Porsche 991 เจเนอเรชัน 992 และ Carrera ที่มาในโมเดล สองประตู (Coupe) และ เปิดประทุน (Cabriolet) เผยโฉมและปล่อยสเปคคร่าว ๆ ออกมาให้หนุ่มทั่วโลกได้ทำความรู้จักกันแล้ว โดยเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในต้นปี 2020 พร้อมราคาที่ลดลงเล็กน้อยจากจากรุ่นก่อนหน้า หลังจากทิ้งช่วงจากการเปิดตัว Carrera S ไปเกือบ 8 เดือน ในที่สุดค่ายรถยนต์จากเมืองสตุ๊ตการ์ตอย่าง Porsche ก็ตัดสินใจเผยโฉมรถรุ่นมาตรฐานของเจ้าชาย เจเนอเรชันล่าสุด (992) กับ Porsche 911 Carrera ในสองโมเดลที่ทุกคนคุ้นเคยกันดีอย่าง Coupe และ Cabriolet ที่มีราคาถูกกว่า Carrera S รุ่นก่อนหน้า ถึงจะเว้นช่วงไปนาน แต่ความแตกต่างด้านดีไซน์ทั้งภายในและภายในของ Carrera และ Carrera S แทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป ยกเว้นท่อไอเสียที่ Carrera เปลี่ยนมาใช้ดีไซน์ท่อแบบเดี่ยว และขนาดของยางที่ด้านหน้าใช้ขนาด 19 นิ้วและยางหลังขนาด 20 นิ้ว
หลังมีข่าวเล่าลือมานานเกี่ยวกับรถคันใหม่ของ Porsche ตระกูล 718 ทำให้หนุ่ม ๆ ที่ชื่นชอบรถสปอร์ตขนาดกลางของค่ายต่างคาดหวังว่ารถคันใหม่ที่จะปล่อยออกมา ต้องติดของดีของแรงมาสร้างความประทับใจให้อย่างแน่นอน แต่เหมือนจะเหนือกว่าที่คาดการณ์กันเอาไว้เพราะ Porsche ทำให้ประหลาดใจกว่าที่คาดด้วยการปล่อย 718 ออกมาพร้อมกัน 2 โมเดล ค่ายรถยนต์สุดแรงจากเยอรมนีเปิดตัว Cayman GT4 สุดหล่อที่มาในรูปแบบคูเป้และ Boxster Spyder ตัวแรงในลุคเปิดประทุน โดยทั้งสองคันเป็นรถยนต์ที่อยู่ในสายการผลิตของรถสปอร์ตขนาดกลางอย่างตระกูล 718 แต่สำหรับหนุ่ม ๆ ที่ชื่นชอบยนตรกรรมของค่ายนี้เป็นทุนเดิม คงจะพอใจกับเครื่องยนต์แบบ 6 สูบแบบเดียวกันกับที่ใช้ใน 911 Carrera s Cayman GT4 และ Boxster Spyder มาพร้อมเครื่องยนต์หกสูบนอน Boxer ขนาด 4.0 ลิตรที่ให้กำลัง 414 แรงมาสูงสุดที่ 7,600 ต่อ/นาที แรงบิดที่ 309 ปอนด์-ฟุตสูงสุดที่ 5,000-6800 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับชุดเกียร์ธรรมดา 6-speed ที่จะส่งกำลังไปยังล้อหลังทั้งสองซึ่งให้อัตราเร่ง
สิ่งของทุกอย่างล้วนมีแรงบันดาลใจและจุดกำเนิด รถยนต์เองก็เช่นเดียวกัน คุณจะให้ราคากับโมเดลรถยนต์ที่กลายมาเป็นแรงบันดาลใจของปีศาจความเร็วสมัยใหม่หลายต่อหลายคันในราคาแค่ไหน โดยเฉพาะถ้ามันคือคันสุดท้ายที่เหลือรอดจากการถูกผลิตออกมาเพียง 3 คันบนโลกและกำลังจะถูกนำออกมาประมูล บรรพบุรุษของเจ้าแห่งความเร็วที่เรากำลังพูดถึงคือ Porsche Type 64 ที่ถูกผลิตขึ้นมาในปี 1939 รถรุ่นนี้เดิมถูกผลิตขึ้นมาเป็น Prototype ก่อนเป็นจำนวน 3 คันเพื่อทดสอบและเข้าร่วมการแข่งขัน Berlin-Rome Endurance Race แต่ยังไม่ทันได้อวดประสิทธิภาพมันก็ถูกสงครามโลกครั้งที่สองมาขัดจังหวะเอาไว้ก่อน โปรเจกต์จึงพับเก็บไป อย่างไรก็ดีลักษณะตัวถังของมันถูกถ่ายทอดออกมาเป็น Porsche Gmund 356 ในเวลาต่อมา ขณะเดียวกันเมื่อเวลาผ่านไป รถตัวต้นแบบอีกสองคันก็ได้รับความเสียหายตามกาลเวลา เหลือเพียงหมายเลข 3 ซึ่งอยู่ในสภาพดีและกำลังจะถูกนำออกประมูลโดย RM Sotheby’s Monterey ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 – 17 สิงหาคมนี้ ว่ากันว่ารถยนต์สุดคลาสสิกที่ถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีคันนี้จะสามารถสร้างราคาที่เป็นสถิติใหม่ที่น่าสนใจขึ้นมา Porsche Type 64 คือร่องรอยที่หลงเหลืออยู่ของประวัติศาสตร์ยานยนต์ที่ใช้เป็นเครื่องยนต์ Flat-Four 32 แรงม้าสภาพสมบูรณ์ ที่มาพร้อมอุปกรณ์แต่งและชุดอะไหล่ครบครัน รวมถึงงานดีไซน์ที่รูปทรงของมันกลายมาเป็นต้นแบบให้รถสปอร์ตของ Porsche มาตลอดเจ็ดทศวรรษที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของความยิ่งใหญ่ที่ไม่ค่อยได้แสดงตัวตนที่ไหนบ่อยนักและนั่นจะทำให้เหล่าคนรักรถและนักสะสมมือหนักที่มาร่วมงาน แข่งกันเคาะราคาเพื่อให้ได้มันไปไว้ในครอบครองอย่างแน่นอน SOURCE
ถ้าพูดถึงชื่อของค่ายรถอย่าง Porsche ภาพแรกที่ผู้ชายอย่างเรานึกถึงอาจเป็นรถยนต์รุ่น Iconic ของค่ายอย่าง 911 แต่สำหรับแฟนเดนตายแล้ว พวกเขายังมีรถอีกโมเดลซึ่งเป็นเหมือนกันบรรพบุรุษรวมถึงเป็นรถคลาสสิกรุ่นสำคัญที่มีส่วนสำคัญที่สร้างความยิ่งใหญ่ให้ Porsche โดยหลายคนรู้จักมันในชื่อ Porsche 356 Porsche 356 ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในปี 1948 จากค่าย Porsche Konstruktionen GesmbH ซึ่งถือเป็นตัวเก๋าที่ถูกผลิตออกมาในหลากหลายโมเดลไม่ว่าจะเป็น Coupe, Roadster และ Convertible โดยเป็นรถยนต์ที่มีเครื่องวางหลังและระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ที่ต่อมาประสบความสำเร็จในสายมอเตอร์สปอร์ตของช่วงเวลานั้นไว้มากมาย จนทำให้มันกลายมาเป็นรุ่นสุดคลาสสิกที่แฟน Porsche ทั้งหลายต้องการครอบครองมาจนถึงปัจจุบัน และล่าสุดมันก็ถูกนำมาดัดแปลงใหม่อีกครั้งพร้อมระบบขับเคลื่อนใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน Emory Motorsports ค่ายปรับแต่งและดัดแปลงรถยนต์ ผู้ฝากผลงานไว้มากมายกับการ Custom โมเดลยอดนิยมต่าง ๆ จากค่าย Porsche โดยผลงานชิ้นล่าสุดของพวกเขาถูกเรียกว่าโปรเจกต์ Allrad ซึ่งเป็นส่วนผสมของรุ่นคลาสสิกอย่าง 356 Coupe เข้ากับแชสซีส์ 911 จนออกมาเป็น Porsche 356 ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนแบบ AWD (All-Wheel-Drive) เป็นครั้งแรกของโลก ซึ่งหลายคนคงทราบกันดีกว่าระบบขับเคลื่อนดังกล่าวจะมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเรื่องการแบ่งกำลังไปยังล้อต่าง ๆ
“If it ain’t broke, don’t fix it” หมายถึงอะไรที่มันดีอยู่แล้ว ก็อย่าไปยุ่งกับมัน เป็นประโยคที่ใช้กับการเก็บความคลาสสิคดั้งเดิมจากของสิ่งนั้นให้คงอยู่ ยกตัวอย่างเช่นสูตรลับของอาหารต้นตำรับที่สืบทอดกันมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ หรือรถคลาสสิคสายลึกที่นักสะสมบางกลุ่มเลือกเฟ้นหาอุปกรณ์ของตรงรุ่นทุกชิ้นในการดูแลรถยนต์ของตัวเอง เรียกว่าแม้แต่น็อตก็ต้องใช้ของเดิมเพื่อคุณค่าทางจิตใจ แต่อีกหลายกลุ่มในวงการรถยนต์อาจจะไม่เห็นด้วย เพราะคิดว่ารถยนต์ต้องตอบสนองการใช้งานจริงให้ได้มากที่สุด จะต้องข้ามสายพันธุ์บ้างก็ไม่ว่ากัน อย่าง Supra ใส่เครื่อง RB26DETT ก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้ครอบครองมัน และจากเทรนด์ควบคุมการปล่อยไอเสียรถยนต์ที่กำลังเข้มงวดมากขึ้นแบบก้าวกระโดดในฝั่งยุโรป สำนักแต่งรถหลายแห่งจึงเริ่มปรับตัวเข้าไปวัฒนธรรมใหม่ นั่นคือการใช้พลังงานไฟฟ้า ไม่แปลกที่ Tesla จะเป็นรถที่ขายดีมากภายในไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ Voitures Extravert สำนักแต่งรถใน Hollland อยากจะฉีกไปหาทางเลือกพลังงานไฟฟ้าที่มันส์และมีคุณค่าทางจิตใจมากกว่า จึงริเริ่มโปรเจคที่น่าสนใจชื่อ “Quintessenza” สร้างคอลเลคชั่นฟื้นฟูรถ Porsche 911 ช่วงปี 70’s – 80’s ให้ใหม่หมดจด พร้อมเปลี่ยนเป็นรถพลังงานไฟฟ้า 100% และอัพเกรดสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้ทันสมัย ไว้ใจได้ในทุกวันที่ใช้งาน เพราะรถเก่าที่สวยงามไม่จำเป็นต้องจอดเก็บอยู่ในโรงรถให้มดไต่เสมอไป Quintessenza ‘The All-Electric Classic” Porsche 911
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ลึกซึ้งเรื่องการตามเสียงเครื่องยนต์ กลไก กับดีไซน์เฉียบ หล่อ ๆ ของรถยนต์สายสปอร์ตเหนือระดับสัญชาติเยอรมันระดับตำนานอย่าง Porsche ชนิดเลือดสูบฉีดทุกครั้งที่เห็น เราอยากให้คุณมาลองพิสูจน์สัญชาติญาณดูว่า เมื่อ Porsche ไม่ใช่รถ แต่ไปร่วมดีไซน์โปรดักซ์อื่นจะออกมาเป็นแบบไหน สร้าง First impression ให้กับพวกเราชาว UNLOCKMEN ได้ไหม หรือกระตุกแบงค์ในกระเป๋ากับบัตรให้สั่นไหวได้ขนาดไหน มากพอให้ไปตามครบคอลเลคชั่นเลยหรือเปล่า พร้อมแล้วไปดูสิ่งที่ทาง Porsche design เขาคัดมาให้เป็นไฮไลต์ประจำเดือนนี้กัน Porsche X Huawei Mate 10 นาทีนี้ต้องยกให้ชิ้นนี้เลย สะเทือนวงการสมาร์ทโฟนและติดโผเรือธง เพราะ Porsche เลือกจับมือกับ Android สัญชาติจีนที่ติดลมบนในวงการมือถือสายกล้อง leica สเปคไม่เป็นรองใครอย่าง Huawei ในรุ่นอัปเดตล่าสุดคือรุ่น Mate 10 ซึ่งตรงตามธรรมเนียมว่าติดฉลาก Porsche ทุกชิ้นต้องพรีเมี่ยมเท่านั้น ดังนั้นสเปคความแรงของเครื่องและวัตถุดิบเลยเป็นเรื่องที่ไม่ต้องโฆษณามาก แค่จอใหญ่ 6 นิ้ว Kirin 970 processor เปรียบเทียบตัวเครื่องทนเหมือนการคัดเลือกวัสดุตัวถังรถ
คันนั้นก็อยากขับ คันนี้ก็อยากขับ นี่คือนิสัยของผู้ชายทุกคนอย่างแท้จริง ต่อให้รวยอยู่ในกลุ่มที่ซื้อ Porsche ได้ แต่จะให้เปลี่ยนบ่อยเดือนละหลายคันก็คงไม่ไหว Porsche Cars North America (PCNA) จึงเปิดตัวโปรแกรมในฝัน สำหรับคนที่มีเงินเหลือจ่ายเดือนละแสนบาทสบาย ๆ แล้วเลือกขับรถ Porsche ได้ตามใจชอบสูงสุด 22 รุ่นแบบไม่มีเงื่อนไข โปรแกรมถูกใจคนรักรถของ PCNA เรียกว่า Porsche Passport เป็นบริการจ่ายเงินรายเดือน เหมือนการจ่ายค่าสมาชิกเช่าวีดีโอ แล้วจะเลือกคันไหนไปขับก็ได้ตามใจชอบ โดยแบ่งออกเป็น 2 package LAUNCH จ่ายรายเดือนเริ่มต้น $2,000 หรือประมาณ 66,000 บาท ก็จะได้สิทธิในการเลือกใช้รถ Porsche ได้มากถึง 8 รุ่น อย่างเช่น 718 Boxster, Cayman S, Macan S และ Cayenne แบบไม่มีเงื่อนไข ไม่จำกัดระยะทาง ACCELERATE จ่ายรายเดือนเริ่มต้น $3,000
ไม่ว่า Porsche จะมีรุ่นยิบย่อยออกมามากมาย จนหลายคนแยกความแตกต่างไม่ออก ถึงขั้นที่เราต้องทำ article สรุปความแตกต่างของ Porsche 911 มาแล้ว แต่ทุกรุ่นที่ Porsche ทำออกมาล้วนมีจุดเด่นที่น่าสนใจแตกต่างกันออกไป แม้ปัจจุบันวงการรถยนต์สมรรถนะสูงจะแข่งกันพัฒนา เพิ่มความแรง ลดน้ำหนัก เพื่อให้ได้ตัวเลขแรงม้าและแรงบิดที่เหนือกว่ากันอยู่ตลอดเวลา ซึ่งดูเหมือนสักวันการพัฒนาอาจจะถึงทางตันของมัน แต่อย่างน้อยวันนี้ Porsche ก็ได้ส่งผลงานระดับ Masterpiece ออกมาให้แฟน ๆ ได้น้ำตาไหลกัน นั่นคือ 2018 Porsche 911 GT2 RS กับหน้าตาสุดอลังการ และพละกำลังสุดประทับใจ 2018 Porsche 911 (991) GT2 RS คันนี้นับว่าเป็น the most powerful street-legal Porsche 911 ด้วยตัวเลขระดับ 700 แรงม้า และแรงบิด 553 lb-ft ฝีมือการเรียกพลังจากเครื่องยนต์ 3.8-liter 6 สูบเรียง
สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ถ้าเคยอยากรู้ว่าจ่ายเงินแพงๆ แล้วได้อะไร เรามีคำตอบให้จากเจ้าของตัวจริง