World

UNLOCKMEN WORLD CUP GUIDE: วิเคราะห์เจาะลึกรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2018

By: PERLE July 14, 2018

ก่อนอื่นเลยขอโอ้อวดความแม่นของตัวเองสักนิด จากคอนเทนต์ที่แล้ว (https://www.unlockmen.com/semi-wc/) น้องแนทเทอรีน BNK48 หรืออีเจี๊ยบเลียบด่วนที่ว่าอาถรรพ์แรง ๆ ยังต้องพ่ายแพ้ต่อความแม่นยำของพ่อหมอ UNLOCKMEN ตอนนี้กำลังได้ใจ จึงขอออกมาวิเคราะห์และฟันธงอีกครั้ง คราวนี้เป็นรอบชิงชนะเลิศแล้ว การแข่งขัดนัดสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2018 หลังจากขับเคี่ยวกันมาตลอด 1 เดือนเต็ม สุดท้ายแล้วทีมตราไก่ฝรั่งเศสหรือทีมตราหมากรุกโครเอเชีย ทีมใดจะคว้าถ้วยแชมป์ไปครอง

Head Coach

Didier Deschamps กุนซือทีมชาติฝรั่งเศส

Zlatko Dalić กุนซือทีมชาติโครเอเชีย

เรื่องแผนการเล่น ฝีมือ และประสบการณ์ ทั้ง Didier Deschamps และ Zlatko Dalić ต่างก็ใช้แผน 4-2-3-1 ซึ่งทำให้สามารถคาดเดารูปเกมได้ล่วงหน้าเลยว่าต้องเป็นเกมที่รัดกุมและระมัดระวังด้วยกันทั้งคู่ ความผิดพลาดเล็ก ๆ น้อยอาจนำไปสู่ความพ่ายแพ้ได้เลย

ส่วนในเรื่องประสบการณ์นั้นเป็นฝ่าย Didier Deschamps ที่ดูดีกว่าพอสมควร เพราะมีผ่านประสบการณ์คุมทีมมาอย่างยาวนานและแต่ละทีมล้วนเป็นทีมใหญ่ทั้งนั้น

ในขณะที่ Zlatko Dalić ถึงแม้จะเริ่มรับบทบาทในตำแหน่ง Head Coach ครั้งแรกเมื่อปี 2005 แต่ก็ไม่เคยผ่านการคุมทีมยักษ์ใหญ่เลย และเขาเพิ่งเข้ามาคุมทีมชาติโครเอเชียเมื่อปี 2017 นี้เอง

อย่างไรก็ตามการที่เขาสามารถพาทีมม้านอกสายตาอย่างทีมชาติโครเอเชียมาถึงรอบชิงชนะเลิศได้แปลว่าฝีมือเขาก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน

ทีมใดมีกุนซือดีกว่ากัน: เสมอกัน

Goalkeeper

Hugo Lloris ผู้รักษาประตูทีมชาติฝรั่งเศส

Danijel Subasic ผู้รักษาประตูทีมชาติโครเอเชีย

ถ้าวัดกันเฉพาะในแง่ชื่อเสียงแน่นอนว่า Hugo Lloris นายทวารของฝรั่งเศสดูดีกว่าพอสมควร ฝีมือของเขาติด Top 5 ผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในปัจจุบันด้วยซ้ำ

แต่ก็ใช่ว่าผู้รักษาประตูของโครเอเชียจะไร้ฝืมือเพราะตั้งแต่รอบแรกถึงรอบรองชนะเลิศ Danijel Subasic ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาเองก็เหนียวหนึบไม่แพ้ใครในทัวร์นาเมนต์นี้เช่นกัน โดยเฉพาะการเซฟลูกจุดโทษที่ถือเป็นทีเด็ดของเจ้าตัวเลยก็ว่าได้

ทีมใดมีผู้รักษาประตูดีกว่ากัน: เสมอกัน

Defenders

Samuel Umtiti กองหลังทีมชาติฝรั่งเศส

Domagoj Vida กองหลังทีมชาติโครเอเชีย

ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ทั้ง 2 ทีมมีสถิติการเสียประตูใกล้เคียงกัน (ฝรั่งเศส 4 ประตู, โครเอเชีย 5 ประตู) แต่ถ้าเจาะดูในรายละเอียดจะเห็นว่า 3 ใน 4 ประตูที่ฝรั่งเศสเสียนั้นมาจากนัดที่เจอทีมชาติอาร์เจนตินา แต่ในนัดอื่น ๆ นั้น เกมรับของทีมตราไก่ถือว่าเหนียวแน่นเสียประตูยาก

ส่วนโครเอเชียนั้นตั้งแต่รอบ 16 ทีมเป็นต้นมาพวกเขาเสียประตูทุกนัด ดังนั้นในด้านเกมรับฝรั่งเศสจึงดูเป็นต่อพอสมควรทีเดียว

ทีมใดมีกองหลังดีกว่ากัน: ฝรั่งเศส

Midfielder

Luka Modrić กองกลางทีมชาติโครเอเชีย

N’Golo Kanté กองกลางทีมชาติฝรั่งเศส

เป็นการเจอกันของกองกลาง 2 สไตล์ โดยทีมชาติฝรั่งเศสมาในสไตล์ดุดันเน้นพละกำลังความแข็งแรง นำมาโดย N’Golo Kanté กองกลางจากสโมสร Chelsea ซึ่งตอนนี้ถ้าจะบอกว่าเขาคือกองกลางตัวรับที่ดีที่สุดในโลกก็คงไม่ผิด จุดเด่นอยู่ที่ความอึด วิ่งเป็นม้าตลอดทั้งเกมโดยไม่มีเหนื่อย จนหลายสื่อแอบแซวว่าเขามีจำนวนปอดมากกว่าคนทั่วไป

นอกจากนั้นในแผงกองกลางทีมตราไก่ยังมี Paul Pogba กองกลางซูเปอร์สตาร์จากสโมสร Manchester United เป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญ ต้องบอกว่าครบเครื่องทั้งรุกทั้งรับสำหรับแผงกองกลางของทีมชาติฝรั่งเศสชุดนี้

ส่วนโครเอเชียนั้นมาในสไตล์ชั้นเชิงสูง เทคนิคแพรวพราว โดยมีตัวชูโรงคือ Luka Modrić  กองกลางเจ้าของแชมป์ Uefa Champion League 3 สมัยซ้อนจากสโมสร Real Madrid และ Ivan Rakitic จอมทัพจากสโมสร Barcelona

เนื่องจากสไตล์ที่แตกต่างกันจึงค่อนข้างบอกยากว่าทีมไหนมีกองกลางที่ดีกว่ากัน แต่สำหรับทีมงาน UNLOCKMEN มองว่าการจับคู่กันระหว่าง Luka Modrić และ Ivan Rakitic ยากจะต้านทานได้จริง ๆ ยกนี้จึงขอมอบตำแหน่งผู้ชนะให้กับโครเอเชีย

ทีมใดมีกองกลางดีกว่ากัน: โครเอเชีย

Forward

Kylian Mbappé แนวรุกทีมชาติฝรั่งเศส

Mario Mandžukić ศูนย์หน้าทีมชาติโครเอเชีย

ในส่วนของแนวรุกนั้นทีมชาติโครเอเชียดูเป็นรองอย่างชัดเจนถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีศุนย์หน้าจอมเก๋าอย่าง Mario Mandžukić และปีกฟอร์มดีอย่าง Ante Rebic ก็ตาม แต่ถ้าเทียบชื่อชั้นกับแนวรุกทีมตราไก่ที่คับคั่งไปด้วยนักเตะซูเปอร์สตาร์ไม่ว่าจะเป็น Antoine Griezmann, Kylian Mbappé, Olivier Giroud ก็ยังเป็นรองพอสมควร ในยกนี้ทีมชาติฝรั่งเศสจึงเอาชนะไปได้อย่างสบาย ๆ

ทีมใดมีแนวรุกดีกว่ากัน: ฝรั่งเศส

วิเคราะห์รูปเกม: ถึงแม้ว่าโครเอเชียจะเป็นรองในหลาย ๆ ด้านทั้งแนวรุกและแนวรับรวมไปถึงพละกำลังความฟิตเพราะพวกเขาเล่นในช่วงต่อเวลาพิเศษ 120 นาทีเต็มติดต่อกันมา 3 เกมแล้ว

ในขณะที่ฝรั่งเศสในฟุตบอลโลกครั้งนี้ยังไม่เคยเล่นในช่วงต่อเวลาพิเศษเลยสักครั้ง แต่อย่างไรก็ตามเชื่อเหลือเกินว่าโครเอเชียสู้ขาดใจ วิ่งลืมตายแน่นอนเพราะถ้าชนะคนั้งนี้จะเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติ ดังนั้นในเรื่องของ Passion โครเอเชียน่าจะมีมากกว่า ประกอบกับความเก๋าเกมในแดนกลางและทีเด็ดเรื่องการดวลจุดโทษ UNLOCKMEN คิดว่าปีนี้จะมีเทพนิยายโครเอเชียเกิดขึ้นเหมือนกับเทพนิยายกรีซในฟุตบอลยูโร 2004

ทีมที่จะเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก 2018: โครเอเชีย

นี่คือการวิเคราะห์และความเห็นจากทีมงาน UNLOCKMEN จะแม่นหรือมั่วคืนวันอาทิตย์นี้ได้รู้กัน และสุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนสนุกกับการดูฟุตบอล อีก 4 ปีเจอกันใหม่!

 

 

PERLE
WRITER: PERLE
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line