คุณเคยเจอคนตรงหน้าที่แค่ฟังคำที่เขาพูดแล้วรู้สึกว่า “เออ! กูยอม กูต้องยกนิ้วให้” หรือแค่บางประโยคที่ส่งออกมาก็มีพลังทำให้เรารู้สึกนั่งไม่ติดต้องลุกขึ้นไปทำอะไรสักอย่างแล้วเพราะถ้าปล่อยให้นั่งเฉย ๆ จากนี้วินาทีเดียวก็สายเกินไปบ้างไหม ถ้าคุณเคยเจอ เขาคนนั้นคือคนที่ช่วย UNLOCK POTENTIAL บางอย่างในตัวคุณ นั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ตลอดการทำงานและตลอดปี 2018 ที่ผ่านมาพวกเราร่วมเฟ้นหาบุคคลเจ๋งจากหลากที่มาที่มีความหลากหลายมานั่งพูดคุยประเด็นต่าง ๆ ที่น่าสนใจเพื่อมาส่งต่อพลังงานถึงกัน เพราะเราเชื่อว่ากระแสที่ดีจะเหนี่ยวนำเรื่องดีเข้ามา เมื่อคุณคบใครย่อมได้ถ่ายเททัศนคติบางอย่างจากเขามาด้วย ดังนั้น ไม่ว่าพวกเขาทั้ง 5 คนจากนี้จะเป็นคนที่คุณคุ้นเคยหรือไม่ก็ตาม แต่พวกเขาคือ 5 คนสุดท้ายในปีนี้ที่เราลงความเห็นแล้วว่าคุณควรทำความรู้จัก เพราะคุณจะได้เก็บเกี่ยวพลังไปใช้ในปีหน้าอย่างแน่นอน ความไร้สาระ คือความสดแจ้งเกิดฝัน หนึ่งคนที่พิสูจน์ว่าแพสชั่นแม่งไม่ต้องเป็นเรื่องที่มีสาระอะไรก็ได้ แต่ว่าได้สาระเหี้ย ๆ ปีนี้เราต้องยกตำแหน่งให้เขาคนนี้ “เย่ – ธนวัฒน์” นักคราฟต์ดาบ Lightsaber ที่เลือกออกจากงานประจำที่รัก มาหาความไร้สาระที่ “รักมากกว่า” “ผมรักงานประจำที่ทำมากเลยนะ ผมชอบแอนิเมชั่น ชอบ CG มีความฝันที่อยากทำหนังใหญ่ อยากมีส่วนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในนั้น แต่พอทำอยู่ 3-4 ปี เริ่มรู้สึกว่าไม่ไปไหนซักที มาถึงจุดนึงก็เริ่มคิดว่ากูจะนั่งอยู่หน้าคอมตรงนี้ไปตลอดหรอวะ พอดีกับที่ช่วงนั้นเริ่มสะสม Lightsaber เริ่มสั่งมาโมดิฟายเก็บและโมขายไปด้วย
“โตขึ้นอยากเป็นอะไร ?” คำถามที่คุ้นเคยดีเมื่อสมัยที่เรายังตัวเท่าเอวพ่อแม่ ออกไปพบเจอญาติพี่น้องในวันเทศกาล ตอบคำถามคุณครูหน้าชั้นเรียน เรียงความสมัยประถมศึกษา ที่วนเวียนอยู่กับการตามหาตัวเองให้เจอ ทั้งที่ตอนนั้นเราอยู่ในวัยที่ติดกระดุมเสื้อให้มันตรงก็เก่งแล้ว จริง ๆ คำถามนั้นมันไม่ได้หมายถึงเราต้องการจะประกอบอาชีพอะไรในตอนโตเป็นผู้ใหญ่ แต่มันหมายถึง เราอยากจะเลือกทางเดินชีวิตแบบไหนเสียมากกว่า คำถามนั้นยังคงหลอกหลอนเรามาตลอด ถึงแม้จะอยู่ในวัยที่ “โต” แล้วก็ตาม เพราะเมื่อเราโตแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะรู้ว่าตัวเองต้องการอะไรในทันที UNLOCKMEN อยากชวนทุกคนมาขบคิดถึงความฝัน ความต้องการของตัวเอง ตั้งแต่ในวัยเด็กจนถึงตอนนี้ ว่ามันเป็นไปอย่างที่เราคิดแค่ไหน พอใจกับมันหรือเปล่า ? หากยังไม่เจอสิ่งที่ใช่ แล้วระหว่างนี้เราจะทำอะไรกันดี ? โตขึ้นอยากเป็นอะไร ? เราเลือกได้ในทุกวัน ในตอนเด็ก เราอาจจะมีพ่อแม่คอยแนะแนวทางให้เรามาตลอด (ข้ามเรื่องการบังคับ การใช้ชีวิตแทนลูกไป) แต่พอโตขึ้นมาอีกช่วงอายุ เราเริ่มมีอำนาจตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองมากขึ้น จนถึงช่วงที่โตมากพอที่จะตัดสินใจเองได้ทุกอย่าง จนเสียงในหัวของเรา คือเสียงที่ดังที่สุด คำพูดของคนรอบข้างเป็นเพียงเสียงที่คอยแนะนำอย่างแผ่วเบาเท่านั้น ตอนเด็กเราเลยมักจะเลือกอะไรสักอย่างให้ตัวเองโดยขึ้นอยู่กับความชอบ ความพอใจ ของเรา โตขึ้นมาเราเริ่มเรียนรู้ว่าชีวิตมันไม่มีอะไรง่ายแบบคิดปุ๊บ ทุกอย่างเนรมิตมาได้ดั่งใจ เราเริ่มมีเงื่อนไขอื่น ๆ เข้ามามีผลต่อการตัดสินใจอะไรสักอย่างให้ตัวเอง ขึ้นม.ปลาย เรียนสายวิทย์ เรียนสายศิลป์ หรือจะสายอาชีพ เลือกคณะที่ใช่
แพสชั่น ความหลงใหล หรือความชื่นชอบต่อเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างถึงแก่น กลายเป็นเหมือนสูตรสำเร็จของผู้คนยุคสมัยนี้ไปแล้ว ผู้ชายอย่างเรา ๆ ก็หนีไม่พ้น ไม่ว่าจะได้งานที่ไหน ใคร ๆ ก็พากันพูดถึง “แพสชั่นในการทำงาน” กันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น “หาแพสชั่นในงานนี้ให้เจอสิ” , “ทำงานแบบมีแพสชั่นหน่อย”, “ถ้าไม่มีแพสชั่น ทำงานแค่ไหน ก็ไปไม่ถึงจุดพีคหรอกเว้ย!” และอีกสารพัดบทท่องจำที่เมื่อไหร่ใส่คำว่า “แพสชั่น” เข้ามาในบทสนทนา คำพูดนั้นจะกลายเป็นคำพูดปลุกใจโคตรศักดิ์สิทธิ์ที่่ล่อลวงผู้ชายอย่างเราให้ไฟลุก รีบตามหาแพสชั่นของชีวิตกันแบบสุดหล้าฟ้าเขียว แต่จะเกิดอะไรขึ้น ถ้า UNLOCKMEN อยากบอกว่า “แพสชั่นไม่ใช่ยาวิเศษของชีวิตและการทำงาน” และมันอาจมีผลเสียมากกว่าที่คิด ถ้าเราเอาชีวิตไปผูกติดกับคำ ๆ เดียวอย่าง “การหาแพสชั่นให้เจอ” การท่องคำว่าแพสชั่นซ้ำ ๆ เหมือนล้างสมองตัวเองอาจต้องถูกพักเอาไว้ก่อน เพราะงานวิจัยที่มีชื่อว่า Implicit Theories of Interest: Finding Your Passion or Developing It? ที่เขียนขึ้นโดยนักจิตวิทยาจาก Yale-NUS College แห่ง National University
มองไปทางไหนก็พาให้รู้สึกเบื่อไปหมด ยิ่งหมดไฟในใจแล้ว ต่อให้เปลี่ยนไปนั่งทำงานที่ไหนก็ไม่ได้ช่วยให้มีไฟขึ้นมาเอาซะเลย ปลุกไฟจากภายนอกอาจไม่ช่วยเท่าไหร่ ลองหันมาปลุกไฟในใจให้กลับมาลุกโชนอีกครั้งจะดีกว่า UNLOCKMEN ชวนคุณมาดู 5 หนังที่จะให้คุณได้เจอมุมมองใหม่ ๆ ในการทำงาน เผื่อว่าจะมีเรื่องไหน สะกิดความคิดของเราให้เกิดไฟขึ้นมาได้อีกครั้ง ต่อให้ไม่ได้ อย่างน้อยก็ขอให้เราได้ข้อคิดอะไรบางอย่างผ่านตัวละครหลากหลายแนวที่พร้อมจะมาเล่าเรื่องราวชีวิตการทำงานของตัวเองให้ฟัง The Secret Life of Walter Mitty (2013) Director : Ben Stiller เรื่องราวยอดฮิตที่เราอยากให้ดูจริง ๆ สำหรับใครที่รู้สึกอุดอู้เหลือเกิน เมื่อก้าวพ้นประตูออฟฟิศเข้าไปสู่โลกของการทำงานแบบลูปเดิม ๆ มาผจญภัยไปพร้อม ๆ กับ Walter Mitty (Ben Stiller) หนุ่มออฟฟิศที่เบื่อชีวิตไม่แพ้กับเรา ๆ ที่ทำงานในบริษัทนิตยสาร LIFE แต่แล้วเมื่อโลกหมุนไป สื่อสิ่งพิมพ์ไม่อาจคงอยู่ได้เหมือนแต่ก่อน LIFE จึงจะผันตัวไปทำสื่อออนไลน์แทน เมื่อฉบับสุดท้ายมาถึง เขาดันทำภาพถ่ายที่ต้องใช้ในเล่มหายไป เรื่องราววุ่นวายมันเกิดขึ้นตรงนี้ เขาต้องออกไปตามหาช่างภาพของภาพใบนั้น การออกตามหาช่างภาพครั้งนี้ เขาต้องเดินทางไปเจอเรื่องราวผจญภัยแบบที่ชีวิตของหนุ่มออฟฟิศจืด ๆ คนนึงไม่เคยพบเจอมาก่อน โดยในเรื่องจะเล่นกับความช่างฝันของเขา ให้เราได้เดาเอาเองว่าฉากนี้คือเรื่องจริงหรือจินตนาการของเขา
ในวันที่สมองตีบตัน หันไปทางไหนก็ดูจะไม่ได้ Inspiration จากอะไรเลย อยากจะเป็นเหมือนคอมพิวเตอร์ กด Restart สักทีก็กลับมาใช้งานได้คล่องปรื๋อ แต่คนเรามันทำแบบนั้นไม่ได้น่ะสิ หมดสนุกกับสิ่งที่ทำ ตั้งคำถามกับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ว่านี่กูกำลังทำอะไรอยู่ ? หากเราประสบปัญหาแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า บอกเลยว่ามันคืออาการของคนหมดไฟ ฟังดูเศร้า แต่อย่าเพิ่งท้อไปเลยหนุ่ม ๆ UNLOCKMEN จะพามาปลุก PASSION ในตัวให้ร้อนแรง ด้วยคำถามเจ๋ง ๆ ที่จะทำให้มองเห็นทางไปต่อให้กับตัวเอง พร้อมวิธี Relax ให้สมองลื่นไหล พร้อมจะลุยต่อกับไอเดียที่พรั่งพรูในหัว ทำไมอาการ “หมดไฟ” มาไวกว่าที่คิด ? ถึงเราจะบอกว่า Passion เนี่ย มันไม่จำเป็นต้องลื่นไหลกันตลอดเวลา แต่ชีวิตจริงของเรามันร่ำร้องบอกให้เราวิ่งเข้าหา “Dream Job” เพราะเราจะเหมือนยืนอยู่ท่ามกลางทะเล Passion ที่ไม่มีวันหมด แม้จะรู้ว่ามันไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องก็ตาม เพราะความจริงแล้ว Dream Job มันอาจจะไม่ได้ตอบโจทย์ในเรื่องของรายได้ที่น่าพอใจ หรือเหตุผลอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากเหตุผล “กูอยากทำว่ะ” เรื่องของอาชีพก็ยังคงเป็นอะไรที่ซับซ้อนพอ ๆ กับการใช้ชีวิตของเรานั่นแหละ