วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายนนี้ ศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ระหว่างฝั่งสีฟ้า “Manchester City” และฝั่งสีแดง “Manchester United” กำลังจะเริ่มขึ้นเป็นนัดแรกของฤดูกาล ซึ่งต้องบอกเลยว่าคู่นี้เจอกันทีไรมันส์หยดทุกที เพราะมันคือเกมแห่งศักดิ์ศรีของเมืองแมนเชสเตอร์โดยแท้จริง เท่านั้นยังไม่พอด้วยสถานการณ์ของทั้ง 2 ทีมตอนนี้อยู่ในช่วงฟอร์มดีทั้งคู่ โดยฝั่งเจ้าบ้านเรือใบสีฟ้าอยู่อันดับ 2 มี 17 คะแนน จากผลงานชนะ 5 เสมอ 2 และยังไม่แพ้ใคร ส่วนฝั่งทีมเยือนปีศาจแดงอยู่อันดับ 5 มี 12 คะแนน จากผลงานชนะ 4 แพ้ 2 และแข่งน้อยกว่าอยู่ 1 นัด มองจากภาพรวมฝั่งของ Manchester City ดูจะน่ากลัวกว่า โดยเฉพาะฝั่งเกมรุกที่มี Erling Haaland กองหน้าเลือดไวกิ้งยืนค้ำแดนหน้า ซึ่งเจ้าตัวยิงเฉพาะในลีกไปแล้วถึง 11 ประตู นำโด่งเป็นดาวซัลโวแบบเท่ ๆ แถมยังมี Kevin De Bruyne เพลย์เมเกอร์ตัวเก่งที่พร้อมจะแอสซิสต์เทพ
นับเป็นข่าวที่น่าเสียดายสำหรับวงการฟุตบอล เมื่อ Sergio Agüero กองหน้าระดับเวิร์ลคลาสทีมชาติอาร์เจนตินา และสโมสรบาร์เซโลนา ตัดสินใจประกาศแขวนสตั๊ดด้วยวัยเพียง 33 ปี เนื่องจากมีปัญหาของภาวะหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ อาการดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม ในเกมที่พบกับอลาเบสเมื่อเดือนตุลาคม หลังจากนั้น Agüero ก็ได้รับการรักษาจากทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด ซึ่งตัวเขาเองก็พยายามต่อสู้และมีความหวังที่จะกลับมาลงเล่นฟุตบอลอีกครั้ง แต่สุดท้ายมันกลับไม่เป็นอย่างที่คิดเพราะทีมแพทย์ได้แนะนำให้ Agüero เลิกเล่นเพื่อความปลอดภัยของตนเอง แต่มันก็แลกมาด้วยความเจ็บปวดที่ต้องหันหลังให้กับสิ่งที่เขารักมาตลอดชั่วชีวิต สิ่งที่ Sergio Agüero ได้ฝากไว้ให้กับวงการฟุตบอลถือว่ายิ่งใหญ่มาก เขาคือกองหน้าสุดแสนอันตราย สร้างความปั่นป่วนให้แนวรับฝั่งตรงข้ามด้วยทักษะและความรวดเร็ว มีสถิติการยิงประตูที่ยอดเยี่ยม และมีฝีเท้าระดับโลกอย่างไม่ต้องสงสัย เขาเริ่มเจิดจรัสฉายแสงความเก่งกาจนับตั้งแต่เป็นนักเตะระดับเยาวชน ณ สโมสรอินดิเพนเดนเต้ ทำลายสถิติ DIEGO MARADONA ด้วยวัยเพียง 15 ปี Sergio Agüero เริ่มต้นความฝันบนผืนหญ้าในสนามฟุตบอลด้วยวัยเพียง 9 ขวบ ในฐานะนักเตะเยาวชนของทีมอินดิเพนเดนเต้ เขาได้รับแรงบันดาลใจอาชีพนักฟุตบอลมาจากคุณพ่อของเขา Agüero ใช้เวลาบ่มเพาะฝีเท้าอยู่กับทีมเยาวชนหลายปี จนกระทั่งในวันที่ 5 กรกฎาคม ปี 2003 เขาก็ได้สัมผัสเกมในทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในฐานะตัวสำรองในเกมที่พบกับทีมคลับ แอตเลติโก ซาน ลอเรนโซ่