Life

“ความมั่นใจต้องมาจากภายใน”วิธีดูแลผิวหน้าง่าย ๆ สไตล์ผู้ชายสายลุยของโจ๊กเกอร์-ณศิวัชร์

By: PSYCAT February 8, 2019

โจ๊กเกอร์-ณศิวัชร์ นพภิรมย์ไชย คือชื่อที่เรามั่นใจว่าใครหลายคนรู้จักดีอยู่แล้วด้วยบทบาทหน้าที่อันหลากหลายทั้งการเป็นนักแสดง พิธีกร นักร้อง ไปจนถึงการทำงานเบื้องหลังทำให้ทั้งเขาและผลงานของเขาต้องผ่านหูผ่านตาเราไม่ว่าเราจะสังเกตหรือไม่ก็ตาม

นอกจากการทำงานอย่างเต็มที่ไม่มีกั๊กแล้ว คุณโจ๊กเกอร์ยังเป็นคุณพ่อที่ต้องดูแลลูกฝาแฝดสองคนวัยกำลังซน แต่ทั้งหมดนี้ไม่ได้ทำให้พลังในตัวเขาดับมอดลงไปแม้แต่น้อย เขากำลังมีซิงเกิ้ลใหม่หลังจากที่ไม่ได้ทำเพลงของตัวเองมา 20 ปี “พอเรามีความมั่นใจ มันสร้างความมั่นใจทำให้มีพลังทำอะไรหลาย ๆ อย่าง เราได้ความมั่นใจกลับมา เราก็อยากทำอะไรที่เรารัก” คุณโจ๊กเกอร์ให้เหตุผลว่าความมั่นใจนี่แหละที่เป็นกุญแจสำคัญของการกลับมาสร้างผลงานเพลงของตัวเองในแบบที่เขารักอีกครั้ง

แต่ความมั่นใจที่ทรงพลังแบบนี้มีที่มาจากอะไร เราก็ไม่รอช้าเริ่มต้นบทสนทนากับผู้ชายมากพลังและเต็มไปด้วยความมั่นใจทันที

เพราะเป็นผู้ชายสายลุยจึงต้องไปให้สุดกับทุกสิ่งที่ทำ

“ทำอะไรต้องไปให้สุด” เราเชื่อว่าผู้ชายหลาย ๆ คนยึดถือวิธีคิดแบบนี้เป็นหนทางการทำงาน แต่สำหรับคุณโจ๊กเกอร์การไปให้สุดไม่ได้หมายถึงแค่การทำงานเท่านั้น แต่เขาอยากเต็มที่กับทุกสิ่งในชีวิตโดยเฉพาะสิ่งที่เขารัก

“ยังทำงานในวงการบันเทิง เพียงแต่ไม่ได้รับละคร ด้วยเงื่อนไขเรื่องเวลา เราทำพิธีกรรายการท่องเที่ยว ต้องเดินทางตลอดจึงจัดสรรเวลายาก เราเลยให้น้ำหนักการทำรายการมากกว่าเล่นละคร ยังอยู่ในแวดวงเพลงมาตลอด ช่วยทำเพลง เขียนเนื้อร้อง ดีไซน์ ทำเพลงประกอบรายการเพื่อให้ไม่ลืม”

นอกจากการเป็นพิธีกรรายการท่องเที่ยวสายลุยของตัวเอง การทำงานเบื้องหลังในวงการเพลงและกลับมาทำซิงเกิ้ลของตัวเองในรอบ 20 ปีซึ่งต้องซ้อมอย่างหนัก เขายังเป็นพ่อของลูกสาวฝาแฝดที่น่ารักอีกด้วย

“วันนี้เราไม่ใช่แค่คนคนเดียว เราเป็นพ่อคน เป็นพ่อของลูกสาวฝาแฝดที่เราเลี้ยงเอง เวลาที่ใช้กับลูกเราคือคุณพ่อคนหนึ่ง ตัดภาพของดารานักแสดงออกไปได้เลย เราต้องตื่นแต่เช้ามาเตรียมข้าว ขับรถรับส่งที่โรงเรียน”

แม้การมีลูกสาวจะหมายถึงความชุ่มชื่นหัวใจ แต่ก็ทำให้คุณโจ๊กเกอร์ต้องสละเวลาที่เคยมอบให้ตัวเองให้กับลูก ๆ แทน “ครึ่งหนึ่งของชีวิตเราผูกกับลูกสาว” เขาบอกกับเราด้วยสายตาที่หมายความตามนั้นจริง ๆ “เวลาว่างปกติชอบเล่นกีฬา ตอนนี้ก็ต้องมาดูแลลูกใกล้ชิด เพราะเราอยากสอนเขาเองทุกเรื่อง”

“เราเป็นคนทำอะไรทำสุด ทำงานก็ทำสุด เป็นพ่อคนก็เป็นสุดจริง ๆ เวลาตอนนี้เราเลยแน่นมาก”

ปฏิเสธไม่ได้ว่าคุณโจ๊กเกอร์ใช้ชีวิตทุกด้านอย่างเต็มที่ไม่มีขาดตกบกพร่อง ถือเป็นผู้ชายสายลุย Work Hard Play Hard ที่เราต้องยกนิ้วให้

ลุยหนักก็ต้องแลก: เมื่อผู้ชายสายลุยต้องผจญปัญหา

ไม่ว่าจะลุยแค่ไหน ก็ไม่ได้หมายความว่าชีวิตจะราบรื่น การทุ่มเทให้กับทุกสิ่งที่รัก โดยเฉพาะการกลับมาทำผลงานเพลงควบคู่ไปกับการรับผิดชอบหน้าที่ประจำของตัวเองทำให้กระทบกับเวลาพักผ่อนและเวลาดูแลตัวเองอย่างปฏิเสธไม่ได้

“ตอนนี้เรากำลังเสนอรายทีวีใหม่อีกสองรายการ การทำงานเราต้องปรับตัวพอสมควร เรียกว่ารายการก็ทำ เพลงก็ทำ ลูกก็ต้องเลี้ยง ถามว่าเวลาของเรามันมีจำกัด ปกติเราเป็นคนชอบนอนมาก การนอนคือส่วนที่ชดเชยพลังงานให้กับเรา การนอนคือเรื่องใหญ่ของเรา แต่ ณ วันนี้ เราได้นอนน้อยลง”

“ช่วงที่งานหนัก ๆ หลังจากลูกนอนเสร็จ 3 ทุ่ม เราก็ต้องทำงานต่อ พอนอนน้อย พลังงานก็จะน้อยลง แต่พลังงานที่หายไปก็ไม่เท่ากับความมั่นใจที่หายไป วันไหนเรานอนเยอะเราก็มีแรงเยอะ พร้อมทำทุกอย่าง พร้อมเต็มที่ มั่นใจเต็มที่ วันไหนนอนน้อยเหมือนแบตไม่เต็ม เราก็ไม่มั่นใจกับการทำงาน”

การนอนน้อย การทำงานหนัก รวมถึงไลฟ์สไตล์ที่สมบุกสมบันมาตลอด แม้ทางหนึ่งจะตอบโจทย์สัญชาตญานในตัวผู้ชายที่อยากทำทุกอย่างให้เต็มที่ แต่อีกทางหนึ่งไลฟ์สไตล์แบบนี้ก็ค่อย ๆ กัดกินเราอย่างช้า ๆ ความร่วงโรย ความไม่มั่นใจ รวมไปถึงปัญหาผิวหน้าที่บ่อนทำลายความมั่นใจลึก ๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว

“ด้วยอายุที่เยอะขึ้น เราก็เริ่มรู้สึกได้ ไม่ใช่ด้วยตัวเองนะ แต่จากคนรอบข้าง คนที่นาน ๆ เราไม่เจอเขา หรือช่วงวันเกิด คนที่เคยถ่ายรูปกับเราตอนวันเกิดเมื่อ 4-5 ปีก่อนเอารูปเดิมมาสุขสันต์วันเกิด เราก็เริ่มรู้สึกว่า เฮ้ย ทำไมตอนนั้นเราผอมอย่างนี้ ทำไมหน้าเราตึง”

“มันเป็นความเปลี่ยนแปลงที่เราไม่คิด แค่ช่วงเวลา 3 ปีมันเห็นความเปลี่ยนแปลงชัดมาก อาจเพราะเราทำงานมาหนัก ลุยมาหนัก นอนได้น้อยลง เวลาออกกำลังกายก็ยกมาให้ลูกเป็นส่วนใหญ่ เรามีเวลาดูแลตัวเองน้อยลง มันเลยส่งผล”

ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับผิวหน้าและร่างกายที่มาพร้อมอายุที่เพิ่มขึ้นและไลฟ์สไตล์ทำอะไรต้องไปให้สุดแบบผู้ชายจึงทำให้คุณโจ๊กเกอร์อดถามตัวเองไม่ได้ว่า “มันเลยถึงเวลาที่เราต้องลงมือทำอะไรสักอย่างไหม”

เพราะความมั่นใจภายในเริ่มต้นที่ผิวหน้า

คุณโจ๊กเกอร์เองก็เป็นผู้ชายอีกคนที่คิดว่าเรื่องการดูแลผิวหน้าเป็นเรื่องรอง ๆ ในชีวิต จนวันหนึ่งที่ความเปลี่ยนแปลงมาถึงและสัมผัสได้ว่าเราไม่ใช่คนอายุน้อย ๆ ที่ผิวหน้าจะฟื้นฟูตัวเองได้ดีอีกต่อไป

“เรื่องผิวหน้าสำคัญมาก ๆ จริง ๆ ไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงก็สำคัญพอ ๆ กัน เพียงแต่ที่เราเห็นคือผู้หญิงดูแลตัวเองได้ดีกว่า แต่ผิวหน้าผู้หญิงก็มีปัจจัยที่ทำร้ายผิวเขาได้มากกว่า ในขณะที่ผู้ชายผิวหน้าแข็งแรง แต่กลายเป็นว่าเราชะล่าใจคิดว่ามันดีอยู่แล้ว เลยละเลยการดูแลตัวเองไป”

“ที่สำคัญที่สุดก็คือ ไม่มีใครอยากให้ตัวเองดูไม่ดีดังนั้นไม่ว่าจะวัยไหนเด็กหรือผู้ใหญ่อะไรที่ทำให้ตัวเองดูดีได้ ทำไปเถอะ เพียงแค่มาตรฐานแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนอาจจะดูแลมากหน่อย

“ส่วนตัวผมจะมองหาอะไรที่ดูแลผิวหน้าเราได้โดยที่เราไม่ต้องศัลยกรรมและไม่ต้องมีรายละเอียดจุกจิก”

การดูแลผิวหน้าคือการเสริมสร้างบุคลิกความมั่นใจให้กับทุกคนได้ คุณโจ๊กเกอร์เชื่อแบบนั้น และบุคลิกที่ดี ความมั่นใจที่ดีนำมาซึ่งผลตอบแทนที่คุ้มค่าไม่ใช่แค่เฉพาะคนที่ทำอาชีพดารานักแสดงเท่านั้น

“อะไรที่ทำให้ตัวเองดูดีมันดีอยู่แล้วในทุก ๆ อาชีพ ไม่เฉพาะแค่อาชีพดารา เราสามารถเป็นคนอายุเยอะที่ดูดีบุคลิกดีได้ ไม่ว่าจะอยู่ในสาขาอาชีพอะไร”

“เพราะเมื่อเราดูแลตัวเองเสร็จ เราจะได้ความมั่นใจกลับมา เราจะได้พลังงานในชีวิตกลับมา มันต้องเริ่มจากตัวเราเองจากข้างในก่อน จากนั้นความมั่นใจภายในของเราจะส่งผลไปให้คนรอบข้างสัมผัสได้”

ผิวหน้าที่ดูเหมือนจะเป็นปัจจัยภายนอก แต่กลับกลายเป็นตัวส่งเสริมความมั่นใจภายในและความมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าทำในสิ่งที่รักอย่างไม่ต้องห่วงกังวลเรื่องริ้วรอย เรื่องความหย่อนคล้อย หรือกลัวว่าไลฟ์สไตล์ทำทุกอย่างให้ดีที่สุดจะย้อนกลับมาทำร้ายผิวหน้าอีกต่อไป

“ซิงเกิ้ลใหม่ถือว่าเป็นของขวัญให้กับตัวเอง เราได้กลับมาทำสิ่งที่ตัวเองรัก พอเรามีความมั่นใจจากข้างใน มันทำให้มีพลังทำอะไรหลาย ๆ อย่าง เราได้ความมั่นใจกลับมา เราก็อยากทำอะไรที่เรารัก ซิงเกิ้ลนี้จึงออกมา”

เปลี่ยนความคิด ถ้าคิดจะดูแลตัวเอง

การดูแลตัวเองเป็นเรื่องของทุกคน การดูแลผิวหน้าตัวเองเพื่อให้มีความมั่นใจจากภายในก็เป็นเรื่องของทุกคนเช่นกัน แม้แต่คนที่มีไลฟ์สไตล์ลุย ๆ สุดเหวี่ยงกับทั้งการเดินทาง การทำงาน การเล่นกีฬาอย่างคุณโจ๊กเกอร์เองก็สามารถดูแลตัวเอง ดูแลผิวหน้าได้โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์แต่อย่างใด

“เมื่อก่อนเราไม่เอาเลย ส่วนตัวเราเขินที่จะต้องเดินเข้าไปดูแลตัวเอง รู้สึกว่าเราไม่ถนัดกับเรื่องพวกนี้ ก็เป็นคนแบบนั้นมาตลอด การดูแลใบหน้าสำหรับเราเลยเป็นเรื่องไกลตัว เรารู้สึกว่าโดนแดด เดี๋ยวเราก็รอด”

“พออายุเยอะขึ้น มันก็ฟื้นฟูได้น้อย มันเลยถึงเวลาที่เราต้องมาดูแลตัวเองจริงจังแล้ว”

การดูแลผิวหน้าตัวเองสำหรับผู้ชายนอกจากเพื่อบุคลิกภาพแล้ว บางครั้งก็เป็นการดูแลตัวเองเพื่อคนที่เรารักด้วยเช่นกัน “เรื่องการทำงานเราก็ไม่อยากให้ตัวเองดูไม่ดี ดูแก่ ปีนี้เราก็อายุ 43 แล้ว อีกอย่างเรามีลูก เราไม่อยากเป็นพ่อแก่ ๆ อยากดูแลตัวเองดี ๆ ลูกโต เราก็ยังเป็นพ่อที่ดูดีอยู่” คุณโจ๊กเกอร์ตอบพร้อมยิ้มกว้าง

“เราเลยเปลี่ยนความคิดตัวเอง ต้องใช้คำว่าเปลี่ยนความคิดตัวเองเลยนะ เวลาคนถามว่าผู้ชายต้องดูแลตัวเองยังไง เราคิดว่าต้องเปลี่ยนความคิดตัวเองก่อนเลย ต้องยอมรับในเรื่องที่เป็นความจริง แล้วเราก็ดูว่ามีอะไรที่เราจะดูแลตัวเองได้บ้าง”

คุณโจ๊กเกอร์ยืนยันว่าการเปลี่ยนทัศนคติสำคัญที่สุดสำหรับผู้ชายสายลุยทุกคนที่คิดจะดูแลตัวเอง เพราะผิวหน้าสำคัญกว่าที่คิดและการดูแลผิวหน้าเป็นเรื่องปกติที่เราต้องทำเพื่อเสริมสร้างบุคลิกและความมั่นใจจากภายในโดยไม่ต้องเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ตัวเองแม้แต่น้อย

Perfect guy tips by Ultherapy for Men: ดูแลผิวหน้าง่าย ๆ และได้ผลสไตล์ผู้ชายสายลุย

เพราะการดูแลผิวหน้าคือกุญแจแห่งบุคลิกภาพที่ดีและความมั่นใจซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ คุณโจ๊กเกอร์จึงตามหาวิธีการดูแลผิวหน้าแบบที่ผู้ชายสายลุยอย่างเขาไม่ต้องเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ตัวเอง แต่ก็ได้ผิวหน้าที่กระชับ เนียนใสเหมือนสมัยยังหนุ่ม Ultherapy for men จึงเป็นคำตอบที่ผู้ชายตามหา

“คุณหมอแนะนำว่ามันมีการดูแลตัวเองที่เราไม่จำเป็นต้องศัลยกรรม คือเทคโนโลยีดูแลใบหน้า ซึ่งไม่มีการศัลยกรรมเป็นเพียงการกระตุ้นด้วยคลื่นเสียงเพื่อกระตุ้นเซลล์ผิวชั้นในให้กลับมากระชับ ทำให้หน้าสดใส ไม่หย่อนคล้อย”

“คุณหมอเปรียบเทียบดีมาก หมอบอกเราว่าผิวหน้าคนเราก็เหมือนบ้าน ถ้าบ้านเราทรุด เราก็ต้องฟื้นฟูรากฐานของมันให้แข็งแรงเหมือนเดิม ซึ่ง Ultherapy for men ก็คือฟื้นฟูด้วยการกระตุ้นคอลลาเจนตามธรรมชาติ”

“ชอบ Ultherapy for men ตรงที่เราเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ อย่างตรงแก้มที่ไม่กระชับ มันเห็นเลยว่ากระชับขึ้น คุณหมอมีเทคนิคคือทำให้เราทีละครึ่งหน้า เราจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของผิวหน้าฝั่งที่ทำกับฝั่งที่ยังไม่ได้ทำอย่างชัดเจน แล้วที่พิเศษคือมันจะค่อย ๆ เห็นผลดีขึ้น ๆ เรื่อย ๆ อีกด้วย มันมีระยะเวลาของมัน เป็นขั้นตอน และถ้าเราดูแลดี ๆ มันก็จะอยู่กับเราไปอีกเป็นปี”

Ultherapy for men จึงเป็นการดูแลผิวหน้าสำหรับผู้ชายที่หน้าที่ความรับผิดชอบรัดตัวจนเราหลงลืมดูแลผิวหน้าตัวเอง เนื่องจากเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ที่สำคัญกระบวนการไม่ยุ่งยาก ครั้งเดียวภายในเวลาหนึ่งชั่วโมงก็เสร็จสิ้น

“ที่สำคัญคือ Ultherapy for men ทำครั้งเดียวจบ ไม่ต้องทำต่อเนื่อง ถ้าเขินที่จะเดินเข้าคลินิก เราก็เข้าครั้งเดียวเพราะผลลัพธ์เรื่องความกระชับของ Ultherapy for men อยู่กับเราไปอีกนาน”

” Ultherapy for men ไม่มีอะไรแปลกปลอมเข้ามาในผิวหน้าเป็นธรรมชาติของเราทั้งหมด แค่ฟื้นฟูส่วนที่ร่วงโรยไปแล้วให้กลับคืนมาเท่านั้น ใช้เวลาชั่วโมงเดียว ไม่มีผลกระทบ ไม่มีผลต่อการใช้ชีวิตหลังจากนั้นเลย”

ความเปลี่ยนแปลงที่สัมผัสได้ ความมั่นใจที่คืนมาหลังทำ Ultherapy for men

คุณโจ๊กเกอร์เล่าต่อว่าหลังการทำ Ultherapy for men เขาสังเกตความเปลี่ยนแปลงที่ไม่ใช่แค่การเห็นจากใบหน้าตัวเองเท่านั้นแต่หลังทำ Ultherapy for men การเปลี่ยนแปลงจะค่อย ๆ เพิ่มเหมือนกราฟของข้อมูลต่าง ๆ ของผิวหน้าตัวเราเองจึงเป็นความเปลี่ยนแปลงเชิงข้อเท็จจริงที่วัดได้แน่ชัด นอกจากนั้นความกระชับ เนียนใส ไม่หย่อยคล้อยและรูปหน้าที่ชัดขึ้นก็เห็นชัดจนคนรอบข้างเริ่มสังเกตได้

“สิ่งที่รู้สึกได้คือคนรอบข้าง แฟนเราก็มาบอกว่าไปทำอะไรมา คนอยู่ใกล้ตัวเรารู้สึก พากันทักว่าหน้ากระชับขึ้นมันก็ทำให้ผู้ชายที่ไลฟ์สไตล์เหมือนเราซึ่งไม่ถนัดการดูแลตัวเอง สายลุย สายแมน หันมาเข้าใจว่าเราก็ดูแลตัวเองได้ เพราะเราไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วที่ลุย กิน นอน ตื่นมาแล้วมันจะเฟรชเหมือนเดิม อายุมากขึ้น ผิวหน้าเปลี่ยน เราก็ต้องหันมาดูแลตัวเอง”

“จากคนที่ไม่ชอบดูแลตัวเอง วันนี้พอปรับความคิด เราพบว่าผลลัพธ์มันดี แล้วเราก็ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ตัวเอง เราก็ยังเป็นสายลุยเหมือนเดิม ไม่ต้องมาทำอะไรเป็นพิเศษ Ultherapy for men ครั้งเดียวจึงเป็นอีกทางเลือกของการดูแลตัวเองที่เหมาะกับผู้ชายมาก ๆ “

Ultherapy for men การดูแลผิวหน้าที่ผู้ชายคนไหนก็ห้ามพลาด

ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดคือเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าผู้ชายต้องการการดูแลตัวเอง เนื่องจากวัยที่มากขึ้น การงานความรับผิดชอบที่มากขึ้น และไลฟ์สไตล์พักผ่อนเที่ยวเล่นทำให้ผิวหน้าเราไม่อาจฟื้นฟูตัวเองได้เหมือนตอนที่ยังอายุน้อยกว่านี้ Ultherapy for men จึงเป็นทางเลือกในการฟื้นฟู ดูแลผิวหน้าให้กลับมากระชับสร้างความมั่นใจจากภายในอีกครั้ง

“Ultherapy for men คือสิ่งที่ตอบโทย์ผู้ชายมากที่สุด เพราะสำหรับคนที่ไม่สำอาง เราไปครั้งเดียวจบ แล้วอยู่กับเราได้ไปอีกเป็นปี เหมือนกราฟที่ตกแล้วถูกดึงขึ้นมาถึงจุดสูงสุด มันตอบโจทย์ผู้ชายแมน ๆ สายลุย เราไปครั้งเดียว สอง Ultherapy for men ทำง่าย ใช้เวลาไม่นาน ที่สำคัญ ราคารับได้ สมเหตุสมผล แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคุ้มค่า ทำให้มีความมั่นใจในบุคลิก จากนั้นผลงาน ความสัมพันธ์และสิ่งอื่น ๆ ที่คืนมาก็คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม” คุณโจ๊กเกอร์กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับผู้ชายคนไหนที่สนใจดูแลผิวหน้าให้กลับมากระชับอย่างที่เคยเป็นรับบริการ Ultherapy for men เพื่อพิสูจน์ผลลัพธ์ได้แล้ววันนี้ ที่คลินิกความงาม 150 แห่งทั่วประเทศไทย

ค้นหาคลินิกได้ที่เว็บไซต์ www.MerzClubThailand.com/UltherapyforMen
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Facebook: MerzAestheticsThailand หรือโทร. 02 229 9696

PSYCAT
WRITER: PSYCAT
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line