ในยุคที่แฟชั่นรองเท้าผ้าใบกลายเป็นวัฒนธรรมหลัก ผู้คนก็เริ่มมีไอเดียและความรู้ในการเฟ้นหารองเท้ากันมากขึ้น ไม่ใช่แค่รุ่นใหม่จากดีไซน์เนอร์คนดังเพียงอย่างเดียว แต่รองเท้าที่ขึ้นชื่อด้านความคลาสสิค ความวินเทจ ก็ได้รับความนิยมมากไม่แพ้กัน ทำให้ในปัจจุบันเริ่มมีหลายแบรนด์นำรองเท้าโมเดลยิ่งใหญ่ในอดีต กลับมา re-production ผลิตใหม่อีกครั้งด้วยวิธีการดั้งเดิม โดยยังคงคุณสมบัติและจุดเด่นเช่นเดียวกับในยุคอดีตไว้อย่างครบถ้วน ถ้าพูดถึง Converse ย่อมนึกถึงภาพรองเท้าคู่กายผู้ชาย ที่ใส่ Mix and Match กับลุคไหนก็ทำได้ง่าย แถมยังมีความคงทน ไม่ขาด ไม่พัง อย่างเราเองก็ใส่มาตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย ยาวไปถึงจบมหาวิทยาลัย รองเท้าก็ยังไม่พัง แถมยังมีจำนวนมากขึ้นแถบจะครบทุกเฉดสีโดยไม่รู้ตัว และถ้าพูดถึง Converse รุ่นที่หายาก เป็นรุ่นที่มีความแตกต่าง มีจุดเด่นที่สังเกตได้ง่าย ได้รับความนิยมมาโดยตลอด ต้องเป็น Converse All Star 70’s รองเท้าวินเทจสุดคลาสสิคในตำนานของยุค 70’s ที่หาซื้อยาก จนมีเสียงเรียกร้องให้นำมาผลิตใหม่อีกครั้ง ข่าวดีคือคอลเลคชั่นล่าสุดของ Converse มีการนำ All Star 70’s ออกมาทำใหม่ให้เก็บสะสมกันอีกด้วย ความแตกต่างของ Converse All Star 70’s เชื่อว่าหลายคนต้องใส่หรือมี Converse
NMD เวอร์ชั่น 2 ที่กลับมาพร้อมละลายเงินในกระเป๋าสตางค์ของคุณพร้อมกันวันที่ 6 เมษา นี้
ไขความลับที่มาของ VaporMax รองเท้าที่มีกระแสคนพูดถึงมากที่สุดในขณะนี้
มิกซ์แอนด์แมทช์สไตล์ด้วยโทนสีคลาสสิคที่ได้แรงบันดาลใจมาจากยอดนักบาส Michael Jordan
หากใครมีโอกาสได้คลุกคลีอยู่ในโลกแห่งนาฬิกาข้อมือ คงพอจะรู้ว่านิยามของมันถูกขยายขอบเขตกว้างออกไปมากกว่าการเป็นแค่เครื่องบอกเวลา เพราะมันยังถือเป็นเครื่องประดับที่สามารถบ่งบอกตัวตน และความภาคภูมิใจให้กับผู้สวมใส่ได้ในหลายแง่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของมูลค่า ความยากลำบากในการเสาะหามาเป็นเจ้าของ ความแม่นยำของกลไกบอกเวลา รวมไปถึงขั้นตอนการผลิตที่มีความประณีต และละเอียดพิถีพิถันในระดับงานฝีมือ ซึ่ง Grand Seiko เป็นแบรนด์นาฬิกาที่เรามองว่าสามารถเป็นอีกหนึ่งตัวแทนแห่งความภาคภูมิใจให้กับผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี เพราะในวงการนาฬิกาต่างรู้ดีว่า เหตุผลหลักสำหรับผู้ที่ตัดสินใจเป็นเจ้าของนาฬิกาไฮเอนด์ จากญี่ปุ่นแบรนด์นี้ จะต้องเกิดจากการค้นคว้าข้อมูลลงลึกไปถึงเรื่องราวความเป็นมาจนก่อเกิดเป็นความหลงใหลในตัวตนของ Grand Seiko กับงานฝีมือระดับสูง และเทคโนโลยีกลไกบอกเวลาชั้นนำ ที่ถูกซ่อนเอาไว้ภายใต้รูปลักษณ์อันเรียบง่าย เสมือนความตั้งใจที่จะเก็บความสุดยอดนี้เอาไว้เป็นความภาคภูมิใจที่รู้กันเฉพาะช่างนาฬิกาผู้ให้กำเนิด และผู้สวมใส่ที่รักความเป็น Grand Seiko อย่างแท้จริง โดยเรื่องราวความเป็นมาของ Grand Seiko ต้องย้อนกลับไปในปี 1960 ซึ่ง Seiko แบรนด์นาฬิกาสัญชาติญี่ปุ่น มีแนวคิดที่จะสร้างสรรค์นาฬิกาในอุดมคติสำหรับคนรักนาฬิกาข้อมือระดับ Hi-end ที่เน้นความเรียบง่ายของฟังก์ชั่นการใช้งาน แต่เต็มเปี่ยมด้วยความสมบูรณ์แบบทั้งความพิถีพิถันในงานขัดแต่งตัวเรือนภายนอก และการพัฒนาความเที่ยงตรงในการบอกเวลาของ Movement ภายในภายใต้ชื่อ Grand Seiko และตลอดระยะเวลาเกือบ 60 ปีที่ผ่านมา Grand Seiko ได้พิสูจน์ความตั้งใจที่มีมาแต่เริ่ม โดยยังคงมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับความเที่ยงตรงของกลไกบอกเวลา ซึ่งถือเป็นหน้าที่หลักของนาฬิกาในอุดมคติของผู้สวมใส่ ที่ต้องการใช้นาฬิกาที่มีความผิดเพี้ยนของเวลาน้อยที่สุด และปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือเรื่องที่ท้าทายเป็นอย่างมากสำหรับผู้ผลิต Mechanical
ไปเดินที่ไหนก็หาไม่เจอบอกเลยกับสุดยอดแบรนด์ฮอตอย่าง Champion Apparel
สมญานาม The Chosen One ไม่ใช่อะไรที่ได้มาง่ายๆ การเป็นอันดับหนึ่งของผู้ถูกเลือก จะต้องมีอะไรที่โดดเด่น และเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง ซึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของ Sneaker ตระกูล Nike Air Max 1 นั้นมีรองเท้าอยู่หนึ่งรุ่นที่ควรค่าแก่ตำแหน่ง The Chosen One นั่นคือ Nike Air Max 1 atmos Elephant ที่ได้รับความนิยมตั้งแต่เริ่มวางจำหน่าย และมีมติเป็นเอกฉันท์จากเหล่า Sneakerhead ทั่วโลก Vote Back เรียกร้องการกลับมาของ ‘ช้างฟ้า’ คู่นี้ ด้วยความนิยมขั้นสุดซึ่งพิสูจน์ได้จากผล Vote ทาง Nike จึงได้นำ Air Max 1 atmos Elephant กลับมาขึ้นไลน์ผลิตและวางจำหน่ายอีกครั้ง พร้อมเปิดตัวเป็นครั้งแรกในไทยเมื่อวันเสาร์ที่ 18 มีนาคม ที่ผ่านมา ณ Air Max x Carnival
สีส้ม ไม่ว่าจะอยู่กับอะไรก็เท่ แต่ถ้าจะให้ดี UNLOCKMEN ฟันธงว่าต้องคู่กับสีดำ
มารัวๆ สำหรับรองเท้าจากทางแบรนด์ Nike แต่น่าเสียดายที่ประเทศไทยยกเลิกไลน์บาสไปแล้วทำให้เป็นความยากสำหรับ sneakerhead ในการตามหารุ่นนี้
หากเอ่ยถึงนาฬิกา แทบทุกคนจะต้องนึกถึงเครื่องบอกเวลาคู่กายมนุษย์ขึ้นมาเป็นอันดับแรก แต่สำหรับแบรนด์นาฬิการะดับโลกที่ผ่านกาลเวลามาอย่างยาวนาน หน้าที่ของมันย่อมมีมากกว่าการบอกเวลา ด้วยโอกาสในการได้เป็นส่วนหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์แห่งมวลมนุษยชาติ ทำหน้าที่แสดงช่วงเวลาสำคัญ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วเรื่องราวเหล่านั้นจะได้รับการถูกกล่าวขานต่อไปไม่รู้จบ Speedmaster เป็นซีรี่ส์แห่งเรือนเวลาจากแบรนด์ Omega ที่มีโอกาสได้ผ่านเรื่องราวสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์มายาวนานกว่า 60 ปี ด้วยจุดเริ่มต้นในการเป็นนาฬิกาสำหรับนักแข่งรถ ซึ่งมีชื่อเสียงทางด้านความแข็งแกร่งทนทาน และมาตรฐานการบอกเวลาที่แม่นยำ ส่งผลให้ Omega Speedmaster เป็นนาฬิกาเรือนเดียวที่ผ่านการทดสอบของ NASA จนได้ครอบครองพื้นที่บนข้อมือของนักบินอวกาศทุกรายในโครงการ Apollo นับตั้งแต่ปี 1965 เป็นต้นมา ช่วงเวลาที่ทำให้ชื่อของ Omega Speedmaster ติดตรึงอยู่ในความทรงจำของผู้คนทั่วโลก คงหนีไม่พ้นวินาทีที่ยาน Apollo 11 ลงจอดบนพื้นผิวของดวงจันทร์ในวันที่ 20 กรกฏาคม ปี 1969 ซึ่ง Omega Speedmaster เป็นนาฬิกาที่สองนักบินอวกาศ Neil Armstrong และ Buzz Aldrin สวมใส่ขณะนำก้าวเล็กๆ อันแสนยิ่งใหญ่ของมวลมุษยชาติขึ้นไปฝากรอยประทับเอาไว้บนดวงจันทร์ จนกลายเป็นที่มาของชื่อ The Moon Watch สมญานามแห่งความภาคภูมิใจที่ Omega