อย่าคิดว่าโลกนี้มันง่าย มาดู Startup ที่ทั้งเจ๋ง และเคยยิ่งใหญ่แต่กลับเจ๊งประจำปี 2017

ยุคนี้ใครๆก็อยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจเองกันทั้งนั้น คนรุ่นใหม่ที่มีไอเดียกระฉูดหลายคนจึงแห่กันตั้งบริษัทสตาร์ตอัพ (Startup) ขึ้นมา เพื่อนำเสนอไอเดียตัวเองและหวังจะให้ธุรกิจของตัวเองประสบความสำเร็จแบบก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว หลายธุรกิจประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าสตาร์ตอัพทุกบริษัทจะสามารถประสบความสำเร็จได้อย่างที่ตั้งใจด้วยเหตุหลายปัจจัย วันนี้เราจะพาดูตัวอย่างของสตาร์ตอัพ ที่เจ๋ง และสตาร์ตอัพที่เจ๊ง ในปี 2017 ที่ผ่านมากัน

Discord

เกมเมอร์ตัวยงน้อยคนจะไม่รู้จักโปรแกรมนี้ Discord คือโปรแกรมแชตข้อความและเสียงสำหรับนักเล่นเกมโดยเฉพาะ จุดเด่นของมันคือการที่มันทำงานร่วมกับเกมที่เราเล่นได้เลย โดยที่ไม่ต้องสลับหน้าต่างไปมา ซึ่งแตกต่างจาก Skype หรือโปรแกรมอื่นๆ

Discord เปิดตัวเมื่อต้นปี 2017 และปัจจุบันมีผู้ใช้ทั่วโลกกว่า 45 ล้านคน

เจ๋ง!

Beepi

Beepi เป็นเว็บไซต์ตลาดซื้อขายรถมือสองที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2013 โดยมีทุนเริ่มถึง 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเคยมีการคำนวณมูลค่าของบริษัทสูงสุดถึง 560 ล้านดอลลาร์ จุดเด่นของ Beepi คือมีการบริการลูกค้า โดยบริษัทจะนำรถที่ตกลงการซื้อขายได้แล้วส่งให้กับผู้ซื้อเองถึงบ้าน บริษัทปิดตัวลงในเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากเงินทุนหมด

เจ๊ง!

Segment

Segment คือบริษัทที่เก็บและประมวลผลข้อมูลของลูกค้า เพื่อนำมาสร้างเครื่องมือในการบริหารจัดการการตลาดออนไลน์ให้กับบริษัทที่ต้องการสร้างฐานการตลาดดิจิทัล โดยจุดเด่นคือการรวบรวมข้อดีของแอพลิเคชั่นที่ช่วยเหลือเรื่องการเก็บและประมวลผลข้อมูลต่างๆเข้าไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ช่วยลดความยุ่งยากลงไปได้มาก

บริษัทเปิดตัวตั้งแต่ปี 2011 และมีฐานลูกค้าเป็นบริษัทชั้นนำทั่วโลก โดยมีทุนสนับสนุนเริ่มแรกถึง 109 ล้านดอลลาร์ และในปีนี้ก็สามารถระดมทุนได้อีกกว่า 64 ล้านดอลลาร์

เจ๋ง!

Yik Yak

แอพพลิเคชั่นโซเชี่ยลมีเดียที่เปิดตัวในปี 2013 มีจุดเด่นคือการปกป้องหรือปกปิดตัวตนของเราได้ Yik Yak มีฟังก์ชั่นคล้ายกับเฟสบุ๊ก แต่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนจริงของตัวเอง แม้จะฟังดูดี น่าเสียดายที่ Yik Yak กลับกลายเป็นศูนย์รวมของการกลั่นแกล้งทางอินเตอร์เน็ต (Cyber bullying) ทำให้แอพพลิเคชั่นนี้โดนแบนจากหลายโรงเรียน ชื่อเสียงของแอพพลิเคชั่นจึงเสียหาย และเสียฐานลูกค้าไปกว่า 76%

Yik Yak ปิดตัวในเดือนพฤษภาคม โดยมีทุนเริ่มต้น 73 ล้านเหรียญ และเคยมีการคาดการณ์มูลค่าที่สูงถึง 400 ล้านเหรียญ กระนั้นก่อนบริษัทปิดตัวไม่กี่วัน ก็ได้ขายทีมวิศวกรของพวกเขาไปด้วยราคาเพียงแค่ 3 ล้านเหรียญเท่านั้น

เจ๊ง!

Zipline

ในยุคที่โดรนกำลังบูมสุด ๆ และเริ่มถูกนำไปใช้ในหน้าที่ต่าง ๆ Zipline เป็นบริษัทด้านหุ่นยนต์โดรน มีเป้าหมายเพื่อนำวัคซีน ยา และเลือด ไปยังคลีนิคในพื้นที่เข้าถึงยากตามภูมิภาคต่างๆ จุดเด่นคือมันสามารถขับเคลื่อนแบบไร้คนควบคุม และสามารถเข้าถึงพื้นที่ที่ยากลำบากได้ไม่ว่าฝนจะตกหรือแดดจะออก เร็วกว่า สะดวกกว่า น่าจะช่วยชีวิตคนได้มากกว่า และถ้ามองถึงอนาคต Zipline สามารถสอดแทรกเข้าไปให้บริการได้ทั้งทางทหาร ทางพยาบาล และอีกมากมายหลายสถานการณ์ได้สบาย ๆ

มีการคาดการณ์กันว่าในปี 2025 อุตสาหกรรมโดรนจะมีมูลค่ามากถึง 8 หมื่น 2 พันล้านเหรียญ ซึ่งทำให้ธุรกิจนี้เป็นที่น่าจับตามองมากในอนาคต

เจ๋ง!

Jawbone

Jawbone เป็นผู้บุกเบิกสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพเป็นบริษัทแรก ๆ พวกเขาเคยมีเงินทุนมากถึง 1 พันล้านเหรียญ และเคยถูกตีมูลค่าสูงสุดถึง 3 พันล้านเหรียญ ทว่าตลาดสายรัดข้อมือในปัจจุบันอยู่ในช่วงขาลง และ Jawbone ก็ไม่สามารถแข่งกับเจ้าอื่น ๆ ได้ ทำให้เป็นหนี้มหาศาลและต้องปิดตัวลงในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ถือว่าเป็นการชิงปิดตัวล้มบนฟูก เพราะแม้ product เดิมจะไปไม่รอด แต่ไม่สะเทือนขนหน้าแข้ง Founder & CEO, Hosain Rahman และเอาเงินที่ขายกิจการเก่าไปเปิดธุรกิจใหม่ Jawbone Health Hub ซึ่งเป็นการเล่นกับสุขภาพเหมือนเดิม แต่จริงจังและครบวงจรมากขึ้น

เจ๊ง!

ก่อนจะหมดปี 2017 นี้ไป ใครมีแพลนจะเปิดธุรกิจของตัวเอง ก็ต้องเตรียมใจรับสิ่งที่ไม่คาดฝันเอาไว้ด้วยเสมอ อย่ามองแค่ด้านสบายสมหวังเพียงด้านเดียว เพราะขนาดบริษัท StartUp ที่เคยมีมูลค่ามหาศาล ยังถึงกับเจ๊งได้ภายในเวลาไม่กี่ปี เพราะการทำธุรกิจในโลกแห่งความจริงมันไม่ง่ายเลย 

Reference: TechCrunch / BusinessInsider / Forbes / Rocketspace