ไม่ว่าจะดาราหรือคนดังจากที่ไหนบนโลกก็ตามแต่ เมื่อพวกเขาต้องใช้รูปลักษณ์หน้าตาเป็นส่วนประกอบสำคัญในการประกอบอาชีพ พวกเขาต้องพยายามรักษาสภาพความอ่อนวัยของใบหน้าเอาไว้ให้คงเดิมนานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เรียกได้ว่าถึงต้องพึ่งศัลยกรรมช่วยก็เต็มใจที่จะทำอย่างไม่ลังเล แต่มีหนุ่มคนหนึ่ง ที่มีวิธีคิดตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง โดยชายคนดังกล่าวนั้น ลงทุนทั้งเงิน และเวลาในการพยายามเปลี่ยนลุคตัวเองให้ดูแก่รุ่นราวคราวคุณปู่ แถมยังออกกำลังกายจนมีร่างกายใหญ่โต และอัพรูปตัวเองลง Instagram ผลปรากฏว่า ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยก็ว่าได้ เพราะจากเดิมทีเขาเป็นแค่หนุ่มธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่ไม่มีใครรู้จัก ได้กลับกลายเป็นบุคคลที่โด่งดังสุด ๆ ในโลก Social ปัจจุบันนี้ วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับชายหนุ่มในร่างชายแก่ ที่เขาเรียกตัวเองว่า “Polish Viking” ซึ่งในปัจจุบันนี้ เขามียอดคน Followers มากกว่า 340K ไปเป็นท่ีเรียบร้อยแล้ว เราเชื่อว่าหลายคนคงอยากจะเห็นหน้าตาของชายคนนี้ก็เต็มที เพื่อจะได้หายสงสัยว่าการทำตัวให้แก่นั้นทำไมถึงทำให้คนหลงใหลได้มากขนาดนี้ นาย “Polish Viking” จริง ๆ แล้วเขามีชื่อว่า Pawel Ladziak และที่เห็นแก่หัวหงอกแบบนั้น จริง ๆ แล้ว เขามีอายุเพียงแค่ 35 ปี อีกด้วย เขาตั้งใจย้อมผม รวมไปถึงหนวดเคราให้กลายเป็นสีขาว เสมือนว่าเป็นผมหงอก ทำให้คนมากมายต้องตกใจเมื่อได้เห็นคุณลุงสูงวัยที่หัวหงอกทั้งหัว มีร่างกายที่กำยำล่ำบึ้กขนาดนี้
“สิงหาคม” เดือนแห่งเทศกาลวันแม่กำลังจะสิ้นสุดลง UNLOCKMEN ขอเสนอความเป็นแม่ในรูปแบบที่หลากหลายขึ้นกว่าเดิม เพราะสาว ๆ ที่เป็นแม่ของคนนั้นไม่จำเป็นต้องแก่ ดูน่าเกรงขาม หรือดูเป็นยายเพิ้งเสมอไป ความเป็นแม่สามารถมาพร้อมกับการดูแลตัวเองให้สวยเช้งได้ อย่างคุณแม่ 9 คนที่ UNLOCKMEN จะนำเสนอต่อไปนี้ ดูไปก็อาจงงไปได้ ว่าคนไหนแม่ คนไหนลูกกันแน่ (เราก็งงเหมือนกัน) 1.คุณแม่นักแสดงสาว Reese Witherspoon วัย 41 ปี ดูแทบไม่ออกเลยใช่ไหมล่ะว่าใครเป็นแม่ใคร 2.ส่วนนี่ก็คุณแม่วัย 43 กับลูกสาวฝาแฝดของเธอ 3.คุณแม่วัย 41 ปี ยังเปรี้ยวจนเข็ดฟันได้ขนาดนี้ 4.ถ้าแม่ลูกจะเหมือนกันขนาดนี้ก็เป็นฝาแฝดกันไปเถอะ! (คุณแม่อายุ 54 ปีแล้ว) 5.คุณแม่ Shweta Nanda Bachchan อายุ 43 กับฝาแฝด เอ๊ย ลูกสาวของเธอ 6.คุณแม่ (คนกลาง) อายุ 63 ปี บ้าไปแล้ว! 7. คุณแม่ผมบลอนด์วัย 51!
มาแล้วครับพี่น้อง หลังจากพยายามจะเข้าเมืองไทยมาได้เกือบ 5 ปี ซุ่มรอจังหวะดี ๆ จนบางคนงงว่า ไม่ให้ใช้ในประเทศไทย แต่ดันมีเพลงไทยให้เลือกฟังเพียบเลย แถมเพื่อนบ้านอย่างญี่ปุ่น, สิงคโปร์ หรือแม้แต่มาเลเซีย ก็มีฟังกันไปหมดแล้ว หลังจากบางคนต้องพยายามมุดดินฟังกันอยู่นาน ต่อไปนี้ไม่ต้องทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ เพราะในที่สุด Spotify ก็เปิดตัวในไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สำหรับคนที่ยังไม่คุ้นเคยกับ Spotify มันคือ Music Streaming Application ที่มีเพลงในคลังมากกว่า 30 ล้านเพลง ใช่แล้วครับ 30 ล้านเพลง ที่ให้เราเข้าถึงได้แบบฟรี ๆ แบบเชื่อมต่อกันได้ทั้งทาง Laptop และ Smartphone ไม่ต้องเสียเงิน download ไม่ต้อง save ลงมือถือให้เปลืองพื้นที่หน่วยความจำ ฟังแบบมันส์ ๆ ไปยาว ๆ แบบมี spot คั่นนิดหน่อย และ skip เพลงได้ 3
ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วสำหรับไฟท์หยุดโลกสุดแปลกที่ไม่เคยเกิดขึ้นที่ไหนมาก่อน เนื่องจากเป็นการชกกันแบบเป็นทางการที่นำเอานักมวย 2 สายพันธ์ุที่ต่างกันสุดขั้วมาไว้บนสังเวียนเดียวกัน นั่นก็คึอ ศึกดวลกำปั้นระหว่าง แชมป์มวยสากลเจ้าของสถิติไร้พ่ายอย่าง Floyd Mayweather Jr. กับนักมวยจากในกรงเจ้าของฉายาไอ้วายร้าย “The Notorious” Conor McGregor ส่วนใครที่จะเชียร์ใครนั้น เอาเป็นว่าเลือกข้างกันได้ตามใจปรารถนาไม่ว่ากัน แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกแปลกใจ นั่นคือการได้รู้ว่ามีแฟนพันธ์ุแท้กีฬามวยกรงเหล็กสุดโหด หรือ มวย MMA อยู่ในบ้านเยอะขนาดนี้ ช่วยคลายความข้องใจในหัวที่เคยคิดว่า “ทำไมมวย MMA ถึงไม่ดังในบ้านเรา ทั้ง ๆ ที่ต่อยกันมันส์สะใจขนาดนี้?” เพราะในตอนนี้ชัดเจนว่าคนไทยที่สนใจวิชาหมัดมวยชนิดนี้ ได้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว จนรู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นเต็มบ้านเต็มเมืองไปซะแล้ว พอคิดเรื่องนี้ได้สักพัก ก็ทำให้เราก็นึกถึงผู้ชายคนหนึ่งขึ้นมา และอยากนำพาเค้ากลับมาให้ชาว UNLOCKMEN ได้รู้จักกับผู้ชายคนนี้มากเหลือเกิน เพราะเราเชื่อว่ายังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่รู้จักเขา ทั้ง ๆ ที่เรากล้าพูดได้เลยว่า เขาคือหนึ่งในนักสู้เลือดขวานไทย ที่ประชาชนชาวไทยจะต้องส่งแรงใจเชียร์คนไทยตัวเล็ก ๆ ที่มีส่วนสูงเพียง 160 ซม คนนี้กันเต็มที่แน่นอน ถ้าพร้อมแล้วขอเชิญทุกท่านพบกับ “เดชดำรงค์ ส.อำนวยสิริโชค” หรือ “นาย ธำรง ทองใย”
ลองนึกอารมณ์ตอนเราเพิ่งซื้อ iPhone 7+ เครื่องใหม่มาหมาด ๆ แล้วเผลอทำตกจอแตกกระจายแบบไม่ทันข้ามวัน นึกอารมณ์ความรู้สึกหน่วง ๆ อยากตบกระบาลตัวเองเหมือนในเพลงของ Room 39 ออกใช่มั้ยครับ? ทีนี้ลองจินตนาการว่าเราเพิ่งจะถอยรถ Ferrari F430 Scuderia ราคาคันละ 27 ล้านบาท จาก Showroom มาหมาด ๆ ก็คงจะมีอารมณ์อยากทดสอบสมรรถนะของรถแรงเป็นธรรมดา แต่ความซวยคือหนุ่มชาว UK คนนี้ดันได้ทดลองระบบความปลอดภัยของ Ferrari ให้พวกเราเห็นว่ารถเค้าดีจริง เพราะแค่ภายใน 1 ชั่วโมงที่ออกรถ จากรถสภาพนางฟ้า กลายเป็นซากรถแหลกกระจายเต็มท้องถนน เห็นแล้วชวนปวดใจ เสียดายรถ เหตุการณ์เรียกน้ำตาครั้งนี้เกิดขึ้นที่เมือง South Yorkshire ทางใต้ของประเทศอังกฤษ เมื่อเจ้าของ Ferrari F430 Scuderia ที่ผลิตเพียง 499 คันในโลก เครื่องยนต์ 4.3-liter V8 500HP ทำความเร็ว 0 – 100
เห็นเหล่า Biker ทั้งหลายส่วนใหญ่ชื่นชอบการสักลายกันเป็นพิเศษ แต่แค่ชอบการสักอาจยังไม่นับว่าเป็นลูกผู้ชายสายพันธ์ุ 2 ล้อตัวจริง ถ้าหากหมึกสักและภายในร่างกายของคุณ ยังไม่มีชิ้นส่วนหนึ่งส่วนใดของรถมอเตอร์ไซค์ไหลเวียนอยู่! วันนี้เราจะพาชาว UNLOCKMEN ทุกท่านที่หลงใหลในรถมอเตอร์ไซค์ รวมไปถึงการสักลาย ให้ได้รู้จักกับผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดจากค่ายรถมอเตอร์ไซค์ในตำนานอย่าง Indain Motorcycle บอกเลยว่านี่สิถึงเรียกว่าคลั่งรถมอเตอร์ไซค์เข้าเส้น ชนิดที่ว่ามีส่วนประกอบของมอเตอร์ไซค์มาเป็นส่วนหนึ่งในร่างกายของจริง แถมยังมีสโลแกนเท่ ๆ มาท้าทายคุณอีกด้วยว่า “IF RIDING IS IN YOUR BLOOD, PROVE IT.” ไม่รู้ว่าจะน่าลอง หรือ น่าหลอน กันแน่ สำหรับไอเดียสุดแปลกแหวกแนวของ Indian Motorcycle ที่กำลังหันหน้าไปเอาดีทางด้านการทำน้ำหมึกสักลาย เพื่อออกมาสนองนี้ดเหล่า Biker ทั้งหลาย ที่ดูจะชอบอกชอบใจกับการจารึกหมึกไว้บนเรือนร่าง ด้วยการคิดค้นหาวิธีการผลิตหมึกสักสำหรับคนคลั่งมอเตอร์ไซค์ชนิดที่กล้าพูดได้เต็มปากว่า รถมอเตอร์ไซค์เปรียบเสมือนอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างไปแล้วเท่านั้น ออกมาให้ได้ลองทดสอบกัน ซึ่งหมึกสักที่ทางบริษัท Indian Motorcycle ทำขึ้นมานี้ ใช้วัตถุดิบที่โคตรจะ Biker มาเป็นส่วนประกอบในการทำน้ำหมึก นั่นก็คือเศษฝุ่นฝอย และ ร่องรอยการไหม้จากการเบิร์นยาง! แค่ได้ฟังก็ขนลุกแล้ว โดยไม่ใช่อาการขนลุกเพราะอินกับจิตวิญญาณ
พูดถึงอินเดีย อย่างแรกที่ทุกคนนึกถึงคืออะไรกันครับ? คงนึกถึงแค่เมืองที่มีแม่น้ำคงคาไหลผ่าน และเป็นเมืองที่มีประชากรเยอะเป็นลำดับ 2 ของโลก ทุกอย่างต้องดูแน่น ๆ อึดอัดไปหมด เชื่อว่ามีหลายคนคิดแบบนี้ ภาพของอินเดียในหัวจึงไม่ได้สวยงามน่าไปเยือนสักเท่าไหร่ แนะนำว่าสลัดความคิดนี้ออกไปจากหัวก่อนครับ เพราะเราจะบอกว่านั่นเป็นแค่ส่วนเล็ก ๆ ส่วนเดียวของคำว่า “อินเดีย” UNLOCKMEN จะพาไปปลดปล่อยความน่าตื่นเต้น ฉีกทุกเส้นทางเดินเอื่อย ๆ ในเมืองหลวง กับการแนะนำ 10 การเดินทางแปลกตาที่เต็มไปด้วยความหลากหลายและเรามั่นใจว่านี่จะเป็นเส้นทางการเดินทาง ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในอินเดียแน่นอน เมื่อเตรียมพร้อมก็แบกเป้ ไปลุยได้เลย! GUWAHATI TO TAWANG จุดเริ่มต้นแรกกับเส้นทางการเดินทางฝั่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดียอย่าง Guwahati ถึง Tawang จะต้องใช้เวลาเดินทางถึง 14-15 ชั่วโมงกับระยะทางประมาณ 509 กิโลเมตร เนื่องจากเส้นทางนี้ค่อนข้างมีความขรุขระเป็นอุปสรรคในการเดินทาง แต่รับรองเลยว่าคุ้มค่าสุด ๆ กับทุกทิศทางในการเดินทางที่มีวิวฉากใหญ่ ๆ ปกคุลมด้วยหิมะและบางส่วนตัดกับหญ้าเขียวชอุ่ม แน่นอนว่าตลอดเส้นทางเรายังสามาถแวะพักที่ Dirang ใน West Kameng เพื่อซึมซับวัฒนธรรมชาวพุทธที่วัด Kalchakra และ Ngingmapa หรือจะหยุดที่ Tezpur
“ความขี้เกียจ” เหมือนจะเป็นสิ่งที่ติดตัวทุกคนมาแต่กำเนิด ขึ้นอยู่กับว่าขี้เกียจมาก ขี้เกียจน้อย หรือใช้เกณฑ์อะไรเป็นเกณฑ์ในการวัดความขี้เกียจกันแน่? คราวนี้นักวิจัยจาก Stanford เขาวัดเอาจากปริมาณการเคลื่อนไหวด้วยการเดินของผู้คนในประเทศนั้น ๆ ว่าเดินมากหรือเดินน้อย ประเทศที่เดินทางด้วยการเดินเป็นหลักถูกมองว่ามีความแอคทีฟมากในหนึ่งวัน ในขณะที่ประเทศที่เฉลี่ยออกมาแล้วว่าผู้คนในประเทศเดินเฉลี่ยต่อวันน้อยเหลือเกินก็ถูกมองว่าอุ้ยอ้ายและขี้เกียจไปโดยปริยาย ก่อนจะดราม่าไปกว่านี้ว่าตกลงการเดินสัมพันธ์กับความขี้เกียจจริงหรือเปล่า UNLOCKMEN ขอชวนคุณมาทำความเข้าใจงานวิจัยชิ้นนี้ไปพร้อม ๆ กันก่อน งานวิจัยครั้งนี้นับเป็นการสำรวจพฤติกรรมทางสุขภาพที่ยิ่งใหญ่จนต้องร้องว้าวมากที่สุดเท่าที่เคยมีการสำรวจมา เพราะมีกลุ่มตัวอย่างมากถึง 717,000 คน จาก 111 ประเทศทั่วโลก โดยการสำรวจครั้งนี้ใช้เครื่องมืออย่างสมาร์ทโฟนเข้าช่วยในการสำรวจว่าในวัน ๆ หนึ่งคนในประเทศนั้น เขาเดินกันวันละกี่ก้าวกันแน่ ผลการสำรวจออกมาว่าฮ่องกงคือประเทศที่แอคทีฟมากที่สุดด้วยการเดินเฉลี่ยต่อคน 6,880 ก้าว ในหนึ่งวัน ในขณะที่ประเทศที่เดินน้อยที่สุด ได้แก่ อินโดนีเซีย ซึ่งเดินเฉลี่ยต่อคนต่อวันอยู่ที่ 3,513 ก้าว มาดูประเทศใหญ่ ๆ อื่น ๆ กันบ้าง โดยจีนอยู่ที่ 6,189 ก้าวต่อคนต่อวัน ญี่ปุ่น 6,010 ก้าว สหราชอาณาจักร 5,444 และสหรัฐอเมริกาค่าเฉลี่ยต่อคนต่อวัน คือ 4,774 ก้าว
ภาพชินตาหน้าร้านเครื่องสำอางชื่อดัง หรือห้างสรรพสินค้าวันที่มีการเซลล์กระหน่ำ คือภาพพ่อบ้านใจกล้าชะตาตกนั่งหงอยเหงารอแฟนสาวช็อปปิ้งด้วยความหมดอาลัยตายอยาก ทำไมโลกนี้ไม่รังสรรค์กิจกรรมมาให้ผู้ชายอย่างเรามีอะไรทำระหว่างรอสาว ๆ ช็อปปิ้งกันบ้าง? เราอาจเคยคิดในใจ ถ้าคุณคือผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังภาวนาถึงกิจกรรมแก้เบื่อระหว่างรอสาว ๆ ช็อปปิ้ง เราอยากบอกว่าเหมือนสวรรค์จะมีตาเข้าข้างพวกเราแล้ว เพราะห้างสรรพสินค้าที่จีนเขาได้คิดค้นกิจกรรมแก้เบื่อที่ว่ามาให้พวกเรา Shanghai’s Global Harbour คือห้างสรรพสินค้าหัวใสปิ๊ง แถมเข้าถึงหัวอกชายหนุ่มเพื่อเหนื่อยหน่ายกับการรอคอย ห้างนี้ตั้งอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน โดยห้างใจดีนี้จัดนวัตกรรมสลายความเบื่อหน่ายของผู้ชายด้วยการสร้างตู้เกมขึ้นมา! เดี๋ยว ๆ เราอาจจะคิดว่า อ้าว ตู้เกมมันก็มีอยู่แล้วทุกห้างไม่ใช่หรอ มันคูลกว่าไอ้ตู้เกมกดที่เด็กมัธยมหัวเกรียนไปนั่งหยอดเหรียญเล่นยังไงกัน? มันไม่ใช่ตู้เกมที่อยู่ในโซนเด็กเล่น และเต็มไปด้วยเสียงเจี๊ยวจ๊าวโหวกเหวกให้เราต้องรำคาญใจแต่อย่างใด แต่นี่เป็นตู้กระจกใสที่สร้างมาเพื่อให้คนเดียวเข้าไปนั่งเล่นอย่างเป็นส่วนตัว! ภายในตู้กระจกใส ๆ มีเก้าอี้ที่ออกแบบมาให้นั่งสบายใจ สบายตูด ไม่เหมือนที่นั่งของตู้เกมหยอดเหรียญ แถมเกมคอมพิวเตอร์ที่เขาจัดหามาให้เป็นเกมที่พาคุณย้อนวัยไปในยุค 90 เสียด้วย เรียกว่าเข้าอกเข้าใจผู้ชายวัยกำลังมีแฟนขาช็อปที่แท้จริง ที่สำคัญตอนนี้ยังเข้าไปเล่นฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ในอนาคตห้าง Shanghai’s Global Harbour ก็แพลนว่าอาจจะต้องแลกค่าเข้าเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยการให้สแกน QR code ถ้าต้องการเข้าไปเล่น เราก็ได้แต่หวังว่าเจ้าตู้แก่เบื่อนี้จะเดินทางไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว หรือห้างไหนในไทยจะอยากเอามาเลียนแบบบ้างเราก็พร้อมจะพาแฟนสาวไปอุดหนุนอย่างแน่นอน ก็นั่งเท้าคางคอตกรอแฟน
“Logo หรือ ตราสัญลักษณ์” เป็นอีกสิ่งหนึ่ง ที่หลายองค์กรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ดังนั้นกว่าจะได้ Logo มาหนึ่งอัน ต้องผ่านขั้นตอนการออกแบบจากมันสมองของ Designer มืออาชีพมากมาย ที่ได้พยายามกลั่นกรองจนตกตะกอนมาแล้วเป็นอย่างดี กว่าจะได้ Logo ที่ดีออกมามีความหมายครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นด้านความโดดเด่น มีเอกลักษณ์ สวยงามลงตัว จดจำได้ง่าย และที่สำคัญมันต้องซ่อนความหมายและตัวตนที่แท้จริงเอาไว้เสมอ อย่างเช่น BWM Logo จากค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่แห่งเยอรมนี ที่ใครต่อใครเห็นตรา Logo ฟ้า-ขาว แม้ตาบอดสีก็รู้แจ้งได้ในทันทีว่า มันคือ Logo ของแบรนด์รถยนต์ที่ยอดเยี่ยมทั้งด้านสมรรถนะและความหรูหรา หลายต่อหลายคน จดจำมันได้เป็นอย่างดี เห็นแค่เสี้ยวเดียวก็รู้ทันทีว่ามันคือแบรนด์ BMW แต่ความหมายที่แท้จริงของมันนี่สิ ที่เราเชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่รู้ หรืออาจจะเข้าใจผิดมาตลอดว่า Logo ทรงกลมที่มีช่องสีฟ้า-ขาว นั้น มันเป็นสัญลักษณ์ของใบพัดเครื่องบินที่ตัดกับท้องฟ้า ถูกนำมาใช้เพื่อที่จะทำให้ทุกคนหวนกลับไปนึกถึงรากเหง้าที่แท้จริงของบริษัท ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากการผลิตเครื่องยนต์เครื่องบิน แต่ทว่าเรื่องดังกล่าวนั้น กลับเป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิดอันยาวนานเท่านั้น!! เราจะพาไปไขความลับ เกี่ยวกับเรื่องราวของตราสัญลักษณ์ BMW ซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันมาอย่างยาวนาน ถึงจุดกำเนิดที่มาของโลโก้ BMW ตั้งแต่รูปทรงกลม ตำแหน่งตัวหนังสือ รวมไปถึงสีฟ้าขาวด้านใน