4 ปีที่ผ่านมา UNLOCKMEN อยู่เคียงข้างผู้ชายไทยพร้อมความเชื่อที่ว่าทุกคนต่างมีศักยภาพซ่อนอยู่ในตัว เราจึงมุ่งมั่นผลิตคอนเทนต์ต่อเนื่องเพื่อให้ทุกคนได้ Unlock Men Potential เหยียบคันเร่ง ใส่เกียร์ความสามารถ ติดสปีดพัฒนาตัวเองให้พร้อมวิ่งชนเป้าหมายในชีวิต โดยไม่ลืมให้ความสำคัญกับการวาดลวดลายเข้าเส้นชัยในแบบฉบับของตนเอง เพราะเป้าหมายสูงสุดที่เราตั้งใจคือการส่งทุกคนสู่การเป็น ICONIC ที่ตัวเองยังต้องรู้สึกภาคภูมิใจ! สำหรับผู้ชายอย่างเราคำว่า “ICONIC” ฟังแล้วอาจกินความกว้างจนรู้สึกห่างไกลจับต้องยาก แต่ถ้าจะตีความให้เข้าใจง่ายก็คือความโดดเด่น มีเอกลักษณ์ และจัดอยู่ในเลเวลท็อปคลาสแบบเหนือกาลเวลาที่ใครเห็นก็ต้องยกนิ้วให้ ไม่จำกัดว่าจะอยู่ในรูปแบบของสิ่งของหรือตัวบุคคล แล้วมันจะเป็นอย่างไรถ้าเราทุกคนได้มีโอกาสลองสัมผัสประสบการณ์ ICONIC ตรงหน้า? พร้อมกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของความมันส์ที่เกิดขึ้นจากคนมันส์และของสุดเจ๋ง หากอยากรู้ เราจะพาคุณไปชมบรรยากาศความสนุกของงาน ‘The ICONIC Party’ อีเวนต์สุดมันส์ที่ UNLOCKMEN จัดขึ้นกับงานที่รวบรวมสุดยอดของความ ICONIC สำหรับลูกผู้ชายเราเอาไว้ด้วยกัน ทั้งรถยนต์ บทเพลง ความบันเทิง และผู้คนจากทั่วทุกวงการที่เดินทางมารวมตัวกันเพื่องานครั้งนี้ Pearl Bangkok ไข่มุกเม็ดงามย่านอารีย์ได้รับการเนรมิตให้กลายเป็นโลกอีกใบที่รวบ “ICONIC” จากทุกวงการที่เราหลงใหลอัดแน่นเอาไว้ทุกตารางนิ้ว เริ่มจากบรรยากาศโดยรอบของงานตั้งแต่ยังไม่ก้าวเข้าไปในโดมที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้สัมผัสกับ ICONIC ของโลกยนตรกรรมจาก Nissan กับ Skyline GT-R สุดยอดรถยนต์สายพันธุ์ญี่ปุ่นไล่ตั้งแต่รถรหัสตัวถัง R32 ซึ่งเป็นรุ่นแรกที่ได้บุกตลาดต่างประเทศและออกอาละวาดในสนามแข่งระดับสากลพร้อมพิสูจน์ศักยภาพด้วยการคว้าแชมป์มาครองมากมายจนถูกขนานนามด้วยฉายา “Godzilla” Monster From Japan รวมถึงรหัสตัวถัง
เมื่อช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ยุคแรกเริ่มแห่งการบุกเบิกอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 26 ธันวาคม ปี 1933 ได้มีบริษัทรถยนต์แห่งใหม่ถือกำเนิดขึ้นจากการควบรวมกิจการระหว่างบริษัท Tobata Imono และ Nihon Sangyo โดยใช้ชื่อว่าใหม่ว่า Jidosha Seizo Co., Ltd. แน่นอนว่าชื่อบริษัทเหล่านี้หลายคนคงรู้สึกไม่คุ้นหูสักเท่าไหร่ แต่เชื่อว่าทุกคนจะต้องร้องอ๋อในทันที เมื่อได้รู้ว่าในปีถัดมาบริษัทผลิตรถยนต์น้องใหม่รายนี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Nissan Motor Co., Ltd. หรือ Nissan ที่เรารู้จักกันดี และกลายเป็นผู้นำที่ออกแบบพัฒนารถยนต์ระดับ Iconic บนหน้าประวัติศาสตร์มามากมาย รวมถึงยังเป็นแบรนด์แรกที่พารถยนต์ญี่ปุ่นไปสร้างชื่อเสียงให้คนทั้งโลกได้รับรู้กับความล้ำหน้าของรถยนต์ Made In Japan ผ่านเวลามาจนถึงวันนี้ เวลาเดินทางผ่านไปเกือบ 86 ปี จากบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นมาด้วยเงินทุนเพียง 10 ล้านเยน ได้กลายมาเป็นบริษัทยานยนต์ชั้นนำของประเทศญี่ปุ่นและเป็นหนึ่งในแถวหน้าของโลก ผลิตรถยนต์จำหน่ายไปแล้ว 150 ล้านคันทั่วโลก (ข้อมูลเมื่อปี 2017) และได้สร้างสรรค์ Iconic Cars ระดับตำนานภายใต้แบรนด์ Datsun และ
3 ยี่ห้อยานยนต์ระดับโลกที่เราคุ้นเคยได้เซ็นสัญญาผูกปิ่นโตกับ Google เรียบร้อย ทั้ง Renault Nissan และ Mitsubishii เพื่อหวังเป็นดาวเด่นในตลาดรถยนต์ที่มีโปรดักส์ครบเครื่องทั้งความเฉียบของสมรรถนะและสมองกลรวมกันทันทีที่สตาร์ต การนำ AI มาใส่ในรถเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ขับขี่อย่างเราไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับค่ายผู้ผลิตรถทั้งหลายอีกต่อไป โดยเฉพาะกับกระแส internet of things ที่กำลังจะเข้ามา AI ถือเป็นอาวุธสำคัญที่ช่วยพลิกอุปกรณ์เดิมให้กลายเป็นสุดยอดบริการแปะป้ายคำว่า “Smart” ไว้ เรียกง่าย ๆ ว่าถ้า Smart Home ก็ต้องมี AI เชื่อมโยงคำสั่งกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ในบ้าน Smartphone วันนี้ก็รองรับระบบของ Siri หรือ Google Assistant ส่วน “Smart Car” แห่งอนาคตเองก็ต้องใช้ระบบ AI ในการทำงานเช่นกัน โดย Hadi Zablit ผู้นำการพัฒนาธุรกิจของ Alliance ได้กล่าวถึงแนวทางการพัฒนาในครั้งนี้ว่า “ความมุ่งมั่นของเราคือการเสนอประสบการณ์เดิมที่ลูกค้าเคยใช้งานกับมือถือนำมาอยู่ในรถยนต์ มันคือขีดความสามารถในการแข่งขัน สิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นฟีเจอร์สำคัญที่คนจะเลือกซื้อรถในวันข้างหน้า” สำหรับบริการที่กลุ่ม Renault
ด้วยนวัตกรรมในโลกที่ทุกอย่างก้าวไปไกลเกินเราจะคิดทัน ทั้งนี้เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้กับชีวิตประจำวัน แต่ก็ดูเหมือนจะสะดวกมากไปเมื่อเจอกับ “self-driving slippers” หมดปัญหารองเท้าเกะกะไม่เป็นระเบียบ เพราะมันพาตัวเองไปหาคู่แล้วเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบได้ด้วยตัวเอง มาดูกันว่าเจ้านวัตกรรมชวนหัวแบบนี้ มีที่มายังไง UNLOCKMEN จะเล่าให้ฟัง เจ้ารองเท้าสุดเจ๋งนี้ NISSAN เป็นผู้ผลิตคิดค้นมันขึ้นมา เพื่อให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ที่มักจะเปลี่ยนรองเท้าก่อนเข้าบ้าน ส่วนพื้นที่เปลี่ยนรองเท้า (foyer) นั้น เหล่าแม่บ้านอาจจะเคยปวดหัวกับความระเกะระกะของรองเท้าที่ถอดแล้วมันสะบัด กลิ้ง ไปผิดที่ผิดทาง แต่ไม่ต้องเหนื่อยใจกับปัญหาหยุมหยิมเหล่านี้อีกแล้วถ้าหากเรามีเจ้ารองเท้าที่จอดตัวเองได้เหมือนกับรถยนต์ไม่มีผิด โดยรองเท้าพวกนี้เริ่มต้นใช้ในโรงแรมในญี่ปุ่น ด้วยเทคโนโลยี ProPilot Driving ของนิสสันเอง ใต้รองเท้านี้มีล้อจิ๋ว ๆ สองข้าง มอเตอร์ และเซ็นเซอร์เอาไว้ให้จอดเข้าซองได้แบบเซียนเหมือนมีคนขับนั่นเอง (นั่นมันรถแล้ว!) แต่ทั้งนี้ก็ยังมีระบบการจอดอยู่ใต้พื้นไม้ของโรงแรมอีกด้วย ถึงแม้จะดูเป็นนวัตกรรมที่เกินความจริงไปหน่อย แต่นิสสันกลับบอกว่านี่มันจริงจังนะเว้ย! เพื่อเอนเตอร์เทนแขกที่มาเข้าพักแล้วก็ยังลดหน้าที่ของพนักงานอีกต่างหาก มันเล่น ๆ ที่ไหนล่ะเนี่ย! และเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีเดียวกับ Semi-Autonomous Nissan Leaf ที่นิสสันเข็นออกมาขายแบบเป็นจริงเป็นจังตั้งแต่ปลายปีที่แล้วด้วย ซึ่งทางนิสสันกล่าวอีกว่า “The self-parking slippers นี่แหละที่จะทำให้คนเข้าใจถึงประสิทธิภาพของเทคโนโลยี ว่ามันไม่ใช่แค่แอปพลิเคชั่นช่วยจอดแบบเจ้าอื่นในตลาด” พูดแล้วเหมือนจะโฆษณา (เปล่านะเปล่า)