“เป็นเมียเราต้องอดทน” เรามั่นใจว่าใครหลายคนยังจดจำประโยคนี้จากหนังเรื่อง 2499 อันธพาลครองเมืองได้ขึ้นใจ แม้วันเวลาจะล่วงเลยจากปีที่หนังฉายครั้งแรกมา 23 ปีแล้วก็ตาม พอ ๆ กับที่ไม่มีแม่นาคพระโขนงเวอร์ชันไหนจะทำให้เราอกสั่นขวัญผวาได้มากเท่ากับภาพจากหนังเรื่องนางนาก ที่แม่นาคผมสั้นกุด ฟันดำมะเมื่อมจากการเคี้ยวหมาก ห้อยหัวลงมาจากเพดานวัด ภาพยนตร์ทั้ง 2 เรื่องนี้และอีกหลายเรื่องคือฝีมือการกำกับของ “อุ๋ย-นนทรีย์ นิมิบุตร” ที่แรกเริ่มเราอาจรู้จักเขาในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์ แต่วันนี้เขานิยามตัวเองว่า “คนทำหนัง” หรือถ้าให้ชัดกว่านั้น “คนทำหนังที่มีความสุข” ตอนนี้เขาเตรียมโปรเจกต์ของตัวเองอยู่ เขียนบทหนังอีก 2-3 เรื่อง ทั้งหนัง ทั้งซีรีส์ รวมถึงงานโปรดิวเซอร์ แต่หากเบื้องหน้าคือหนังชวนให้จดจำ วลีเด็ดชวนให้กล่าวขาน และสารพัดภาพในตำนานที่ใคร ๆ ก็กล่าวถึง การได้สนทนากับเขาในวันนี้กลับพาเราขุดลึกลงไปเบื้องหลังความสำเร็จตลอดหลายสิบปีในการทำหนัง เบื้องหลังถ้วยรางวัลเรียงราย ภายใต้การอดทนรอจังหวะที่ใช่ การทำงานงานหนัก และการเรียนรู้ไม่สิ้นสุด คือตัวตนของเขาที่น่าสนใจไม่แพ้หนังเรื่องไหน ๆ ของเขาเลย เมื่อเจอ “การทำหนัง” ก็เจอความสุขที่ตามหามาทั้งชีวิต “รักแรกพบ” ใครหลายคนอาจลืมไปแล้วว่าวินาทีแรกที่เราตกหลุมรักใครสักคนหรือสิ่งสักสิ่งนั้นให้ความรู้สึกเช่นไร? แต่ อุ๋ย-นนทรีย์ นิมิบุตร ที่นั่งอยู่ตรงหน้าเรานี้ กลับต่างออกไป เพราะวินาทีแรกที่เขาได้รู้จักการทำหนัง