หากใครมองหาเครื่องเสียงที่ให้ Sound Quality ที่ยอดเยี่ยม แถมยังพกพาเดินไปเดินมาในบ้านได้สะดวก ลองดูหูฟังตัวนี้เป็นทางเลือกในการตัดสินใจ Sony เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด SRS-NS7 Personal Theater ลำโพงคล้องคอไวเลสที่มาพร้อมกับตัวส่งสัญญาณไวเลส WLA-NS7 ที่สามารถให้ประสบการณ์เสียงแบบโฮมเธียเตอร์ได้นานหลายชั่วโมง แถมยังมาพร้อมกับสุดยอดระบบเสียง Dolby Atmos ซึ่งให้เสียงที่สมจริงและเป็นธรรมชาติ สามารถเปิดใช้งานได้เมื่อจับคู่กับทีวี Sony BRAVIA XR ผ่านระบบบลูทูธ นับเป็นครั้งแรกที่ลำโพงคล้องคอสามารถใช้ระบบเสียง Dolby Atmos ได้ นอกจากนี้ SRS-NS7 ยังมีเทคโนโลยี 3D Spatial Sound ซึ่งสามารถให้เสียงแบบ cinematic ที่สมบูรณ์แบบได้ เมื่อใช้งานอุปกรณ์ร่วมกับแอพพลิเคชั่น ‘360 Spatial Sound Personalizer’ โดยแอพนี้สามารถบันทึกภาพหูของผู้ใช้งาน และนำไปวิเคราะห์รูปแบบ 3 มิติของใบหู เพื่อหาธรรมชาติในการฟังเสียงของผู้ใช้งานได้ ฟีเจอร์นี้ยังทำให้มันรองรับ Dolby Atmos ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย SRS-NS7 ยังมาพร้อมกับ 360 Reality Audio
เวลาจะหาซื้อแล็ปท็อปสักเครื่อง หลายคนคงคิดถึงเรื่อง ‘น้ำหนัก’ ของตัวเครื่องก่อน เพราะถ้าแล็ปท็อปมีน้ำหนักมากเกินไป เวลาเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหน คงต้องมีเจ็บแขนหรือปวดไหล่กันบ้าง ต่อจากนั้น ก็อาจเป็นเรื่องของ ‘อายุการใช้งานของแบตเตอรี่’ เพราะถ้าเราต้องชาร์จแล็ปท็อปบ่อย ๆ การใช้งานในพื้นที่ปลอดปลั๊กก็คงจะไม่สะดวก ซึ่งแล็ปท็อปที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนรู้จักต่อไปนี้ เรียกได้ว่า เป็นแล็ปท็อปเครื่องหนึ่งที่มีความครบครัน ทั้งเรื่องการพกพาสะดวก และสเปคเครื่องที่แรงเลยทีเดียว แล็ปท็อปเครื่องนี้มีชื่อว่า ‘Vaio Z’ แล็ปท็อปเครื่องใหม่ล่าสุดของ Vaio ซึ่งมาพร้อมกับความโดดเด่นในเรื่องของน้ำหนัก โดยตัวเครื่องมีความหนักอยู่ที่ราว 2.11- 2.32 ปอนด์ (ราว 1 กิโลกรัม) เบากว่าแล็ปท็อปทั่วไปที่มีน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ 1.5 – 2 กิโลกรัม ซึ่งสาเหตุที่ทำให้มันมีน้ำหนักเบาขนาดนี้ ก็เพราะบอดี้ของมันถูกสร้างขึ้นด้วยวิธี ‘ขึ้นรูปคาร์บอนไฟเบอร์แบบ 3 มิติ’ (3D molded full carbon fiber body) วิธีนี้จะเป็นการคอนทัวร์ชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์เข้าไปในทุกซอกทุกมุมของแชสซี (chassis) ไม่ว่าจะเป็น ฝา ที่พักมือ รวมถึง ฐาน และทำให้แผ่นคาร์บอนไฟเบอร์สามารถยึดติดกันได้
คงต้องบอกว่าปัจจุบันผู้คนยังนิยมเครื่องเกม PlayStation 4 หรือ PS4 อย่างต่อเนื่อง และเกมเมอร์อย่างเรารู้ดีว่าเกมเจ๋ง ๆ มันส์ ๆ จากค่ายเกมดังต่างออกแบบมาเพื่อเครื่องเล่น PlayStation 4 ตัวนี้โดยเฉพาะ ในช่วงขาขึ้นของเกม PlayStation 4 แบบนี้ ฝั่ง Sony ก็ไม่รอช้า รีบคว้าโอกาสเปิดตัวอุปกรณ์เสริมใหม่ ‘DualShock 4 Back Attachment’ ที่สร้างมาเพื่อคอนโทรลเลอร์ DualShock 4 ที่จะเปลี่ยนประสบการณ์เกมของคุณไปตลอดกาล DualShock 4 Back Attachment เป็นอุปกรณ์ต่อพ่วงที่ดีไซน์มาให้ใช้กับคอนโทรลเลอร์ไร้สาย DualShock 4 โดยเฉพาะ ออกแบบมาให้มีขนาดกะทัดรัดและสอดรับคอนโทรลเลอร์ โดยผู้ใช้สามารถเสียบอุปกรณ์เสริมตัวนี้ใต้คอนโทรลเลอร์ DualShock 4 ได้เลย ซึ่งจะเป็นตำแหน่งที่ตรงกันกับนิ้วกลางของผู้เล่นพอดี ตัวอุปกรณ์เสริมประกอบไปด้วยปุ่ม gamepad สองปุ่มที่เข้ามาเป็นอีกตัวเลือกแทนปุ่มควบคุมเดิมบน DualShock 4 ตรงกลางของอุปกรณ์เสริมดีไซน์ให้เป็นหน้าจอ OLED ทรงกลมที่จะแสดงผลว่าปุ่ม gamepad ทั้งสองปุ่มถูกตั้งค่าไว้แบบไหน และหนุ่ม
ถ้าจะพูดถึงเกมซามูไรที่มาแรงที่สุดในตอนนี้ คงจะลืม Ghost of Tsushima ไปไม่ได้เลย เพราะนี่เป็นเกมสุดเจ๋งที่เล่าถึงเหตุการณ์ในช่วงศตวรรษที่ 13 ขณะที่เหล่าโชกุนและจักรพรรดิปกครองญี่ปุ่นด้วยระบบศักดินา แต่แล้วความมั่นคงของญี่ปุ่นกลับสั่นคลอน เพราะจักรวรรดิมองโกลรุกรานญี่ปุ่น จนเกิดสงคราม การเปลี่ยนแปลง เหตุนองเลือด และความวุ่นวายอีกนับไม่ถ้วน Ghost of Tsushima เป็นวิดีโอเกมที่ได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ซามูไรหลายเรื่องของ อากิระ คูโรซาวะ (Akira Kurosawa) บริษัทผู้พัฒนาเกม Sucker Punch จึงออกแบบเกมให้เป็นสไตล์ Action & Openworld ผู้เล่นจะเพลิดเพลินกับระบบเกมเพลย์จากมุมมองบุคคลที่สาม เมามันส์กับฉากเอฟเฟกต์ตระการตา และดำดิ่งลงไปในเนื้อเรื่องของเกมราวกับกำลังชมภาพยนตร์ซามูไรในตำนาน คุณจะได้สวมบทเป็น จิน ซากาอิ (JIn Sakai) ซามูไรแห่งแดนอาทิตย์อุทัยผู้ยึดมั่นคุณธรรม ที่ออกเดินทางเพื่อสำรวจพื้นที่ ต่อสู้กับศัตรู และช่วยเหลือชาวบ้าน ไปพร้อมค้นหาความลับบางอย่างที่ซ่อนอยู่ภายในจิตใจของเขา แต่ จิน ซากาอิ ผู้นี้กลับเลือกเดินสายต่อสู้แบบภูติผี (Ghost) ที่เน้นการลอบสังหาร วางกลยุทธ์การต่อสู้ และทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องเกาะซึชิมะและญี่ปุ่นจากการรุกรานของพวกมองโกล แม้การกระทำของเขาจะเริ่มห่างไกลจากความเป็นซามูไรดั้งเดิมไปทุกทีก็ตาม นอกจาก Ghost of
ดูเหมือนว่าศึกกล้องคอมแพกต์ระหว่าง SONY และ CANON จะไม่จบลงง่าย ๆ เมื่อ CANON ปล่อย POWERSHOT G7 X MARK III ลงสนามคอมแพกต์ ฝั่ง SONY ก็ขอท้าชนด้วย ‘SONY RX100 VII’ ที่สเปกใกล้เคียงกัน แต่มาพร้อมเลนส์กว้างและ auto focus ระดับเทพ แถมถอดแบบความเจ๋งมาจากกล้อง A9 ในตำนานจากค่าย SONY อีกด้วย SONY RX100 VII ใช้เลนส์ซูม ZEISS Vario-Sonnar T* กำลังขยาย 24-200 มิลลิเมตร และรูรับแสง F/2.8-4.5 บวกกับ Auto Focus ที่ตรวจจับระนาบโฟกัสได้มากถึง 357 จุด และตรวจจับคอนทราสต์สูงสุด 425 จุด ครอบคลุมพื้นที่ 68% ของเฟรม
แม้จะทราบดีว่าพระอาทิตย์เป็นต้นตอของการเกิดแสง และ ‘แสงแดด’ นั้นจำเป็นไม่น้อยต่อมวลมนุษย์ แต่บ่อยครั้งก็อดโกรธเคืองพระอาทิตย์ไม่ได้ เพราะพี่แกเล่นสาดแสงแรงจ้าพุ่งทะยานมายังพื้นโลกแบบไม่เกรงใจใคร แล้วเมื่อใดที่ความร้อนดุจนรกที่ว่าส่องมากลางกระบาลผู้ชาย บวกกับอัตราการเผาผลาญที่ล้ำนำผู้หญิง พานเอาเรารุ่มร้อนตั้งแต่กายไปยันหัว และรู้สึกหงุดหงิดโคตร ๆ กับสภาพอากาศที่ไม่เคยปรานีมนุษย์ตาดำ ๆ อย่างเราเลย แม้กระนั้นก็ยังต้องหอบสังขารไปทำงานและเบียดเสียดกับผู้คนบนรถไฟฟ้าท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าวแบบนี้ทุกวัน เมื่อดูท่าว่าโลกจะไม่หยุดร้อนลงง่าย ๆ SONY จึงเปิดตัว ‘REON POCKET’ นวัตกรรมเครื่องปรับอากาศแบบพกพาที่ช่วยทุเลาความร้อนและทำให้หนุ่ม ๆ รู้สึกเย็นสบายขึ้นมาทันควัน ตัวเครื่องค่อนข้างกะทัดรัดและมีรูปลักษณ์คล้าย ๆ กับ apple mouse แต่มีน้ำหนักเพียง 3 ออนซ์ หรือ 85 กรัมเท่านั้น อุปกรณ์ปรับอากาศ REON POCKET มาพร้อมเสื้อกล้ามแบบพิเศษที่คัตติ้งช่องเล็ก ๆ บริเวณฐานคอเสื้อ เพื่อให้ผู้ใช้ใส่เครื่องปรับอากาศจิ๋วลงในนั้น เครื่องจะเปิดระบบระบายความร้อนด้วยเทอร์โมอิเล็กทริกและ Peltier Effect สร้างความแตกต่างทางอุณหภูมิโดยการถ่ายโอนความร้อนของวัตถุสองชนิดด้วยกระแสไฟฟ้า ซึ่งกระแสไฟฟ้าขนาดเล็กที่ซ่อนอยู่ภายในจะดูดซับหรือปล่อยความร้อนออกมา ไม่เพียงแต่ลดอุณหภูมิด้านในของเสื้อ หากยังกลายเป็นฮีตเตอร์ที่เพิ่มความอบอุ่นได้อีกด้วย REON POCKET จะทำให้อุณหภูมิร่างกายของผู้ใช้เย็นลงได้มากถึง 13 องศาเซลเซียส หรือประมาณ
หลังจากที่ Canon และ Nikon ได้ปล่อยกล้อง EOS R และ Z7 ออกมาเมื่อไม่นานนี้ ฝั่ง SONY เองก็ไม่ยอมนิ่งเฉย เตรียมเปิดตัวทายาทรุ่นต่อไปของตระกูล A7R อย่าง ‘SONY A7R IV’ เพื่อเข้าร่วมศึกครั้งนี้ด้วย แม้จะไม่ได้ครองส่วนแบ่งการตลาดของกล้อง mirrorless มากเท่าบริษัทยักษ์ใหญ่ แต่คงต้องบอกว่าบริษัทแดนปลาดิบรายนี้ก็ไม่เคยย่อท้อเลยสักนิด เร่งขับเคลื่อนและพัฒนานวัตกรรมภาพถ่ายให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ SONY A7R IV ตัวนี้คือบทพิสูจน์ความสำเร็จของกล้อง mirrorless ที่มีศักยภาพสูงสุดแห่งยุค ความละเอียด 42.4 ล้านพิกเซลของรุ่นพี่ A7R III ตัวก่อนถูกอัปเกรดให้ทรงประสิทธิภาพกว่าเดิม ด้วยเซนเซอร์ BSI CMOS ขนาด 35 มิลลิเมตร ที่ความละเอียดมากถึง 61 ล้านพิกเซล ล้ำหน้าไปอีกขั้นด้วย Dynamic Range ที่ 15 Stop ช่วยให้ถ่ายภาพได้อย่างอิสระไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแสงแบบใดก็ตาม เหมาะสำหรับหนุ่ม ๆ ผู้หลงรักภาพถ่ายแบบ landscape
ย้อนไปเมื่อ 40 ปีก่อน สมัยที่อินเทอร์เน็ตกับสมาร์ตโฟนยังไม่ค่อยคุ้นหู และเชื่อว่าระบบสตรีมมิ่งเพลงก็คงยังไม่เกิด ในตอนนั้นผู้คนที่หลงรักเสียงดนตรีต้องฟังเพลงผ่านวิทยุทรานซิสเตอร์ แต่ด้วยขนาดและน้ำหนักของมัน ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะพกเพลงไปฟังได้ทุกหนแห่ง แถมผู้ใช้ยังไม่อาจเลือกเพลย์ลิสต์ที่ตนอยากฟังได้ตามใจนึก Masaru Ibuka และ Akio Morita สองผู้ก่อตั้ง SONY พร้อมกับทีมวิศวกรแผนกเทปจึงร่วมกันคิดค้นเครื่องเล่นเพลงแบบพกพา โดยมีโจทย์ในการออกแบบคือขนาดที่กะทัดรัดและสามารถให้ผู้ใช้เลือกเพลงฟังได้ตามต้องการ พวกเขาจึงนำเครื่องบันทึกเทปของนักข่าวมาดัดแปลง ตัดฟังก์ชันการอัดเสียงออกไปและเพิ่มวงจรสเตอริโอกับชุดหูฟังเข้าไปแทน ในยุคที่โลกยังไม่รู้จักเครื่องเล่นเพลงมากนัก ทำให้กระแสความนิยมของ SONY WALKMAN ก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่ใช่ผู้ผลิตรายแรกที่เข้ามาในตลาด แต่ต้องยอมรับว่าเครื่องเล่นเพลงชิ้นนี้มีวิวัฒนาการที่น่าทึ่ง และไม่นานนักชื่อของ WALKMAN ก็กลายเป็นที่นิยมของคนทั่วโลกอย่างง่ายดาย เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมานี้ SONY ได้จัดนิทรรศการเฉลิมฉลองความยิ่งใหญ่ครบรอบ 40 ปี ของ WALKMAN ใจกลาง Ginza ย่านชอปปิงที่คึกคักที่สุดของโตเกียว งานนี้มีการแสดงอุปกรณ์ SONY WALKMAN กว่า 230 เครื่อง ตั้งแต่ TPS-L2 รุ่นแรกของปี 1979 ยันรุ่นล่าสุดของปี 2019 ตัวงานแบ่งเป็นสองส่วนคือโซน
หนังดี เครื่องต้องได้! ใครที่รักการดูหนังเข้าใจประโยคนี้ดี เพราะบางครั้งเราจะอินหรือไม่อินกับเรื่องราวตรงหน้า ไม่ใช่ผู้กำกับหรือนักแสดงเจ๋งเท่านั้น แต่ระบบเสียงระบบภาพที่เฉียบกว่ามันสร้างสัมผัสที่ดีกว่าด้วย ถ้าอธิบายง่าย ๆ เรื่องความแตกต่างก็เหมือนเปิดเครื่องเล่นดูแผ่น Master กับแผ่น Bluray ที่ให้ความ Deep ของประสาทสัมผัสไม่เท่ากัน ทั้งเสียงและภาพ ล่าสุด Sony ส่งสมาร์ททีวี Z9G จาก Master Series ทีวีไซส์เบิ้มขนาด 98 นิ้ว (แนวทแยง 97.5 นิ้ว) ออกมาเพื่อระเบิดทั้งกระเป๋าตังค์และความมันส์ให้กับคนรักการดูหนัง จากเทคโนโลยีสุดเจ๋งที่เคลมไว้ว่าวางทีวีนี้ไว้เครื่องเดียวห้องในบ้านกลายเป็น IMAX ได้เลย ลองจินตนาการว่าถ้าเปิด Netflix ดูหนังที่ชอบรันไปเรื่อย ๆ เราจะมีความสุขมากขนาดไหน ถ้าทีวีดีเหมือนหนังโรงเราคงฝังตัวอยู่ในบ้านทั้งวันไม่ไปไหนแน่นอน เรื่องคุณสมบัติด้านภาพ ความละเอียด 8K HDR นี่จัดว่าเทพที่สุดในโลกตอนนี้ เพราะค่าความละเอียดของมันถือว่าสูงกว่าความละเอียดมาตรฐาน 64 เท่าและมากกว่าโทรทัศน์ความละเอียดสูง (Full HD) 16 เท่า เรียกได้ว่าน่าจะเห็นชัด สมจริงถึงขนาดเศษฝุ่นที่ติดบนเสื้อนักแสดงเลย ขณะที่เรื่องเสียงใช้ระบบ Acoustic
หลังจากที่เคยปรากฏตัวมาแล้วครั้งหนึ่งบนจอเงินใน Spider-Man 3 แต่ด้วยปัญหาหลายอย่างทำให้ซูเปอร์ฮีโร่มนุษย์แมงมุมฉบับ Tobey Maguire ภายใต้ชายคา Sony Pictures ไม่ได้ไปต่อ โดนตัดจบไว้แค่ภาค 3 ผู้ชมอย่างเราเหมือนโดนปล่อยเกาะ ลอยคออยู่กลางทะเล โดยที่ยังไม่ทันได้รู้จักกับตัวละครอย่าง Venom ดีพอ เวลาล่วงเลยมากว่า 11 ปี ในที่สุดเขาก็กลับมาอีกครั้งพร้อมความยิ่งใหญ่ที่มากกว่าเดิม เนื่องจากคราวนี้ไม่ได้ปรากฏตัวในฐานะตัวละครสมทบในภาพยนตร์เรื่องอื่น แต่ในฐานะตัวละครเอกในหนังเดี่ยวของตัวเอง ดังนั้นก่อนจะตีตั๋วเข้าไปชมในโรงภาพยนตร์ เรามาทำความรู้จักตัวละครนี้กันก่อนดีกว่า จะได้เต็มอิ่มกับอรรถรสของหนังโดยไม่ตกหล่นเรื่องข้อมูล ปรสิต Symbiote เจ้าปัญหา ถ้าจะอธิบายที่มาที่ไปของตัวละคร Venom ให้เข้าใจง่ายที่สุดคงต้องเริ่มจากทำความรู้จักเจ้าปรสิต Symbiote ซึ่งเป็นปรสิตที่มีต้นกำเนิดจากนอกโลก แต่ด้วยเหตุบางอย่างทำให้มันได้มาอยู่บนดาวเคราะห์ดวงนี้ ซึ่งเมื่อปรสิตเจ้าปัญหาตัวนี้ได้เข้าไปยึดครองร่างของใคร คน ๆ นั้นก็เปลี่ยนจากคนธรรมดากลายเป็น Venom ที่มาพร้อมพลังพิเศษทันที เมื่อการเป็น Venom ไม่เกี่ยวกับพลังพิเศษที่ติดตัวมาแต่กำเนิด แต่ขึ้นอยู่กับว่าปรสิต Symbiote จะเข้าครอบครองร่างของใคร ดังนั้นในประวัติศาสตร์จักรวาล Marvel จึงมีผู้กลายร่างเป็น Venom มากมายหลายคน ไม่ว่าจะเป็น Spider-Man, Eddie Brock, Mac Gargan, Flash Thompson, Lee Price, Tel-Kar, Anne Weying, Patricia Robertson, Angelo Fortunato แต่ในภาพยนตร์ที่กำลังจะเข้าฉายนี้จะเล่าเฉพาะ Venom ในร่างของ Eddie