Business

คุยเรื่องที่ครูไม่เคยบอก เมื่อ “ธนาคาร” ฉีกตำรามาล่าอันดับงานในฝันของเด็กสาย TECH!

By: anonymK June 8, 2018

“เพราะเป็น Tech จึงเจ็บปวด” ท่ามกลางการโหมกระพือว่า เฮ้ย! ยุคนี้มัน Golden Age ของเด็กสาย Tech จบมายังไงก็ได้งาน มีแต่คนแย่งตัว คนส่วนใหญ่กลับไม่ค่อยรู้ว่าสายอาชีพอย่างเราพอจบมามักเจอมรสุม “งานไม่ตรงปก” กับเขาเหมือนกัน ถ้าไม่จั่วหัวว่าเป็นบริษัท TECH ตรงสายแท้ ๆ แม้หน้า JD (job description) ใส่รายละเอียดล้ำแค่ไหน แต่ชีวิตจริงอาจจะต้องไปเป็น “เด่นชัย” ในแฟนเดย์หนัง GTH แก้ปัญหาแบบคนซ่อมคอมในบริษัท ไม่เท่ ไม่คูล และที่สำคัญคือ Tools ไม่ถึง เรียกได้ว่าดับไฟของเด็กจบใหม่เสียเหี้ยนเตียน

“ไปธนาคารดิ”

อยู่ ๆ คำ ๆ นี้มันก็ผุดขึ้นมา ทั้งที่มันไม่เคยเป็น Key message ในใจ แต่จะด้วยอาการอยาก To be Continue จากคราวที่แล้วที่ UNLOCKMEN ได้ไปเปิดโลกเรื่อง Cashless Society หรือถ้าจะเรียกให้ถูกว่าอยากลองของอีกทีก็ไม่ผิดนัก คราวนี้เราจึงขอโอกาสแวะไปรบกวน SCB ที่สำนักงานใหญ่อีกครั้ง เพื่อดูว่าเหล่า BACK BONE ของธนาคารจะเจ๋งไม่แพ้บริษัท Tech ชั้นนำจริงหรือ ? และเป็น Geektopia สวรรค์ของเด็ก Tech จบใหม่ที่ครูไม่เคยพูดถึงจริงหรือเปล่า แต่ก่อนอ่านครั้งนี้ ด้วยความเคารพและเรียลอย่างสุดซึ้งขอบอกตรง ๆ ก่อนว่า

“คุณไม่เชื่อ เราไม่เชื่อ และที่สำคัญพวกเขาเหล่านี้เองก็ไม่เชื่อว่าธนาคาร
จะเป็นพื้นที่ของเด็ก TECH…ก่อนจะได้มาลอง

 

Meet and Geeks!

ถ้าเทียบกับพื้นที่ก่อนหน้าที่เราเคยมีโอกาสเข้ามา ชั้นนี้ให้กลิ่นอายของความเป็น Tech มากกว่า เพราะถึงจะดูอยู่กันชิลล์ ๆ เดินไปมามีเสียงพูดคุย แต่ความจอแจนับว่าน้อยกว่านั้น ไม่นานเกินรอ พี่ ๆ ชายหญิงทั้ง 3 คนในมู้ดสบายจากทีมดูแล BIG DATA ก็เดินมาพูดคุยกับเราพร้อมเล่าความเป็นมาของพวกเขาแบบหมดเปลือกก่อนจะกลายมาเป็น “คนธนาคาร” เต็มตัวเหมือนทุกวันนี้ ที่อื่นเราไม่รู้ว่าเป็นแบบไหน แต่สำหรับที่นี่เราว่าเคมีมันฟุ้งมาก Tech ทุกคนมีความเป็นธรรมชาติ สนุก และอารมณ์ขันมาเต็มครบทั้งสีหน้าท่าทางอย่างที่ไม่ค่อยได้เห็นที่ไหน และที่สำคัญทุกคนเป็นตัวจี๊ดทำงานเฉียบ ๆ คลุกคลีกับด้าน Data มาแล้วทั้งนั้น

“ทำงานอะไรกันมาก่อน” คำถามนี้ใครก็อยากรู้ เราสรุปให้แบบไม่เยิ่นเย้อตามลำดับ เริ่มที่สาวหมวยคนซ้ายสุดคือคุณกี้ – กนกกุล ฉัตรชูไชยกุล  BI Data Analyst เคยทำงานด้าน Marketing Research วิเคราะห์ข้อมูลด้านการตลาดให้กับลูกค้าที่เป็นบริษัท FMCG ถัดมาคนกลางคือคุณโอ้ – อานนท์ ตัณมุขยกุล SVP ดูแล Data Visualization เคยทำงาน Customer insight ให้กับบริษัทด้านโทรคมนาคม และคุณป๊อปปี้ – ว่าที่ร้อยตรี เชษฐพงศ์ ปัญญาชนกุล หนุ่มชุดขาวโอโม่ปัจจุบันเป็น BI Data Engineer ดูแลส่วน Solution Architecture ดีไซน์ตัว Data Lake โดยก่อนหน้าทำงานอยู่ในสาย Tech ด้านโทรคมนาคมเช่นเดียวกัน

 

ทำไมถึงมาทำงาน “ธนาคาร” เหมือนหรือต่างอย่างไรจากที่เดิมที่เคยทำมา

คุณกี้ : อย่างของกี้ย้ายมาจากฝั่ง Agency ที่ทำงานให้กับลูกค้า FMCG ซึ่งมันเป็น Industry ที่ทุกอย่างเร็ว พอมาอยู่ธนาคาร ตอนแรกก็คิดเหมือนกันว่ามันน่าจะมี Culture Shock (ภาวะแปลกแยกที่เกิดเมื่อเข้าสู่วัฒนธรรมใหม่) แต่ตัดสินใจมาเพราะเรื่อง Data กำลังเป็น National Agenda ของแบงก์ เป็นสิ่งที่ CEO เขาอยากจะ drive ลงมาก็เลยเห็นว่ามันเป็นสิ่งน่าจะ Make It Happen ขึ้นมาได้เหมือนเมบาลีน (หัวเราะ) เพราะการที่จะมาเปลี่ยนอะไรกับแบงก์ที่มีมาร้อยกว่าปีมันต้อง drive มาจากข้างบน ก็เลยค่อนข้างมั่นใจว่าสิ่งนี้มันต้องเกิดขึ้นค่ะ เราอยากเป็น Founder Member ที่จะสร้าง Data Lake ขึ้นมาและเอาข้อมูลมหาศาลมาวิเคราะห์ต่อยอด

ประกอบกับมาเราเจอพวกพี่ ๆ เขาที่ย้ายมาจากบริษัทฝรั่งเหมือนกัน ตอนนี้ธนาคารรับคนรุ่นใหม่ ๆ เข้ามา มันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คนข้างนอกเขาคิดว่าธนาคารจะต้องช้าและเป็น Seniority ขนาดนั้น มันก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิดแล้วกันพูดตรง ๆ

 

คุณโอ้ : ความต่างของผมคือเรื่องความหลากหลายของโปรดักส์กับความเร็ว ความเร็วก็คล้าย ๆ กับที่คุณกี้ว่าคือตอนทำงานเดิมของมันจะต้องเร็ว เพราะฉะนั้น Analysis ต่าง ๆ ออกเร็ว โปรโมชั่นเปลี่ยนตลอดเวลา ก็ต้องตอบสนองกับตลาดอย่างรวดเร็ว แต่ความต่างคือโปรดักส์ของแบงก์มีเยอะแยะมาก ถ้าลูกค้าในชีวิตประจำวันเราอาจจะสัมผัสได้แค่การฝาก ถอน บัตรเครดิต เงินกู้ใช่มั้ย แต่มันก็มีเรื่องดีเทลของ พร้อมเพย์, QR Payment, การปรับรูปแบบสาขา, SME, Corporate Banking อะไรอีกมากมาย และด้วยความที่เดิมแบงก์ไม่ใช่ธุรกิจที่ลงทุนด้านเทคโนโลยี พอเปลี่ยนไปตอนนี้โอกาสให้ลงมือทำหลายอย่างมันก็มีมากโดยเฉพาะในเรื่องการบริหารจัดการข้อมูลแล้วเอาข้อมูลมาใช้ประโยชน์ครับ

 

คุณป๊อปปี้ : ตอนที่จะย้ายมาเราเคยรู้สึกว่าแบงก์มันอุ้ยอ้าย คิดว่าระบบต้องเป็น Legacy System เหมือนเวลาเราเข้าธนาคารไปได้ยินเสียงเครื่องปริ้นท์เข็มอี๊ด ๆ มีขั้นตอนเยอะ ๆ แล้วเราจะมาอยู่เราจะไหวไหม จะมี Culture Shock หรือเปล่า แต่ที่เลือก SCB เพราะรู้สึกว่าเป็นแบงก์ที่น่าจะทันสมัยที่สุดแล้วในความรู้สึกผม และเป็นสัญญาณที่ดี ที่ SCB จะลงทุนด้าน Big Data พอเข้ามาทำจริง ๆ คือ SCB เป็นแบงก์ที่ทันสมัยและบางอย่างมันล้ำมาก ลบภาพความคิดเก่าๆ ของแบงก์ไปได้เลย โดยเฉพาะสาย Tech ที่นี่มีการทดลองและลงทุนกับเทคโนโลยีใหม่ๆ มีการนำ process ใหม่ๆ มาใช้ในการพัฒนาโปรเจกต์ เช่น Agile หรือ DevOps

รวมถึงที่แบงก์จะมี Subject-Matter Expert (SME) อยู่หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้าน Enterprise Architecture ด้าน Network & Security, ด้าน Infrastructure และ Application Development คอยช่วยให้คำปรึกษา ทำให้สาย Tech อย่างเรา มี principle และ direction ที่ชัดเจนสำหรับมาการนำ Technology ไปใช้งานในโปรเจกต์ต่างๆ  คนแบงก์ก็ไม่ได้ล้าสมัยจากที่ดีลงานด้วย

 

FUN FACT SHEET: หนังสือชี้ชวนความสนุกสำคัญ ๆ ของคน TECH

สำหรับคนที่จินตนาการภาพไม่ออกว่า แบงก์อายุ 100 กว่าปี จะกระโจนติดลมบนกับเขาได้ไหม คน Tech เด็กใหม่วัยใสจะเล่นสนุกได้มากแค่ไหน คงต้องบอกว่ามีพื้นที่มากกว่าที่ชาว Tech คาดคิด เพราะเขาเปิดใจกันแบบสุด ๆ พร้อมเป็น Back up ที่ดีให้ ไม่น่าเชื่อว่าบทธนาคารจะมาลงทุนเขาก็ยอมรับทุกความเสี่ยงชนิดพลิกหน้ามือเป็นหลังมือในระยะเวลาไม่ถึง 3 ปี และนี่คือข้อมูลที่เหล่า Tech จะได้ตัดสินใจว่าจะรับความสนุกนี้ไว้ไหม แต่ทีม UNLOCKMEN กล้าพูดว่าแค่ 2 ใน 3 เราก็อยากจะขอกลับไปเรียนใหม่ ย้ายสายงานตอนนี้ทันไหม?

BEST MATCH : จักรวาลงาน Tech ให้เลือก “ใช่”

คุณโอ้ : เทคโนโลยีกรุ๊ปของแบงก์มีหลากหลายครับ ในส่วนที่ทำ Data Engineering ก็ทำเป็น Data Engineer, Data Analyst และสร้าง Big Data platform มีทีมที่ทำทางด้าน Security and Risk เช่น Network Security, Information Security ทีมที่เป็น Developer เนื่องจากระบบแบงก์มันมีมากมายมหาศาลเพราะฉะนั้น Developer ก็จะแยกไปตาม Area ทีมที่เป็น Enterprise Architect ดูแลเรื่อง Technology Architecture ขององค์กร มีทีม Infrastructure & Operation ดูเรื่อง Platform เรื่องเครื่อง เรื่อง Data Center และ IT Operation ต่าง ๆ ของแบงก์ ทีม PM หรือ Project Management และทีม Tech Sourcing ตอนนี้โปรเจกต์ไอทีของแบงก์เยอะมาก เพราะฉะนั้นเราก็ต้องมีทีม PM ที่เก่งคอยดูแลควบคุมงานของทั้งในทีมเอง แล้วก็ช่วยกัน Manage Vendor ต่าง ๆ ที่เข้ามาทำงานกับแบงก์เรา ทีม Tester และทีม Tech Practice ที่มาดูแลเรื่องการทำ Reskill และ Skill uplift ของคนในเทคโนโลยีให้มันทันสมัยมากขึ้น

 

BEST CULTURE 

  1. Culture ไม่ต้องช็อกอย่างที่คิด แต่เกินคาดเพราะใช้ระบบการทำงาน Tech ในแบงก์ใช้ Agile (Discover + Design + Develop + Test) และ DevOps (Tool + Automation + Seamless) แถมยังได้พัฒนาร่วม co-project กับบริษัทซอฟท์แวร์ระดับโลกอย่าง Microsoft เช่น Microsoft Azure Cloud และด้าน AI ที่กำลังอยู่ระหว่างการ Develop พร้อมทีม Research
  2. ไม่มีคำว่าเบื่อในพจนานุกรมเพราะหนึ่งคนถือมากกว่าหนึ่งโปรเจกต์ แต่ละโปรเจกต์มีโอกาสได้รับผิดชอบหน้าที่ที่หลากหลาย โดยคัดเลือกจากสกิลที่ถนัดเป็นเกณฑ์
  3. ลูกบ้าของลูกน้องคือของชอบของบอส ผู้บริหารเปิดโอกาสให้เสนอและกระตุ้นให้ทำ อยากได้อะไรให้บอก ลุยได้เป็นลุย ที่สำคัญเมื่อติดขัดก็ไม่ปล่อยให้แก้ลำพัง พร้อมกรุยทางให้สะดวกขึ้น
  4. Seminar ฮาเฮ เสนอมาอนุมัติกลับไม่โกง เรื่องนอกแบงก์ที่สร้างการเติบโตของชาว Tech อยากเรียนรู้ขอให้มาบอกบอสไว้ ในประเทศน่ะธรรมดาเพราะต่างประเทศเขาก็ฟอร์มทีมส่งไปมาแล้ว ถ้าสมเหตุสมผลมีประโยชน์เชิญโหลดกระเป๋าขึ้นเครื่องเพื่อกลับมาแบ่งปันกัน ด้านองค์ความรู้ภายในก็ไม่ทิ้งเพราะมี session ไว้แชร์ Lesson Learn จากโปรเจกต์ที่ปิดแล้ว เพื่อพัฒนาจุดด้อยสร้างงานให้ดีขึ้น
  5. พูดจาภาษาเดียวกัน Junior มีพี่หนุนความคิดระหว่าง Brainstorm ส่วน Senior ได้ออกนอกกรอบประสบการณ์มาฟังไอเดียใหม่ของน้อง เรื่องไหนโดนใจหยิบไป apply ต่อ ปล่อยความคิดปล่อยของได้เต็มที่ ไม่มีคำว่า Stupid idea

BEST IN CLASS TOOLS & BEST EXPERT

สำหรับคน Tech เรารู้กันดีว่าเรื่อง Tools ในมือก็เหมือนแขนขา หากแย่ก็แทบแดดิ้น แต่ถ้าเลิศก็โบยบินกันไปสุดตัว ทว่าเรื่องที่หลายคนยังไม่รู้คือแบงก์เป็นสถานที่ที่ทำให้เรา Beyond กว่าเพราะได้แตะของที่ “เทพ” กว่าใคร และสะสมคน “เทพ” จากสายต่าง ๆ ไว้เสกของที่ไม่มีให้มีได้ ส่วนสิ่งที่ได้รับมือเหนือกว่าคนในสาย Tech ทั่วไปคือการได้เพิ่มมิติความใส่ใจเรื่องความเสี่ยงของการจัดการข้อมูลเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ฝึกความรับผิดชอบเพราะได้รับความวางใจให้ทำงานจึงไม่มีการตามจี้กัน ที่สำคัญยังได้ฝึกความกล้าสื่อสารเพื่อปรับจูนการใช้งานซอฟต์แวร์ใหม่ ๆ กับคนภายใน ซึ่งทุกคนล้วนเปิดใจรับการเปลี่ยนแปลงนั้น

คุณโอ้ : “เราได้ใช้ Solution ที่ใหม่และดีที่สุดเสมออยู่แล้วของโลก เขาเรียกว่า Best in Class Tools เราอยากได้ Tools อื่นเราก็เสนอได้ นอกเหนือจาก Tools หรือ Software หรือ Platform ที่ดีที่สุดแล้วเรายังได้รับการ Support จากเจ้าของโปรดักส์เนื่องจากเป็นแบงก์ขนาดใหญ่ของประเทศ ซึ่งการดึงคนที่เป็นเจ้าของโปรดักส์มาดูว่าโปรดักส์ถูก Implement อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพจริง ๆ นี่แหละเป็นสิ่งที่น่าสนใจ”

คุณป๊อปปี้ : ถ้าประสบการณ์ตรง ผมอยู่นี่มา 2 ปีกว่า เข้ามาครั้งแรกเรา Initiate ตัว Data Lake เราเลือก Hadoop platform ของ Cloudera ถือว่าเป็น best in class  ณ เวลานั้น อันนี้ก็ได้เรียนรู้จาก Engineer ของ Cloudera โดยตรง รวมถึงตอนที่เราลงมือทำ framework design ยังมี global expertise จาก Accenture มาช่วยให้คำปรึกษาเรื่อง Big Data พอ Cloud technology เริ่มเข้ามา เราเลือกไป Cloud ของ Microsoft แต่การไป Cloud ต้องมีการเตรียมตัวหลายด้าน SCB จึงฟอร์มทีมสาย Tech จากหลาย ๆ ส่วนงาน เพื่อไปทำ workshop กับผู้เชี่ยวชาญด้าน Cloud ที่ Microsoft Head Quarter

และที่สำคัญเมื่อ workshop จบ ทาง Microsoft ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญในแต่ละเรื่องมาช่วยให้คำปรึกษาและ implement Cloud ให้เกิดขึ้นที่ SCB เพราะฉะนั้นเรื่องในการเรียนรู้เมื่อเข้ามาทำงานสาย Tech แล้ว มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ให้ใช้ไหม ตอบได้เลยว่า มี แล้วแบงก์ก็ก้าวตามเทคโนโลยีตลอด นอกจากนั้นเรามี expertise เข้ามาช่วยดูแลหมายถึงเราก็จะได้เรียนรู้ best practices จาก expertise อยู่เสมอ

คุณกี้ : เรื่อง Tools ในการใช้วิเคราะห์ข้อมูลของกี้ที่เก่าคือมันเจ๋งมากแล้ว เพราะด้วย Data ไม่ได้เยอะและเป็น Structured Data พอมาที่นี่เรามี Big Data ทำให้ไม่น่าจะมี Tools ตัวไหนที่รองรับ Big Data แบบลากเข้าไปแล้วทำทุกอย่างได้เสร็จสรรพเหมือนที่เก่าได้มากนัก แต่ด้วยความสามารถของพี่ในทีม เขาสามารถคิดโปรแกรมคล้ายของที่เก่าขึ้นมาได้ คือเราบอกคอนเซ็ปต์ว่าเราอยากได้อย่างนี้ พี่ในทีมที่เขาเป็นเทพ SQL เขาก็สามารถทำได้ แล้วสุดท้ายก็ได้ตัว Analysis ที่นำมาใช้ใน SCB ได้ค่ะ

ส่วนด้าน Google I/O ที่กำลังมาแรง “Tech ธนาคาร” ก็ไม่ได้เฉยชาพี่ทั้ง 3 คนกระซิบว่าจะมีการนำ AI และ Machine Learning มาใช้ และอาจจะได้เห็นโปรเจกต์ใหม่ใหญ่ ๆ ในอนาคตอันใกล้นี้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

สุดท้ายเพื่อชาว UNLOCKMEN ที่ไม่อยากพลาดการทำงานแบบสนุก ๆ หรือใครมีแวดวงคน Tech รอบข้างที่อ่านแล้วคิดว่า Nature แบบนี้แหละใช่ ถึงเวลาแชร์ต่อให้เขารู้ เพราะเราไปสปายข้อมูลเขามาโต้ง ๆ จากคนในไม่ต้องเก็งข้อสอบให้ปวดหัวได้ความว่าคุณสมบัติที่จะเป็น Tech ธนาคาร นอกจาก Tech Skill แล้ว Customer Skill  กับแพสชันอยากเรียนรู้สิ่งใหม่เพื่อปรับ Customer Experience ของคนทั้งประเทศชาติให้จับต้องได้ยิ่งขึ้นนี่แหละคือสิ่งที่ใจต้องการ ที่สำคัญหนุ่ม ๆ อาจจะต้องผวา เนื่องจากใน SCB เขาเปิดโอกาสให้สาว ๆ STEM (Science Technology Engineering  Mathematic) เข้ามาจับจองการเป็น Data Engineer และ Data Analyst แล้วโดยทุกวันนี้สัดส่วนของพวกเธอที่นี่มีมากถึง 40 %! เอาเป็นว่าไม่ว่าคุณจะเป็นชายหรือหญิงถ้าอ่าน UNLOCKMEN เราอยากส่งต่อโอกาสนี้เพราะรักคุณเท่ากัน

 

อีกมุมหนึ่งของธนาคารที่เราไม่รู้ ครูไม่เคยเปิดเข้าไป แต่ UNLOCKMEN ขอบอกต่อ ใครสนใจสมัครเข้าไปดูรายละเอียดต่อได้ที่  https://careers.scb.co.th

anonymK
WRITER: anonymK
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line