เห็น Cybertruck โผล่มาอยู่บนเว็บ Tesla Thailand ก็เลยสนใจและลุ้นไปด้วยว่าจะมาขายจริงหรือไม่ ถ้ามาแล้วราคาน่าสนใจ เชื่อว่าหลายคนน่าจะอยากลอง รวมถึงแอดเองด้วย แต่ด้วยสเปคที่ล้ำยุคสมัยไปไกลก็ทำให้เกิดคำถามขึ้นว่า “แล้วถ้าต้องซ่อม บ้านเราจะทำได้มั้ย?” เอาแค่บอดี้ Metal Alloy ที่ผลิตจาก Stainless Steel panels หนา 3mm แข็งแรงถึงขั้นกันกระสุนได้ ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิตขึ้นรูป ซึ่ง Musk เคยบอกว่าเครื่องบีบอัดที่ใช้โรงงานรถยนต์ทั่วไปไม่สามารถใช้ได้ ดังนั้นอู่นอกหรือช่างแถวบ้านไม่น่าจะมีเครื่องมือที่ซ่อมแซมมันได้ หรือได้ แต่อาจจะใช้เวลานานจนช่างไม่อยากรับงาน เส้นสายที่ตรงและลากยาว แปลว่าช่างต้องซ่อมถึง เคาะจนตรงเป๊ะเท่าโรงงาน จะโปะสีทับ ๆ ก็ไม่ได้อีก เพราะตัวถังเป็นวัสดุเปลือยไม่มีการพ่นสี หรือแม้แต่การเปลี่ยนใหม่ ก็อาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่ใช่ราคาถูก ๆ แน่นอน เพราะต้องเปลี่ยนทั้งชิ้น ในต่างประเทศพึ่งจะมีเจ้าของรถ Rivian R1T โดนชนท้ายมุมบุบธรรมดา แต่เจอบิลราคาค่าซ่อมสูงถึง 1.5 ล้านบาท เพราะมันซ่อมไม่ได้ และบอดี้ที่ผลิตแบบชิ้นเดียว ทำให้ต้องยกเปลี่ยนทั้งชุด หากเป็นวัสดุ Metal Alloy
เรื่องราวของรถสปอร์ต Mazde RX-7 ซึ่งเป็นตำนานจากดินแดนอาทิตย์อุทัย ที่มีชื่อเสียงกว้างไกลไปทั่วโลก
มาอย่างหล่อหรูดูร่ำรวย Toyota เปิดตัว 2025 Camry ใหม่วันนี้น่าจะช่วยให้ตลาด midsize sedan ในบ้านเราคึกคักขึ้นอีกครั้งด้วย generation ที่ 9 ขุมพลังตอนนี้มีเฉพาะ Hybrid ซึ่งในตลาดโลกสามารถเลือกรุ่นย่อยที่ครอบคลุมตั้งแต่ขับเคลื่อนล้อหน้าไปจนถึง all-wheel-drive แต่ในบ้านเราอาจจะมีแค่ front-wheel-drive ทำตลาด Camry ใหม่อาจจะยังเรียกว่า All-new ไม่ได้ เพราะยังคงพัฒนาบนพื้นฐาน TNGA-K platform เหมือนรุ่นก่อน แต่มีการพัฒนาช่วงล่างใหม่ให้ตอบสนองได้เฉียบคมขึ้น มิติตัวถังและภาพรวมของรถจึงยังดูคล้ายเดิม ด้านหน้าและหลังเปลี่ยนไฟ LED ได้กระจังหน้าใหม่ ภายในติดตั้งจอ digital instrument cluster ขนาด 7 นิ้ว และจอ infotainment ขนาด 8 นิ้ว และ 12.3 นิ้วในรุ่นท็อป เครื่องเสียง JBL ลำโพง 9 จุด และ Toyota Safety
Fender จับมือกับ Bruno Mars รังสรรค์ Bruno Mars x Fender Stratocaster Limited Edition ที่ถือเป็นโมเดล Signature ตัวแรกของศิลปินหนุ่มเจ้าของ 15 รางวัล Grammy Awards คนนี้ Bruno Mars x Fender Stratocaster Limited Edition มีพื้นฐานจากรุ่น American Ultra ตัว Body ใช้วัสดุเป็นไม้ Ash ทำสีด้วยกระบวนการ Nitrocellulose lacquer finish โดดเด่นด้วยโทนสีพิเศษที่ไม่เคยใช้ในกีตาร์ Fender รุ่นอื่นมาก่อน กับสีที่ถูกตั้งชื่อว่า Mars Mocha Heirloom ละมุนตาด้วยเฉดสีน้ำตาลทองสุดคลาสสิก ที่แน่นอนว่าได้แรงบันดาลใจมาจาก Retro Style ซึ่งสะท้อนตัวตน และผลงานอันโดดเด่นของ Bruno Mars นั่นเอง สำหรับเรื่องของสุ้มเสียง
สร้างความสั่นสะเทือนวงการรถจักรยานยนต์อีกครั้ง กับแบรนด์ LAMBRETTA (แลมเบรตต้า) เจ้าพ่อสกู๊ตเตอร์คลาสสิกระดับตำนาน 76 ปี จากอิตาลี ทำเซอร์ไพรส์เผยโฉมสุดยอดอิเลคทริคสกู๊ตเตอร์ EV Concept รุ่นต้นแบบ ในชื่อรุ่น Elettra กับรูปโฉมที่เปรียบเสมือนผลงานศิลปะแห่งอนาคต ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% Elettra รถรุ่นต้นแบบของสกู๊ตเตอร์พลังงานไฟฟ้า 100% จากแบรนด์ดังฝั่งอิตาลี อย่างแลมเบรตต้า ที่นำมาเผยโฉมให้ได้ชมกันเป็นครั้งแรกในโลก ภายในงาน EICMA 2023 (Esposizione Internazionale Ciclo Motociclo e Accessori 2023) จัดขึ้น ณ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 66 นี้ ซึ่งถือเป็นปีที่แบรนด์แลมเบรตต้าครบรอบ 76 ปี สำหรับชื่อ Elettra เป็นชื่อภาษาอิตาเลียน ที่นิยามถึงหญิงสาวทรงเสน่ห์ มากความสามารถมีความคิดนอกกรอบและมีความมั่นใจในตนเอง นอกจากนี้ ยังมีความหมายอีกนัยหนึ่งว่าเป็น จิตวิญญาณแห่งการบุกเบิก หรือผู้ที่มีเอกลักษณ์ โดดเด่นจนได้รับเป็นผู้ที่ถูกเลือก
1967 Shelby GT500 ผลงานระดับ Iconic ของ Carroll Shelby จากการนำ Ford Mustang fastback มาอัพเกรดใหม่ให้สะใจชาวอเมริกันผู้ชื่นชอบกลิ่นควันยางรถบดถนน กระจังหน้าถูกแทนที่ด้วยโคมไฟคู่สไตล์ rally cars ฝากระโปรง fiberglass เพิ่มช่องดักอากาศระบายความร้อนให้เครื่องยนต์ “Ford Cobra” FE Series 428 cu in (7.0 L) V8 engine 355 horsepower at 5400 rpm 420 ft-lb of torque ที่ทั้งใหญ่และหนัก ช่วงล่างของ Shelby GT500 ถูกเซ็ทให้แข้งกระด้าง ว่ากันตามตรงแล้วมันเป็นรถที่การทรงตัวไม่ค่อยจะดีนักก็เพราะสาเหตุนี้ด้วยเหมือนกัน ด้านข้างของรถเพิ่มช่องดักอากาศฝั่งละสองตำแหน่ง ด้านบนใช้ดักแรงลมพร้อมกับ ducktail ช่วยกดท้ายรถให้นิ่ง ด้านล่างใช้เป่าลดความร้อนใหัเบรกหลัง ไฟท้ายยาวใหญ่ชิ้นเดียวมาแทนที่ไฟเดิมดวงเล็กใน Mustang รุ่นปกติ ภายในสังเกตความพิเศษของ Shelby
All-Electric 1967 Ford Mustang Fastback ใกล้เป็นจริงเข้ามาทุกที แม้จะไม่ใช่ผลงานจากโรงงาน Ford แต่เป็นสำนัก Charge Car ที่ได้ License ในการสร้าง 1967 Ford Mustang Fastback พลังงานไฟฟ้าอย่างเป็นทางการ นั่นแปลว่าเราไม่จำเป็นต้องเสีย Donor car ในการเอามาตัดดัดแปลงแต่อย่างใด สามารถสร้างขึ้นใหม่ได้ทั้งหมด ไม่เสียรถระดับตำนานที่เหลือน้อยลงทุกทีอีกด้วย 1967 Ford Mustang EV by Charge Cars จะมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 63 kWh ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าถึง 4 ตัว ให้ total output มากถึง 536 แรงม้า แรงบิด 1,500 นิวตันเมตร ทำความเร็ว 0-100 km/h ได้ใน 3.99 วินาที ความเร็วสูงสุด 322
ได้ลองขับรถไฟฟ้ามาหลายรุ่น คันที่ให้ความรู้สึกประทับใจที่สุดต้องยกให้ BMW iX xDrive 40 รุ่นเริ่มต้นที่ตอนนี้ราคากำลังน่าสนใจมาก ๆ ความน่าประทับใจของมันเริ่มตั้งแต่ดีไซน์ ต้องยอบรับเลยว่า BMW iX เป็นรถที่ดูโดดเด่นมาก ๆ บนท้องถนน ดีไซน์ไฟหน้า ไฟท้าย และไตคู่หน้าที่แตกต่างจากรถรุ่นอื่น ล้อขนาด 22 นิ้ว ลงตัวทั้งความหรู ล้ำ เต็มไปด้วยเส้นสายอารมณ์สปอร์ต และด้วยความที่มีจำนวนไม่มากนัก ทำให้มันเป็นรถที่น่าตื่นเต้นเสมอเมื่อได้พบเจอ สังเกตได้จากสายตารอบข้างที่จับจ้องในขณะที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย ให้ความรู้สึกพิเศษกว่า X5 พอสมควร บอดี้ที่ใหญ่โตเทียบเท่า X5 หมายถึงพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางมากและอัดแน่นด้วยฟีเจอร์ล้ำหน้าเอาไว้เพียบ บรรยากาศภายในห้องโดยสารผ่อนคลายและปลอดโปร่ง ทั้งวัสดุและดีไซน์ให้ความรู้สึกสบายเหมือนนั่งในห้องเลาจน์ การใช้ matte wood, recycled fabric และปุ่ม iDrive แบบ Crystal ช่วยสร้างความน่าสนใจได้ดี หลังคา panoramic glass roof พร้อมเทคโนโลยี PDLC (Polymer Dispersed Liquid Crystal)
“ผมว่า Lambretta มันเป็นรถที่เท่ และมีสีสันความสนุกอยู่ในตัวเอง ย้อนไปตั้งแต่แลมตัววินเทจที่มีเสน่ห์ในเรื่องของการใช้โทนสีจัดจ้านสนุกสนาน ทำให้สีของรถที่เด่น ๆ ในแต่ละรุ่นแต่ละปี มันถูกบันทึกอยู่ในความทรงจำของคนขี่แลม เป็นเหมือน Colors of Time เป็นสีสันที่ชวนให้นึกถึงช่วงเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน” นี่คือมุมมองที่มีต่อ Lambretta ของ ‘จเด็จ คาลายานนท์’ หรือที่หลายคนรู้จักเขาในชื่อ ‘JDED FEDFE’ ผู้ที่หลงใหลในรถแลมวินเทจ ด้วยเสน่ห์ของสีสันและงานดีไซน์ที่เท่จับใจ จนต้องหามาครอบครองเป็นของตัวเองสักคัน “รักแรกที่มีให้กับ Lambretta เป็นเรื่องของรูปลักษณ์และสีสันที่คลาสสิกโดนใจผมมาก พอได้มาเจอแลมสีม่วงคันนี้จอดอยู่หลังร้านของเพื่อน ก็คุยกันว่าอยากได้ เพื่อนเองก็จอดอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ใช้ เลยส่งต่อให้ในราคามิตรภาพ จากนั้นผมก็เอาไปทำต่อจนกลายเป็นรถที่ใช้จริงในชีวิตประจำวัน” “อย่างที่รู้กันสำหรับคนเล่นรถวินเทจว่าได้รถมาแล้วก็ต้องให้เวลา ใช้เวลาเรียนรู้กับมัน เพราะว่ารถพวกนี้มันจุกจิก ถ้าเจอปัญหาก็ต้องรีบคอยซ่อมรีบแก้ไขถ้าแบบปล่อยทิ้งไว้มันก็จะบานปลาย ต้องแบบค่อย ๆ เรียนรู้ไปกับมันครับ ใช้งานไปเรื่อย ๆ แล้วเราจะรู้จักมันเองมากขึ้นว่าเวลาเกิดปัญหาต่าง ๆ จะต้องรับมือยังไง และที่สำคัญคือต้องอินกับการดูแลรักษามันด้วยครับถึงจะมีความสุข เหมือนอย่าง Lambretta คันที่ผมใช้อยู่ก็ต้องใช้เวลาปรับแต่งกับมันพอสมควร กว่าจะกลายเป็นรถคู่ใจตั้งแต่ช่วงโควิดใหม่ ๆ ผมไปไหนไปกันกับคันม่วงนี้ตลอด ขี่เดินสายตัดผม
ซื้อรุ่นนี้ไม่มีตกยุค 2024 Mazda MX-5 Roadster เปิดหลังคา น้ำหนักเบา ล่าสุดได้รับการอัพเกรดใหม่เพิ่มความทันสมัยเข้าไป ไฟหน้า LED ดีไซน์ใหม่รวมเอา daytime running lights ย้ายจากกันชนเข้าไปไว้ในโคมเรียบร้อยแล้ว กระจังหน้าฝั่งซ้ายติดตั้ง radar sensor สำหรับ Adaptive Cruise Control พร้อม Smart Brake Support หยุดรถอัตโนมัติหากเจอสิ่งกีดขวาง ทำงานที่ความเร็วไม่เกิน 15 km/h และได้ล้อลายใหม่อัพขนาดจาก 16 เป็น 17 นิ้ว ขยับมาดู interior ในที่สุดจอ infotainment ก็ได้เปลี่ยนใหม่เป็นจอขนาด 8.8 นิ้ว พร้อมปรับ interface ใหม่ให้ทันสมัยและตอบสนองได้ดีขึ้น ช่วยปรับลุคให้ภาพรวมดูดีขึ้นเยอะเลยทีเดียว เพิ่มทางเลือกสีภายในโทนเบจเพื่อความ old-school ช่วยให้ห้องโดยสารดูปลอดโปร่งมากขึ้น ด้านการขับขี่ เครื่องยนต์ยังคงให้ output เท่าเดิม แต่มีการอัพเกรดหลายอย่างเช่น asymmetrical