ทุกวันนี้มือถือเครื่องเดียวเล่นทุกอย่างได้ก็จริง แต่ต้องยอมรับว่าเวลาเล่นจริง ยังไงมันก็ไม่สะใจเต็มสูบเหมือนการกดคีย์บอร์ดหรือจับจอยเกม เพราะแค่แสดงภาพมันก็คับจอไปหมดแล้ว ปุ่มกดก็เล็กเมื่อเทียบกับขนาดนิ้วมือของพวกเราทำให้เล่นได้ไม่ถนัดอย่างที่คิด แถมบ่อยครั้งมันยังเป็นเหตุให้เราวืด แพ้เกมที่คิดว่าตัวเองหวดได้เต็มที่ ควรจะชนะได้ง่าย ๆ จนต้องหัวร้อนก็หลายหน สิ่งที่แก้ได้ง่ายที่สุดสำหรับคนที่ไม่อยากเสียเงินซื้อ PC สเปคเทพมาใช้ หรืออยากแก้ปัญหาเรื่องการพกพา เพราะใช่ว่าเครื่องที่ดีทีสุดจะเหมาะให้เราแบกไปเล่นที่ไหนก็ได้ จึงหนีไม่พ้นอุปกรณ์เสริมที่สามารถต่อพ่วงกับสมาร์ตโฟนที่ให้สัมผัสไม่ต่างจากการเล่นกับเครื่อง PC หรือเกมคอนโซลที่คุ้นเคย ครั้งนี้ UNLOCKMEN ไปเจออุปกรณ์ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์คอเกมอย่างเรา 2-3 ชิ้น ชนิดที่แค่เห็นรีวิวตอนใช้งานกับเกม PUBG ต่อมความกระหายมีติดกระเป๋ามันก็พุ่งพล่านไปหมด มั่นใจได้ว่าถ้าซื้อมาซิงก์ใช้งานยังไงเสียก็ล็อกเป้าหมายคิลได้ง่ายขึ้นเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก หรือจะประยุกต์ใช้กับเกมอื่นก็คงช่วยให้วินได้ไม่ยาก จอยสติ๊กมือฉมัง PUBG L3R3 METAL CONTROLLERS ถึงแม้ชื่อของเจ้าจอยสติ๊กแบบคลิปหนีบนี้เขาจะรีวิวคลิปตอนเล่นกับ PUBG แต่ก็ออกแบบมาให้ใช้ได้กับเกมอื่นของสมาร์ตโฟนระบบ Android และ iOS ด้วย เช่น Knives Out, Rules of Survival, Survivor Royale, Critical Ops ฯลฯ วิธีใช้แค่ตั้ง setting ปุ่มไว้บนจอแล้วหนีบคลิปให้ตรงกับตำแหน่งปุ่มนั้นทั้งสองด้าน
ปกติโต๊ะทำงานของผู้ชายเราส่วนใหญ่มักจะเคลียร์ไว้ให้โล่งเสมอ หัวจะได้แล่นขณะทำงาน แต่ถ้ามีสิ่งแปลกปลอมนอกเหนือจากอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการทำงานแล้ว ส่วนใหญ่มักเป็นอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงอย่างฟิกเกอร์ตัวโปรด หรือ หนังสือที่ชอบไว้เปิดพักเบรกสายตาเท่านั้น เพื่อเพิ่มรสชาติการทำงาน ทุกวันนี้จึงมีคนประดิษฐ์อุปกรณ์ต่าง ๆ ขึ้นมาสนอง need ของอารมณ์หนุ่มออฟฟิศระหว่างที่นั่งทำงานหน้าจอมากขึ้น ทั้งปุ่ม Enter ขนาดยักษ์ไปทุบแก้หัวร้อน คีย์บอร์ดวินเทจเพิ่มความโก้ ฯลฯ ล่าสุดมีของเล่น tech ชิ้นใหม่สุดยียวนชวนให้ควักกระเป๋าอย่างแฟลชไดร์ฟที่มีชื่อว่า Humpy Dog หรือจะให้แปลเป็นไทยคงเรียกได้ว่า “ไดร์ฟหมาจอมดึ๊บ” ที่พอเสียบเข้าพอร์ต USB แล้ว ระหว่างรออัพโหลดข้อมูลเข้าแฟลชไดร์ฟ เจ้า dog จะกระทำท่า doggie รัว ๆ แบบไม่มีเหนื่อยให้เราได้พักสายตา ว่าด้วยเรื่องคุณภาพ Humpy Dog ผลิตออกมาหลายเวอร์ชั่น บางเวอร์ชั่นใช้เป็น USB cover ขณะที่บางเวอร์ชั่นสามารถใช้เป็นไดร์ฟบันทึกข้อมูล ดังนั้น เวลาซื้อก็ต้องอ่านให้รอบคอบก่อน แต่เราขอรีวิวไว้ตรงนี้ว่าสำหรับตัวที่เป็นแฟลชไดร์ฟยังไม่ใช่ตัวท็อปด้านการใช้งานเพราะมีความจุน้อยแค่ 8 GB เท่านั้น ถ้าเทียบกับแฟลชไดร์ฟใหม่ ๆ ในยุคนี้ก็ถือว่าห่างกันหลายขุม ถ้าซื้อคิดว่าเน้นประโยชน์เรื่องความบันเทิงมากกว่า ใครที่คิดว่าอยากแบ่งปันโมเมนต์กวนขำ ๆ
ทุกวันนี้การถ่ายภาพกลายเป็นหนึ่งในกิจวัตรพื้นฐานที่ผู้ชายอย่างเราต้องทำทุกวัน ถ้าไม่ถ่ายเพื่อใช้งานเองส่วนตัว ก็ต้องถือถ่ายให้คนอื่น ดังนั้นสมาร์ตโฟนจึงเป็นอุปกรณ์สำคัญที่เราต้องใช้ถ่ายภาพอยู่เสมอ แต่บางครั้งสมาร์ตโฟนที่เราเลือกมาก็ไม่ได้ออกแบบมาให้มีคุณสมบัติถ่ายรูปได้เฉียบเท่ากับรุ่นใหม่ ๆ ที่สร้างฟังก์ชันมาเพื่อการถ่ายรูปโดยเฉพาะ ล่าสุดจึงมีคนรู้ใจออกแบบเคสโทรศัพท์มาเพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ เราจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนมือถือเครื่องใหม่ทั้งที่เครื่องเก่าก็ยังใช้งานได้ดีเพราะติดปัญหาเรื่องกล้อง Pictar คือเคสอุปกรณ์เสริมที่สามารถเปลี่ยนโทรศัพท์เครื่องเดิมที่ถ่ายรูปแสนห่วย noise กระจายของเราให้กลายเป็น DSLR ตัวย่อมได้ทันทีที่ใช้ เพื่อให้เราสามารถถ่ายภาพทั่วไปหรือเซลฟี่ได้ดียิ่งขึ้นเพียงแค่สวมทับ ไม่เพียงแค่คุณภาพและฟังก์ชันที่ติดมากับอุปกรณ์ แต่สัมผัสการใช้งานเองก็ยังเลียนแบบออกมาเสียเหมือน เพราะมีกริ๊ฟสำหรับจับกันลื่น ช่วยกันกระแทกเวลาเครื่องหล่นได้ แถมปุ่มด้านบนให้หมุนปรับเลือกฟังก์ชันการถ่ายภาพได้แบบเดียวกับการใช้ DSLR ตั้งค่าได้หมดเนื่องจากมีโหมดไว้ปรับทั้งแสง การซูม หรือค่า ISO ตามต้องการ นอกจากนี้ วิธีเชื่อมอุปกรณ์เพื่อใช้งานยังเป็นการทำงานผ่านคลื่นเสียงความถี่สูงที่เกิดจากการกดปุ่ม โดยแต่ละปุ่มจะให้เสียงต่างกันและซิงค์กับโหมดการใช้งาน จึงทำให้ไม่ดึงพลังงานแบตเตอรี่จากสมาร์ตโฟนของเราระหว่างการใช้งานด้วย เลยเป็นข้อดีที่พวกเราสามารถใช้งานได้แบบไม่ต้องกลัวว่าจะถ่ายภาพสะดุดเพราะแบตฯ หมด สำหรับสายเดินทางที่อยากตั้งกล้องถ่ายแลนสเคปสวย ๆ เพราะกลัวมือสั่น หรือเก็บภาพกลางคืน ทาง Pictar ก็ยังออกแบบทั้งขาตั้งกล้อง แฟลชแยก และไมโครโฟน (กรณีที่เราอยากถ่ายวิดีโอ) มาขายเป็นอุปกรณ์เสริมเพื่อใช้คู่กัน เรียกได้ว่าเลียนแบบ DSLR จริงมาทุกกระเบียดนิ้ว ใครอยากจะเสริมตัวไหนก็เลือกไปใช้คู่กันได้เลย ส่วนใครที่อยากเปรียบเทียบว่าการใช้งานของมันจะดีสมราคาจริงหรือเปล่า ลองดูวิธีใช้งานได้จากจริงด้วยคลิปด้านล่างนี้จะเห็นภาพชัดกว่า ท้ายนี้ ถ้าใครอยากได้ไว้ในครอบครองแนะนำว่าต้องรีบซื้อในเว็บไซต์ของ The Mashable shop
เคยสังเกตไหมว่า เวลาเรานั่ง ๆ อยู่ สักพักหลังที่เคยผึ่งผายจะค่อย ๆ ห่อเข้า เหมือนลูกโป่งลมรั่ว จากที่เคยตึงก็ฟืบลง ตามติดมาด้วยอาการคอตกมันเริ่มเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว ยิ่งกับพวกเราที่มีส่วนสูงมาก ไอ้อาการเดินคอตกหลังค่อมยิ่งเป็นพฤติกรรมติดตัวเพราะเวลาคุยกับคนรอบข้างทีไรเราก็ต้องก้มลงมองทุกที กว่าจะรู้ตัวอีกที การทำแบบนี้ซ้ำ ๆ ก็ทำให้เราติดเป็นนิสัย เดินหลังค่อมโดยไม่รู้ตัว และแม้กระทั่งเวลานั่งก็อาจจะติดนั่งหลังค่อมให้ปวดหลังไปด้วย ยิ่งถ้าทำติดต่อกันเป็นระยะยาวอาจจะมีผลให้กระดูกคดได้ ผู้เขียนเองเจอปัญหานี้บ่อย ๆ เพราะต้องนั่งทำงานติดโต๊ะ ถึงจะหาพนักเสริมพิงช่วยแก้ให้นั่งได้ถูกสรีระขึ้น แต่ก็ยังแก้ได้แค่ชั่วคราว พอลุกเดินก็ติดอาการหลังค่อมมาทำให้เสียบุคลิกภาพ Upright เป็นอุปกรณ์ใหม่ ขนาดเล็กกว่าฝ่ามือที่ใช้แก้ปัญหานี้ได้ นักประดิษฐ์เขาคิดค้นขึ้นเพื่อแก้ปัญหาจากอาการเจ็บ โดยใช้งานง่าย แค่ติดเครื่องนี้ไว้ตรงกลางแผ่นหลัง ทุกครั้งที่เราเริ่มหลังค่อมลง เครื่องจะเริ่มสั่นเตือนให้เรารีบปรับท่านั่งทันที ที่สำคัญเครื่องนี้ยังสามารถเชื่อมเข้ากับแอปพลิเคชัน UPRIGHT GO ที่สามารถใช้ได้ทั้งระบบ andriod และ iOS เพื่อแสดงผล แถมจังต่อยอดได้ด้วยการเทรนนิ่งที่จัดตารางไว้ให้เราได้ฝึกตามในแอปฯ อีกด้วย ประโยชน์ของ Upright Posture ช่วยให้ไหล่เบา ไม่รู้สึกเหมือนใครมาขี่คอ – เครื่องนี้ช่วยลดอาการตึงของไหล่จากท่ายืนท่านั่งที่ผิดปกติ ลดความเครียดและนำความสงบมาให้ชีวิต – การขยับท่าทางให้ถูกต้องจะช่วยลดความเหนื่อยล้าที่สร้างความเครียดได้ รู้สึกเยี่ยมในท่าสุดเพอร์เฟ็กต์ – แค่การนั่งและยืนในท่าที่ถูกต้องจะทำให้เราดูดีขึ้นทันตา
24 ชั่วโมงจากนี้ ทำให้ดี ทำให้ไว ถ้าทำได้ Tasks ทั้งหมดจะได้รับการเคลียร์ไปเลย มีคนเคยบอกว่า ไม่ว่าเราจะมีแผนการบริหารจัดการที่ดีแค่ไหน แต่ถ้าไม่ระบุเวลาของแผนงานลงไปใน Action Plan สิ่งที่ตั้งความหวังไว้อาจเป็นแค่ลมปาก แต่ไม่มีวันเกิดขึ้นจริง จนเราแอบคิดในใจว่าด้วยเหตุผลนี้เอง เวลากับประสิทธิภาพงานเลยถูกพูดถึงคู่กันมาแบบปาท่องโก๋ และอาจกลายเป็นที่มาของการทำ “To do list” ไว้ใช้งาน แต่ถ้าไม่อยากให้งานพลาด การวางแผนซอยย่อย ระบุเวลาสำหรับทำกิจกรรมนั้นไว้อย่างชัดเจน แปะไว้ในมุมที่สามารถมองเห็นได้ตลอดเวลา จะยิ่งทำให้เห็นผลได้มากขึ้น Li Ke, Pang Sheng Li และ Chen Yi Lin สามดีไซเนอร์ที่หลงรักความโปรดักทีฟเข้าไส้ เลยออกแบบ gadget สุดมินิมอลที่จะทำให้เราได้ทำงานแข่งกับเวลาของจริง โดยเราสามารถเขียนระบุ Tasks ที่ต้องการทำบนนาฬิกาในช่องว่างทุกชั่วโมงบนเจ้า Delete Clock ได้ เนื่องจากพื้นผิวหน้าปัดทำขึ้นจากไวท์บอร์ด แต่ถ้าแค่เขียนได้มันก็ธรรมดาไป พวกเขาเลยออกแบบให้มันส์กว่าด้วยการทำตัวเข็มยาวของนาฬิกาให้ใช้งานได้ 2 ฟังก์ชั่น คือเป็นได้ทั้งที่เก็บปากกาไวท์บอร์ดสำหรับเขียนได้โดยไม่ต้องกลัวหาย และด้านล่างของเข็มยาวทำเป็นแปรงลบน้ำหมึกไว้ เรียกได้ว่าทุกวินาทีที่ผ่านไปเราจะต้องเร่งทำสิ่งที่ตั้งใจไว้แข่งกับเข็มนี้ที่คอยไล่ลบ Task ของเราทิ้ง
สาวกความเร็วทั้งหลายที่ชอบให้ผิวกายปะทะกับลมเพราะมันได้ฟีลกว่า และชอบการบิดควบคุมความเร็วผ่านกำมือ คงต้องเคยเจอปัญหาชวนเซ็งอย่างการโทรศัพท์และการฟังเพลง เพราะพอต้องใส่อุปกรณ์เสริมความปลอดภัยอย่างหมวกกันน็อกแล้วมันดูจะมีอุปสรรคไปเสียทุกอย่าง แม้เราจะพยายามหานวัตกรรมใหม่มาเพิ่มความสะดวกมากขึ้น แต่ส่วนใหญ่มันก็ไม่ค่อยพอดีเท่าไหร่ หูฟังบลูทูธเสียบไว้แต่บางทีเสียดสีกับผิวด้านข้างของหมวกกันน็อกมันก็หลุดหล่นลงพื้นระหว่างขับ จนเราต้องเสี่ยงวนรถกลับไปเก็บด้วย Domio Pro คืออุปกรณ์เสริมติดหมวกกันน็อกเพื่อสร้างความบันเทิงรูปแบบใหม่ที่แค่ดูวิดีโอตัวอย่างเราก็รู้สึกหลงรัก อยากได้จนมือไม้สั่น และเชื่อว่าสิงห์นักบิดทุกคนต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน เพราะมันสามารถติดไว้ใช้ได้กับหมวกกันน็อกทุกรุ่นที่เราใช้งาน และแก้ปัญหา pain point ที่เราพูดถึงด้านบนไว้ได้แบบคูล ๆ จบในตัว คุณสมบัติของ Domio Pro ประกอบด้วย มี air mic หรือไมค์โครโฟนที่สามารถตัดเสียงรบกวนเข้าไมโครโฟนระหว่างสื่อสารได้ เชื่อมต่อด้วยระบบบลูทูธ สร้างระบบเสียงทรงพลังจากการสั่นสะเทือน ทำให้เกิดเบสแน่น ๆ ใน track ที่เราชื่นชอบ แบตเตอรี่ใช้ได้ยาวนานต่อเนื่องถึง 24 ชั่วโมง ฐานสำหรับติดตั้งยึดแน่นไม่ต้องกลัวหลุด อุปกรณ์สามารถกันน้ำได้ ไม่หวั่นแม้วันฝนตก แดดออก หรือเจอหิมะก็ยังไหว วิธีการใช้งานเครื่อง Domio Pro ใช้งานได้ง่าย เพราะสามารถเชื่อมต่อและรับคำสั่งการเปิดเพลงโดยเชื่อมต่อผ่านสมาร์ทโฟนและการกดเปิดของปุ่มบนตัวเครื่องเท่านั้น โดยเชื่อมต่อกันผ่าน bluetooth ถามว่าเครื่องเล็กแบบนี้สร้างเสียงเพลงกระหึ่มฟังชัดตลอดการบิดของเราได้อย่างไร บอกเลยว่าเสียงที่เราได้ยินสร้างขึ้นจากการสั่นสะเทือนที่กระทบผิวหมวกกันน็อกตามหลักการกำเนิดเสียง แต่ออกแบบเป็นพิเศษให้เสียงที่ได้ยินขึ้นภายในหมวกกันน็อกแบบเซอร์ราวนด์ โดยไม่ทำให้คุณสมบัติด้านความปลอดภัยลดลงแม้ต่อน้อย ลองคิดว่าถ้าเราเกิดอุบัติเหตุล้มลง
ก่อนปี 1903 ถ้ามีใครสักคนพูดว่าสักวันมนุษย์จะสามารถเดินทางบนท้องฟ้าได้คงมีแต่คนหาว่าบ้า แต่ความฝันอันยิ่งใหญ่นี้ก็กลายเป็นความจริงด้วยฝีมือของพี่น้องตระกูลไรต์ จากปี 1903 ถึงวันนี้ก็ผ่านมากว่า 115 ปีแล้ว วิวัฒนาการความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการเดินทางบนท้องฟ้าพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว จากเครื่องบินลำเล็ก ๆ ของพี่น้องตระกูลไรต์สู่ Hybrid Air Vehicles Airlander 10 อากาศยานที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก Hybrid Air Vehicles Airlander 10 อากาศยานที่ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดในโลก แน่นอนว่าเมื่อมันทำงานด้วยระบบ Hybrid เจ้าวิหคยักษ์ลำนี้จึงเป็นการผสมผสานกันระหว่างเฮลิคอปเตอร์ เครื่องบิน และเรือเหาะ ส่วนประกอบหลักของ Hybrid Air Vehicles Airlander 10 คือไฟเบอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูงอย่าง Vectran เพื่อให้สามารถรองรับแก๊สฮีเลี่ยมที่ถูกอัดไว้ในปริมาณมากซึ่งจะทำงานควบคู่กับครีบใบพัดขนาดใหญ่ทำให้อากาศยานลำยักษ์นี้ลอยขึ้นเหนือพื้นดินได้ ถึงแม้ว่าขนาดของ Hybrid Air Vehicles Airlander 10 จะใหญ่โตจนกลายเป็นอากาศยานขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แต่การเคลื่อนที่ของมันไม่ได้ช้าอย่างที่คิดเพราะความเร็วสูงสุดของมันอยู่ที่ 90 ไมล์ต่อชั่วโมงเลยทีเดียว ด้วยความเร็วขนาดนี้ประกอบกับขนาดของมัน Hybrid Air Vehicles Airlander 10 จึงมีประโยชน์ต่อระบบการขนส่งทางอากาศเป็นอย่างมาก ด้านในนั้นก็ตกแต่งอย่างหรูหรามีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน แตกต่างจากเรือเหาะลำอื่น ๆ
เคยสงสัยไหมว่าเวลาโจรกระโดดขึ้นรถขับหลบหนีทีไร ทำไมตำรวจต้องไล่ตามด้วยรูปแบบเดิมซ้ำ ๆ แถมไม่ได้ผล ไม่ว่าจะเป็นการขับแล้วชะโงกหัวออกมานอกหน้าต่างหยิบปืนพกไล่ยิงล้อผู้ร้ายเพื่อสกัดการหลบหนีทุกที ทั้งที่เปอร์เซ็นต์ที่จะยิงโดนมันก็น้อย แถมสุดท้ายพอขับผ่านแยกโจรก็ขับปาดหลบหนีไปได้ตลอดทุกที (ผู้ชายอย่างเราเห็นฉากแบบนี้ทีไรก็หัวร้อนทุกที) เหตุผลที่เจ้าหน้าที่ต้องใช้วิธีนี้คงเพราะยังไม่มีวิธีใหม่ที่ดีกว่า แต่ความเสี่ยงที่ไม่ตอบโจทย์ก็ทำให้หลายคนพยายามช่วยแก้ปัญหานี้ เช่นเดียวกับบริษัท Grappler Police Bumper บริษัทหัวใสที่คิดค้นนวัตกรรมจากแนวคิดที่ง่ายเหลือเชื่อแต่ได้ผลเกิดคาดอย่างการยิงตาข่ายดักล้อรถผู้ร้ายมันเสียเลย เอาสิ! อยากขับหนีไปไหน เชิญลากตำรวจตามไปด้วยเลย อุปกรณ์ตัวนี้เป็นตาข่ายติดตั้งใต้รถ จังหวะขับไล่ล่าตามท้องถนนแค่ตำรวจกดใช้งาน เจ้าตาข่ายพิเศษที่มีคุณสมบัติเดียวกับหนังสติ๊กก็จะยืดออกมา จากนั้นแค่เล็งให้ได้ระยะใกล้พอจะครอบล้อรถโจรไว้แล้วเหยียบคันเร่งให้ได้ระยะ แป๊ปเดียวยางตาข่ายจะครอบล้อปั่นดึงไว้อย่างอยู่หมัด พอดึงจังหวะแตะเบรกไว้ รถของตำรวจจะดึงรถของผู้ร้ายให้หยุดได้ นอกจากนี้มันยังสามารถคุมระยะได้ด้วย ถ้าคิดว่ามันใกล้ไปแล้วเป็นอันตราย อุปกรณ์นี้ยังสามารถยืดหรือหดได้ตามต้องการ ทำให้ตำรวจสามารถควบคุมได้ตามใจอยาก หรือถ้าอยากตัดเขาก็ซัพพอร์ตระบบไว้พร้อม แม้ว่าผู้ช่วยตัวนี้ยังไม่เหมาะจะใช้ในบ้านเรา เพราะเป็นเมืองที่การจราจรติดขัดอยู่ตลอด และไม่ได้วางระบบให้เอื้อกับการติดตามคนร้ายแบบคนใช้รถใช้ถนน แค่รถพยาบาลกับรถดับเพลิงวิ่งไปปฏิบัติหน้าที่เอกก็ยังหืดขึ้นคอ คงไม่ต้องรวมเรื่องนี้เข้าไปอีกเรื่อง แต่เราก็เห็นว่าเป็นหนึ่งการออกแบบที่มีแนวคิดการแก้ปัญหาดี และไม่มีใครต้องเสียเลือดเนื้อหรือโดนลูกหลงที่น่าสนใจมาเล่าสู่กันฟัง อุปกรณ์ชิ้นนี้เปิดวางจำหน่ายไปแล้วตั้งแต่ต้นปีในสหรัฐฯ น่าลุ้นว่าพอเอามาใช้งานจริง มันจะไปปรากฏในภาพยนตร์ด้วยหรือเปล่า และจะเปลี่ยนมิติการตามล่าในหนังบู๊ทั้งหลายที่ผู้ชายเราติดตามเป็นประจำไหม ส่วนใครที่อยากพิสูจน์สมรรถภาพของมันว่าเฉียบแค่ไหนในรูปแบบภาพเคลื่อนไหว ลองมาดูวิดีโอด้านล่างได้เลย SOURCE
หมดไปเท่าไหร่กับเวลาและท่า workout ใหม่ ๆ แล้วผลที่ได้กลับมามันคุ้มค่าการเสียเหงื่อจริงหรือเปล่า ? ร่างกายเรายังขาดอะไรอีก ? ต้องควบคุมอะไรต่อเพื่อให้ได้เป้าหมายที่ต้องการ ? เราเชื่อว่าชาว UNLOCKMEN ทุกคนต้องอยากรู้กันทั้งนั้น เพราะผู้ชายอย่างเรามักออกกำลังกายกันด้วยตัวเองไม่ได้จ้างเทรนเนอร์ส่วนตัวมาคอยควบคุมชี้ทางให้ LUMEN เป็น gadget อัจฉริยะชิ้นใหม่ที่ผู้ชายอย่างเราน่าจะหลงรัก แถมดูแล้วคุณสมบัติของมันคงได้ไฟเขียวจากสาว ๆ ที่รักของเราแน่ เพราะพวกเธอเองก็ใช้ประโยชน์จากมันได้ อุปกรณ์ชิ้นนี้มันสามารถวัดค่าความฟิตของเมตาบอลิซึมในร่างกายคนเป่าได้ผ่านลมหายใจ ว่าง่าย ๆ ก็คือเป่าพรวดเข้าไปทีเดียวรู้เรื่อง เครื่องมันตีค่าวิเคราะห์เสร็จสรรพว่าร่างกายของเราเผาผลาญเท่าไหร่ กำลังต้องการอะไรอยู่ จัดตารางการกินการนอนส่วนตัวให้ด้วย ด้วยการใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์คำนวณค่าออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ในลมหายใจ ที่เขานิยมใช้กับพวกนักกีฬาซึ่งเรียกกันว่า RQ หน้าตาของเจ้า LUMEN ถือไปไหนมาไหนก็ค่อนข้างง่าย ดูเท่ ทำจากพลาสติกและสแตนเลส มาพร้อมเคสสำหรับพกพากับเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ลิเทียมที่ใช้ได้ยาว ๆ ชาร์จครั้งเดียวก็ใช้ได้นานถึงสองอาทิตย์ บอกได้เลยว่าต่างจากเครื่องเป่าแอลกอฮอล์ที่พวกเราหลบด่านบ่อย ๆ ถ้าเอาไปใช้ก็ไม่ต้องกลัวคนรอบข้างเข้าใจผิดอย่างแน่นอน เรื่องวิธีเป่าก็ใช้ไม่ยาก อยากจะเป่าตอนไหนก็ได้ไม่มีปัญหา ค่าที่โชว์มันออกมาได้แบบเรียลไทม์ ณ เวลานั้น แต่ถ้าเริ่มจากช่วงเช้าตอนที่ยังไม่ออกกำลังกาย ไม่ได้กินอะไรมาก่อนเลยให้ร่างกายมันเดิม ๆ เข้าไว้จะดีกว่าเพราะเราจะได้เช็กว่าตอนนี้ร่างกายเป็นแบบไหน โดยเครื่องจะซิงค์เข้าแอปพลิเคชั่นผ่านบลูทูธแล้วเข้าสมาร์ตโฟนโชว์ค่าพลังงานที่มี ค่าคาร์บฯ และไขมัน
นอกจากคนข้าง ๆ ที่ทำให้เรารู้สึกอยากรีบกลับบ้านแล้ว ทุกวันนี้ความบันเทิงภายในบ้านยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้หนุ่ม ๆ Urban men อย่างเราติดบ้าน ต่อให้การใช้เวลาว่างของเราจะทุ่มเทไปกับการหากิจกรรมทำเพื่อพัฒนาตัวเอง หรือออกไปเข้ายิม เล่นกีฬา ลุยป่า ปาร์ตี้ถึงไหนถึงกัน สุดท้ายในหนึ่งวันเราก็ต้องการเวลานั่งอยู่เฉย ๆ เอนตัวลงพักผ่อนที่โซฟา กดรีโมทเพื่อเสพความบันเทิงภายในบ้าน ท่ามกลางบรรยากาศดี ๆ ที่ได้รับจากดีไซน์ของการตกแต่ง, เฟอร์นิเจอร์และ gadget ทุกชิ้นที่เลือกสรรเข้ามาใช้งานและเพื่อความสวยงาม ซึ่งกิจกรรมความบันเทิงยอดฮิตของหนุ่ม ๆ อย่างเราที่ชอบทำเวลาพักผ่อนอยู่บ้านคงไม่พ้นการนั่งยืดขาบนโซฟาดูทีวี ดูหนังดี ๆ ยิ่งถ้าภาพชัด เสียงกระหึ่มนี่ยิ่งสะใจ ไม่ก็ชวนเพื่อน ๆ มาจับจอยดวลเกมกันในวันหยุดก็ยิ่งสนุก เติมพลังก่อนจะเริ่มต้นวันทำงาน แต่ของอย่างนี้ไม่ใช่ว่าจอไหนก็ได้ สิ่งที่เราต้องการคือจอภาพที่เต็มไปด้วยนวัตกรรม และต้องเป็นเสมือนประติมากรรมที่สามารถทำให้สเปซสำหรับการพักผ่อนของเราดูดียิ่งขึ้นไปอีก หนึ่งในทีวีที่ตอบโจทย์และน่าสนใจมากก็คือ LG OLED TV ซีรี่ย์ E8 ที่มาพร้อมกับด้วยดีไซน์เท่ ๆ สุดคลาสสิค ราวกับกระจกคริสตัล รวมถึงนวัตกรรมสุดล้ำแห่งวงการทีวีในระดับโลก ที่บอกว่าจอ LG OLED TV ซีรี่ย์ E8 สามารถตอบโจทย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบก็เพราะดีไซน์ Picture-on-Glass ที่มอบมิติแห่งความหรูหราให้กับห้องนั่งเล่นของเราได้ทุกมุมมอง และก็ไม่ได้หล่อแต่เพียงอย่างเดียว ยังขับเคลื่อนการทำงานด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด