คงไม่มีใครไม่รู้จักแบรนด์เครื่องกีฬาชื่อก้องโลกอย่าง Nike และถ้ารู้จักแบรนด์อย่าง Nike แล้วก็คงจะไม่พลาดสโลแกนคุ้นหูที่เอาไปปรับใช้ได้กับทุกเรื่องในชีวิตอย่าง ‘JUST DO IT’ แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าสโลแกนดังนี่เองเป็นหนึ่งในหลักทางธุรกิจที่ Phil Knight ผู้ก่อตั้ง Nike ใช้เป็นหนทางในการดำเนินธุรกิจของตัวเองมาด้วย ไม่ใช่แค่เป็นสโลแกนเท่ ๆ สำหรับแบรนด์เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ‘JUST DO IT’ ไม่ได้เป็นหลักการทางธุรกิจเดียวที่ผู้ก่อตั้ง Nike ยึดถือ แต่เขายังมีบทเรียนทางธุรกิจอื่น ๆ ที่เขาเรียนรู้มาตลอดชีวิตของเขาและแชร์ลงในหนังสือ ‘Shoe Dog: A Memoir by the Creator of Nike’ ซึ่งตอนนี้ก็ถูกย่อขนาดมาให้อ่านง่าย ๆ ไว้ทำตามได้ 10 ข้อด้วยกัน มา มาเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กัน 1.ใช้อายุช่วง 20 ให้คุ้ม ออกเดินทาง ค้นหา และเรียนรู้ซะ Phil Knight ใช้เวลาหลังเรียนจบไปกับการออกเดินทางเที่ยวรอบโลก ตอนนั้นเขาอายุ
เมื่อรักที่จะดื่มกินสังสรรค์ ก็คงเลี่ยงที่จะไม่เมาไม่ได้ ไหนจะอาการแฮงค์ตอนเช้า ๆ ที่หนีเท่าไหร่ก็ไม่เคยพ้นสักที แต่มันจะดีแค่ไหนกันถ้ามีของแก้แฮงค์ที่ได้กินแล้วหวานเย็นชื่นใจไปด้วย ใช่ UNLOCKMEN กำลังพูดถึงไอศกรีมแท่งแก้แฮงค์เพื่อหนุ่มนักดื่มทุกคน ฟังดูแปลกแต่ก็น่าสนใจใช่ไหมล่ะ? Gyeondyo-bar คือชื่อของเจ้าไอติมแก้แฮงค์ซึ่งถูกคิดขึ้นโดยชาวเกาหลีใต้ ประเทศที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ดื่มหนักที่สุดในแถบเอเชียแปซิฟิก โดยข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกเมื่อปี 2014 ระบุว่าคนเกาหลีใต้ดื่มเครื่องดื่มมีแอลกอฮอลล์เฉลี่ยแล้วคนละ 12.3 ลิตรใน 1 ปี! ว่ากันว่าที่เกาหลีใต้นอกจากเม็ดเงินที่สะพัดในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มมึนเมา อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ของแก้แฮงค์ทั้งหลายก็มีเงินหมุนเวียน 125 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี ไล่ตั้งแต่ยาแก้แฮงค์ เครื่องดื่มเรียกกำลัง อาหารสำหรับแกแฮงค์โดยเฉพาะ ไปยันเครื่องสำอางค์ที่ไว้ปกปิดอาการแฮงค์บนใบหน้า แต่นี่ก็นับเป็นอีกก้าวใหม่ของวงการผลิตภัณฑ์แก้แฮงค์แห่งเกาหลีใต้ เมื่อร้านสะดวกซื้อได้นำเสนอไอติมแท่งแก้แฮงค์สำหรับนักดื่มทั้งหลาย สำหรับคนที่สงสัยว่าไอติมแท่งแก้แฮงค์นี้จะมีรสชาติเป็นอย่างไร? ผู้ผลิตก็เปิดเผยออกมาว่ามันจะเป็นไอติมแท่งรสเกรปฟรุตที่มีส่วนผสมของลูกเกดซึ่งเป็นเคล็ดลับในการแก้อาการเมาค้างของคนเกาหลีมาตั้งแต่ ทศวรรษที่ 1600 ซึ่งก็ตรงกับงานวิจัย Dihydromyricetin As a Novel Anti-Alcohol Intoxication Medication ที่ระบุว่าสารสกัดจากลูกเกดนี้ช่วยลดความเมาจากการทดลองกับหนูได้ ส่วนที่มาของชื่อ Gyeondyo-bar ซึ่งแปลได้ว่า “ค้างอยู่บนนั้น” ผู้ผลิตเขาต้องการสื่อถึงความยากลำบากของคนทำงานทั้งหลายที่ต้องมาทนทุกข์กับอาการเมาค้างเติ่งหลังจากที่ไปดื่มมาอย่างหนักตลอดคืน Gyeondyo-bar ไอติมแท่งแก้เมาค้างจึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะให้ความสะดวกสบายแก่ผู้ที่ต้องมาทำงานตอนเช้า ทั้ง ๆ ที่ดื่มหนักมาก อ่านจบแล้วก็อยากจะลองหาไอติมแท่งแก้อาการเมาค้างกินดูบ้างเหมือนกัน อยากรู้ว่าจะช่วยแก้อาการเมาค้างได้ดีสักแค่ไหน
เหมือนเป็นธรรมเนียมไปแล้วที่ Bill Gates เจ้าพ่อ Microsoft และมหาเศรษฐีชื่อดังมักจะแชร์หนังสือที่เขาอ่านให้กับผู้คน เพราะความรักในการอ่านของเขาและความต้องการหามุมมองใหม่ ๆ ให้ตัวเองอยู่เสมอ หนังสือที่เขาแนะนำจึงผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปหลากหลายประเภท แต่สำหรับเซ็ตนี้ Bill Gates จัดเต็มด้วยหนังสืออัตชีวประวัติเป็นส่วนใหญ่ ที่ UNLOCKMEN ขอรับรองว่าการที่เราได้อ่านชีวิตคนที่ประสบความสำเร็จระดับโลกนั้นยิ่งช่วยให้เราเห็นมุมมองใหม่ ๆ แบบที่เราอาจไม่เคยมองมาก่อนได้แน่นอน “Hillbilly Elegy” by JD Vance JD Vance เป็นอีกหนึ่งนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งในปัจจุบัน เขาเขียนหนังสือเล่มนี้เพื่อบอกเล่าเรื่องราวชีวิตวัยเด็กและการเติบโตมาอย่างยากจนของตัวเองในเมืองห่างไกลแถบเทือกเขา Appalachia ทางตะวันออกของสหรัฐอเมริกา ภายในเล่มบอกเล่าเรื่องราวความยากลำบากในชีวิต ทั้งช่วงเวลาสุดโหดและช่วงเวลาดี ๆ ที่เขาพบเจอ รวมถึงสอดแทรกมุมมองของเขาที่มีต่อวัฒนธรรมและปัญหาครอบครัวที่ซับซ้อน เนื่องจากเขาถูกพ่อแม่ปล่อยไว้ให้อยู่กับปู่และย่า จนกระทั่งการฟันฝ่าจนเขาสามารถเข้าเรียนในโรงเรียนกฎหมาย Yale ได้ Bill Gates บอกว่าความมหัศจรรย์ของหนังสือเล่มนี้นอกจากประเด็นความซับซ้อนทางวัฒนธรรมและปัญหาครอบครัวที่ลึกซึ้ง ก็คือการที่ Vance มีความกล้าหาญมากพอที่จะลุกขึ้นมาพูดถึงอดีตด้วยตัวของเขาเอง “A Full Life” by Jimmy Carter Jimmy Carter หรืออดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคือผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ ภายในเล่มบอกเล่าเรื่องราวการเติบโตมาจากชนบท
เพราะขึ้นชื่อว่ารอยสัก มันก็ต้องเป็นอะไรที่อยู่ติดตัวเราไปจนตายอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจว่าพวกรอยสักมักจะเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมหลากหลายรูปแบบแตกต่างกันไปเสมอ อย่างที่ UNLOCKMEN เคยเขียนไว้หลายต่อหลายครั้ง ในเรื่องเกี่ยวกับรอยสัก โดยเพื่อนๆ สามารถไล่อ่านข้อมูลเกี่ยวกับที่ทางเราเคยเขียนได้ ที่นี่ และวันนี้เราไม่ได้มาพูดถึงอะไรเก่าๆ แต่จะมานำเสนอรอยสักรูปแบบใหม่ ที่จะช่วยเพิ่มประสบการณ์ในแบบที่ไม่เหมือนกับที่เคยมีมา แถมเหมาะสำหรับคนที่รักเสียงเพลงและดนตรีเป็นชีวิตจิตใจอีกด้วย จะเจ๋งและน่าสนใจขนาดไหน ลองมาดูกัน Skin Motion ที่เรากำลังจะพูดถึงนี้เป็นแพลตฟอร์มด้านศิลปะ ที่นำมาผสมกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยี AR โดยเป็นการเปิดตัว Soundwave รอยสักรูปแบบใหม่ที่ฝังโค้ดเพลงเข้าไปในลาย! ซึ่งแค่เพียงเรายกมือถือขึ้นมาส่องบนลาย Soundwave มันก็จะทำการเล่นเพลงให้เราฟังได้ทันที โดยไอเดียสุดเจ๋งอันนี้มีแนวคิดเริ่มต้นมาจากรอยสักนักเต้นตัวน้อยของเอลตัน จอห์น ที่อยู่ๆ ในวงสนทนา แฟนของ Nate Siggard ก็พูดขึ้นมาแบบลอยๆว่า มันจะเจ๋งแค่ไหนเนี้ย ถ้าเราสามารถฟังเพลงผ่านรอยสักพวกนั้นได้ ไม่รอช้า ทางทีมผู้พัฒนาก็ได้เกิดไอเดียบรรเจิด จัดการรวมทีมพัฒนาจนออกมาเป็นเทคโนโลยีรอยสักนี้ และได้ทำการอัดคลิปเผยแพร่ลงสู่สายตาทั่วโลก ผ่านทาง Youtube (ดูได้จากคลิปด้านล่าง) และแน่นอนว่าของเจ๋งๆ ไอเดียดีแบบนี้ แค่เพียงไม่นานก็เกิดเป็นกระแสไวรัล จากคนหลายมุมทั่วโลกที่สนใจส่งข้อความมาอย่างต่อเนื่องว่าอยากได้รอยสักเจ๋งๆ แบบนี้บ้าง ทำให้ทางผู้ผลิตได้จัดการจดสิทธิบัตรรอยสัก AR ตัวนี้ซะเลย และพัฒนาแอพพลิเคชั่น โดยเฉพาะสำหรับเจ้ารอยสักตัวนี้ ให้สามารถเล่นเพลงและเล่นเสียงต่างๆ
สำหรับผู้ชายส่วนใหญ่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีนิสัยชอบความเร็วหรือไม่ก็ตาม เราเชื่อว่า ทุกคนคงต้องเคยผ่านการลงสนามแข่งขับ Go-Kart กันมาบ้างอยู่แล้ว และยิ่งถ้าได้ขับแข่งกับเพื่อนๆ เป็นกลุ่มด้วยแล้วล่ะก็ การขับ Go-Kart ก็ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ให้ความบันเทิงกับผู้ชายได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ในคนที่เคยขับรถ Go-Kart คงจะรู้ดีว่า เห็นรถคันเล็กๆ แบบนั้น เวลาวิ่งอยู่ในสนามอาจดูเหมือนไม่เร็วนัก แต่ถ้าได้ลองขับเอง รถจิ๋วแบบนี้ก็มีพิษสงมากพอจะทำให้อดีนารีนสูบฉีดไปทั่วทั้งร่างได้อยู่เหมือนกัน แต่ไม่ว่าจะเคยสัมผัสประสบการณ์ความแรงจากไหนมา ก็ต้องลดหดตัวกลายเป็นเพียงอารมณ์จักรยานเด็กเล่น เพราะสำหรับ Go-Kart คันนี้ เรียกได้ว่า เปิดตัวมาไม่ทันไร ก็กลายเป็นตำนานบทใหม่ Run วงการไปเป็นที่เรียบร้อย มันคือ Go-Kart ที่มีชื่อเต็มๆ ว่า “The Daymak C5 Blast” คันนี้ ได้เปิดตัวออกมาอย่างยิ่งใหญ่ แถมยังพ่วงคำต่อท้ายเป็นลายสักเสือเผ่นว่า ‘เร็วที่สุดบนโลกเท่าที่เคยมีมา’ อีกด้วย หลายคนคงสงสัยว่า จะไม่มีรถ Go-Kart คันไหน จะเร็วไปกว่าคันนี้อีกแล้วจริงหรือ? คำตอบที่ได้ก็ต้องทำให้ข้อสงสัยทั้งหมดจบลง เมื่อมีการเผยสถิตความแรงของมันออกมาว่า Super Go-Kart คันนี้สามารถทำความเร็วจาก 0-100 km/h ได้ ภายในเวลา
เมื่อการไปเมาร่วมกันไม่ใช่แค่ความสนุก แต่คือส่วนหนึ่งของธุรกิจ!
แต่ถ้าใครที่ชื่นชอบกีฬาทางน้ำ แบบลุยๆ อย่าง “เซิร์ฟบอร์ด” จะต้องทำยังไง จะให้ขนบอร์ดไปเล่นสระว่ายน้ำก็คงจะแปลกและไม่ตอบโจทย์สักนิด
นาฬิกาเป็น Lifestyle Investment ที่นักลงทุนสามารถทำเงินได้มากมายมหาศาล แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความ Rare และ Story ของนาฬิกาเรือนนั้นด้วย แต่คงไม่มีนาฬิกาเรือนไหนจะแพงสะใจเราเท่า Rolex 6062 Black Dial ครอบครองโดยอดีตสมเด็จพระจักรพรรดิบ๋าว ดั่ย (Vietnam’s last emperor Bao Dai) จักรพรรดิองค์ที่ 13 พระองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์เหงียน ตั้งแต่ ค.ศ. 1926 – ค.ศ. 1945 ล่าสุดได้รับตำแหน่ง “The most expensive watch in the world” นาฬิกาข้อมือที่แพงที่สุดในโลก ประมูลจบไปในราคา 173 ล้านเหรียญ Rolex reference 6062 Black Dial “Bao Dai” 36mm นาฬิกาของรักของหวงของ Vietnam’s last emperor Bao
ด้านมืดของโลกคอมพิวเตอร์ที่ถูกเผยออกมาและได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยตรงอย่างแท้จริง ทำให้ตอนนี้เราเริ่มเห็นหลายฝ่าย เริ่มสำรวจตรวจสอบและป้องกันคอมพิวเตอร์ภายใต้การดูแลกันทั่วหน้า
หากพูดถึง Dreadlocks น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก แม้จะไม่เคยมีประสบการณ์ทำผมทรงนี้กับตัวเองก็ตาม สำหรับในต่างประเทศ Dreadlocks ถือเป็นสิ่งที่เห็นกันได้อยู่บ่อย ๆ แต่สำหรับในไทยนั้น Dreadlocks เหมือนเป็นเรื่องไกลตัวและนาน ๆ จะเห็นคนทำผมทรงนี้สักที อาจจะด้วยสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวสุด ๆ หรือเพราะเป็นทรงผมที่ดูโดดเด่นเกินไป ไหนจะไม่เข้าใจถึงเหตุผลว่าทำไมอยู่ดี ๆ ต้องหาเรื่องทำผมตัวเองที่สลวยสวยเก๋ให้กลายเป็นคนที่เหมือนผมเป็นสังกะตัง แต่จริง ๆ แล้ว Dreadlocks นั้น ไม่ได้เป็นแค่ทรงผมของเด็กแนว หรือสาวกสายเขียวอย่างที่หลายคนคิด มันมีความสำคัญกว่านั้นมาก เพราะนี่คือวัฒนธรรมที่มีความละเอียดอ่อนและแฝงความหมายซ่อนเร้นเอาไว้ภายใต้เส้นผมที่ดูรกรุงรัง ทรงผม Dreadlocks เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากจนไม่น่าเชื่อ นั่นเป็นเพราะว่าทรงผมที่มีความเป็นเอกลักษณ์สุด ๆ ทรงนี้ มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องสีผิว ความเชื่อทางศาสนา ปรัชญาในการใช้ชีวิต และยังมีอีกหลายอย่างที่เราไม่เคยรู้มาก่อน วันนี้เราจึงได้นำเอาเรื่องราวของ “Dreads” มาให้ชาว UNLOCKMEN ทำความรู้จักกันแบบลึก ๆ เผื่อใครที่กำลังลังเลว่าจะทำดีไหมจะได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ส่วนคนที่เคยมีอคติ และมองว่าผมทรงนี้มันโคตรจะขัดใจ อาจจะถึงขั้นเปลี่ยนมุมมองความคิดที่เคยมีมาทั้งหมดไปเลยก็ได้ถ้าคุณอ่านบทความนี้จบ Dreadlocks Formation Technique การทำผมปกติให้กลายเป็นผมแบบ Dreadlocks นั้น แบ่งการทำเป็น