Music
NEXT COVER, SAME MOOD 05 : อ่านหนังสือเล่มไหนต่อดี เมื่ออินกับเพลงในอัลบั้ม ‘BABB BUM BUM’ ของ Milli
By: GEESUCH December 8, 2022 220677
ระหว่างที่เขียนคอลัมน์นี้อยู่ ก็เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ Milli (ดนุภา คณาธีรกุล) ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 100 สตรีผู้เป็นแรงบันดาลใจและทรงอิทธิพลจากทั่วโลก ประจำปี 2022 จากสำนักข่าว BBC โอ้มายก็อดส์! ความรู้สึกเดียวที่เรามีให้เลยคือ ‘ยินดีด้วย’ เพราะตลอดการเดินทางของแร็ปเปอร์คนนี้ไม่มีคำว่าฟลุ๊ค จะเป็นการแสดงสดที่เทศกาลดนตรี Cochella หรือการได้ร่วมงานกับค่าย 88 Rising ผงาดพลัง Asia Power สู่เวทีโลก ล้วนสะท้อนภาพความพยายามอย่างหนักทั้งนั้น
และอัลบั้มแรกในชีวิตของเธอ ‘BABB BUM BUM (แบบเบิ้มเบิ้ม)’ ภายใต้สังกัด Yupp ก็เป็นอีกผลงานที่เต็มเปี่ยมด้วยความพยายาม ภายใต้อัลบั้มที่มีพาร์ทดนตรีสุดปั่น และไรห์มสุดยียวน นี่คืออัลบั้มที่ศิลปินผู้รู้จักตัวเองเป็นอย่างดี และรู้ว่าเพลงของตัวเองสามารถเป็นอะไรได้บ้างโดยไม่ทำให้เสียเอกลักษณ์ตัวตนแม้แต่น้อย และมันไม่ใช่เพราะว่า Genre ของ Hip-Hop ที่อนุญาตให้ดนตรีหลากหลายด้วยนะ แต่ Milli ทำให้เพลงทั้ง 10 อัลบั้มเป็นเรื่องราวของตัวเองจริง ๆ
สำหรับเราในวันนี้ Milli ได้กลายเป็นตัวละครเอกของมังงะชีวิตที่ตัวเองเขียนไปแล้ว เป็นตัวละครที่บ้าพลัง มุทะลุชนทุกกำแพง และแม้จะย่อท้อก็สามารถลุกขึ้นมาร้องเพลงใหม่ได้เสมอ Next Cover, Same Mood ตอนที่ 5 ขอแนะนำลิสต์มังงะหลากแนว ผันแปรตามเพลงที่มีหลายรสชาติของอัลบั้ม BABB BUM BUM และก่อนจะเปิดอ่าน แนะนำให้เปิดเพลงของอัลบั้มนี้ฟังคู่ไปด้วย ขอรับประกันความเบิ้มเบิ้มโดย Milli จาก Yupp! เองจ้าาา
โอ้โห ไม่เคยคาดหวังเลยว่าเพลงที่ 1 ของอัลบั้ม จะกลายเป็นเพลงที่อยากเปิดซ้ำฟังวนบ่อย ๆ แบบนี้ เพราะโดยปกติเพลงแรกมักจะเป็นเพลงที่ทำหน้าที่เล่าธีมโดยรวมของอัลบั้ม แล้วก็ผ่านไปเท่านั้น แต่ Welcome เป็นทั้งเพลงซึ่งทำหน้าที่เปิดโลกของ BABB BUM BUM ได้อย่างถูกต้อง และเป็นเพลงที่ทำให้คนฟังต้องเปิดฟังอีกเรื่อย ๆ ก็ต้องชม SpatChies ที่ทำบีทได้มาสเตอร์พีซมาก ๆ คือเพลงมีทั้งพาร์ท Soul สไตล์ Black Music กลมไปกับ Hip-Hop แล้วกราฟคือโคตรสวิง เปลี่ยน mood & tone บ้าง ซอย tempo บ้าง แต่ฟังแล้วลื่นไหลไปจนจบเลย
เอาจริง ๆ ถึงจุดนี้ (07/11/2022) ก็คงไม่มีใครสงสัยแล้วว่า Milli มาไกลระดับ World Class ได้ยังไง แต่เพื่อเป็นการย้ำข้อความนั้น “โชคดีพ่อมึงอ่าา กูพยายามแทบตาย” จึงเป็นไรห์มที่ถูกประกาศก้องอีกครั้ง และการถือกำเนิดของวงเกิร์ลกรุ๊ป Minus ก็ไม่ได้ทำมาเพื่อปั่นประสาทใครทั้งนั้น แต่เป็นการโชว์ให้เห็นว่า เธอสามารถ Kill ความรู้สึก Pain Point บางอย่างของตัวเองได้แล้วเว้ย!
ถ้าใครเคยอ่านการ์ตูนว่าด้วยความฝันของเหล่าวัยรุ่นวุ่นศิลปะเรื่อง Blue Period คงจำกันได้ดีกับกับฉากที่ตัวเอกของเรื่อง Yaguchi โดนภาพวาดนางฟ้าของรุ่นพี่ Mori ในห้องชมรมศิลปะตกจนละสายตาไม่ได้ จนถึงกับเผลอปากหลุดชมออกมาว่าอิจฉา ‘พรสวรรค์’ ของเธอ แต่เหตุการณ์กลับเป็นไปอย่างไม่คาดคิด เมื่อรุ่นพี่กลับตอบรับคำชมกลับไปว่า “การชมว่ามีพรสวรรค์มันมีความหมายเหมือนกับว่าเราไม่ได้พยายามอะไรเลย” แล้วโลกศิลปะของ Yaguchi ก็เริ่มต้น ซึ่งมาพร้อมกับการที่ครั้งนี้เขาได้รู้ตัวเองจริง ๆ แล้วว่าความพยายามคือทุกอย่าง ไม่มีอะไรได้มาด้วยความโชคดีหรอก
5555 ขอขำยาว ๆ ให้เลย 5 นาที นี่ถ้า ‘แสบสนิทศิษย์ส่ายหน้า’ มีหนังสือก็ต้องถูกจับให้อ่านต่อจากเพลงนี้ คือทำให้เห็นฉากเหล็กไหลเอ้ย! ทับซ้อนขึ้นมาเลย แต่ สาธุ ก็ไม่ใช่เพลงที่ตั้งคำถามถึงหลักความเชื่อทางพระพุทธศาสนาอย่างติดตลกแล้วจบไป ประเด็นนั้นดี และสไตล์ไรห์มในการเล่าก็คมคาย ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้ Story สนุกขนาดนี้ ต้องยกให้เครดิต Milli ครึ่งนึง (ในบทลูกศิษพระอาจารย์) และ TangBadVoice (ในบทพระอาจารย์) อีกครึ่งนึง กลายเป็นเพลง Hip-Hop สาย Story Telling อีกเพลงที่ไฮป์สุด
ให้ศาสนาเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ แล้วชีวิตที่ดีให้เป็นผลทางกระทำขึ้นอยู่กับตัวเรา และอย่างในเนื้อเรื่องของมังงะ Saint Young Men เราควรปล่อยให้ท่านได้พักผ่อนบ้างเถอะนะ
แปลกใจตัวเองว่ะที่ฟังจบแล้วคิดถึง รักโลกจิต (The Flowers of Evil) หรือที่ก่อนได้ LC ใช้ชื่อสุดสะใจว่า อีดอกนรก แต่พอใช้เวลาเพิ่มไตร่ตรองอีกนิดก็เข้าใจเหตุผลละ เป็นเพราะรูปแบบของ ‘ความรักแบบที่ไม่เป็นตามขนบ’ มีความขบฐในสายตาคนทั่วไปนี่เอง ที่ทำให้ความรู้สึกของเราที่มีต่อเพลงนี้ซิงค์กับมังงะเรื่องนั้น
เรื่องย่อ ๆ ของ รักโลกจิต คือการเติบโตอย่างมืดหม่นของนักเรียนหนุ่มมัธยมปลายชื่อ Kasuga Takao ในวันที่เขาได้ทำความรู้จักอย่างลึกซึ้งกับ Nakamura Sawa นักเรียนหญิงผู้แปลกประหลาดประจำห้อง (ชื่อเรื่องอีดอกนรกก็มาจากเธอคนนี้นี่ล่ะ) ผ่านเหตุการณ์สุดกระอักกระอ่วนในตอนที่เขาขโมยชุดพละของคนที่ตัวเองชอบกลับบ้าน
ในช่วงกลางของมังงะ ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครทั้ง 2 ที่กล่าวไปอาจจะสามารถเรียกความรักได้อยู่บ้างถึงแม้จะไม่เต็มปาก เพราะถ้าจะต้องนิยามการกระทำอย่างชวนกันไปป้ายสีห้องเรียนให้เละเทะยามดึก, ขโมยชุดชั้นในเพื่อสร้างเป็น Art Gallery แล้วหัวเราะร่าไปด้วยกันว่าความรักแล้วล่ะก็ เห็นทีคงจะต้องใช้คำว่า ‘ความรักแบบที่ไม่เป็นตามขนบ’ กันอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม ความรักมันมีหลายรูปแบบน่ะทุกคน
ยกให้เป็นเพลงชาติของการออกกำลังกายประจำปี 2022 ใช้ได้เลยแบบไม่ต้องเอาไป Re-mix ต่อ เพราะบีทของ SpatChies จัดการใส่จังหวะ 3 ช่ามาให้เรียบร้อย
เอาจริง ๆ ในอัลบั้มนี้หนักใจกับเพลง Sad Aerobics ที่สุดละว่าจะหามังงะอะไรมาประกอบ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสวรรค์เป็นใจให้มีงานส่งทันเดดไลน์ หรือเพราะขอพรจากหลวงพี่ตั้งในเพลงก่อนก็ไม่รู้ ก็เลยได้ Hunter x Hunter มาอยู่ในลิสต์อย่างเหมาะสม ถ้าจะถามว่าทำไมถึงเหมาะสมน่ะเหรอ (ใครถามอะ) อยากให้ทุกคน Flash Back ภาพกันกลับไปที่การสอบเข้าเป็น Hunter ด่านที่ 1 ครับ จำได้มั้ยว่าพวก Gon ต้องวิ่งแข่งในอุโมงค์กันเป็นระยะทางเท่าไหร่ แล้วคนตกรอบเกินกว่าครึ่งอีก! ก็เพราะการสอบครั้งนั้นไม่ยอมเปิดเพลง Sad Aerobics ไปด้วยน่ะสิคนเลยตกรอบเยอะ ถ้าได้ยินบีทเร้า ๆ คู่กับไรห์ม “สาวสาวเซาเศร้าเต๊อะ สาวสาวเซาเศร้าเต๊อะ สาวสาวเซาเศร้าเต๊อะ” ปลุกใจแล้วนะ หึ ๆ บอกเลยว่าวิ่งฉุยผ่านเข้ารอบทุกคน
ชอบมากกก เพลงของ 2 เพื่อนสาวเมาท์มอยปรึกษาปัญหาหัวใจ แล้วไอตัวคนปรึกษากับให้คำปรึกษานี่โบ๊ะบ๊ะพอกัน ‘ตัวแทนแห่งหมาใน’ คืออะไร๊! เข้าใจนะว่าในเนื้อเพลง Milli เป็นสายปั่นอยู่แล้ว แต่ไม่นึกว่า BOWKYLION จะปั่นกับเนื้อเพลงที่ตัวเองเขียนได้ขนาดนี้ แต่ก็คอนเซปต์เดิมเลยครับ ถึงเพลงจะตลกและมีเสียงหมาหอน แต่ข้อความสุดจริงจังที่บอกให้เราหยุดความสัมพันธ์กับความรักแบบปรบมือข้างเดียว รักคนที่เขาไม่ได้แคร์ เห็นเราเป็นของตาย ยิ่งรักก็ยิ่งทำร้ายตัวเอง นั้นทำเอาอินเหลือเกิน
มังงะรอบนี้สิถึงจะเรียกว่าแปลกของจริง และขอเดาล่วงหน้าก่อนเลยว่าเพราะความเป็น Milli ในเพลงนี้มั้ง ทำให้เราคิดถึงตัวละครของ Ito Junji นักเขียนสมญานาม ‘ราชาแห่งความสยองขัญ’ ที่ชื่อ Jisumi หนูน้อยวัยประถมตัวเล็กน่ารัก น้องสาวที่มีพี่ชายบูชาซาตานและตัวเองก็ชอบกินสมองของมนุษย์ (เริ่มไม่น่ารักละ) มันจะมีตอนนึงของมังงะเรื่อง ‘ห้องเรียนหลอมละลาย’ เล่าเรื่องความรักที่ Jisumi มีให้กับเด็กชายในรุ่นเดียวกัน แบบว่ารักเธอจริง ๆ ไม่ได้อยากกินสมองเธอนะ แต่ไม่ว่าตื๊อยังไงเขาก็ไม่ยอมรับรักเสียที จนสุดท้ายเด็กชายคนนั้นก็หนีหายไปจากเธอตลอดกาล เฮ้อออ รักคนที่เขาไม่รักเราก็เหมือนชีวิตในบอยพาโบ้นั่นแหละน้อง
“ใครอยากเป็นหมาของเธอ เดนจิน่ะสิ เดนจิน่ะสิ”
ไม่ใช่แค่ความรักนะที่ต้องการเวลา แต่ Sex เองก็เหมือนกัน ถ้าไม่เชื่อก็ลองถาม Denji พระเอกจากมังงะที่ไฮป์ที่สุดของยุคอย่าง Chainsaw Man ดูสิ ว่าสิ่งที่ได้มาในเวลาที่ไม่ใช่มันให้ความรู้สึกว่างเปล่าขนาดไหน เพราะอย่างที่คุณ Makima ได้สอนเอาไว้ “เรื่องอย่างว่าน่ะ ยิ่งเราเข้าใจในตัวอีกฝ่ายก็ยิ่งทำให้รู้สึกดีขึ้น” และในชีวิตจริงเองมันก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ด้วย
พูดถึงเพลง Not Yet! นิดนึง เพลงนี้ Milli จำลองเหตุการณ์ไปบ้านแฟน ค่ำคืนของ Netflix ที่มีกัน 2 ต่อ 2 บรรยากาศเป็นใจให้เปลี่ยนจากความโรแนติกเป็นอีโรติกได้ง่าย ๆ แต่จุดประสงค์ของเธอก็แค่อยากชาร์จแบตกับแฟน กอดกัน แล้วหลับไปพร้อมกันเท่านั้นเอง ตอนที่ตัดเพลงนี้เป็น Silgle โปรโมทพร้อม MV ก็ตกใจมากว่าเพลงของ Milli เป็นแบบนี้ได้ด้วยเหรอ เป็น Synth-Pop ฟังสบาย เออแต่เป็นไปได้ว่ะ แล้วดีด้วยนะ ทั้งพาร์ทแร็ปกับร้องเลย และเครดิตบีทยอดเยี่ยมโดย SpatChies คนดีคนเดิม
เพลง Pop ที่สุด และคลั่งรักที่สุดใน ‘BABB BUM BUM’ เพลงของคนรอในวันที่ความรักกำลังผลิดอกบานที่สุด ไม่อยากพลาดแม้สักวินาทีที่จะได้จ้องหน้ากัน แล้วเวลา 17 นาทีก็นานเกินไป นอกจาก SpatChies จะเป็น Produce ในเพลงนี้ (อีกแล้ว) การได้วง mints มาเติมเต็มทั้งพาร์ทกีตาร์และเสียงร้องชายก็เป็นภาพคู่รักที่ถูกต้องมาก ๆ ทั้งน่ารัก น่าเอาใจช่วย
ถึงจะเป็นมังงะที่เต็มไปด้วยเรื่องราวสุดเศร้า และถ่ายทอดราวกับเขียนออกมาจากชีวิตจริง แต่ ‘รักไร้เสียง’ ก็มีช่วงเวลาแห่งความสัมพันธ์ของความรักงดงามที่สุดเท่าที่มังงะจะมีได้ และภาพของความรักนั้น ก็ถูกบันทึกไว้ด้วยช่วงเวลาแห่งการรอคอยบนทางเดินของสะพานมิโดริ ระหว่าง Ishida กับ Nichimiya ในวันที่ใครบางคนมาช้าไปนิดเดียว หรือหาอีกคนไม่เจอแม้เพียงไม่กี่วินาที ใจมันหายแทบจะทนไม่ไหว (ใครยังไม่เคยอ่านเราแนะนำมาก รับรองว่าอ่านจบยิ้มไปหลายวันเลย) .. ถึงคุณทุกคนที่กำลังมีอาการทนไม่ไหวกับการรอคอยแบบนี้ นั่นคือสิ่งที่เรียกว่าคุณกำลังรักใครอีกคนอย่างจริงจังครับ : )
ขอซูฮกให้ 100 ครั้งไปเล้ยยย คนบ้าอะไรเอาความรู้สึกไม่อยากทำการบ้านมาแต่งเป็นเพลง 4 นาทีได้สนุกขนาดนี้ แต่ เราเองก็ไม่รู้จะช่วยนวยยังไงเหมือนกันว่ะ ก็เลยอยากแนะนำให้อ่าน Doraemon ตอนที่ Nobita ต้องทำการบ้าน แล้วได้เครื่องมือวิเศษของ Doraemon มาช่วย ก่อนที่จะพบว่าในตอนจบของทุกตอนนั้นเครื่องมือวิเศษยิ่งทำให้เรื่องแย่เข้าไปอีก จนในที่สุดก็ต้องลงมือทำด้วยตัวเองอยู่ดี .. เผื่อจะช่วยให้ปลงขึ้นน่ะ เพราะถึงอยากลาออกยังไงแม่ก็ไม่ให้อยู่ดีใช่มะ
การจับ 2 เพลงที่ส่งให้ตัวเองกลายเป็นที่รู้จักตอนปี 2020 อย่าง พักก่อน กับ สุดปัง มาทำ Hip-Hop Fusion Jazz คือบ้าพลังสุดฤทธิ์ ก็เรียกว่าเป็นเพลงปล่อยของกันไปเลย ใครสายชอบฟัง Hip-Hop ที่อะเรนจ์ดนตรีแบบเดือดจัดไม่ลูปห้ามพลาด แล้วแร็ปก็คือเดือดสุดปรอท ถ้าเป็นแฟนตาม Milli ตั้งแต่แรก เพลงนี้คือจะ Kill คุณตายไปเลย
ความดีงามของ สุดก่อน ทำให้เราคิดถึงมังงะที่มีส่วนผสมของความหลากหลายอย่างบนโลก แต่ทำได้ลงตัวอย่าง Onepiece หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้มังงะเรื่องนี้ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลสำหรับเรา ก็คือการเป็นการ์ตูนโจรสลัดที่มีอะไรมากกว่าโจนสลัดนี่ล่ะ ยกตัวอย่างไว ๆ สำหรับคนที่ยังไม่เคยอ่าน คุณจะได้เจอกับซอมบี้, นักวิทยาศาสตร์, ซามูไร, ผี, ชาวสวรรค์ เป็นต้น และสำหรับแฟน ๆ ทุกคน เรามาลุ้นการผจญภัยกับเกาะสุดท้ายที่กำลังจะมาถึงไปด้วยกันเถอะ
เท่าที่เคยฟังเพลงมาตลอดชีวิตอายุ 28 ปี ปกติศิลปินเขาจะต้องปิดจบเพลงสุดท้ายอย่างสวยงาม ไม่เป็นเพลง Acoustic ช้า ๆ ก็จะเป็น Ballad จังหวะเนิบ ๆ เพื่อเป็นการบอกลากันไป “ไม่ใช่เหรอ?” คือคุณ Milli เล่นฉีกทุกกฎที่ว่า ด้วยการทำเพลงซึ่งพูดถึงการปลดทุกข์ก้อนใหญ่ คู่กับพี่หลุยส์ 1-Flow ซึ่งนอกจากมีเสียงลมกำลังภายในจัดเต็มทั้งเพลงแล้ว พาร์ทดนตรีก็จัด Nu-Metal สนานชาวหูรุนแรงมาให้ด้วย แต่ดีและสะใจจัด!
ปิดจบปั่น ๆ แบบนี้ ก็เอามังงะสุดปั่นไปอ่านกันโลด ‘โอซาฮาว่า ฮายกครัว’ มังงะแก๊กว่าด้วยเรื่องราวของครอบครัวโอซาวากิและเหล่าเพื่อบ้านสุดบวม ที่แข่งกันบวมกับพวกเขาเอง อ๊ะ ๆ แต่เราไม่ได้เลือกมังงะเรื่องนี้มามั่ว ๆ นะ เพราะมันจะมีตัวละครตัวนึงของมังงะเรื่องนี้ ผู้มีฉายาว่า ‘ส.ส.คี่’ ที่ทำงานเป็น ส.ส. น่ะเรื่องจริง แล้วคำว่า ‘คี่’ ก็ไม่ได้มาง่าย ๆ มันระดับแกร่งที่สุดในปฐพีเชียวล่ะ (ไม่ได้พูดถึงชัชชาตินะ) แต่ถ้าจะให้อธิบายแบบสาธารณะก็คงจะไม่ได้ เอาเป็นว่ามันมีความสอดคล้องกับเพลง Squad Shit พูดได้เท่านี้เลย หาอ่านเรื่องราวเต็ม ๆ ได้กับลิขสิทธ์ของสำนักพิมพ์ Vibulkij