CARS

The Coolest PEUGEOT Cars: 5 โมเดลสร้างตำนานที่เก่าและเก๋าที่สุดในวงการยานยนต์

By: Chaipohn May 13, 2022

หากพูดถึงประเทศที่โดดเด่นด้านดีไซน์ การออกแบบ และงานศิลป์ คุณนึกถึงประเทศอะไร? 

แน่นอนว่าประเทศฝรั่งเศสต้องขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยจุดเริ่มต้นของงานอาร์ตจากภาพแกะสลักอันโด่งดังในถ้ำที่ Lascaux, France ซึ่งถือเป็นงานศิลป์ชิ้นแรก ๆ ในประวัติศาสตร์ที่มีมาตั้งแต่ 17,300 ปีที่แล้ว หรือสถาบัน Fine art แห่งแรกในโลกชื่อ Academie Royale de Peinture et de Sculpture ก็ก่อตั้งในฝรั่งเศสครั้งแรกในปี 1648

ไม่ว่าประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศสจะผ่านอะไรมาบ้างตลอดระยะเวลาถึงปัจจุบัน ศิลปะและดีไซน์จะเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมชิ้นสำคัญที่สอดแทรกอยู่ด้วยเสมอ และมันถูกถ่ายทอดอยู่ใน DNA ของวิถีชีวิต ในสถาปัตยกรรม ข้าวของเครื่องใช้ แฟชั่น ไลฟ์สไตล์ของผู้คน รวมไปถึงรถยนต์

Credit image : Peugeot Design Lab

รถยนต์ที่ผลิตในแต่ละประเทศจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป จุดเด่นของรถยนต์ PEUGEOT จากฝรั่งเศส นอกจากจะเป็นแบรนด์รถยนต์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกใบนี้ด้วยตำนานอันยิ่งใหญ่ยาวนานกว่า 212 ปี มีเทคโนโลยีและการผลิตรถยนต์ที่ล้ำหน้า ยังมีความโดดเด่นกว่าใครในด้านการออกแบบดีไซน์ที่สวยงาม มีเอกลักษณ์แตกต่างจากรถยนต์จากประเทศอื่น เป็นการดีไซน์ที่มีทั้ง Form จัดจ้าน แฝงไว้ด้วยอารมณ์ที่สะท้อนแนวคิด คอนเซ็ปต์ คาแรคเตอร์ของรถรุ่นนั้น ๆ จึงมักจะฉีกกรอบเดิม ๆ ในการพัฒนารถยนต์ให้สร้างสรรค์ รวมถึงยังมี Function ที่ล้ำยุคสมัยแฝงอยู่ในทุกรายละเอียด

ซึ่งเราเห็นได้ชัดจากดีไซน์ที่ตีความหมายจากสิงโตและอารมณ์ที่แตกต่างจากการใช้โลโก้ใหม่ของ PEUGEOT เป็นแนวคิดการซีไซน์ที่ยังไม่เคยเห็นแบรนด์ไหนให้ความสำคัญกับตัวตนไปสู่รายละเอียดในการออกแบบมากเท่านี้มาก่อน

ด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานถึง 212 ปี จึงเรียกได้ว่า PEUGEOT มีส่วนสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ของวงการ automotive ไม่ใช่แค่เพียงด้านวิศวกรรมการสร้างรถยนต์ แต่รวมถึงการออกแบบที่มักจะเป็นผู้นำด้านความคิดสร้างสรรค์ที่สวยงามและแตกต่างตั้งแต่ Generation แรก จนมาถึงโมเดลยุคปัจจุบัน ทั้ง 208, 308, 2008, 3008 ต่างเรียงแถวคว้ารางวัลดีไซน์เกือบทุกด้านจากหลายสถาบันไม่ว่าจะเป็น Red Dot Award หรือ Car Design Award

แม้แต่ในรุ่น 9X8 Hypercar หนึ่งเดียวในโลกแห่ง World Endurance Championship racing car ที่ฉีกกฎการออกแบบให้มี aerodynamic เพียงพอโดยไม่ต้องใช้ rare wing ด้านท้าย ก็ได้รับรางวัล “The most beautiful Hypercar of the year” ไปครอง ความยิ่งใหญ่ของทุกรางวัลที่ได้รับเปรียบเสมือนเวที Oscar ในโลกของรถยนต์ เป็นจุดเด่นที่สะท้อนวัฒนธรรมและความสามารถด้านการออกแบบของตระกูล PEUGEOT และงานศิลป์อันโดดเด่นที่ฝังอยู่ใน DNA ของชาวฝรั่งเศสมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน

จากตำนานกว่า 212 ปีของ PEUGEOT เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ การเดินทางตั้งแต่ปี 1810 สู่การเป็นผู้นำด้านรถยนต์ของยุโรปและของโลก รวมถึงยานยนต์ระดับ Iconic 5 คัน ที่มีความสำคัญระดับตำนานทั้งบนทางเรียบ ทางฝุ่น หรือแม้กระทั่งบนโลกแห่งความเร็วสูงสุดอย่าง Hypercar ที่ทั้งโลกยังให้การยอมรับ


SERPOLLET 1889

ความยิ่งใหญ่ของ PEUGEOT เริ่มต้นขึ้นในปี 1810 จากอุตสาหกรรมเหล็ก ที่นำไปผลิตสินค้าในชีวิตประจำวันออกมาหลากหลายชนิด โดยเฉพาะใบเลื่อยเหล็ก ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของโลโก้สิงโต PEUGEOT Lion emblem ในยุคแรกสุด โดยยุคนั้นดีไซน์เป็นรูปสิงโตเหยียบลูกศร เพื่อแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง ความรวดเร็ว และความยืดหยุ่นของสินค้า

จากนั้นจึงได้ขยายไปในหลากหลายธุรกิจ หนึ่งในนั้นก็คือจักรยานแบรนด์ Circa 1880 เป็นจักรยานสองล้อทรง High Wheel Bicycle คันแรก ผลงานการผลักดันของ Armand Peugeot ผู้มีศักดิ์เป็นหลานของ Jean-Pierre Peugeot ผู้ก่อตั้งอาณาจักร PEUGEOT

Mr. Armand Peugeot มีความหลงใหลในกลไกยานพาหนะเป็นอย่างมาก จึงค่อย ๆ พัฒนาจากจักรยาน สู่ยานพาหนะคันแรกของประวัติศาสตร์ PEUGEOT ในรูปแบบ Steam-powered 3-wheeler รถสามล้อพลังงานไอน้ำในปี 1889 ด้วยความร่วมมือของ Gottlieb Daimler และ Leon Serpollet

แต่ด้วยความยุ่งยากและเทอะทะของเครื่องจักรไอน้ำ เพียงแค่หนึ่งปี PEUGEOT ก็สามารถพัฒนาจากขุมพลังไอน้ำ ไปสู่ยานพาหนะสี่ล้อที่ใช้เทคโนโลยีเครื่องยนต์สันดาปภายใน พร้อมเพิ่มระบบร่วมสมัยอย่างช่วงล่างและเกียร์แบบแรกเริ่มเข้าไปในปี 1890

TYPE 2 1890

ความคลั่งไคล้ในรถยนต์ของ Armand Peugeot ทำให้ PEUGEOT สามารถพัฒนาเทคโนโลยีของโลกยานยนต์ได้แบบก้าวกระโดดนับตั้งแต่ปี 1890 เป็นต้นมา โดยมีการพัฒนาและผลิตรถยนต์ออกมามากมายหลายรุ่น และยังเป็นค่ายรถค่ายแรก ๆ ของโลกที่เข้าร่วมการแข่งขัน motor racing ซึ่ง PEUGEOT สามารถคว้าแชมป์การแข่งขันรถยนต์ครั้งแรกของโลกในรายการ “Paris-Rouen” ด้วยรถ PEUGEOT พละกำลัง 3 แรงม้า ควบคุมโดย Mr. Albert Lemaitre

หรือในปี 1895 รถยนต์ PEUGEOT Type 7 สามารถคว้าแชมป์กวาดรางวัลตั้งแต่ลำดับที่ 1-4 ของการแข่งขัน Paris-Bordeaux-Paris rally ซึ่งเป็นครั้งแรกของรถยนต์ที่มีการใช้ยาง Michelin หุ้มล้อ จนมีการนำไปใช้อย่างแพร่หลายในเวลาต่อมา

โลกของ PEUGEOT เดินหน้าไปอย่างรวดเร็วตั้งแต่เริ่มพัฒนาเครื่องยนต์ด้วยตัวเองได้ในปี 1896 ทำให้สามารถผลิตรถยนต์ที่มีแรงม้ามากขึ้นได้ และนำไปสู่การพัฒนาการวางตำแหน่งเครื่องยนต์ซึ่งช่วยกระจายน้ำหนักได้ดีขึ้น เป็นรถที่ประสบความสำเร็จกวาดยอดขายได้ถึง 1 ใน 3 ของประเทศฝรั่งเศส

TYPE 69 1904

เมื่อ Function ไปได้ดี รถยนต์ก็ควรมี Form ที่ดีด้วย ในปี 1901 PEUGEOT ได้ขึ้นเป็นผู้นำด้านการดีไซน์ที่สวยงามและโดดเด่นกว่าใครในยุคนั้น ด้วย PEUGEOT Type 69 และ Type BP1 ซึ่งมีชื่อเล่นว่า “Bebe” ลบภาพจำความอนุรักษ์นิยมของคนในยุคนั้น ว่ารถยนต์ต้องมีรูปทรงแบบนี้ มีสีแบบนั้นได้ทันที เป็นการจุดประกายให้โลกแห่ง Automotive หันมาใส่ใจในการออกแบบกันมากขึ้น

กว่า 212 ปีที่ผ่านมา รถยนต์ PEUGEOT ยังคงต่อยอดทุกความยิ่งใหญ่จากประเทศฝรั่งเศส ทั้งด้านดีไซน์ เทคโนโลยีที่ล้ำหน้า รวมถึงชัยชนะจากสนามแข่ง ผ่านรถยนต์โมเดลต่าง ๆ มากมายมาจนถึงปัจจุบัน ในจำนวนรุ่นรถยนต์ที่นับไม่ถ้วนของ PEUGEOT วันนี้เราได้เลือก 5 Iconic PEUGEOT Cars ที่มีความสำคัญในแต่ละด้านของประวัติศาสตร์ยานยนต์มาแนะนำ


หากใครเคยสงสัยว่ารหัสรุ่นของรถยนต์ PEUGEOT คืออะไรและมาจากไหน คำตอบมีอยู่ใน PEUGEOT 201

PEUGEOT 201 เปิดตัวในปี 1929 รถยนต์ที่มีรูปทรงร่วมสมัย ดีไซน์หรูหราภูมิฐาน เป็นรถยนต์ที่ยกระดับให้ PEUGEOT ก้าวไปอีกขั้นด้วยการผลิตแบบ mass production เป็นครั้งแรก จึงสามารถทำราคาขายได้ต่ำ ใช้ขุมพลัง 1122 cc 23 แรงม้า ก่อนจะเพิ่มความจุเป็น 1307 cc 35 แรงม้า และเป็นครั้งแรกที่มีการใช้ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ มันจึงเป็นรถยนต์ที่ขายดีจนสามารถช่วยให้ PEUGEOT ก้าวผ่านช่วงวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่ย่ำแย่มาได้อย่างสวยงาม

PEUGEOT 208

PEUGEOT 308

อีกจุดที่ทำให้รถรุ่นนี้มีความสำคัญ เพราะเป็นครั้งแรกของ PEUGEOT ที่เริ่มใช้รหัสโมเดลแบบ 3-Numbering system มีเลขศูนย์คั่นกลาง (central zero) โดยความหมายของเลขตัวหน้าสุด บ่งบอก segment หรือขนาดตัวถังของรถ ตามด้วยเลขตัวกลางซึ่งจะเป็นศูนย์เสมอ และเลขตัวสุดท้าย หมายถึง Generation ของรถยนต์รุ่นนั้น ๆ เช่น 201, 301, 401 เป็นต้น

จากนั้นในปี 2005 PEUGEOT เริ่มผลิตตัวถัง SUV ขึ้นมา จึงมีการปรับเปลี่ยนรหัสตัวเลขใหม่เป็น Double-zero Numbering system เพิ่มเลขศูนย์ตรงกลางสองตัว เช่น 1007

ต่อมาในปี 2012 ก็มีการปรับความหมายของระบบ Numbering system อีกครั้งกับรุ่นที่เป็น 3-Numbering system เพื่อรองรับการเปิดตัว PEUGEOT 301 ซึ่งเน้นทำตลาดเฉพาะในบางประเทศ โดยเลขตัวสุดท้ายจะมีเพียง “1” ซึ่งหมายถึงรุ่นราคาประหยัด และ “8” จะเป็นรุ่นสำหรับตลาดหรู เพื่อสร้างความชัดเจนในการทำตลาดแต่ละประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรุ่นลงท้ายด้วย 8 เกือบทั้งหมด รวมถึงในประเทศไทยด้วย


อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่าสายเลือดนักแข่ง Rally นั้น ถูกฝังอยู่ใน DNA ของ PEUGEOT มาตั้งแต่แรกเริ่ม ไม่ว่าจะทางเรียบหรือทางฝุ่น

ในประวัติศาสตร์ของวงการ Motorsport มีรถจาก PEUGEOT หลายรุ่นที่สร้างชื่อเสียง คว้าแชมป์อย่างสะใจจนทำให้รถ PEUGEOT หลายรุ่นขึ้นแท่นสู่การเป็น Cult car ที่มีภาพจำติดตายิ่งกว่าถ้วยรางวัล ไม่ว่าจะเป็น PEUGEOT 404 (1963-1968) เจ้าแห่ง East African Safari Rally หรือจะเป็น PEUGEOT 504 (1974-1978) ขุมพลัง V6 ที่คว้าแชมป์มาแล้วทั้ง Bandama Rally, Moroccan Rally, Safari Rally และ Rallye Cote d’Ivoire

1986 Rally Acrpole Kankkunen

แน่นอนว่า 404 และ 504 ล้วนเป็นรถแข่งที่ยอดเยี่ยม แต่สำหรับที่สุดของตำนานรถแข่ง Rally ที่สามารถสร้างความนิยมจนไปปรากฎตัวอยู่ในวัฒนธรรมนอกสนามแข่ง ทำให้คนทั่วไปได้รู้จักกับโลกของ Rally มากขึ้น ต้องยกให้ PEUGEOT 205 T16 รถแข่งที่ทั่วโลกต่างยกให้เป็นเจ้าแห่ง Group B การแข่งขันที่วัดขีดจำกัดด้านเทคโนโลยีของแต่ละค่ายได้ชัดเจนที่สุด เพราะเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตปรับแต่งรถได้อย่างอิสระเกือบจะไร้ข้อจำกัด แต่ต้องมีการผลิตออกวางขายจำนวนอย่างต่ำ 200 คัน ตามกฏ homologated road-going examples ซึ่ง 205 T16 ทั้งหมดก็กลายเป็นรถที่อยู่ในมือของนักสะสมตัวจริงพร้อมมูลค่าที่แข็งทวีคูณขึ้นทุกปี

ยกตัวอย่างจากการประมูลของ Hagerty ล่าสุด 1985 Peugeot 205 T16 Evo 2 Chassis no. VF3741R76E5200009 ประมูลจบไปที่ราคา $1,144,769 USD หรือราว 40 ล้านบาท 

เมื่อ Group B Rally อนุญาตให้จูนรถได้แรงตามต้องการ จึงเข้าทางวิศวกรของ PEUGEOT ในการสร้างรถแข่งที่เหนือกว่าใคร จนสามารถก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์แห่งถนน Rally ตัวจริงได้สำเร็จ

PEUGEOT 205 T16 Evolution 1 & Evolution 2 “The new king of the hill” เป็นรถที่นักสะสมทั่วโลกต่างฝันอยากจะมีไว้ในครอบครอง มันถูกสร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์เดียวคือ การขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งของโลก World Rally Championship title ซึ่งมันก็คว้าชัยชนะได้ถึง 16 WRC victories ด้วยขุมพลัง 350-450 แรงม้า จากเครื่องยนต์ความจุเพียง 1775 cc ที่ถูกย้ายตำแหน่งไปวางด้านหลัง กลายเป็นรถแข่ง rear-mid engine four-wheel-drive

ในยุคนั้นไม่ว่าจะเป็น Audi Quattro หรือ Lancia 037 ก็ไม่สามารถต่อกรกับ PEUGEOT 205 T16 ในสนามแข่งได้ตลอดปี 1985 และ 1986 ก่อนที่การแข่งขัน Group B จะถูกยกเลิกไปในปีนั้นเนื่องจากอุบัติเหตุของรถ lancia ที่คร่าชีวิตทั้งคนขับและ co-driver

หลัง Group B Rally ยุติลง ทีม PEUGEOT จึงหันไปใช้ความรู้ที่พัฒนา 205 T16 ไปโฟกัสในการแข่งขันที่โหดไม่แพ้กัน นั่นก็คือ Paris-Dakar Rally และสร้างตำนานบทใหม่ให้ถือกำเนิดขึ้นอีกครั้ง


Dakar Rally ถือเป็นรายการแข่งขันกลางทะเลทรายที่โหดที่สุดในโลก ด้วยระยะเวลาการแข่งขันยาวนานถึง 15 วัน รวมระยะทางกว่า 15,000 กิโลเมตร รถที่จะเข้าแข่งขันได้จึงต้องมีทั้งความเร็วและความแข็งแกร่งถึงจะมีโอกาสลุ้นคว้าแชมป์ได้

ในอดีต PEUGEOT เคยครองแชมป์รายการสุดโหดนี้ด้วยรถ 205 T16 ในปี 1987-1988 และ 405 T16 ในปี 1989-1990 ก่อนจะหยุดเพื่อหันไปโฟกัสรายการ World Sportscar Championship จึงห่างหายไปจากรายการนี้ ก่อนจะกลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ในรอบ 25 ปีด้วย PEUGEOT 2008 DKR รถที่สร้างขึ้นเพื่อลงแข่งขัน Dakar Rally โดยเฉพาะ ขุมพลัง 340 แรงม้า แรงบิด 800 นิวตันเมตร สามารถกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ได้ทันทีด้วยการคว้าแชมป์อันดับที่ 1 ใน Dakar Rally 2016 ได้อย่างสวยงาม

PEUGEOT ยังไม่หยุดความสำเร็จไว้แค่นั้น ในปี 2017 ก็ได้สร้างสถิติที่พิเศษยิ่งกว่า ด้วยรถแข่งคันใหม่ PEUGEOT 3008 DKR ขุมพลัง 3.0-liter V6 Diesel Turbocharged วางหลังเพื่อขับเคลื่อนล้อหลังโดยเฉพาะ แทนที่จะใช้ระบบขับเคลื่อนสีล้อเหมือนค่ายอื่น สามารถคว้าแชมป์ 2017 Dakar Rally แบบยึดเหมาโพเดี่ยมได้ทั้งลำดับที่ 1 – 2 – 3 ตอกย้ำความเป็นผู้นำแห่งทาง Rally ได้อย่างยิ่งใหญ่


ไม่ใช่แค่ทางบ้านและทางฝุ่น แต่บนสนามแข่งทางเรียบสำหรับที่สุดของโลกแห่งความเร็วและความอึดอย่าง 24 Hours of Le mans endurance race ก็ยังเป็น PEUGEOT ที่เคยสร้างตำนานเอาไว้ในฐานะแชมป์ปี 1992, 1993 ใน PEUGEOT 905 และแชมป์ปี 2009 ใน PEUGEOT 908 โดยมี 9X8 เป็นตัวแทน Hypercar คันล่าสุดที่จะมาสืบทอดตำนานบทใหม่ที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีที่ดีที่สุดจาก PEUGEOT

PEUGEOT 9X8 Hypercar ขุมพลัง 2.6-liter twin-turbo V6 เครื่องวางหลัง ให้พละกำลังมากถึง 670 แรงม้าขับเคลื่อนล้อหลัง พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังเพิ่มอีก 268 แรงม้าสำหรับขับเคลื่อนล้อหน้า

แต่สิ่งที่ล้ำหน้าจนกลายเป็นประเด็นที่ดึงดูดทุกความสนใจในวงการ Motorsport ทั่วโลก คือดีไซน์รอบคันที่ไม่ใช่แค่เท่และดุดัน แต่ยังแฝงไว้ด้วยฟีเจอร์ที่ล้ำหน้า จากการออกแบบช่องดักอากาศที่ชาญฉลาดสำหรับจัดการกับ aerodynamic ที่ช่วยสร้าง Maximum downforce, Minimum drag ให้ตัวรถได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ rear wing ขนาดใหญ่ด้านหลัง ซึ่งถือเป็นความกล้าและมั่นใจในทีมออกแบบและสมรรถนะของ Hypercar จาก PEUGEOT ที่ไม่เคยมีค่ายไหนทำมาก่อนแม้แต่ Toyota GR010 Hybrid หรือ Aston Martin Valkyrie Hypercar คู่แข่งเองก็ตาม

น่าเสียดายที่พวกเราอาจไม่ทันได้เห็น PEUGEOT 9X8 ในรายการแข่งขันใหญ่อย่าง Le Mans เพราะทาง PEUGEOT Sport ต้องการเก็บรายละเอียดและ data เพื่อนำไปปรับแต่งรถให้ได้คุณภาพและประสิทธิภาพสูงสุดก่อนลงแข่งขัน ซึ่งอย่างเร็วที่สุดพวกเราน่าจะได้เห็น PEUGEOT 9X8 คันจริงลงแข่งขันครั้งแรกคือรายการ 6 Hours of Monza ช่วงเดือน July ที่จะถึงนี้

“Like with our road-going cars when we have to choose between meeting a deadline or focusing on quality, we always prioritise quality.”

– Peugeot technical director, Olivier Jansonnie


ทุกความยิ่งใหญ่ ทุกความล้ำหน้า ทุกการดีไซน์ที่โดดเด่น และชัยชนะในทุกประเภทสนามแข่งจากประวัติศาสตร์ 212 ปีของแบรนด์รถยนต์ที่ยืนยาวที่สุดในโลก ได้ถูกพัฒนาและส่งต่อมาถึงรถยนต์ PEUGEOT generation ล่าสุด

สำหรับสาวก PEUGEOT หรือผู้สนใจที่ต้องการสัมผัสกับประวัติศาสตร์หน้าใหม่ สามารถครอบครองและจับต้องได้ง่ายขึ้นกับรุ่นเริ่มต้นอย่าง NEW PEUGEOT 2008 ที่มี DNA ของตำนานจากฝรั่งเศสในทุกด้าน ดีไซน์การออกแบบทั้งภายนอกและภายในที่โฉบเฉี่ยวโดดเด่นกว่าใครบนท้องถนน การันตีด้วยรางวัล Red Dot design award 2020 in the ‘Product Design’ category ซึ่งกรรมการต่างประทับใจในดีไซน์ไฟหน้าและหลังแบบ “Lion’s claw” vertical LED ที่สร้างนิยามการออกแบบใหม่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน รวมถึงการออกแบบภายในที่สวยงาม ตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูง เพื่อประสบการณ์การขับขี่อันสง่างามบนท้องถนนอย่างแท้จริง

เทคโนโลยีเครื่องยนต์ 1.2-liter turbo ให้สมรรถนะสูงถึง 130 แรงม้า แรงบิด 230 นิวตันเมตร ตอบสนองรวดเร็ว ความคล่องตัวที่มาพร้อมความประหยัดน้ำมัน พร้อมฟรีโปรแกรมบำรุงรักษา PEUGEOT Value Care สูงสุด 3 ปีหรือ 60,000 กม คุณภาพและความปลอดภัยระดับรถยุโรปที่เป็นเจ้าของได้ง่าย ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.249 ล้านบาท

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมของ NEW PEUGEOT 2008 ได้ที่ https://bit.ly/2ZFAARg

ชมและทดลองขับรถยนต์เปอโยต์ทั้ง 3 รุ่นได้ที่ผู้จำหน่ายฯ รถยนต์เปอโยต์อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ https://bit.ly/3ftMRfV

 

Chaipohn
WRITER: Chaipohn
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line