ยิ่งดัง ยิ่งโดน!! “Rock Stars” กับเรื่องฉาวจากการใช้ชีวิตสไตล์ชาวร็อค

เบื้องหลังของเสียงดนตรีที่ดุเดือดของบรรดา Rock Stars ระดับโลกที่ใช้ชีวิตแบบสุดขั้ว มีข้อมูลมากมายทั้งจากบทสัมภาษณ์ของนิตยสารชื่อดังในต่างประเทศ และบนอินเตอร์เน็ตที่บอกเล่า และถ่ายทอดการกระทำ และคำพูดของเหล่าบรรดา Rock Stars ขาใหญ่ของวงการดนตรี Rock ซึ่งในบางครั้งมันก็เต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง คำพูด และการกระทำที่ก้าวร้าว รวมไปถึงใช้ชีวิตแบบสุดโต่ง ไม่สนใจอะไรใครทั้งนั้น บางคนอาจจะมองว่า การกระทำของเหล่า Rock Stars ทั้งหลายเหล่านี้ อาจจะเป็นแค่การแสดง และ Present ตัวเองให้มีความโดดเด่น และเข้ากับสโลแกน Sex, Drug, Rock n’ Roll เพื่อให้แฟนๆ ได้รับรู้ว่า พวกเค้านี่แหละ ชาว Rock ตัวจริง

แต่การทำตัวซ่าของบรรดาเหล่า Rock Stars ระดับโลกนี้ สำหรับแฟนตัวจริงของพวกเค้าอาจจะมองว่า ก็เพราะเค้าเป็น Rock Stars เค้าจึงไม่ผิดที่จะแสดงออกแบบนี้ แต่กับการกระทำบางอย่างที่ไม่ว่าจะเป็นเพียงการแสดง หรือจะเป็นการกระทำของที่มาจากตัวตนของเค้าเองจริงๆ ก็อาจจะทำให้ ชื่อเสียงของ Rock Stars รายนั้น กลับกลายเป็นเพียง “ตำนาน” ได้เช่นกัน ยกตัวอย่าง Fred Durst นักร้องนำวง Limp Blizkit ที่ใครๆ ต่างก็รู้ถึงความดุร้ายของฝีปาก และความกร่างเก๋าของพี่เค้าไม่เป็นรองจาก Skill ในการ Rap และลีลาบนเวทีเลยแม้แต่น้อย แต่สุดท้ายตัวเค้าเองก็ต้องถึงคราวขาลง ด้วยการกระทำหลายๆ อย่างที่หลายๆ คนเอือมระอาสุดๆ ไม่เว้นแม้แต่แฟนเพลงของตัวเค้าเองก็ตาม วันนี้เราจึงได้นำเอา Rock Stars ที่ครั้งนึงถึงเคยพงาดง้ำค้ำวงการ Rock&Roll แต่กำลังจะกลับกลายเป็น Rock ไม่ออก ด้วยการใช้ชีวิตแบบ Rock Stars ของพวกเค้าเองมาให้ได้ดูกัน

Johnny Rotten

เมื่อนักร้องนำวง Punk ขนานแท้ตัวจริงเสียงจริง The Sex Pistols ก็คือ Johnny Rotten ได้พยายามที่จะขอแบ่งเวลาจากการสัมภาษณ์จากใครสักคนนึง เพื่อที่เค้าจะได้รับโอกาสในการออกโทรทัศน์อีกครั้งนึงอย่าง มันช่างเป็นเรื่องน่าละอายที่คนที่มีความเป็น Rock Star สูงปรี๊ดอย่างเค้าไม่น่าจะทำได้ลง ถ้าการกระพริบตาของมนุษย์ไม่ได้เป็นการกระทำที่ทำโดยอัตโนมัติแล้วล่ะก็ รับรองได้ว่าตาคุณจะต้องค้างอยู่พักใหญ่ๆ เมื่อได้เห็น และได้ยินสิ่งที่พูดออกมาจากปาก คนที่พร้อมด่ากราดทุกคนอย่าง Johnny Rotten สิ่งที่ผิดปกติไปอย่างเห็นได้ชัดเจน ก็คือเค้าพยายามที่ทำตัวเป็นคนที่น่ารัก ถึงแม้ว่าจะมีการสัมภาษณ์เรื่องต่างๆ ซึ่งถ้าเป็นในอดีตเค้าก็คงจะเลี่ยงที่จะตอบคำถามแบบดิบๆ กลับไปว่า “Fuck Off” และตามมาด้วยคอมโบคำหยาบอีกนับไม่ถ้วน

แต่ในทุกวันนี้ “Johnny Rotten” กลับทำหน้าตาใสซื่อ และมีเพียงแค่รอยยิ้ม กับเสียงหัวเราะเป็นการตอบโต้เท่านั้น เหมือนเป็นการปิดตำนาน  “Johnny Rotten” จอมแจกฟักให้กับนักข่าว และสื่อแบบไม่น่าเชื่อ สุดท้ายที่แย่ที่สุดก็คือ เค้าได้ไปปรากฏตัวในรายการที่มีชื่อว่า “ฉันเป็นเคยเป็นคนดัง!! พาฉันไปออกทีวีหน่อย” รายการทีวีที่ดูยังไงก็ไม่ร็อคในประเทศอังกฤษซะงั้น!?

Lenny Kravitz

สื่อเมืองนอกต่างพากันพูดถึงเบื้องหลังความสำเร็จของ Lenny Kravitz ที่ครั้งนึงเคย Rock สะเด่า แต่ในตอนนี้กลับมานั่งเกากีต้าร์เหมือนเกาแมวว่า “ภายใต้ฉากบังหน้าที่เค้าได้เคยสร้างไว้กับผลงานในอดีต ที่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เค้าเคยทำไว้นั้นคือ Rock Stars ตัวจริง และในตอนนั้นเค้าโคตรจะ Rock เลย!!“ แต่ด้วยพื้นฐานของ Lenny Kravitz ที่มีแม่เป็นนักแสดง และผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ จึงทำให้มีคำพูดต่างๆ นานา เกี่ยวกับความไม่โปร่งใสในความดังของเค้า “ไหนคือความ Rock ที่อยู่ในตัวเค้า มันหายไปเฉยๆ ได้ยังไงกัน? ทั้งชื่อเพลงในอัลบั้มก่อนๆ ดนตรี Rock n’ Roll ยุค70 มันหายไปหมด กลับกลายเป็นแค่การพยายามร้องเสียงใสๆ เหมือน Jimi hendrix ผสมๆ กับ Bob Marley”

ช่วงหลังมานี้ Leny Kravitz กลายเป็น Rock Stars ที่ทำให้คนมากมายต้องผิดหวังจากบทเพลงที่ทำออกมาเหมือนกันตลอดในระยะเวลา 15 ปี แถมไม่มีความเป็น Rock เอาซะเลย ที่สุดแล้วเค้ายังหันหน้าเข้าสูงการวงการภาพยนตร์อีกด้วย ทำเอาแฟนๆ ชาว Rock ร้องกันระงมว่า นี่หรือ Rock Stars ที่ครั้งนึงเคยกระหน่ำความมันส์แบบแสบสันบนเวที?

ถึงแม้คนจะคิดว่า Lenny Kravitz เห็นเงินสำคัญกว่าสิ่งอื่น จนยอมกลืนน้ำลายขายความ Rock คืนให้กับซาตานไปแล้วก็ตาม ชีวิตของ Lenny Kravitz ดูเหมือนจะดีขึ้นในแบบที่เค้าต้องการ มีนักวิจารณ์คนนึงบอกเอาไว้ว่า “ยังไง Lenny ก็ได้แผ่นเสียงทองคำทุก 2 หรือ 3 ปีอยู่แล้ว เพราะว่า นั่นก็เพราะความดังในแบบดาราติ๋มๆ ของเค้า ไม่ใช่ Rock Star ตอนนี้เค้าเป็นแค่คนธรรมไปแล้ว เค้าแค่แต่งตัวเหมือน แต่ก็ไม่ใช่ Rock Stars เค้าคือคนธรรมดาๆ และเค้าคือไอ้ก้อนอึแค่นั้นแหละ!!” นี่คือฝันร้ายสำหรับ Lenny Kravitz แน่นอน ถ้าหากเค้าได้เห็นคำพูดจากนักวิจารณ์เหล่านี้

Liam Gallagher

ภาพลักษณ์ของนักร้องนำวง Oasis วง Rock ที่มีความยิ่งใหญ่ไม่เป็นรองใครจากเกาะอังกฤษคนนี้ โดยเฉพาะในสายตาชาวอเมริกันแล้ว Liam Gallagher เป็นเหมือนจุดบอดของวง และเป็นคนที่คอยทำให้ชื่อเสียงของวง Oasis และพี่ชายของเค้า Noel Gallagher ต้องตกอยู่ในปัญหามานับครั้งไม่ถ้วน ในขณะที่พี่ชายเขียนเพลงฮิตออกมามากมายจนวง Oasis และตัวเค้าเองดังกึกก้องไปทั่วโลก แต่ Liam Gallagher ยังคงเป็นทำตัวเป็นแค่น้องคนเล็กเอาแต่ใจ ที่เอาแต่เมามาย พูดจาหยาบคาย ด่ากราดนักดนตรีคนอื่นๆ และทำตัวหยิ่งผยองไปวันๆ

คงไม่มีใครลืมคำพูดที่เค้าเรียก George Harrison ว่า “ไอ้หัวนม” หรือการด่า Robbie William ว่า “ไอ้อ้วนต_แหล” แถมยังด่าแฟนเพลงของวงอื่นๆ อย่าง Coldplay กับ Radiohead ว่า “แฟนเพลงของ 2 วงนี่น่าเบื่อ แล้วก็ดูน่าเกลียด  ไม่เห็นหน้าตามันจะมีความสุขเวลามันฟังเพลงของพวกวงที่พวกมันชอบ” การกระทำเหล่านี้มันดูออกจะไม่ให้เกียรติเลยเถิดเกินกว่าที่จะเป็นการกระทำของ Rock Stars มากไปหน่อย

Izzy Stradlin

ในระหว่างเที่ยวบินจาก Indianapolis ไป Los Angeles ในปี 1989 Izzy Stradlin มือกีต้าร์ของวง Rock ชื่อดังอย่าง เกิดอยากลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำขึ้นมา แต่เนื่องจากห้องน้ำดันมีผู้โดยสารคนอื่นเข้าใช้บริการอยู่ ทำให้ Izzy Stradlin เกิดอาการฉุนขาด โดยเค้าหลังจากนั้นเค้าก็ได้ตะโกนขึ้นมาว่า “เห้ยยย! จะไม่รออีกต่อไปแล้วนะเว้ย!!” จากนั้นตามรายงานของ FBI ได้บอกว่า Izzy Stradlin ก็ทำการรูดซิบกางเกงออกแล้ว จัดการกระหน่ำปัสวะหน้าตาเฉย ทำให้ผู้โดยสาร และแอร์โฮสเตส ต่างตกตะลึงในความ Rock n’ Roll ของเค้าอยู่พักใหญ่ ผลสุดท้าย Izzy Stradlin ก็โดนจับกุมจากการกระทำที่สุดเหวี่ยงของเค้า สุดท้ายเค้าก็ต้องเขียนจดหมายขอโทษลูกเรือ และก็ทาง USAir

Marilyn Manson

ทนายความของ Marilyn Manson เคยออกมาพูดว่า “มันเป็นสิ่งที่แย่มากๆ ที่ Marilyn Manson เอาขยะไปขยี้ใส่หัวของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ Clarkston, Michigan โดยคำให้การของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรายนี้ได้บอกกับตำรวจว่า เค้าพยายามที่จะหลบหนีแล้ว แต่ Marilyn Manson ยังคงพยามที่จะจับสะโพก คอ ศีรษะ และต้นขาเค้าไว้อีกด้วย นั่นหมายถึงว่า Marilyn Manson ยังพยายามที่จะลวนลามเค้าด้วยงั้นหรือ? แต่ผลการตัดสินของศาลกลับบอกว่า Marilyn Manson ไม่ได้เป็นผู้กระทำผิดในฐานะ ลวนลามทางเพศ​ พยายามข่มขื่น และทำร้ายร่างกาย พอเค้าหลุดพ้นข้อหามาอย่างงงๆ เค้าก็ออกมาพูดอย่างน่าหมั่นไส้ว่า “มันเป็นชัยชนะ ของศิลปะ” แบบไม่รู้สึกว่าตัวเองได้ทำเรื่องอะไรที่ไม่เหมาะสมลงไปแม้แต่น้อย และเค้าก็ยังคงทำตัวแปลกๆ จนเกิดเรื่องราวมาเรื่อยๆ ไม่หยุดหย่อน จนหลายๆ คน มองเค้ากลายเป็น Rock Stars เจ้าปัญหาไปแล้ว

Steven Tyler

ทั้งหมดนี้คือความคิดเห็นที่ผู้คนส่วนใหญ่มีต่อ Steven Tyler ไม่ใช่ต่อวง Aerosmith แต่อย่างใด แน่นอนว่าทุกคุณต่างรู้ดีว่า Steven Tyler คือนักร้องนำวง Aerosmith แต่นอกจากการที่เค้าปากกว้าง ทำตัวเป็น Rock Stars บ้ากามที่ชอบจิกกัดชาวบ้าน กับเสียงเล็กแหลมแสบคอหอยในสไตล์ Classic Rock ความเจ๋งของพวกในอัลบั้มแรกซึ่งดูจะเป็นอัลบั้มที่เข้าท่าที่สุดต่อจากยุคของวงอย่าง The Who และ Led Zeppelin กลับค่อยหายไป สวนทางกับ Steven Tyler ที่ยังคงทำตัวเป็น Rock Star รุ่นใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ มาตลอดเวลา ทั้งๆ ที่รู้หรือไม่ว่า? เพลงฮิตของเค้านั้น เค้าไม่ได้ผู้เขียนเอง แต่กลับให้นักแต่งเพลงป๊อปเขียนขึ้นมาให้ ยกตัวอย่างในเพลงฮิตเช่น “Crazy” เองก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย อย่างที่เรารู้กันว่านักวิจารณ์ของต่างประเทศ เวลาที่เค้าจะเลือกวิจารย์ใครขึ้นมาแล้วล่ะก็ มักจะรุนแรง และตรงแทงใจดำกันแบบไม่ไว้หน้าแม้แต่นิดเดียว คำวิจารณ์เกี่ยกับ Steven Tyler เองก็อยู่อันนีงที่เจ็บแสบสุดๆ โดยพวกเค้าวิจารณ์ว่า “เค้าไม่ได้อยู่ในวงการเพลงในฐานะที่เค้าเป็นศิลปินแต่ที่เค้าอยู่ก็เพราะ 2 สิ่งเท่านั้นที่เค้าต้องการ คือ ‘Monney & Pussy’ เท่านั้นเอง”

จะว่าไปแล้วเกิดเป็นนักดนตรีร็อคนี่ก็ดูท่าทางจะลำบากไม่น้อย เพราะไม่ว่าจะทำอะไรก็เป็นเรื่องเป็นราวไปซะหมด พูดอะไรที่มันมาจากไปใจ หรือตรงเกินไปหน่อยก็กลายเป็นกระแส พาลทำเอาคนเกลียดได้ง่ายๆ แต่นั่นก็ต้องอยู่ในขอบเขตทีสำควรเช่นกัน เพราะถ้าจะให้ไปซี้ซั้วด่าคนอื่นก็สมควรจะโดนคนทั่วไปเค้าแอนตี้กันก็ถูกต้องแล้วล่ะ แต่เชื่อว่ายังไงซะ ถึงแม้ว่าการใช้ชีวิตสุดห่ามของ Rock Stars เหล่านี้จะมีปัญหามากขนาดไหน การที่พวกเค้ามีทุกวันนี้ได้ก็คงต้องมีดีอะไรในตัวอยู่ไม่น้อยเช่นเดียวกัน บางทีเราเองก็น่าจะหาจุดดีๆ ที่ซ่อนอยู่ในตัวพวกเค้ามาพูดถึงกันบ้างในวันหลัง คงจะรู้สึกเป็นอะไรที่แปลกใหม่ดีไม่น้อยเช่นกัน

Source : Rollingstone, Something awful