ระหว่างที่เขียนคอลัมน์นี้อยู่ ก็เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ Milli (ดนุภา คณาธีรกุล) ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 100 สตรีผู้เป็นแรงบันดาลใจและทรงอิทธิพลจากทั่วโลก ประจำปี 2022 จากสำนักข่าว BBC โอ้มายก็อดส์! ความรู้สึกเดียวที่เรามีให้เลยคือ ‘ยินดีด้วย’ เพราะตลอดการเดินทางของแร็ปเปอร์คนนี้ไม่มีคำว่าฟลุ๊ค จะเป็นการแสดงสดที่เทศกาลดนตรี Cochella หรือการได้ร่วมงานกับค่าย 88 Rising ผงาดพลัง Asia Power สู่เวทีโลก ล้วนสะท้อนภาพความพยายามอย่างหนักทั้งนั้น และอัลบั้มแรกในชีวิตของเธอ ‘BABB BUM BUM (แบบเบิ้มเบิ้ม)’ ภายใต้สังกัด Yupp ก็เป็นอีกผลงานที่เต็มเปี่ยมด้วยความพยายาม ภายใต้อัลบั้มที่มีพาร์ทดนตรีสุดปั่น และไรห์มสุดยียวน นี่คืออัลบั้มที่ศิลปินผู้รู้จักตัวเองเป็นอย่างดี และรู้ว่าเพลงของตัวเองสามารถเป็นอะไรได้บ้างโดยไม่ทำให้เสียเอกลักษณ์ตัวตนแม้แต่น้อย และมันไม่ใช่เพราะว่า Genre ของ Hip-Hop ที่อนุญาตให้ดนตรีหลากหลายด้วยนะ แต่ Milli ทำให้เพลงทั้ง 10 อัลบั้มเป็นเรื่องราวของตัวเองจริง ๆ สำหรับเราในวันนี้ Milli ได้กลายเป็นตัวละครเอกของมังงะชีวิตที่ตัวเองเขียนไปแล้ว เป็นตัวละครที่บ้าพลัง มุทะลุชนทุกกำแพง และแม้จะย่อท้อก็สามารถลุกขึ้นมาร้องเพลงใหม่ได้เสมอ
ในวงการดนตรีทุกวันนี้ มีแร็ปเปอร์เกิดใหม่ขึ้นมามากหน้าหลายตา แต่ละคนล้วนมีฝีปากในการพ่น Rhymes ได้ไม่เบาทั้งนั้น หลาย ๆ คนก็สามารถสร้างเพลงฮิตจนทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ หรือแม้กระทั่งพาเพลงไปติดชาร์ตบิลบอร์ดก็มีให้เห็นมาแล้ว ซึ่งเพลงที่ว่านั้นก็คือ “ทน” ผลงานของ Sprite และ Guygeegee สองแร็ปเปอร์ต่างวัยที่ใส่ความสนุกสนาน ผสมกับความกวนลงไปในบทเพลง จนชวนให้ทุกคนครื้นเครงกันในช่วงล็อกดาวน์ และก็เป็นโอกาสที่ดีมาก ๆ ที่ทาง Unlockmen ได้มานั่งพูดคุยกับ Guygeegee แร็ปเปอร์มาดกวน ที่ดูภาพลักษณ์แอบทำให้เรานึกถึง Eminem ไม่น้อยทีเดียว เรื่องราวของผู้ชายคนนี้เดินทางมาพร้อมกับคำสบประมาทที่คอยบอกว่าให้ล้มเลิกความฝันไปซะ เขาจึงต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยคำสั้น ๆ ว่า “Prove Them Wrong” มาติดตามเรื่องราวไปพร้อม ๆ กันได้เลย ROCK BEFORE RAP! ก่อนจะก้าวมาเป็นแร็ปเปอร์ Guygeegee ก็มีชีวิตที่ผูกพันธ์กับดนตรีมาตั้งแต่วัยเด็ก เขาเล่นได้ทั้งแซกโซโฟน และกีตาร์ อีกทั้งยังสอบวิชาดนตรีได้เกรด A มาโดยตลอด อีกทั้งเขายังเคยชื่นชอบเพลงร็อกก่อนเพลงฮิปฮอปซะอีก “ถ้าเป็นแต่ก่อนนะ ผมฟังแต่วงร็อกไทย ทั้ง Potato, Pancake,
บ่ายวันพฤหัสบดีที่ 10 กุมภาพันธ์ ทีมงาน Unlockmen ได้เดินทางไปใจกลางเมืองของกรุงเทพมหานครย่านถนนพระราม 4 เพื่อลุยเข้าไปตามตรอกซอกซอยย่านชุมชนบ่อนไก่ เพื่อพบกับแร็ปเปอร์เจ้าของรางวัล Artist Of The Year จาก RIN (Rap Is Now) Awards 2021 นามว่า “P9D” หรือ “นุ้ย” ซึ่งที่ ๆ เราไปเยือนมันคือบ้านที่หล่อหลอมให้เขาเติบโตมาเป็นอย่างที่เป็นในทุกวันนี้ และนี่ยังเป็นครั้งแรกที่เขาเปิดบ้านให้ได้เข้าไปสัมผัสความ Real แบบไร้ซึ่งการสร้างภาพอีกด้วย มาทำความรู้จักตัวตนในทุก ๆ แง่มุมของ P9D แบบที่ไม่ต้องไปตัดสินผู้ชายคนนี้จากแค่คำบอกเล่าบนโซเชียลมีเดียกันดีกว่าครับ แร็ปเปอร์หนุ่มวัย 36 ปี มีชีวิตที่พลิกผันมาตั้งแต่วัยเด็ก เขากำเนิดและเริ่มเติบโตในวัยเด็กย่านสุขุมวิท 101 มีฐานะที่ไม่ได้ลำบากอะไรตั้งแต่แรก มีชีวิตที่ดี มีความฝันไม่ต่างจากเด็กทั่วไป เขาชอบเล่นบาสเกตบอลเป็นชีวิตจิตใจ มีความมุ่งมั่นที่อยากจะเดินทางไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศ แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไป… เหตุการณ์ความเปลี่ยนแปลงเกิดจากการเสียชีวิตของอาม่า จากเด็กที่เคยใช้ชีวิตสุขสบายอยู่ในสังคมชนชั้นกลาง นุ้ยต้องย้ายมาอยู่ในสลัมย่านบ่อนไก่ ซึ่งวิถีชีวิตและสังคมรอบตัวเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ความคิดแรกของคนทั่วไปคงไม่ต่างจากนุ้ยที่มองว่าสถานที่แห่งนี้มันดูน่ากลัว ไม่มีความปลอดภัย แต่แท้จริงแล้วกลับไม่ใช่อย่างนั้น
ในยุคนี้คงไม่มีใครสามารถหลบกระแสของ Hiphop ที่มาแรงได้ เพราะไม่ว่าจะกดโทรทัศน์ไปช่องไหน หรือฟังวิทยุคลื่นอะไรก็จะต้องได้ยินเพลงแรปหรือเพลง Hiphop ผ่านหูผ่านตาไปสักเพลงอย่างแน่นอน UNLOCKMEN มีโอกาสได้พูดคุยกับแรปเปอร์รุ่นเก๋าคนหนึ่งคือ “เวย์-ไทเทเนียม” หรือในอีกชื่อคือ “DABOYWAY” และทำให้เราได้เห็นแง่มุมของคนที่อยู่ในวงการ Hiphop มาอย่างยาวนาน ได้รู้ว่าพวกเขาคิดอะไร และรู้สึกดีแค่ไหนที่ได้เห็นเหล่าแรปเปอร์รุ่นใหม่กำลังพยายามก้าวตามความชอบและความฝันบนเส้นทางสาย Hiphop อย่างที่เวย์ได้เคยผ่านมาแล้ว เมื่อไม่สามารถหนีกระแส HIPHOP ให้พ้นได้ จึงนำมาสู่การกลายเป็นคนทำเพลง HIPHOP จุดเริ่มต้นที่ทำให้เวย์สนใจเพลง Hiphop มันเริ่มมาจากตรงไหน ? ตอนอยู่ที่อเมริกา เพื่อน ๆ ทุกคนในโรงเรียนฟังครับ ตั้งแต่ผมอายุ 6-7 ขวบ ฟังพวก MC Ren, Kris Kross, Dr. Dre, Snoop Dogg, Wu-Tang Clan, Nas และ Jay-Z ไล่มาเลย ช่วงนั้น Hiphop เป็นของใหม่ ดังแค่ในกลุ่ม underground แต่เวลาผ่านไปช่วงต้นยุค