ตลอดชั่วชีวิตที่ผ่านมาของพวกผู้ชายอย่างเรา กี่ครั้งแล้วที่คำว่า YOLO (Your Only Live Once) “ชีวิตนี้มีแค่ครั้งเดียว เกิดมาแค่ครั้งเดียวก็ใช้ให้สุดดิวะ” ได้ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเราเอง นำพาพวกเราสนุกสุดเหวี่ยงจนเลยเถิดไปถึงจุดที่ไม่มีใครจำได้ว่าเมื่อคืนทำอะไรลงไปบ้าง แถมเมื่อลืมตาตื่นฟื้นคืนสติขึ้นมาก็ยังต้องตกอยู่ในสภาพไม่เต็มร้อย แฮงค์หนักปวดหัว ระบมร่าง ทนใช้ชีวิตพัง ๆ หมดไปอีกวัน แบบไม่ได้มีประโยชน์อะไรขึ้นมาเลย ถ้าย้อนกลับมาคิดให้ดีไอ้ชีวิตเดียวที่ตั้งใจว่าจะใช้ให้สุด มันควรจะต้องสุดอย่างคุ้มค่าตลอดทุกช่วงเวลาของชีวิต ไม่ใช่การสุดแบบไม่เซฟ จนลืมนึกถึงการใช้ชีวิตในวันต่อ ๆ ไป เพราะจริงอยู่ที่ว่าชีวิตนึงมันมีได้หนเดียว แต่ชีวิตนั้นมันไม่ได้มีแค่วันเดียวสักหน่อย ด้วยแนวคิดนี้จึงเป็นที่มาของเทรนด์การใช้ชีวิตแบบใหม่ เน้นทางสายกลาง เวลาทำงานก็เต็มที่แบบ Work Smart เพื่อแบ่งเวลาให้ได้ใช้ชีวิตอีกด้าน ใช้ชีวิตที่สนุกสนานกลมกล่อมพอประมาณได้เต็มที่ไม่แพ้กัน ดังนั้นเราจึงอยากชวนชาว UNLOCKMEN ทุกท่าน ใช้โอกาสช่วงเปลี่ยนศักราช เริ่มเปลี่ยนมุมมองแนวคิดในการใช้ชีวิตให้สุดเสียใหม่ โดยยังคงทุ่มเทให้กับเรื่องราวต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ แต่ต้องไม่ลืมที่จะคิดเผื่อการใช้ชีวิตในวันต่อ ๆ ไป จะดีกว่าไหมถ้าวันนี้เราออกไปเที่ยวเล่นปาร์ตี้สนุกสนานได้ และพรุ่งนี้ก็ยังมีแรงเหลือพอที่จะใช้ชีวิตดี ๆ ในด้านอื่นได้เช่นกัน เพื่อให้เราทุกคนสามารถสนุกกับทุกๆ เรื่อง แบบกลมกล่อมกำลังดี ไม่มีเรื่องไหนสุดจนทำอีกเรื่องพัง ซึ่งในวันนี้เราก็ขอนำบทความ ที่ UNLOCKMEN
ผู้ชายอย่างเราเติบโตมากับคำพูดที่ว่า Work Hard Play Hard ไม่ว่าจะหน้าที่การงานในออฟฟิศที่ต้องไปให้สุดในทุกทาง บอสสั่งงานวันนี้อยากได้พรุ่งนี้ ก็ต้องทำให้ได้ เพื่อนร่วมงานที่ขอให้ช่วยงานรายวัน ก็ต้องทำ หรือต่อให้พ้นอาณาเขตออฟฟิศ เป็นฟรีแลนซ์ ก็ไม่วายต้องทำงานข้ามวันข้ามคืน รับงานมือเป็นระวิง ยิ่งเป็นเจ้าของธุรกิจยิ่งแล้วใหญ่ เพราะความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่นั้นวางอยู่บนบ่า จนเรียกว่าผู้ชายอย่างเรา Work Hard สมกับที่ฟังมาตั้งแต่ยังไม่เติบโตอย่างแท้จริง เรื่องเล่นยิ่งไม่ต้องพูดถึง ผู้ชายอย่างเราล้วนเต็มที่ไม่มีหยุด เพราะเกิดมาทั้งทีมีชีวิตเดียวต้องเอาให้ถึงขีดสุด งานที่ล้นมือก็ทำ แต่การเล่นให้เหมือนชีวิตไม่มีวันพรุ่งนี้อีกต่อไป ก็ต้องไม่ทิ้ง ยิ่งเพื่อนรบเร้าให้ออกไปกินดื่มเที่ยวตลอด ยิ่งพลาดไม่ได้ เพื่อไม่ให้เสียเพื่อนฝูงไป ก็เรียกว่า Play Hard ไม่แพ้กัน แต่เดี๋ยวก่อน เราเคยหยุดพักนิ่ง ๆ แล้วถามตัวเองไหม ว่าไลฟ์สไตล์สุด ๆ เสี่ยง ๆ แบบนี้มันตอบโจทย์ชีวิตของเราจริง ๆ หรือเปล่า? เราเหนื่อยบ้างไหมกับไลฟ์สไตล์แบบนี้? เคยทำงานหนักจนไม่ได้เที่ยว หรือเที่ยวหนักจนทำงานไม่ได้หรือเปล่า? จะดีแค่ไหนถ้าเราทำงานได้ เล่นได้ โดยไม่ต้องสุดลิ่มทิ่มประตู แต่ทำทั้งสองอย่างให้กลมกลืนแล้วเหลือพื้นที่ตรงกลางไว้หยุดพัก ก็เพราะชีวิตมีแค่ครั้งเดียว เราถึงต้องใช้ให้ดี และเราเชื่อว่า “ชีวิตดีเรามีได้”
ด้วยจำนวนงานเทศกาลดนตรีเจ๋งๆ และปาร์ตี้สุดตื๊ดที่ถูกจัดขึ้นอย่างมากมาย ทำให้ช่วงนี้ UNLOCKMEN มีโอกาสได้รับเชิญไปปลดปล่อยอารมณ์กับหลากหลาย Event ที่ถูกจัดขึ้น ซึ่งงานไหนโดนใจเราก็ไม่พลาดที่จะเก็บภาพบรรยากาศเด็ดๆ ของงานมาฝากกัน อย่างล่าสุดกับ BLEN FES ที่ Mega Bangna ถือเป็นอีกงานที่มีดีกรีความมันส์ขั้นร้อนระอุ เข้ากับช่วงซัมเมอร์แบบนี้เหลือเกิน สำหรับโชว์ภายในงาน เราบอกได้เพียงว่ามันคือส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความมันส์กระแทกอารมณ์ด้วยดนตรีสดจากศิลปินชื่อดัง และความสนุกสนานของบีทดนตรีอิเลคทรอนิกส์สุดเร้าใจจากดีเจระดับโลก ตามแนวคิด ‘สุดไปอีกขั้นกับส่วนผสมความมันส์ทางดนตรี’ และไม่ได้มีเพียงแค่ความมันส์ขั้นสุดจากบนเวทีเท่านั้น เพราะพื้นด้านล่างเวทีได้ถูกเนรมิตขึ้นมาให้เราสัมผัสได้ถึงความสนุกที่กระจายตัวไปทั่วงาน ด้วยการแบ่งเป็นโซนต่างๆ เริ่มจาก Gate Entrance: ปลุกอารมณ์ความสนุกตั้งแต่ทางเข้างาน ด้วย Illumination Tunnel ยาวกว่า 14 เมตร ที่ใช้เทคนิคไฟ และกระจก infinity mirror สร้างมิติใหม่ที่แตกต่าง เป็นจุดที่หลายคน (รวมทั้งเรา) แวะถ่ายรูปเท่ๆ เช็คอินบน IG ก่อนเข้างาน Landmark: ดึงดูดทุกสายตากับ Dynamic Space พีระมิดกระจกขนาดใหญ่ รวมร่างกับไฟ LED ที่มีจังหวะการกระพริบหรือเปลี่ยนสีไปตามบีทของดนตรีบนเวที คอยสร้างสีสัน