DESIGN

TOYS FOR BOYS : การกลับมาของตำนาน ‘โชกุน’ เกราะแห่งจอมทัพที่น้ำหนักเบาที่สุดจาก SEIKO

By: NTman January 28, 2021

หากให้หยิบยกเอาเรื่องของนาฬิกาดำน้ำรุ่นเด่นจาก SEIKO มาพูดคุยกัน เชื่อเหลือเกินว่าบรรดาสาวกทั้งหลายคงใช้สมญานามหรือชื่อเล่นแทนตัวของแต่ละรุ่น ไม่ว่าจะเป็น เต่า, มอนสเตอร์, ซูโม่, ซามูไร ไปจนถึงระดับจอมทัพอย่าง ‘โชกุน (Shogun)’ มาสนทนากันอย่างออกรส ชนิดที่ว่าคนวงนอกฟังแล้วอาจมีอาการงง พาลฟันธงไปว่ากำลังคุยเรื่องมังงะกันอยู่เป็นแน่แท้

IMAGE – https://www.seiko-design.com/

ซึ่งต้องบอกว่าพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้คุยกันเรื่องการ์ตูน หรือหนังแฟนตาซีอะไรอย่างที่เข้าใจกัน แต่ต้องอธิบายว่าชื่อเล่นมากมายที่ถูกใช้ในการขนานนามนาฬิกาเรือนโปรด นั้นถูกนำมาจากจุดเด่นของรูปลักษณ์งานดีไซน์ในแต่ละรุ่น

ยกตัวอย่างเช่น SEIKO โชกุน คือชื่อเล่นที่ถือกำเนิดขึ้นมาพร้อมกับ SEIKO PROSPEX รุ่น SBDC007 ที่โดดเด่นด้วยภาพลักษณ์ความแข็งแกร่งของโลหะที่ใช้ ซึ่งก็คือวัสดุไทเทเนียมที่มีน้ำหนักเบาและมีความทนทานสูง เปรียบได้กับชุดเกราะที่โชกุน หรือเจ้าของตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดในสมัยก่อนสวมใส่ในยามออกรบ

In contrast to its heavy appearance, the Shogun (SBDC007) weighs only 113 g, about as much as two medium-sized eggs.

และไม่ใช่เพียงแค่วัสดุที่ทำให้ได้มาซึ่งสมญานามโชกุน แต่งานดีไซน์ในส่วนต่าง ๆ ยังสะท้อนจิตวิญญาณชุดเกราะของจอมทัพออกมาอย่างได้ชัดเจน ทั้งในส่วนของ Pointed Markers บนขอบหน้าปัดที่ดูแข็งแกร่ง และ Triangular Notches ที่ออกแบบเพื่อให้หมุนขอบตัวเรือนได้อย่างกระชับ มั่นคง แม่นยำ ตอกย้ำให้ผู้ที่ได้สวมใส่นาฬิกาเรือนนี้รู้สึกได้ว่าความแกร่ง ผสานกับความประณีต รวมถึงน้ำหนักที่เบาของวัสดุไทเทเนียม นั้นควรค่าที่จะเป็นชุดเกราะคู่ใจของโชกุนผู้เกรียงไกร จนกลายเป็นที่มาของชื่อ ‘โชกุน’ นาฬิกาดำน้ำที่เบาที่สุดจาก SEIKO ที่หลายคนยกให้เป็นตำนาน

โดยเหตุผลที่ได้กลายเป็นตำนานนั้น เหตุเพราะว่าที่ผ่านมา SEIKO โชกุน นั้นแทบไม่มีความเคลื่อนไหวในการออกโมเดลใหม่ใด ๆ ออกมาเลย หากไม่นับรุ่น ‘โชกุน จิมเบ’ ที่ออกวางจำหน่ายเฉพาะในประเทศไทย เชื่อว่าสาวกส่วนใหญ่คงแอบมีคำถามในใจว่า โชกุน หยุดทำตลาดไปแล้วหรือเปล่า กลายเป็นตำนานขึ้นหิ้งเพราะเลิกผลิตไปแล้วหรืออย่างไร?

เพื่อให้ทุกข้อสงสัยหมดไป เราขอใช้พื้นที่ในคอลัมน์ TOYS FOR BOYS ประกาศข่าวดีให้แฟน ๆ โชกุนจาก SEIKO ได้เฮกันอีกครั้ง กับเรื่องราวการกลับมาของตำนาน ‘โชกุน’ ในรุ่น SPB189J และ SPB191J ที่เราต้องบอกเลยว่านี่คือการกลับมาที่น่าตื่นเต้นกว่าเดิม เพิ่มเติมด้วยตัวเรือนไทเทเนียมแบบใหม่ที่มีการเปลี่ยนวัสดุให้มีสีสันสว่างขึ้น พร้อมหลักชั่วโมงแบบใหม่ที่ออกแบบให้เข้ากับขอบตัวเรือน และยังช่วยให้อ่านค่าบนหน้าปัดได้ชัดเจนขึ้น

SPB189J

ซึ่งในรุ่น SPB189J จะมาในสไตล์ของโชกุนแบบดั้งเดิม ที่โดดเด่นด้วยหน้าปัดสีดำตัดกับหลักชั่วโมงและเข็มนาฬิกาที่เคลือบด้วยลูมิไบร์ท สเกลดำน้ำบนขอบตัวเรือนใช้สีน้ำตาลตัดกับสีดำ ดูเรียบหรูด้วยสายไทเทเนียมพร้อมบานพับนิรภัย

SPB191J

ส่วนโชกุน SPB191J นั้นมาพร้อมหน้าปัดสีขาวตัดกับสเกลดำน้ำบนขอบตัวเรือนอย่างเด่นชัด แน่นอนว่าไม่ใช่เพียงแค่ความสวยงามเท่านั้น แต่มันคือการออกแบบที่ช่วยทำให้อ่านค่าต่าง ๆ ได้ชัดเจนง่ายดายยิ่งขึ้น โดยในรุ่นนี้จะมาในแนวสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยสายซิลิโคนพร้อมใส่ลุยในทุกกิจกรรม และสามารถยืดหยุ่นได้พร้อมให้สวมทับชุดดำน้ำได้ทันที

ขาดไม่ได้กับอีกสิ่งสำคัญที่ทำให้ การกลับมาของ SEIKO โชกุน ครั้งนี้ไม่ธรรมดา เพราะทั้งสองรุ่นถูกขับเคลื่อนด้วยเครื่องคาลิเบอร์ 6R35 รุ่นใหม่ล่าสุด ที่เริ่มติดตั้งลงในนาฬิกา SEIKO ตั้งแต่ช่วงปี 2020 เป็นต้นไป

โดยเครื่องรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นมาจากคาลิเบอร์ 6R15 ที่ทั้งเที่ยงตรงแม่นยำ และยังโดดเด่นในเรื่องของการขยายระบบสำรองพลังงานให้มีขนาดใหญ่ขึ้น สามารถสำรองพลังงานได้นานสูงสุดถึง 70 ชั่วโมง โดยที่ยังคงทำงานบนความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมงเหมือนเช่นเคย

บอกเลยว่าใครที่กำลังรอการกลับมาของตำนาน ‘โชกุน’ ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง


ข้อมูลจำเพาะ

  • คาลิเบอร์ 6R35
  • ระบบ อัตโนมัติสามารถขึ้นลานด้วยมือได้
  • ความแม่นยำ +25 ถึง -15 วินาทีต่อวัน
  • กระจกแซฟไฟร์ป้องกันรอยขีดข่วนพร้อมเลนส์ขยาย
  • ตัวเรือนไทเทเนียมเคลือบซูเปอร์ฮาร์ดโค้ตติ้ง
  • ดำน้ำได้ลึก 200 เมตร
  • ขนาดตัวเรือน 43.5 มิลลิเมตร หนา 13.3 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก SPB189J 121 กรัม / SPB191J 99 กรัม
  • ขอบตัวเรือนแบบหมุนได้ทิศทางเดียว
  • SPB189J ราคา 59,800 บาท /  SPB191J ราคา 53,800 บาท

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ :

Facebook : SeikoThailandOfficial

Instagram : seiko_thailand 

Line : @Seiko_Thailand

Website :  https://www.seikowatches.com/

Twitter : SeikoThailand

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-2551245-50 ต่อ 888

NTman
WRITER: NTman
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line