ปอนด์ต่อปอนด์ TOYOTA SUPRA VS BMW Z4 ROADSTER 2 คันเปิดตัวพร้อมขุมพลังที่เหมือนกัน

ถือเป็นปีแห่งการแข่งขันสำหรับตลาดของรถสปอร์ต โดยเฉพาะสองค่ายยักษ์ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น BMW ที่ปล่อย Z4 (G29) และ Toyota ที่ตัดสินใจหวนกลับมาผลิตตำนานที่เป็น Iconic ของค่ายอย่าง Supra (5^th GEN) ออกมาอีกครั้ง ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจก็คือทั้งสองรุ่นนี้ถูกผลิตขึ้นจากโรงงานเดียวกัน พร้อมข่าวลือสะพัดว่ามีการแชร์แพลตฟอร์มในการสร้างร่วมกันด้วย เพื่อคลายความสงสัยวันนี้เราจะมาเปรียบเทียบให้ชมกันว่าทั้งคู่นั้นมีจุดเหมือนและแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน

Motoring

BMW Z4 (G29) และ TOYOTA Supra (5^th Gen) เปิดตัวออกมาในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน แต่ขณะเดียวกันทั้งสองก็มีความเหมือนก็คือการถูกย้ายฐานการผลิตออกจากบ้านเกิดตัวเอง ด้าน Z4 ไม่ได้ถูกผลิตขึ้นจากโรงงาน BMW ใน Dingolfing ประเทศเยอรมนี ส่วนทาง TOYOTA Supra (5^th Gen) เองก็เป็นครั้งแรกที่สละแนวทางของความเป็นรถ Japan Domestic Market (JDM) ด้วยการย้ายฐานการผลิตจากโรงงาน Motomachi ใน Toyota City (ผลิต 4^th Gen) ที่ควรใช้ผลิต Supra มาเข้าสายพานโรงงานเดียวกับ Z4 คือโรงงาน Magna Stery ในเมือง Graz ประเทศออสเตรีย พร้อมข่าวลือด้านความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ซึ่งอาจทำให้แฟน ๆ ของ The Supra แตกออกเป็นสองเสียง คือถ้าไม่หลงรัก ก็สิ้นศรัทธากันไปเลย

Motor 1

เริ่มกันที่ BMW Z4 (G29) มาพร้อมรูปลักษณ์ภายนอกที่ปราดเปรียวมากขึ้นกว่าเดิม ด้วยความยาว 4,324 มิลลิเมตร กว้าง 2,470 มิลลิเมตร พร้อมหลังคา Soft Top และช่องลมที่สนับสนุนการทำงานของระบบ Aerodynamic ด้านขุมกำลัง Z4 ได้เครื่องยนต์ตัวท็อปอย่าง M40i 6 สูบ ให้กำลัง 382 แรงม้าทำงานควบคู่กับชุดเกียร์ 8 Speed ทำให้มีอัตราการเร่ง 0-100 ใช้เวลาเพียง 4.4 วินาที สูงสุดที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง เรียกได้ว่ามีการพัฒนาเพิ่มขึ้นจาก Z4 (E89) ซึ่งเข้าใจได้ เนื่องจากไม่ได้ทิ้งช่วงการพัฒนายาวนานนัก

Cnet

ด้าน Toyota Supra (5^th Gen) ที่กลับมาอีกครั้งหลังจากหมดยุคของ Supra (A80) ในปี 2002 โดยมาพร้อมรูปลักษณ์ภายนอกคล้ายกับ Toyota FT-1 Concept Car กับขนาดที่คล่องตัวมากขึ้นด้วยความยาวตั้งแต่หัวจรดเท้าเพียง 4,380 มิลลิเมตร กว้าง 1,864 มิลลิเมตร พร้อมการแบ่งน้ำหนักแบบ 50-50 ซึ่งจะช่วยเสริมการเข้าโค้งอย่างนุ่มนวล

ส่วนในด้านของขุมกำลังที่หลายคนเฝ้ารอลุ้นว่าความแรงแบบไหนจะมาพร้อมกับ The New Supra เราก็ไม่รู้ว่าแฟน ๆ จะรู้สึกอย่างไรกับความแรงนี้ เมื่อเครื่องยนต์ Iconic ประจำตัวอย่างเครื่อง 2JZ ถูกถอดไปแล้วแทนที่ด้วยเครื่องยนต์จากค่าย BMW กับเครื่องยนต์ I6 ­ขนาด 3.0 ลิตรทำงานควบคู่กับ Twin-scroll Turbocharger ให้กำลัง 335 แรงม้า สั่งการชุดเกียร์ 8-Speed Sports Automatic Transmission ซึ่งช่วยสร้างอัตราการเร่ง 0-100 ใน 4.3 วินาที แม้จะเป็นลูกผสมเครื่องยนต์แต่แว่วข่าวมาว่าระบบการควบคุมรถเขาโกยแต้มได้ยอดเยี่ยมทีเดียวในสนามทดสอบ

จะเห็นได้ว่า Roadster จากโรงงาน Magna Stery ทั้งสองคัน มีสเปคที่ใกล้เคียงกันมาก ซึ่งสำหรับหนุ่มที่เป็นแฟน ๆ ของ Z4 คงจะได้เห็นโหมดพัฒนาที่สมบูรณ์มากขึ้นแม้ว่าไม่ต่างจากเดิมมากก็ตาม ขณะที่แฟน ๆ ของ The Supra ที่ถึงแม้สมรรถนะวันนี้จะพัฒนาขึ้นจากเดิมมาก อาจเจอกระแสตอบรับสวนทางจากกลุ่มแฟนเดนตายที่รอคอยมนต์เสน่ห์ดั้งเดิมของความเป็นรถ JDM พร้อมเครื่อง 2JZ ซึ่งทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในรถในตำนานจากฝั่งโลกตะวันออก เนื่องจากรู้สึกผิดหวังกับขุมพลังใหม่ที่ได้รับการดูแลจากค่ายอื่น

อย่างไรก็ตามเรายังไม่รู้ว่าทั้ง BMW Z4 (G29) และ TOYOTA Supra (5^th Gen) จะโชว์สมรรถนะของตัวเองบนท้องถนนได้โหดสมชื่อแค่ไหน วัดการตัดสินจากสเปคก็อาจเป็นเรื่องที่เร็วเกินไป เพราะรถทุกคันจะเริ่มต้นสร้างตำนานของตัวเองได้ก็ต่อเมื่อมีคนขับอยู่หลังพวงมาลัยและเล่าความเจ๋งของรถแบบปากต่อปาก เราคงต้องมารอชมกันว่ารถคันไหนจะได้รับความนิยมและถูกพูดถึงมากกว่ากันหลังจากที่นำออกมาวางขาย

SOURCE 1  SOURCE 2  SOURCE 3