

CARS
‘THE BLASTER’ FLAMETHROWER ออพชั่นยิงไฟกันขโมยที่มีจริงใน SOUTH AFRICA
By: Chaipohn December 21, 2020 193158
สมัยนี้รถแรงทุกคนต้องมีการพ่นไฟทางท่อไอเสีย หรือที่ภาษาเทคนิคเรียกว่า Antilag system สำหรับรถเทอร์โบสมรรถนะสูง แต่ในอดีตมีการพ่นไฟที่ใหญ่โตกว่า Antilag ในปัจจุบัน อันที่จริงควรจะเรียกว่าเครื่องพ่นไฟติดในรถยนต์เลยจะดีกว่า เพราะหน้าที่ของมันมีไว้ยิงไฟใส่หัวขโมยที่ชุกยิ่งกว่ายุง
ในปี 1998 เป็นช่วงเวลาที่โจรขโมยรถยนต์ระบาดหนักใน South Africa เรียกว่าจอดไว้เป็นหาเรียบ ที่จริงไม่ใช่แค่โจรขโมยรถที่ชุกชุม เรียกว่าอาชญากรทุกรูปแบบเลยดีกว่า ในยุคนั้นศาลใน South Africa ถึงกับอนุญาตให้ป้องกันตัวด้วยการฆ่าคู่กรณีได้ถ้าจำเป็นต้องป้องกันตัว และเฉพาะในปี 1997 ก็มีตัวเลขรถถูกขโมยไปมากถึง 13,000 คัน ทั้งปล้นต่อหน้าหรือขณะจอดไว้ก็ตาม
เมื่อเจอปัญหานี้มาก ๆ เข้า ก็มีนักธุรกิจหัวใส “Mr. Charl Fourie” หาทางออกที่สะใจเจ้าของรถมาให้ ด้วยการเพิ่มชุดออพชั่นเสริมกันขโมย ไม่ใช่สัญญาณ แต่เป็นเครื่องพ่นไฟ “Blaster” ติดตั้งไว้บริเวณใต้ต้องรถทั้งสองด้าน มีหัวต่อท่อจากถังแก๊สที่เก็บไว้บริเวณท้ายรถ ยิงเปลวไฟสูงความสูงระดับหัวมนุษย์ได้พร้อมกันทั้งด้ายซ้ายและขวา ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกระดับความแรงและทิศทางของเปลวไฟได้ตามสภาพแวดล้อมที่ต้องการ
ไม่ต้องกลัวว่าเราจะกลายเป็นฆาตกรเสียเองจากเปลวไฟที่รุนแรงขนาดนี้ เพราะเจ้าของเค้าการันตีว่าความแรงของเปลวไฟไม่ทำให้ถึงตาย เพราะมันทำให้โจรตาบอดได้เท่านั้น และคงไม่มีโจรหน้าไหนยืนแช่เปลวไฟโดยไม่รีบวิ่งหนีออกมาแน่นอน
The Blaster ได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากในยุคนั้น ถ้าเทียบกับปัจจุบันก็ระดับ Start-Up ของ Seo Dal-Mi กับ Nam Do-San จาก Netflix กันเลยทีเดียว โดย Charl Fourie บอกว่ามี demand มากมายจากทั้งในและต่างประเทศ โดยลูกค้าคนแรกที่ติดตั้ง The Blaster ก็คือ “David Walkley” ตำรวจสายสืบใน Johannesburg นั่นเอง
ไม่มีข้อมูลว่า The Blaster เป็นยังไงในปีต่อมา แต่เท่าที่ดูก็ไม่น่าแปลกใจที่มันจะไม่ได้รับความนิยมมากในประเทศอื่น ๆ ทั่วไปที่ไม่โหดร้ายเท่า South Africa แต่ถ้ามันถูกนำกลับมาอีกครั้งในปีนี้ อาจจะเป็นไอเดียที่หลายคนสนใจ เพราะรอบตัวเรามีทั้งโจรและไวรัสมากมาย เหมาะมากที่จะใช้ The Blaster ยิงไฟให้ตัวสะอาดก่อนเข้าบ้าน