ขณะที่หลายคนกำลังอ่านบทความนี้ น่าจะเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่พิธีเปิดโอลิมปิกเกมส์ 2020 ณ กรุงโตเกียวกำลังดำเนินอยู่ เพื่อส่งสัญญาณการเริ่มต้นมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติครั้งที่ 32 อย่างเป็นทางการ และในช่วงจังหวะเวลาเหมาะเจาะแบบนี้ เราจึงไม่พลาดที่จะรวบรวมข้อมูลน่าสนใจของ Tokyo 2020 Olympics ครั้งนี้ มาให้ชาว UNLOCKMEN ได้อ่านอุ่นเครื่องเพิ่มความอินในการรับชม และร่วมเชียร์ได้อย่างมีอรรถรสเต็มเหนี่ยวกันไปเลย 57 ปีที่รอคอย มหกรรม Tokyo 2020 Olympics ที่ถูก COVID-19 เล่นงาน จนต้องถูกเลื่อนมาจัดในปี 2021 ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 57 ปี ที่ตำแหน่งเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกและพาราลิมปิกฤดูร้อน หวนกลับมาสู่อ้อมอกชาวอาทิตย์อุทัยอีกครั้ง นับตั้งแต่ปี 1964 และถือเป็นชาติแรกของเอเชียที่ได้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูร้อนถึง 2 ครั้ง ซึ่งการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกของญี่ปุ่นเมื่อครั้งอดีตนั้นมีความสำคัญในแง่ของการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของญี่ปุ่นยุคหลังสงครามโลก ช่วยลบล้างทัศนคติเชิงลบของประเทศ ด้วยการสร้างชื่อเสียงของญี่ปุ่นให้เป็นที่รู้จักในมุมมองของประเทศที่ทันสมัยและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงาม หลังจากผ่านเวลามาอย่างยาวนาน ในที่สุดวงล้อแห่งโอลิมปิกก็หมุนวนมาที่ญี่ปุ่นอีกครั้ง ในการประชุมหาเจ้าภาพโอลิมปิก 2020 ที่อาร์เจนตินาเมื่อปี 2013 ที่ผ่านมา มี 3 เมืองใหญ่ได้ขับเคี่ยวเพื่อตำแหน่งเจ้าภาพโอลิมปิก ทั้งอิสตันบูล มาดริด
เริ่มเข้าใกล้เทศกาลแข่งขันกีฬาโอลิมปิกขึ้นทุกที หลาย ๆ ประเทศก็เตรียมเคี่ยวกรำนักกีฬาประจำชาติของตนให้พร้อมแข่งขันกีฬาระดับโลกครั้งนี้ ซึ่งกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนประจำปี 2020 จะจัดขึ้น ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคม ถึง 9 สิงหาคม แต่นอกจากกีฬาโอลิมปิกที่หนุ่ม ๆ หลายคนคุ้นเคย ยังมีกีฬา ‘พาราลิมปิก’ ที่จัดขึ้นทุก ๆ 4 ปีเช่นเดียวกับโอลิมปิก โดยจะเริ่มขึ้นทันทีเมื่อกีฬาโอลิมปิกจบลง ในอดีตพาราลิมปิกถือเป็นการแข่งขันกีฬาเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพทางกายและใจของทหารผ่านศึกชาวอังกฤษ แต่ต่อมามันก็กลายเป็นเทศกาลแข่งขันกีฬาสำหรับคนพิการทั่วโลก และเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกในปีนั้น ๆ ก็จะต้องเป็นเจ้าภาพของกีฬาพาราลิมปิกไปโดยปริยาย Toyota บริษัทผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นจึงดัดแปลงยานพาหนะ ‘e-Palette’ ไว้คอยให้บริการนักกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกปี 2020 พร้อมต้อนรับเทศกาลแข่งขันกีฬาสุดยิ่งใหญ่ที่ใกล้เข้ามา e-Palette เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ดีไซน์มาเพื่อนักกีฬาพาราลิมปิกโดยเฉพาะ มีการอัปเกรดรถยนต์อเนกประสงค์ให้มีประตูขนาดใหญ่ พร้อมติดตั้งทางลาดบริเวณประตู เพื่อให้นักกีฬาผู้พิการสามารถใช้รถเข็นขึ้นลงอย่างสะดวกสบายและรวดเร็ว ไฟหน้าและไฟท้ายถอดแบบการดีไซน์มาจากดวงตาของมนุษย์ ช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ดูเป็นมิตรบนท้องถนนมากยิ่งขึ้น ตัวรถยนต์ดีไซน์เป็นทรงลูกบาศก์ สร้างฐานล้อให้ยาว และมีพื้นผิวเรียบ ภายในออกแบบมาให้กว้างขวาง รองรับรถเข็นสูงสุด 4 คัน และเพิ่มพื้นที่ยืนภายในรถสำหรับนักกีฬา 7 คน นอกจากจะมีราวจับและเก้าอี้นั่งที่รองรับทุกระดับความสูง ยังดีไซน์สีพื้นและสีเก้าอี้ในรถให้ตัดกัน
ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับมหกรรมกีฬาสำหรับชาวเอเชีย 18th Asian Games Jakarta Palembang 2018 หรือ กีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่กรุงจาการ์ตา และเมืองปาเล็มบัง ประเทศอินโดนีเซีย ที่แข่งขันกันไปเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม – 2 กันยายนที่ผ่านมา ทีมงาน UNLOCKMEN ขอแสดงความชื่นชม และให้กำลังใจนักกีฬาทีมชาติไทย ที่สามารถช่วยกันคว้ามาได้ 11 เหรียญทอง 16 เหรียญเงิน 46 เหรียญทองแดง จบที่อันดับ 12 ของตารางเหรียญรางวัลรวม นอกจากผลงานของนักกีฬาไทยแล้ว ในเอเชียนเกมส์ครั้งล่าสุดนี้ยังมีเรื่องที่น่ายินดีของชาวเอเชียด้วยกันก็คือ มีการทำลายสถิติโลกถึง 5 รายการ และทาบสถิติโลกอีก 1 รายการ โดยทีมยิงธนูจากเกาหลีใต้สามารถทำลายสถิติโลกได้ 2 อีเวนต์ ส่วนนักยิงเป้าบินทีมชาติไต้หวันก็สามารถทำลายสถิติโลกในประเภท Trap ทีมผสม ขณะที่ Yang K. จากไต้หวันก็ยิงได้ทาบสถิติโลกที่ 48 คะแนนในรอบชิงชนะเลิศ ประเภท Trap ชายเดี่ยว ด้าน
เมื่อการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มในศึกฟุตบอลโลก 2018 หนนี้ผ่านพ้นไปแล้ว นักเตะที่โชว์ฟอร์มได้ดีที่สุดคงหนีไม่พ้น Luka Modric, Harry Kane , Diego Godin แต่พวกเขาเหล่านี้กลับไม่ใช่นักเตะที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุด เพราะนักเตะที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดเป็นนักเตะของทีมชาติอาร์เจนตินา และคน ๆ นั้นก็ไม่ใช่ซูเปอร์สตาร์อย่าง Lionel Messi ด้วย แต่เป็นนักเตะที่ใครหลายคนคงเพิ่งเคยได้ยินชื่อเป็นครั้งแรกในฟุตบอลโลกครั้งนี้ เขาคนนั้นคือ ‘Maximiliano Meza’ Who is Maximiliano Meza? Maximiliano Meza ปัจจุบันอายุ 26 ปี สัญชาติอาร์เจนตินา ตำแหน่งถนัดคือมิดฟิลด์ด้านข้าง แต่ในบางครั้งก็สามารถขยับขึ้นสูงไปเล่นเป็นปีกได้ สมัยยังเด็กเขาเป็นเด็กฝึกของสโมสร Gimnasia y Esgrima ทีมในลีกประเทศบ้านเกิด และสามารถพัฒนาตนเองขึ้นไปเล่นในทีมชุดใหญ่ได้สำเร็จ โดยลงเล่นในลีกไปทั้งหมด 100 นัดพอดิบพอดี ยิงไป 12 ประตู ซึ่งถือเป็นฟอร์มการเล่นที่ดีจนเตะตาสโมสรยักษ์ใหญ่ในลีกอย่างทีม Independiente และสามารถคว้าตัว Meza ไปร่วมทีมได้สำเร็จในปี 2016 นับตั้งแต่ตอนนั้น Meza ลงเล่นในลีกให้กับ Independiente ไปทั้งหมด 44