Entertainment

ULM PLAYLIST: อย่างนี้ต้องฉลอง 10 บทเพลงเมามายคลายล็อกดาวน์ ชิวต่อได้ที่บ้านหลังร้านปิด

By: unlockmen March 1, 2021

เพื่อต้อนรับการปลดล็อกผับบาร์ ให้สามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮลล์ได้จนถึงเวลา 5 ทุ่ม UNLOCKMEN รู้ว่าสำหรับสายปาร์ตี้ ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่น่ายินดีขนาดไหน แต่ก็อาจจะขัดใจเพราะฟีลกำลังได้ก็มาชิงปิดร้านไปเสียก่อน ดังนั้นเราจึงขอเสนอเพลย์ลิสต์เพลงที่มีความหมายเกี่ยวกับความมึนเมาในวาระต่าง ๆ เพื่อสร้างสีสันและความผ่อนคลายในช่วงเวลาที่กำลังรอคอยให้ทุกอย่างกลับมาเข้ารูปเข้ารอยเสียที

1. Beastie Boys – Brass Monkey

Brass Monkey คือ Cocktail ที่มีส่วนผสมระหว่างเหล่ารัมสีดำกับ Vodka และน้ำส้ม โดยเป็น Cocktail สุดฮิตของนักศึกษาสายปาร์ตี้ ที่อยากทำให้ค่ำคืนวันศุกร์หลังจากร่ำเรียนมาหนักหน่วง ได้เมามายผ่อนคลายอย่างบ้าคลั่ง

และ Beastie Boys แร๊ปเปอร์สุดเกรียนก็นำช่วงเวลาแห่งความเมามันส์นี้มาผสมกันกับฮาร์ดคอร์แร๊ฟสุดมันส์ ซึ่งที่มาของเพลงนี้เกิดขึ้นเมื่อทั้ง 3 กำลังง่วนอยู่กับการทำเพลงในอัลบั้ม Licensed to Ill อัลบั้มเดบิวแรกของพวกเขา ความรู้สึกเปรี้ยวปากอยากปาร์ตี้จึงเกิดขึ้น มันจึงเป็นเพลงฮิปฮอปที่เหมาะเอาไว้ใช้ปลดปล่อยตัวเองหลังจากทำงานกันมาอย่างยาวนาน


2. Snoop Dogg – Gin & Juice

เพลงปาร์ตี้ ที่คละคลุ้งไปด้วย เหล้า กัญชา และนารี ของรุ่นใหญ่ OG แห่งวงการฮิปฮอปผู้ผ่านยุคสมัยแห่ง Gangster มาครบทุกสมัยอย่าง Snoop Dogg ที่เล่าถึง Gin & Juice Cocktail ที่มีส่วนผสมเพียง จิน กับน้ำผลไม้ 2 อย่างเท่านั้น แต่กลับเข้ากันได้ดีเมื่อคุณได้ลองกับกัญชา จน Cocktail ถูกเรียกอีกอย่างว่า Paradise Cocktail ให้ความรู้สึกเหมือนล่องอยู่ในสวรรค์

แม้เพลงนี้จะทำให้คุณสัปสนว่าเมาเหล้าหรือเมากัญชากันแน่ แต่มันก็นับเป็นเพลงแจ้งเกิดของ Snoop Dogg แถมยังขึ้นชาร์ท Top Ten Billboard ที่ช่วยพา Snoop ให้ไปไกลถึงเวที Grammy ด้วยการเข้าชิงรางวัลในสาขา Best Rap Solo Performance อีกด้วยนะ


3.The Champs – Tequila

เตกีล่า คือเหล้าพื้นเมืองของ Mexico ที่เหมาะสำหรับตอกเพียวๆ และเพิ่มความเปรี้ยวด้วยการบีบมะนาวเข้าปาก

แต่สำหรับบทเพลงแล้ว Tequila คือเพลงบรรเลงสุดเปรี้ยวที่มีส่วนผสมสุดระห่ำของแซกโซโฟน และความโลดโผนโจนทะยานของดนตรี Rock & Roll ซึ่งเพลงบรรเลงเพลงนี้ได้แจ้งเกิดคณะดนตรี The Champs ให้กลายเป็นวงดนตรีที่ดังในช่วงข้ามคืน

ที่มาของเพลงไม่มีอะไรซับซ้อนไปกว่าสมาชิกในวง Mexican Rock วงนี้ชื่นชอบที่จะตอกเตกีล่ามาก ๆ เขาเลยอยากทำเพลงหน้า B เพื่อระลึกถึงคุณอนันต์ของเครื่องดื่มชนิดนี้ แต่มันกลับกลายเป็นเพลงดังอันดับ 1 และได้รับการคัฟเวอร์มากที่สุดในประวัติศาสตร์เพลงหนึ่งกันเลย


4. Post Malone – Wow

ในลิสต์เพลงเมาถ้าไม่มี Post Malone ก็เหมือนเข้าบาร์แล้วไม่ได้สั่งเหล้า แน่นอนว่าสำหรับเขาแล้วแอลกอฮอล์แทบจะเหมือนน้ำที่ขาดไม่ได้ และ Wow ก็เป็นบทเพลงที่สะท้อนตัวตนของ Post Malone ที่มีเนื้อหาพูดถึงชื่อเสียงและความร่ำรวย พูดไปก็สลับบอกน้อง ๆ นั่งดริ๊งค์ไปว่า “ช่วยชง Vodka กับ La Croix ที่สิจ๊ะ” “เอามาอีกขวดจ๊ะนังหนู” “จัดมาอีกขวดอย่าให้ขาดตอน”

ซึ่งเพลงนี้นอกจากเป็นการพยายามอวดอ้างสรรพคุณของตัว Pose Malone แล้ว มันยังสะท้อนถึงความเหงาของชายหนุ่มที่สุดท้ายต้องใช้เหล้าเป็นเครื่องคลายความเหงาได้ดีอีกด้วย


5. Kendrick Lamar – Swimming Pools (Drank)

เพลงที่สะท้อนความเหงา และความเมาของแรปเปอร์ Kendrick Lamar ที่มองว่าโรคเสพติดแอลกอฮอลล์ของเขานั้นเกิดขึ้นจากกรรมพันธุ์ เพราะปู่ของเขาก็เสียชีวิตจากการดื่มเหล้า ดังนั้นเขาเองก็คงลงเอยไม่ต่างกัน???

ในเมื่อถ้ารู้ว่าจะตายเพราะเหล้า งั้นก็เมาให้มันหลุดโลกไปเลย Lamar มีความฝันว่าเขากำลังแหวกว่ายในสระว่ายน้ำที่เต็มไปด้วยเหล้า และคิดว่าเขาน่าจะสำลักเหล้าจนตาย อย่างไรมันก็คงเป็นแค่บทเพลง ใครฟังแล้วก็อย่าเผลอไปเลียนแบบเปลี่ยนสระว่ายน้ำเป็นเหล้ากันนะ……มันเปลือง


6. Chance the Rapper – All Night (ft. Knox Fortune)

สำหรับสายปาร์ตี้แล้ว คำว่า หัวค่ำ ค่อนคืน นั้นไม่มีอยู่จริง เพราะสัจธรรมของนักดื่มนั้น ไม่ยันหว่างไม่มีวันกลับ และ Chance the Rapper ก็รู้ใจ ทำเพลงยันหว่างสำหรับสายปาร์ตี้ที่ไม่กลัวง่วงทั้งหลาย โดยเขาพูดถึงเพลงที่ชอบสุด ๆ เพลงนี้ว่า

“ผมโคตรเบื่อเพื่อนผมที่ชอบมองแต่นาฬิกาเวลามาปาร์ตี้ ถ้าห่วงเวลาขนาดนั้นก็กลับบ้านตั้งแต่ตอนนี้เลย ถ้าจะปาร์ตี้ก็เอานาฬิกาเก็บไว้ที่บ้าน อย่างเราต้องเมาทั้งคืนโว้ยยย เอ้าชนนนนน”


7. Travis Scott – Maria I’m Drunk

เพลง Trap ของ Travis Scott ที่ได้ Justin Bieber มาร่วม featuring กันยาวเกือบ 6 นาทีนี้ เป็นห้วงเวลาเปรี้ยวปากของ Travis และผองเพื่อน ซึ่งมองว่าช่วงวันหยุดสัปสัปดาห์อันแสนวิเศษนี้ เราจะมานั่งจมอยู่ที่บ้านกันไปทำไม ค่ำคืนนี้ยังอีกยาวไกล เราไปปาร์ตี้กันเหอะพวก ว่าแล้วก็หยิบโทรศัพท์แล้วนัดเจอกันที่บาร์รูฟท็อปใกล้บ้านกันเถอะ มันจึงกลายเป็นเพลงชาติสำหรับนักปาร์ตี้ Gen-Y ที่มองปาร์ตี้เป็นส่วนหนึ่งของสีสันชีวิตที่ขาดไม่ได้


8. Blur – Bank Holiday

ก่อนวง Blur จะมีเพลง Song 2 ในอัลบั้ม Parklife ก็มีเพลงพังค์โคตร ๆ ที่เล่นสั้น ๆ เพื่อบอกว่า “เฮ้ย วันหยุดทั้งที ไม่มีอะไรดีไปกว่าเบียร์ 6 ป๋องหรอกเว้ยยยย” ว่าแล้วก็ซัดให้เมาไปข้าง เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยตื่นไปทำงานกัน บทเพลงที่สะท้อนไลฟ์สไตล์ความเมาของชาวผู้ดี ที่คำว่าผู้ดีจะค่อย ๆ เลือนหายไปทันทีเมื่อเบียร์เข้าปาก มันจึงเป็น 1 ในเพลงชาติของชาว BritPop เพื่อสรรเสริญวันแห่งการไม่ต้องทำอะไรมากไปกว่าการเมา ว่าแล้วก็เอามาอีกป๋องสิวะ


9. Oasis – Cigarettes & Alcohol

ถ้าพูดถึง Blur แต่ไม่พูดถึง Oasis คงบาปหนัก แน่นอนว่าพี่น้องคู่นี้ดื่มหนักเมาหนักกว่าเหล่า Londoner กลุ่มนั้นหลายเท่านัก ทำให้บทเพลงนี้มันกลับเข้าถึงจิตใจชนชั้นแรงงานชาวอังกฤษได้ยิ่งกว่า เพราะท่ามกลางการตรากตรำทำงานหนัก ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าบุหรี่ดี ๆ สักมวนในมือซ้าย และเหล้าซักแบนหรือเบียร์สักกระป๋องในมือขวา

โดย Alan McGee ผู้ชักนำวง Oasis เข้าวงการบอกว่าชอบเพลงนี้มาก ๆ จนต้องเชิญวงนี้มาเซ็นสัญญากับค่ายทันที โดยให้เหตุผลเพียงว่า “แม่งเป็นการแถลงการณ์ทางสังคมที่ยอดเยี่ยมที่สุดในรอบ 25 ปีเลยว่ะ”  ซึ่งหลายคนต่างเห็นด้วยในความสำมะเลเทเมาของวงนี้ ที่ถึงขนาดโรงแรงหลายแห่งในโลกต่างขึ้นบัญชีดำห้ามเข้าพัก เพราะมันเมาทีไรได้พังข้าวของทุกทีสิน่า


10. Bruno Mars – That’s What I Like

แม้เพลงนี้จะไม่พูดถึงความเมากันตรง ๆ และเนื้อหาของเพลงเล่าถึงหญิงสาวที่ Bruno Mars แอบปลื้ม แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าท่อน “strawberry champagne on ice”  นี่มันช่างเปรี้ยวปากอยากจะไปผับเสียจริง บวกกับท่วงทำนองที่ชวนเต้นแล้ว ถ้าเพลงนี้มันไม่ใช่เพลงเมาเหล้า เราก็เหมาว่าเป็นเพลงเมารักก็ได้วะ

ก็จบไปแล้วสำหรับบทเพลงแห่งการเฉลิมฉลองความเมา เราก็ขอให้ทุกท่านประคองสติทุกครั้งที่ดื่ม อายุบรรลุแล้วค่อยว่ากัน เมาไม่ขับ เรากินเหล้า อย่าให้เหล้ากินเรา ด้วยความปรารถนาดีและขอให้ปาร์ตี้กันอย่างปลอดภัยรักษาระยะห่างกันด้วยนะทุกคน

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line