Entertainment

เพราะรักไม่มีเหตุผล? ทำไมผู้หญิงมากมายถึงตกหลุมรัก TED BUNDY ฆาตกรต่อเนื่องจอมโหดผู้โด่งดัง

By: PERLE January 30, 2019

Netflix ตอนนี้นอกจากกระแสซีรีส์การเมืองผสมซอมบี้จากเกาหลีอย่าง ‘Kingdom’ แล้ว ซีรีส์อีกหนึ่งเรื่องที่ได้รับความนิยมและถูกพูดถึงไม่แพ้กันเลยก็คือ ‘Conversations with a Killer: The Ted Bundy Tapes’ ซีรีส์เชิงสารคดีที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของ Ted Bundy ฆาตกรต่อเนื่องอันโด่งแห่งสหรัฐอเมริกาในช่วงยุค 70

ไม่ให้โด่งดังได้อย่างไร เพราะช่วงเวลาแค่ 4 ปี (ค.ศ. 1974-1978) Ted Bundy ข่มขืนและฆ่าหญิงสาวทั่วทั้งอเมริกาไปกว่า 30 ราย และนี่แค่เฉพาะรายที่มีหลักฐานเท่านั้น ว่ากันว่าเหยื่อของ Ted จริง ๆ แล้วอาจมีมากกว่า 100 รายด้วยซ้ำ

The Daily Beast

Ted ถือเป็นฆาตรกรต่อเนื่องที่ฉลาดเป็นกรด เขาจบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยและทำงานเป็นผู้ช่วยให้กับนักการเมือง แตกต่างกับฆาตกรต่อเนื่องส่วนใหญ่ที่มาจากสภาพสังคมแย่ ๆ ไม่ก็เป็นอาชญากรมาก่อน ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกว่าที่ตำรวจจะสามารถจับกุมเขาได้

อย่างไรก็ตามสี่เท้ายังรู้พลาด Ted Bundy ยังรู้พลั้ง ในที่สุดเขาก็หนีความผิดที่ก่อไว้ไม่พ้น หลังจากถูกจับ สิ่งที่ Ted ทำไว้ก็ค่อย ๆ โดนขุดคุ้ยให้ชาวโลกได้รับรู้ แน่นอนว่าทุกคนตื่นตะลึงกับวีรกรรมของ Ted เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าภายใต้ใบหน้าหล่อเหลาคมคาย แท้จริงแล้วคือปีศาจร้ายที่สังหารเหยื่อมานับไม่ถ้วน

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทุกคนจะประณามการกระทำอันโหดร้ายป่าเถื่อนนี้ แต่สิ่งที่แปลกคือกลับมีหญิงสาวจำนวนมากส่งจดหมายไปให้ Ted Bundy ขณะที่เขาถูกคุมขังในเรือนจำ ยิ่งไปกว่านั้นบางฉบับถึงขั้นแนบรูปโป๊เปลือยของตัวเองมาพร้อมกับคำขอแต่งงานเลยทีเดียว

นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงมีผู้คนตกหลุมรักชายที่อันตรายราวปีศาจมากมายขนาดนี้?

แต่แท้จริงแล้วคำตอบของคำถามเหล่านี้มีคำอธิบายทางจิตวิทยาอยู่

รักเพราะเชื่อว่าจะเปลี่ยนแปลงเขาได้

CBS News

หลายคนตกหลุมรัก Ted เพราะเชื่อว่าที่เขาทำไปทั้งหมดเพราะเขาป่วย ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และเชื่อว่าความรักของตัวเองที่มอบให้กับ Ted จะสามารถเปลี่ยนเขาให้เป็นคนที่ดีขึ้นได้ หรือบางคนเชื่อว่าภายในจิตใจของ Ted Bundy มีอีกบุคลิกหนึ่งซ่อนอยู่ และบุคลิกนั้นคือตัวการของความชั่วร้ายทั้งหมด ซึ่งพวกเธอคิดว่าตัวเองจะสามารถทำลายบุคลิกนั้นทิ้งไปได้ ดึง Ted Bundy กลับมาเป็นผู้ชายทั่วไป

เพราะคิดว่านี่คือความสัมพันธ์ที่ปลอดภัย

TV Guide

บางคนตกหลุมรักกับฆาตกรจอมโหดเพราะคิดว่านี่คือความสัมพันธ์ที่ปลอดภัย

“ผู้หญิงจำนวนมากมีชีวิตวัยเด็กที่ไม่ดีนัก โดนกระทำทารุณหรือล่วงละเมิดทางเพศ” Sheila Isenberg ผู้เขียนหนังสือ Women Who Love Men Who Kill กล่าวกับ CNN

“บางคนถูกทำร้ายทางร่างกาย ทางจิตใจหรือทางวาจา พวกเขาตกเป็นเหยื่อ ดังนั้นพวกเธอจึงเชื่อว่าถ้ามีความสัมพันธ์กับผู้ชายที่อยู่หลังลูกกรงเขาจะไม่สามารถทำร้ายเธอได้ และอาจจะเป็นครั้งแรกที่พวกเธอรู้สึกว่าได้ควบคุมชีวิตคนอื่น”

เพราะพวกเธอมีอาการ Hybristophilia

W3LiveNews.com

Hybristophilia คืออะไร?

ดร. Katherine Ramsland บอกกับ Cosmopolitan ไว้ว่า “เมื่อพวกเธอได้รับการกระตุ้นทางเพศจากพฤติกรรมที่รุนแรง พวกเธอจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนพิเศษสำหรับคน ๆ นั้น และคิดว่าตัวเองจะไม่ได้รับอันตราย เป็นผลกระทบจากอาการนี้ที่จะทำให้มีความหลงตัวเอง และต้องการเข้าใกล้คนที่มีความรุนแรงเพื่อที่พวกเธอจะได้มีส่วนร่วมในชีวิตแฟนตาซีของคนนั้น ๆ กลายเป็นคู่หูหรือคู่รักกันจริง ๆ  “

เพราะหวังผลประโยชน์

Parcast

ข้อนี้มีความซับซ้อนน้อยกว่าทุกข้อที่กล่าวมา เพราะมันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องจิตใจแต่ทั้งหมดคือเรื่องของผลประโยชน์ล้วน ๆ

แน่นอนว่าฆาตกรต่อเนื่องย่อมได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนและกลายเป็นคนดังในชั่วข้ามคืน โดยเฉพาะ Ted Bundy ที่วีรกรรมอันโหดร้ายของเขาดูขัดแย้งกับภาพลักษณ์เด็กเรียนดี อดีตผู้ช่วยนักการเมืองเป็นอย่างมาก นอกจากนั้นเขายังถือว่าเป็นฆาตกรที่หน้าตาดี ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่สื่อทุกช่องจะพร้อมใจกันประโคมข่าวเกี่ยวกับเขา

เมื่อ Ted เป็นคนดัง แน่นอนว่าคนที่เกี่ยวข้องกับเขาย่อมได้รับความสนใจไปด้วย ผู้หญิงบางคนเห็นโอกาสนี้ จึงไม่รอช้าที่จะเข้าหา Ted เพื่อหวังผลประโยชน์จากความโด่งดังของฆาตกรรายนี้ ซึ่งอาจจะมาในรูปของการเขียนหนังสือหรือแม้กระทั่งภาพยนตร์ และแน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาคือเงินทองมหาศาลนั่นเอง

 

นี่คือเหตุผลที่เราพอจะหาได้ว่าทำไมผู้หญิงมากมายถึงตกหลุมรัก Ted Bundy แต่เราไม่ขอออกความเห็นเพิ่มเติม เพราะเรื่องความรัก ต่อให้เป็นความรักกับผู้ชายที่โหดร้ายที่สุดในโลกก็ถือว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เอาเป็นว่าถ้าอยากรู้เรื่องราวเพิ่มเติม เราแนะนำให้ดูซีรีส์เรื่อง Conversations with a Killer: The Ted Bundy Tapes ซึ่งสามารถรับชมได้แล้วตอนนี้ทาง Netflix

 

SOURCE1/SOURCE2

PERLE
WRITER: PERLE
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line