GoPro สร้างเซอร์ไพรส์ ประกาศเปิดตัวกล้องตระกูล HERO รุ่นใหม่ กับโปรเซสเซอร์ GP2 รุ่นใหม่ล่าสุดจากโกโปรที่จะช่วยทำให้คุณได้สัมผัสกับประสบการณ์การถ่ายภาพและวีดีโอเหนือขึ้นอีกระดับด้วยกล้อง Action Camera อย่าง GoPro HERO 10 Black ภาพความละเอียดสูงที่สมจริงยิ่งขึ้นและระบบกันสั่นที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา โปรเซสเซอร์ GP2 รุ่นใหม่ล่าสุดใน GoPro HERO10 Black ผสานเข้ากับเซ็นเซอร์ความละเอียดสูงทำให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพได้อย่างสมจริงถึง 23.6 ล้านพิกเซล และยังสามารถถ่ายวีดีโอที่ความละเอียด 5.3K ที่เฟรมเรท 60 เฟรมต่อวินาที ซึ่งมีความละเอียดสูงกว่าความละเอียดขนาด 4K ถึง 91% และยังให้ความละเอียดมากกว่าโหมด 1080p HD ถึง 665% แถมยังสามารถช่วยให้คุณถ่ายสโลว์โมชั่น 2X ได้ลื่นไหลมากกว่าเดิม ไม่หมดเพียงเท่านี้ผู้ใช้ยังสามารถถ่าย สโลว์โมชั่น 4K ได้ที่ 120 เฟรมต่อวินาที (สโลว์โมชั่น 4 เท่า) และถ่ายวิดีโอ 2.7K ได้ที่ 240
เข้าใกล้โลกอนาคตในอุดมคติของ Mark Zuckerberg ไปอีกก้าว กับการเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะ Smart Glasses ที่ร่วมมือกันพัฒนาระหว่าง Facebook และ Ray-Ban ในชื่อ “Ray-Ban Stories” ความเจ๋งของแว่นตา Ray-Ban Stories ที่ดูจะเท่กว่าอดีต Google Glasses โปรเจคที่โดนพับจากความล้มเหลวไปก่อนหน้านี้หลายปี เพราะนอกจากความสามารถจากเทคโนโลยีสุดล้ำ ด้านดีไซน์ แว่นตาอัจฉริยะรุ่นใหม่เลือกใช้โครงจาก 3 รุ่นดัง Wayfarer, Round และ Meteor แว่นทรงยอดนิยมที่ใครใส่ก็เท่ ที่สำคัญคือฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามา แว่น Ray-Ban Stories สามารถถ่ายภาพนิ่งและวีดีโอได้ด้วยกล้องความละเอียด 5 Megapixels – high resolution photos (2592×1944 pixels) and quality video (1184×1184 pixels at 30 frames per second) พร้อม
ในปัจจุบันนี้ไม่ว่าใครก็พกกล้องติดตัวกันทั้งนั้น เพราะเพียงแค่หยิบ Smartphone ออกมาก็สามารถถ่ายรูปได้อย่างง่ายดาย ที่สำคัญคือกล้องเหล่านี้มันใช้ง่าย และถูกพัฒนาไปไกล แต่สำหรับคนที่หลงใหลการถ่ายภาพบางคน อาจมองว่าเสน่ห์ในการถ่ายรูปแบบเดิม ๆ มันค่อย ๆ จางหายไป เมื่อเทียบกับการใช้กล้องฟิล์ม ไม่ใช่เพียงแค่กล้องจาก Smartphone แต่กล้องดิจิตอลตัวท็อป ๆ ราคาแพง ๆ ก็ไม่อาจจะให้ความรู้สึก และรักษาขั้นตอนการถ่ายที่เป็นเอกลักษณ์แบบที่กล้องฟิล์มเคยให้เอาไว้ได้ ทำให้หลายคนอยากจะกลับมาใช้กล้องฟิล์มกันอีกครั้ง วันนี้เราจึงเอากล้องฟิล์มหลายรุ่นที่น่าสนใจมาแนะนำ Leica MP Leica MP แค่ชื่อแบรนด์ก็รับประกันความพรีเมี่ยมได้เป็นอย่างดีสำหรับผู้ที่คลั่งไคล้การถ่ายภาพ Leica MP ตัวนี้เป็นกล้องฟิล์มแมนนวลแบบมีมิเตอร์ในตัว และถึงแม้จะเป็นกล้องทีมีอายุค่อนข้างมาก แต่มันจะช่วยเรียกอารมณ์การถ่ายภาพในวันเก่า ๆ กลับคืนมาได้อย่างแน่นอน กล้อง Leica MP ยังขึ้นชื่อเรื่องของความเนี้ยบรวมไปถึงการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงในการผลิต ความสวยงามของของบอดี้ที่เป็นอมตะเปรียบเสมือนงานศิลปะที่ใช้ถ่ายรูปได้ ความโดดเด่นอีกอย่างหนึ่งก็คือ กลไกชัตเตอร์ที่นุ่มนวลทำให้กล้องนิ่ง เมื่อเราถือถ่ายด้วยความไวชัตเตอร์ต่ำ และที่สำคัญคือมันไม่จำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่ในการทำงานแต่อย่างใด Polaroid Originals OneStep+ Polaroid Originals OneStep+ ถือเป็นกล้องอีกตัวนึงที่น่าใช้สำหรับคนที่หลงใหลในกล้องฟิล์มที่ต้องการรายละเอียดครบถ้วน โดยเฉพาะตากล้องที่ต้องการเห็นผลงานอย่างฉับไว อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth กับสมาร์ทโฟนเพื่อการใช้งานที่หลากหลาย
สำหรับ Car Enthusiast ทุกคน แค่เห็นชื่อ Pininfarina ก็สามารถนึกภาพรถดีไซน์ล้ำสวยงามตามออกมาได้ไม่รู้จบ และนี่ถือเป็นครั้งแรกที่สำนักออกแบบจาก Italy ดีไซน์ Driving Simulator สำหรับนักขับที่อยากซ้อมฝีมือแบบ indoor และแน่นอนว่าดีไซน์สวยล้ำนำโลกเหมือนเดิม Leggenda eClassic Driving Simulator ออกแบบและสร้างขึ้นด้วยวิธี hand-built ทั้งคัน ผลิตในโรงงาน Cambiano, Italy ซึ่งเป็น headquarter ของ Pininfarina จึงการันตีได้เรื่องการควบคุมคุณภาพในระดับสูงสุดเช่นเดียวกับการผลิตรถยนต์ที่ประณีต สร้างขึ้นเพื่อจำลองความตื่นเต้นของอารมณ์การขับขี่ในสนามแข่งด้วยรถยนต์คลาสสิค ความสวยงามของ Leggenda eClassic Driving Simulator นั้นห่างไกลจาก driving sim อื่น ๆ ที่คุณเคยเห็นมาทั้งชีวิต ส่วนบอดี้รถได้แรงบันดาลใจมาจาก Cisitalia 202 รถสปอร์ต two-seat grand tourer ที่ Pinin Farina ออกแบบในปี 40s ซึ่งเป็นรถที่สวยงามจนถูกเก็บรักษาไว้ใน
Cake ค่ายผลิตมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจาก Sweden เปิดตัว Makka e-moped ยานพาหนะประเภทจักรยานยนต์เบาที่กึ่งกลางอยู่ระหว่างมอเตอร์ไซค์และจักรยาน ในดีไซน์เท่สุดล้ำแถมยังใช้พลังงานไฟฟ้า ออกแบบมาเพื่อช่วยให้การเดินทางใกล้ ๆ ในเมืองใหญ่เป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น หลายคนอาจจะรู้จัก Cake ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้าน motorbike นี่จึงเป็นผลงานชิ้นแรกที่ฉีกกรอบเดิม ๆ ของแบรนด์ไปอย่างสิ้นเชิง โครงสร้างของ Makka ออกแบบอย่างเรียบง่ายแต่มีสไตล์โดดเด่น พร้อมคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยที่คนเมืองต้องการ ตัวรถผลิตจาก aluminum แบบ naked พร้อมหน้าจอ touchscreen display แสดงข้อมูลความจุแบตเตอรี่ ความเร็ว และเลือกโหมดการขับขี่ระหว่าง Extended range และ Balanced Performance มีที่วางเท้าเพื่อความสะดวกสบายในการขับขี่ ด้านหลังมี cargo rack พื้นที่สำหรับติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น กล่องใส่สัมภาระ ที่นั่งผู้โดยสาร หรือแม้แต่ child seat ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ขนย้ายได้ง่ายด้วยน้ำหนักตัวรวมแบตเตอรี่เพียง 59 กิโลกรัม Makka
Audemars Piguet แบรนด์เครื่องบอกเวลาชั้นสูงจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ได้นำเสนอนาฬิการอยัล โอ๊ค ออฟชอร์ 3 โมเดลใหม่ที่พัฒนาจากรุ่นดั้งเดิมในปี 1993 รังสรรค์ด้วยวัสดุที่แตกต่างกัน ได้แก่ สเตนเลส สตีล (Stainless steel) ไทเทเนียม(Titanium) และพิ้งค์โกลด์ 18 กะรัต ถึงแม้จะคงไว้ซึ่งรายละเอียดสำคัญของนาฬิการุ่นดั้งเดิม ทว่าเรือนเวลาขนาดหน้าปัด 42 มิลลิเมตรทั้ง 3 เรือนนี้มาพร้อมกลไกเซลฟ์ไวนด์ดิ้ง ฟลายแบ็ก โครโนกราฟ (Selfwinding Flyback Chronograph) คาลิเบอร์ล่าสุดจากโอเดอมาร์ ปิเกต์ รวมถึงระบบถอดเปลี่ยนสายด้วยตนเองแบบใหม่ อีกทั้งยังมีการปรับดีไซน์หน้าปัดเล็กน้อย พร้อมยังนำฝาหลังแซฟไฟร์กลับมาใช้อีกครั้งเพื่อนำเสนอกลไกโครโนกราฟซึ่งรังสรรค์อย่างประณีต แม้รังสรรค์ขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากนาฬิการอยัล โอ๊ค ออฟชอร์ รุ่นดั้งเดิมจากปี 1993 ทว่านาฬิกา 3 เรือนใหม่ในขนาดหน้าปัด 42 มิลลิเมตร มาพร้อมกลไกเซลฟ์ไวนด์ดิ้ง ฟลายแบ็ก โครโนกราฟใหม่ล่าสุด และระบบถอดเปลี่ยนสายด้วยตนเอง อีกทั้งยังมีการปรับดีไซน์บนหน้าปัดเล็กน้อย การทำงานที่มีประสิทธิภาพมากกว่าที่เคย นาฬิการุ่นรอยัล โอ๊ค ออฟชอร์ใหม่ทั้ง
Audemars Piguet เปิดตัวนาฬิการอยัล โอ๊ค ออฟชอร์ ไดเวอร์ ขนาดหน้าปัด 42 มิลลิเมตรรุ่นใหม่ที่ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 300 เรือน เช่นเดียวกับนาฬิการอยัล โอ๊ค ออฟชอร์ ไดเวอร์ 3 โมเดลที่เปิดตัวในช่วงต้นปีที่ผ่านมา นาฬิการุ่นลิมิเต็ดเรือนนี้ขับเคลื่อนด้วยคาลิเบอร์ 4308 ซึ่งเป็นกลไกเซลฟ์ไวนด์ดิ้ง (Selfwinding) ล่าสุดของโอเดอมาร์ ปิเกต์ อีกทั้งยังใช้ระบบถอดเปลี่ยนสายนาฬิกาด้วยตนเอง พร้อมดีไซน์หน้าปัดที่ตอบโจทย์ทุกการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ไม่ว่าจะบนบกหรือใต้น้ำ กลไกที่พร้อมสำหรับทุกการผจญภัย นาฬิการอยัล โอ๊ค ออฟชอร์ ไดเวอร์ รุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น มาพร้อมกลไกอัตโนมัติแบบล่าสุดของโอเดอมาร์ ปิเกต์ พร้อมการแสดงวินาทีและการแสดงวันที่แบบ Instant-Jump คาลิเบอร์ 4308 ถูกติดตั้งพร้อมกลไกที่ช่วยมอบเสถียรภาพและความแม่นยำเมื่อปรับฟังก์ชันของนาฬิกา สเกลเวลาการดำน้ำที่แสดงอยู่บนวงแหวนด้านในที่สามารถหมุนได้ของหน้าปัดสามารถเปิดใช้งานด้วยกลไกการคลิกแบบทิศทางเดียวที่ถูกติดตั้งให้เชื่อมกับเม็ดมะยมตรงที่ตำแหน่ง 10 นาฬิกา ฝาหลังแซฟไฟร์เผยให้เห็นเทคนิคการตกแต่งสุดประณีตของคาลิเบอร์ 4308 ไม่ว่าจะเป็นลาย โกตส์ เดอ เฌอแนฟ (Côtes de Genève) เทคนิคเทรตส์ ทิเรส์
งานดีไซน์ที่ดีต้องช่วยส่งเสริมชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนให้ดีขึ้นได้ด้วย นี่คือ “UNAwheel maxi” ตัวอย่างสุดยอดงานดีไซน์จาก SupremeMotors บริษัทสัญชาติ Russian ที่ถูกพูดถึงมากจาก iF Design Award 2021 ไอเดียที่ช่วยเปลี่ยนรถเข็นคนพิการให้สามารถเดินทางช่วยเหลือตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการเปลี่ยนให้เป็นยานพาหนะพลังงานไฟฟ้าด้วย design concept ที่เรียบง่ายและใช้ได้กับรถเข็นที่มีอยู่ทั่วไป ไอเดียของ UNAwheel maxi คือการออกแบบส่วนขับเคลื่อนด้านหน้า เป็นส่วน add-on ที่เชื่อมต่อกับรถเข็นคนพิการได้ทุกรูปแบบ ส่วน Hardware ประกอบไปด้วยแฮนด์สำหรับบังคับทิศทาง สามารถปรับระดับได้ตามรูปร่างของผู้ใช้งาน และส่วนขับเคลื่อนที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า ดึงพลังงานจาก built-in battery สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยความเร็วสูงสุด 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้งานได้ระยะทาง 30 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง วัสดุผลิตจากการผสมผสานเหล็กและพลาสติก รวมน้ำหนักเพียง 12 กิโลกรัม ขึ้นรูปด้วยเทคโนโลยีการตัดแต่งที่ทันสมัย บริเวณแฮนด์ผลิตจากยาง บอดี้ด้านหลังผลิตจากพลาสติกที่ปราศจากส่วนคมและดูดซับแรงกระแทกได้ดีในกรณีเกิดอุบัติเหตุ สามารถประกอบและถอดแยกออกจากรถเข็นได้อย่างง่ายดายภายใน 30 วินาที UNAwheel maxi มีหลากหลายดีไซน์ ซึ่งเวอร์ชันที่เราเห็นเป็นไอเดียการออกแบบล่าสุดของ SupremeMotors และไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ไหน
ช่วงนี้เรากำลังนิยมนาฬิกาดีไซน์ย้อนยุคที่ถูกปลุกขึ้นมาใหม่พร้อมใส่เทคโนโลยีทันสมัยเข้าไป มันให้ฟีลลิ่งความสนุกสนานที่แตกต่างไม่ซ้ำใคร หลังจากเปิดตัว Pac-man x A100WEPC ไปก่อนหน้านี้ ล่าสุด Casio ก็ตอกย้ำกระแสความ Vintage อีกครั้งด้วยการนำ “F-100” ที่โด่งดังในปี 1978 มานำเสนอใน collection ล่าสุด “A100” หน้าปัดทรงเหลี่ยมจอดิจิทัลที่หลายคนคุ้นตาตั้งแต่วัยเด็ก หากใครเกิดไม่ทันยุค ’70s นาฬิกา Casio F-100 ในยุคนั้นเปิดตัวมาอย่างอลังการ ได้รับความนิยมอย่างสูงด้วยความแตกต่างของ resin case น้ำหนักเบา เป็นนาฬิกา digital ที่ล้ำสุด ๆ ในยุคนั้นก็ว่าได้ มันเข้าถึงภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่อย่าง Alien (1979) ที่ Ridley Scott นำ F-100 2 เรือนมาเชื่อมต่อกันเพื่อให้ดูล้ำหน้าเหมาะกับยุคอวกาศในบทภาพยนตร์ ก็ยิ่งดันให้มันดังเปรี้ยงมากขึ้นอย่างรวดเร็ว Casio Vintage A100 Series นำความคลาสสิคของ F-100 นาฬิกาหน้าจอดิจิทัลระดับ Iconic ให้กลับมาใหม่อีกครั้งในรูปแบบ
หลายคนเห็นตรงกันว่าแถบไม่ได้ใช้ประโยชน์จากการใช้งาน Touch Bar มากนัก และหลายคนก็อยากจะให้ MacBook Pro รองรับการใช้งาน Apple Pencil เป็นที่มาของ concept ที่พัฒนาจากข่าวลือว่า Apple จะทิ้ง Touch Bar แล้วใส่ Apple Pencil case เข้ามาแทนที่ ซึ่งถ้าเป็นจริง ก็ถือเป็นเรื่องน่ายินดีและมีเหตุผลในการเปลี่ยนเครื่องใหม่มากขึ้น Concept ที่ว่านี้ไม่ใช่การนั่งเทียนเขียนออกมา แต่อ้างอิงจาก US Patent & Trademark Office ที่พูดถึงสิทธิบัตรชิ้นใหม่ของ Apple ระบุว่านวัตกรรมใหม่ของ MacBook Pro มีการเพิ่มช่องใส่ Apple Pencil แบบ built-in ในตัวเครื่อง สามารถใช้แทน mouse เพื่อขยับ cursor และคลิกใช้งานได้ โดยจะมาแทนที่ตำแหน่งบนสุดของ keyboard และจะยังคงมี F-Key รวมอยู่ในช่องใส่ Apple Pencil