บางคนมักจะมีปัญหากับกระเป๋าเดินทางอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเรื่องของการที่กระเป๋ามีน้ำหนักเกิน หรือโดนคนอื่นหยิบกระเป๋าผิดไป ไม่ก็เราหยิบผิดเอง เนื่องจากหน้าตาของกระเป๋าเดินทางส่วนมากคล้ายกันไปหมด หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่กำลังประสบปัญหาเหล่านี้ บวกกับกำลังมองหากระเป๋าเดินทางใบใหม่อยู่พอดี วันนี้เรามีกระเป๋าเดินทางดี ๆ มาแนะนำ อีกทั้งยังรับประกันได้เลยว่า ปัญหาทุกอย่างที่คุณเจอมาจะหมดไป เพียงแค่คุณได้ลองใช้ “Freitag Zippelin” ใบนี้ หลายคนคงรู้จักแบรนด์ที่มีชื่อว่า “Freitag” กันบ้างอยู่แล้ว อาจจะด้วยความโดดเด่นของวัสดุที่ใช้ในการผลิตกระเป๋าอย่างผ้าใบรถบรรทุกที่ผ่านการรีไซเคิล หรือว่าจะเป็นถุงผ้าใบที่มีภาพพิมพ์ดีไซน์เท่ ๆ ทำให้กระเป๋าจากแบรนด์ “Freitag” นั้นมีข้อดีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเอกลักษณ์ของลวดลายที่ไม่มีใครเหมือน และความสามารถในการกันน้ำได้เป็นอย่างดีจากการที่ใช้ผ้าใบเป็นวัตถุดิบหลักในการทำกระเป๋า “Freitag” ทำกระเป๋าหลากหลายรูปแบบออกมาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าสตางค์ กระเป๋าสะพาย กระเป๋าเป้ รวมไปถึงกระเป๋าเดินทางอย่าง “Freitag Zippelin” ที่เรากำลังจะพูดถึงเป็นพิเศษในวันนี้ด้วย “Freitag Zippelin” เป็นกระเป๋าเดินทางขนาดความจุ 85-Liter ที่มีการผสมผสานกระเป๋าเดินทางแบบ Duffel กับ Rolling Suitcase เข้าด้วยกัน โดย “Freitag Zippelin” ใบนี้ มีการติดตั้งล้อมาให้เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมันมีขนาดความกว้าง 16.5 นิ้ว สูง
สำหรับคนที่ต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ และต้องอดนอนนั้น ย่อมส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานอยู่แล้ว บางคนจึงเลือกที่จะใช้ชา หรือกาแฟมาเติมความฟิตให้ตาสว่าง และกลับมากระปรี้กระเปร่าอีกครั้ง แต่มีการวิจัยหลายชิ้นที่บอกว่า การที่คนเราง่วงในช่วงบ่ายนั้นเป็นเรื่องปกติ และทางที่ดีที่สุดคือ การได้งีบหลับสักพัก เพียงแค่ 15 นาที ถึงครึ่งชั่วโมง ก็จะสามารถชาร์จพลังงานให้กลับมาฟิตปั๋งอีกครั้ง และพร้อมที่จะทำงานอย่างมีสมาธิมากขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งยังดีต่อสุขภาพมากกว่าการดื่มชา หรือกาแฟเพื่อถ่างเปลือกกตาให้เปิดค้างอยู่อีกด้วย แต่หลายคนคงรู้ดีว่า ปัญหาในการนอนหลับตอนกลางวันนั้นมันมีมากมายเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นเสียงผู้คน, สถานที่ซุกหัวนอนที่หายากยิ่งโดยเฉพาะในที่ทำงาน และสุดท้ายสำคัญที่สุดคือ แสงไฟ และแสงแดดที่แยงตาจนไม่สามารถฝืนนอนต่อไปได้ไม่ว่าง่วง และอยากจะงีบแบบสุด ๆ ไปเลยก็ตาม แต่วันนี้เราได้นำเอาอุปกรณ์เจ๋ง ๆ ที่จะช่วยให้ปัญหาการพักงีบหลับนอกสถานที่นั้นหมดไป ชาว UNLOCKMEN คนไหนรู้ตัวว่าเป็นคนชอบนอน ง่วงได้ทุกที่ทุกเวลา และมีปัญหากับสภาพแวดล้อมรอบข้าง ขอบอกเลยว่าคุณห้ามพลาดสิ่งนี้อย่างเด็ดขาด อุปกรณ์สุดเจ๋งที่เราจะพูดถึงในวันนี้นั้น มีชื่อว่า “The NAP Tent” ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถงีบหลับบนโต๊ะทำงานได้สบายที่สุดเท่าที่คุณเคยรู้สึกมา โดย “The NAP Tent” ที่ว่านี้ มีลักษณะเหมือนกับเต๊นท์ขนาดจิ๋ว ที่ถูกออกแบบให้หัวคุณมุดเข้าไปได้แบบพอดิบพอดี เพื่อที่จะทำให้คุณได้รับความเป็นส่วนตัวในการนอนหลับคาโต๊ะทำงานมากยิ่งขึ้น หลังจากที่คุณโยนคอมพิวเตอร์ที่อยู่บนโต๊ะทำงานตรงหน้าที่ไป และหยิบ “The NAP
การฟังเพลงถ้าจะให้ได้เต็มอรรถรสที่สุดนั้น เรื่องของเสียงรบกวนรอบข้างนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญมาก รวมไปถึงการที่เราหยิบหูฟังขึ้นมาใส่ เพื่อที่จะหลีกหนีเสียงรบกวนต่าง ๆ เช่นตอนที่โดยสารเครื่องบินที่ไฟท์นั้นระงมไปด้วยเสียงกรีดร้องของเด็ก หรือในขณะที่คุณกำลังนอนอยู่กลางดึก แต่เสียงเห่าของหมาข้างบ้านมันดังจนทำให้คุณต้องตื่น จริงอยู่ว่าหูฟังธรรมดา ๆ ทั่วไปก็สามารถลำเลียงเสียงเพลงเข้าไปในรูหูคุณได้ แต่เสียงรอบข้างก็ยังคงเล็ดรอดเข้ามาทำลายความสุนทรีย์ของคุณอยู่ดี ดังนั้น ทางออกที่ดีที่สุดก็คือ การใช้หูฟังแบบ Noise-Cancelling เพราะมันจะช่วยตัดเสียงรอบข้างที่คุณไม่ต้องการออกไป ให้เหลือแต่เสียงเพลงที่คุณอยากได้ยินเท่านั้น หลายคนที่กำลังอยากได้หูฟังแบบ Noise-Cancelling แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อยังไง หรือหูฟังรุ่นไหนดี วันนี้เราได้นำเอา 7 หูฟังสไตล์ Noise-Cancelling เจ๋ง ๆ ที่ผ่านการคัดเลือกมาแล้วจากสื่อหลาย ๆ สำนักมาให้ชาว UNLOCKMEN ทุกท่านได้ดู เผื่อจะเจออันที่ถูกใจ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปตามหา Review กันใน Internet ให้วุ่นวายเพราะเราได้รวมทั้งหมดไว้ให้คุณแล้ว TaoTronics Wireless Earbuds ถ้าราคาเป็นสิ่งที่คุณคำนึงถึงเป็นอันดับแรก TaoTronics Bluetooth Earbuds อาจจะเป็นคำตอบที่คุณตามหา ถึงแม้ว่าคุณจะไม่เคยได้ยิน หรือใช้หูฟังของแบรนด์นี้มาก่อน แต่ TaoTronics Bluetooth Earbuds นี้จะทำให้คุณต้องทึ่งกับคุณภาพที่เกินราคา กับความเงียบกริบที่คุณจะเจอได้ในเฉพาะหูฟังเก็บเสียงราคาแพงเท่านั้น
เจอจั่วหัวไปอาจจะงง ก็เห็นอยู่ว่ามันชื่อ Polaroid แต่ทำไมมันไม่ได้ผลิตโดย Polaroid ที่จริงแล้ว Polaroid เลิกผลิตกล้องไปแล้วเป็นเวลาร่วม 10 ปี และเลิกผลิตฟิลม์ไปแล้วประมาณ 9 ปี ซึ่งแฟนพันธ์แท้กล้อง Polarod อาจจะรู้กันดีอยู่แล้วว่า มีกลุ่มคนที่หลงรักเสน่ห์ของมัน ไม่ยอมปล่อยให้แบรนด์นี้ตายไปจากประวัติศาสตร์ จึงเปิดบริษัทชื่อ Impossible Project พร้อมเช่าโรงงานและกว้านซื้ออุปกรณ์ Polaroid ทั้งหมด กระบวนการผลิต พร้อมสิทธิการใช้ชื่อแบรนด์ Polaroid เพื่อสานต่อการผลิต Instant Camera ต่อไป ในช่วงแรก Impossible Project เน้นผลิตฟิลม์ Polaroid เพียงอย่างเดียว ก่อนจะเปิดตัวกล้องโปรเจคแรกไปเมื่อปีที่แล้ว ในชื่อ i-1 กล้องหน้าตาสุด vintage แต่ผสมผสานเทคโนโลยีกล้องทันสมัยเข้าไป และปีนี้ Impossible Project ได้เปิดตัวโปรเจคที่ดึงเอาความเป็น Polaroid ออกมาใช้แบบเต็ม ๆ ทั้งรูปทรงและชื่อแบรนด์ โดยมีการดึงเอาโมเดลเก่า OneStep ปี 1977
ได้ชื่อว่ากลิ่นเหม็นจากร่างกาย ไม่ว่าจะมาจากช่องทางไหน ก็ทำร้ายจิตใจทั้งคนรอบข้างรวมถึงเจ้าตัวอย่างรุนแรงได้ทั้งนั้น และกลิ่นเหม็นที่ติดอันดับน่าเป็นห่วงใน chart Top 3 ต้องมีกลิ่นเท้าเข้าไปติดโผอยู่ด้วยแน่นอน ลองคิดดูว่าคุณต้องถอดรองเท้า คลานเข่าเข้าไปหาผู้หลักผู้ใหญ่เพื่อสู่ขอสาวแต่งงาน ทันใดนั้นกลิ่นเท้าก็โฉยออกมาอย่างรุนแรงจนรับไม่ได้ เรียกว่าวงแตกคากลิ่นตีน แบบนี้ไม่โอเค โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นที่มักจะถอดรองเท้า นั่งล้อมโต๊ะกินเหล้ากับลูกค้าและหัวหน้าหลังเลิกงาน การมีกลิ่นเท้ารุนแรงเกินไป ย่อมหมายถึงโศกนาฏกรรมในหน้าที่การงาน นี่จึงเป็นที่มาของ Hana-Chan หุ่นยนต์หมาน้อยที่มีหน้าที่คอยดมกลิ่นเท้า Hana-Chan หรือเรียกไทย ๆ ว่า ฮานะจัง คือหุ่นยนต์สุนัขขนาด 15 เซนติเมตร รูปร่างตัวเล็กน่ารัก ประมาณชิสุ พุดเดิ้ล ที่บริษัท NEXTTECHNOLOGY ซึ่งเป็น StartUp ญี่ปุ่นสร้างขึ้นมา โดยอาศัย Insight ของผู้ชายคนทำงานที่ต่างกังวลว่ามีกลิ่นเท้ารุนแรงหรือไม่ เพราะกลิ่นเท้าถือเป็นสิ่งที่น่าอับอาย ไม่มีมารยาททางสังคม ไม่ให้เกียรติคนรอบข้าง และในเกือบทุกจังหวะชีวิตเข้าสังคม ต้องมีการถอดรองเท้าเสมอ คนรอบข้างอาจจะไม่กล้าบอกเรื่องกลิ่นเท้า เจ้าตัวก็อาจจะไม่รู้ว่าเหม็นขนาดไหน จึงเป็นหน้าที่ของฮานะจัง ที่จะใช้ Sensor รับกลิ่นซึ่งติดอยู่ที่จมูกในการเตือนสติระดับความเหม็นของเท้า ความพิเศษของมันคืออาการหลังดมกลิ่น ถ้าไม่มีกลิ่นเท้า ฮานะจังจะสั่นหางเหมือนตอนสุนัขดีใจ ถ้าเหม็นประมาณนึง ฮานะจังจะบอกเราด้วยการเห่า
เป็นงาน Press Conference ที่เรียกเสียงเป่าปากได้มากอีกครั้งจาก Apple หลังจากเปิดตัวแบบขาดความน่าตื่นเต้นไปหลายทีหลายหน จนคนเริ่มหมดความศรัทธา แต่ล่าสุด กระแส Apple Fever ก็กลับมาดังโฉ่งฉ่างอีกครั้ง พร้อมราคาหุ้นที่พุ่งขึ้นมายืนรอการเปิดตัวครั้งสำคัญ ที่คนทั้งโลกเฝ้ารอ นั่นก็คือ iPhone 8 แต่รอบนี้ Tim Cook จัดเต็ม ทำเซอร์ไพรส์ เปิดตัว iPhone X มันพร้อมกันสองโมเดลซะเลย เรื่องสเปคเราได้พูดไปแล้วที่บทความก่อนหน้า (Click Here) แต่สิ่งที่ทำให้เราสนใจก็คือ แล้วชื่อ iPhone 9 หายไปไหน ทำไม Cook ถึงยอมทิ้งชื่อนี้ข้ามไป สาเหตุที่ Apple ตัดสินใจแบบนี้ เป็นเรื่องของการตลาด และการเอาชนะคู่แข่งล้วน ๆ ก่อนอื่นต้องเริ่มจากการออกเสียง คุณเรียก iPhone X ว่าอะไร ไอโฟน เอ็กซ์? ผิดครับ ที่จริงแล้ว Apple เรียกมันว่า iPhone 10 ซึ่งในความหมายนึง
นาฬิกา Fitbit ถือเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ติดตามที่จุดกระแสให้คนชอบออกกำลังได้รู้สึกสนุกกับกิจกรรมมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันก็กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก และล่าสุดพวกเขาออกนาฬิกา smartwatch รุ่นใหม่ที่ชาญฉลาดขึ้น จนทีมงาน UNLOCKMEN เองเห็นแล้วก็ถึงกับมือไม้สั่น เนื่องจาก Fitbit ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ชื่อ Ionic ที่จะมาพร้อมนวัตกรรมเจ๋ง ๆ มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม วันนี้เราได้นำ 6 ฟังก์ชั่นใหม่จาก Fitbit Ionic มาบอกเล่าเพื่อสนับสนุนว่าทำไมคุณถึงต้องซื้อมันมาใช้ สามารถฟังเพลงได้แล้ว Fitbit Ionic จะมีหน่วยความจำภายในติดมากับเครื่องราว ๆ 2.5 GB ทำให้สามารถเก็บเพลงได้ประมาณ 300 เพลง ซึ่งถ้าจะใช้งานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ควรใช้ร่วมกับชุดหูฟัง Fitbit Flyer ที่ออกแบบมาให้ใช้งานร่วมกันผ่านบลูทูธ เพื่อควบคุมทั้งการเล่นเพลง และโทรได้อีกด้วย ไม่ต้องกลัวเรื่องความปลอดภัยเนื่องจากถูกออกแบบมาไว้สำหรับใช้ในการออกกำลังกายโดยเฉพาะ วัสดุที่ใช้จึงป้องกันเหงื่อได้อย่างดี แถมที่สำคัญใช้ได้นานสูงสุด 6 ชั่วโมงต่อเนื่อง ใช้จ่ายแทนเงินได้ ฟังก์ชั่นนี้อาจจะล้ำไปสำหรับประเทศไทย แต่ไม่แน่ว่าอนาคตคุณไม่จำเป็นต้องพกบัตรให้มันยุ่งยาก เพราะ Fitbit Ionic จะสามารถชำระเงินได้โดยใช้ชิป NFC เชื่อมโยงกับข้อมูลการเงินกับบัตรเครดิต Visa,
อุปกรณ์ในการทำงานเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการช่วยให้ทุกอย่างราบรื่นวิ่งฉลุย โดยเฉพาะคนเหล่าสาย IT หรือสายงาน Design ที่มักจะโอบล้อมไปด้วยอุปกรณ์เครื่องมือมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเมาส์ธรรมดาหรือเมาส์ปาก, คีย์บอร์ด, แล็ปท็อปที่ส่วนใหญ่มักจะราคาสูง แต่ก็ต้องกลั้นใจชื้อเพื่อให้งานทุกอย่างออกมาดีที่สุด UNLOCKMEN เข้าใจหัวอกทุกคนเป็นอย่างดี ล่าสุดมีอุปกรณ์ตัวเจ๋งอีกตัวที่ทางเราไปเจอมา เปิดตัวไปได้ไม่กี่วัน เรียกว่าเอาใจสาย Design ตัวจริงเสียงจริงแบบชนิดที่ราคาจับต้องได้มาให้ดูกัน Logitech บริษัทใหญ่ชื่อคุ้นหู ได้เปิดตัวคีย์บอร์ดไร้สายรุ่น Craft โดยขายจุดเด่นอยู่ที่ปุ่มหมุนที่เรียกว่า Crown ติดตั้งอยู่บนบริเวณมุมซ้ายบนของคีย์บอร์ดสำหรับใช้งานและปรับแต่งค่าฟังก์ชั่นต่าง ๆ แทนการขยับหรือลากเมาส์คลิก ใครที่ยังสับสนว่าจะใช้งานตอนไหน ลองคิดตามดูว่าถ้าเวลาเราปรับแต่งค่าสี ค่าแสงหรือเลือกตำแหน่งต่าง ๆ เมาส์มักจะหลุดและไปไกลเกินกว่าค่าตั้งไว้ เพราะงั้น Logitech Craft จึงออกมาช่วยให้ชีวิตในการทำงานง่ายให้ขึ้นไปอีก Logitech Craft มีรูปแบบเป็นคียบอร์ดขนาด Full-Size หน้าตาออกคลีน ๆ แต่ดูติดพรีเมียมมีระดับนิดหน่อย ด้วยแถบบาร์โลหะด้านบนตัดกับรูปลักษณ์ของคียบอร์ด ถ้าเคยเห็นการเปิดตัวก่อนหน้านี้ของ Microsoft Dial ก็บอกได้เลยว่ามัน (โคตร) เหมือนกันที่ตัวหมุนปุ่มซ้ายด้านบนสุด รองรับการใช้งานบนโปรแกรมตระกูล Adobe ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น Photoshop, Illustrator หรือจะไปใช้งานเข้ากับ
ไม่รู้จะกลับมาอีกครั้งหรือเปล่า สำหรับเทรนด์กล้องสุดติสต์ที่ครั้งหนึ่งเคยฮิตขายดีเป็นเทน้ำเทท่า อย่างกล้อง Lomo โดยล่าสุด ได้เปิดตัวกล้องถ่ายรูปแบบ Analog เต็มระบบตัวแรกของโลกที่ยิ่งฟิล์มออกมาเป็น Instant Square นั่นก็คือ “Lomo’Instant Square” ซึ่งก็ทำเอาคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ โดยเฉพาะแฟน Lomo นั้น ตื่นตัวกันไปทั่วโลก วันนี้เราจึงนำเอา “Lomo’Instant Square” ที่ว่านี้มานำเสนอ ให้ชาว UNLOCKMEN ที่สนใจได้อัพเดตกันก่อนใคร แม้กล้องถ่ายภาพแบบ Lomography นั้น มีอยู่มากมายหลายรุ่นหลายแบบเหลือเกิน แต่สำหรับ “Lomo’Instant Square” ตัวนี้นั้น มีความสามารถเจ๋ง ๆ แตกต่างจากกล้อง Lomo ทั่วไปอยู่เพียบเลยทีเดียว ทำให้มันกลายเป็นกล้องที่น่าสนใจทันทีหลังจากที่ Lomography ได้ทำการเผยโฉยอย่างเป็นทางการในวันแรก ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการพับตัวกล้องได้ เพื่อให้มีขนาดที่เล็กกระทัดรัด และเมื่อคุณกางออกมาจะเห็นได้ว่าผู้ออกแบบนำลูกเล่นของโบราณมาสอดแทรกไว้ ตามด้วยเลนส์แก้ว 95 mm คุณภาพสูงที่จัดมาให้แบบเต็มข้อภายในกล้อง Lomo แบบ Instant Square ระบบ Analog ตัวแรกของโลกตัวนี้
เปิดตัวอย่างน่าตื่นตาตื่นใจไปแล้วพร้อมกันทั่วโลก กับกล้องเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด Nikon D850 ที่อัพเกรดสเปคเทพ ๆ ใส่กล้องมาให้เพียบ แน่นอนว่า UNLOCKMEN ได้ไปจับสัมผัสมาเป็นที่เรียบร้อย ร่างกายบึกบึนสมชายชาตรี คุณภาพไฟล์ของ Nikon นี่ไม่ต้องสืบ คมชัดจากรากฟันไปยันเงา แถมยังอัพเกรด Video ลบคำปรามาสที่เคยโดนสบประมาทว่ามีดีแค่ภาพถ่าย น่าเสียดายที่ราคายังไม่เปิดเผย แต่ยังไงก็อยู่ที่หลักแสนแน่นอน จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องหยิบมาเปรียบเทียบกับเจ้าพ่อ Full Frame Mirrorless “Sony a7R Mark II” ไปดูกันว่าเปรียบเทียบสเปคกันแล้ว ใครมีอะไรเหนือกว่ากัน ถ้าเรื่องขนาดและน้ำหนักไม่ใช่ปัญหา ถือได้ว่า Nikon D850 เป็นกล้องที่ครบเครื่องพอสมควรเลยทีเดียว แต่ไม่ว่าจะกล้องตัวไหน ก็ล้วนเป็นกล้องที่ดีสำหรับมืออาชีพได้ทั้งนั้น ไปลองใช้ดูกับมือด้วยตัวเองจะชัวร์ที่สุด ดีกว่ามานั่งทะเลาะกันใน Facebook ว่ากล้องใครดีกว่ากัน เถียงไปก็เท่านั้น เพราะสุดท้ายมันก็ขึ้นอยู่กับตัวคนถ่ายที่อยู่ข้างหลังกล้องมากกว่า เอาเซียนมาถือกล้องไม่กี่ร้อย ก็ได้ภาพที่สวยอยู่ดี เหมือนคำคมที่ซามูไรเก่าแก่เคยพูดว่า “กระบี่ดีอยู่ที่ใจ ใช่ราคา“ สุดท้ายก่อนจาก เรามีตัวอย่างภาพและวีดีโอที่ถ่ายโดย D850 มาให้ชมประกอบการพิจารณา Table courtesy of