือด และความตาย โดยในวันนี้เราจะพาทุกคนบินลัดฟ้าสู่โคลอมเบียยุค 70 เรียนรู้ประวัติศาสตร์แห่งความโหดร้ายนี้ไปพร้อม ๆ กัน Medellin Cartel เชื่อว่าคงไม่มีใครไม่รู้จัก ‘Pablo Escobar’ ราชาแห่งโคเคน เขาคือ Iconic ของยาเสพติดชนิดนี้ก็ว่าได้ และเป็นหนึ่งในพ่อค้ายาเสพติดผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล ทำเงินมหาศาลจากธุรกิจนี้ ร่ำรวยจนครั้งหนึ่งเคยได้รับตำแหน่งผู้มีทรัพย์สินมากที่สุดในโลกอันดับ 7 จากนิตยสาร
ชีวิตวัยรุ่นถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญของชีวิต เพราะอยู่ในวัยที่ว้าวุ่นซะเหลือเกิน อ่อนไหวไปตามสิ่งรอบตัวได้ง่ายจากการตัดสินใจเพียงเสี้ยววินาที บางคนก็ไปในทางที่สวยงาม เรียบง่าย บ้างก็เดินทางผิด เสียใจบ้าง เสียเวลาบ้าง แต่แย่สุดคือเข้า Dark Side ไปพัวพันกับยาเสพติดนี่แหละ วันนี้ UNLOCKMEN ขอแนะนำ 5 หนังวัยรุ่นที่ชีวิตวายป่วงเพราะยาเสพติด วัยเลือดร้อนจงดูไว้เผื่อมันจะตกตะกอน สะท้อนอะไรบางอย่าง หรือได้ข้อคิดอะไรจากมัน น้ำพุ (1984) เรื่องราวของน้ำพุอาจเป็นที่คุ้นเคยกับคนไทยดี เพราะคือภาพยนตร์ที่ดังแบบสุด ๆ ในช่วงนั้นพร้อมกับแจ้งเกิดให้กับ “หนุ่ย อำพล” ที่แสดงเป็น “น้ำพุ” ตัวเอกของเรื่อง ที่ต้องจากไปเพราะยาเสพติดในวัยที่เขาควรจะได้นั่งเรียนกับเพื่อน ๆ สานฝันให้กับตัวเองและครอบครัว เมื่อดูจบแล้วพอจะตระหนักได้ถึงโทษของยาเสพติดที่ทำลายตัวเอง และยังสร้างความเจ็บปวดให้แก่ครอบครัวและคนที่รัก Trainspotting (1996) อีกสุดยอดความวายป่วงของหนังยาเสพติด เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้เราเห็นคนติดยาด้วยภาพมายาคติจากมุมคนทั่วไปในสังคม แต่เล่าเรื่องราวจากกลุ่มวัยรุ่นในวังวนของเฮโรอีน ที่ใช้ชีวิตกับมันแบบทั้งวันทั้งคืน วันแล้ววันเล่า ถึงแม้ว่าจะอยากเลิกแต่ก็อยู่ในลูปเดิม ๆ ด้วยการ เสพ ถอน กลับมาติดอีก แบบนี้ไปเรื่อย ๆ และหนังยิ่งเผยด้านมืดของยาเสพติดออกมาด้วยอาการสุดเพี้ยนในช่วงถอนยา และช่วงที่เทคยาเกินขนาด ดูจบแล้วจากที่เคยคิดอยากลองอาจจะเวียนหัวจนอยากอาเจียนไปกับอาการบ้าบอที่ต้องพบเจอหากเสพยาก็ได้