Entertainment

The Mask Musician หน้ากากเล่นดนตรี ทำไมพวกเขาถึงต้องใส่หน้ากาก

By: Thada March 27, 2017

จากกระแสรายการแข่งขันร้องเพลงที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากที่ผู้เข้าแข่งขันต้องมาประชันเสียงร้องภายใต้หน้ากากปริศนาสามารถเรียกเรตติ้งชนิดที่ไม่เคยมีรายการไหนทำได้มาก่อน วันนี้ทีมงานเลยขอหยิบประเด็นเรื่องการใส่หน้ากากมาพูดเพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบมาพูดถึงในวงการดนตรีแขนงอื่นๆ

จากการค้นคว้าหาข้อมูลส่วนใหญ่ ในวงการดนตรีสามารถแบ่งประเด็นการใส่หน้ากากได้เป็น 2 หลักใจความใหญ่ ๆ คือเรื่องการสร้างคาแรกเตอร์หรือจุดเด่นให้คนสามารถจดจำได้ง่าย ซึ่งมักจะเป็นการดีไซน์มาจากทีมงานและค่ายเพลงต้นสังกัด กับอีกหนึ่งแบบคือความตั้งใจของตัวนักดนตรีเองที่ต้องการอยากให้คนฟังเลือกที่จะจดจำผลงานมากกว่ารูปร่างหน้าตาของพวกเขา

ซึ่งจริง ๆ แล้วในวงการเพลงมีนักดนตรีมากมายเลือกจะปิดบังภายใต้เครื่องอำพราง อย่างเช่นยุคแรก ๆ อาจจะเป็นเพียงการแต่งหน้าแบบที่ David Bowie เคยปรากฎภาพลักษณ์ใหม่ที่ใช้ชื่อ Ziggy Stardust หรือจะเป็นวง Kiss ทำกัน แต่แบบนั้นเรายังพอที่จะมองเห็นใบหน้าที่แท้จริงของพวกเขา ถ้าหากจะพูดถึงวงดนตรีวงแรกที่มีการนำหน้ากากมาใส่เราต้องย้อนกลับไปกว่า 50  ปีที่แล้ว มีวงดนตรีที่เปิดตัวภายใต้หน้ากากลูกตาพร้อมชุดทักซิโด้ ในนาม The Residents พวกเขาเป็นวงดนตรีที่ไม่เคยเปิดเผยตัวตนที่ใดไม่เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อไหน ทำให้ไม่มีใครทราบเลยว่าจริง ๆ The Resident มีที่มาที่ไปอย่างไร

mask-1

David Bowie

mask-3

KISS

mask-2

The Residents

แต่มีข่าวลือต่าง ๆ นานาว่าแท้จริงพวกเขาคือ The Beatles ที่มาเล่นดนตรีในแนวร็อค แต่นั่นก็เป็นเพียงข่าวลือ เพราะจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ตัวตนที่แท้จริงของวง The Residents หรือจะเป็นในปลายยุค 80s ที่มีมือกีต้าร์ท่าทางประหลาดปรากฎตัวพร้อมหน้ากากสีขาวกับถังบักเก็ต KFC อยู่บนหัวอย่าง Buckethead ก็สามารถสร้างความนิยมพอสมควร โดยที่คนดูไม่ต้องมานั่งสนใจหน้าตาของเขา สนใจแต่ลีลาการโซโล่แบบเพียว ๆ

mask-4

Buckethead

แต่ยุคที่หน้ากากเป็นสัญลักษณ์แห่งการจดจำจริง ๆ น่าจะเป็นช่วง 90s ที่วงการเพลงร็อคได้กำเนิดกลุ่มนักดนตรีบ้าพลัง นามว่า Slipknot ด้วยเนื้อหาเพลงที่รุนแรงหนักหน่วงผสมผสานความเป็นเมทัลได้อย่างสุดโต่ง ที่สำคัญคือพวกเขาได้รับความนิยมอย่างมาก จนเป็นเหมือนเอกลักษณ์ในยุคที่นักดนตรีเมทัล จะเลือกใส่หน้ากาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น วง Slipknot ก็มีการเปิดเผยหน้าตาที่แท้จริงและพวกเขาบอกว่าหน้ากากเป็นเพียง Gimmick ของวงเท่านั้น

mask-5

Slipknot

ในช่วงเวลาเดียวกันวงการเพลง Electronic ก็มีศิลปินที่ชื่อ Thomas Bangalter และ Guy Manuel คู่หูดูโอ้ที่เปิดเพลงอยู่ตามผับในฝรั่งเศสและประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่แล้วพอพวกเขาจะกระโดดข้ามเลเวลจากการเป็นดีเจธรรมดา ๆ ขึ้นมาเป็นโปรดิวเซอร์เพลงในนาม Darlin พวกเขาต้องเจอกับเสียงวิจารณ์มากมายถึงขั้นโดนด่าว่าเป็น A daft punk thrash (เศษขยะ) เขาจึงเก็บคำวิจารณ์นี้มาเปลี่ยนแปลงเป็นพลังพร้อมตั้งชื่อตัวเองใหม่ภายใต้หน้ากากหุ่นยนต์ว่า Daft Punk ซึ่งสามารถสร้างความนิยมและประสบความสำเร็จล้นหลาม

mask-6

Thomas Bangalter และ Guy Manuel ก่อนจะมาเป็น Daft Punk

mask-7

ซึ่งที่มาของหน้ากากหุ่นยนต์เกิดขึ้น เพราะพวกเขากำลังทำงานอย่างหนักหน่วงในห้องอัด จนเครื่องมือต่าง ๆ เริ่มรวน รวมถึงร่างกายของพวกเขาด้วยเช่นกัน ทั้งคู่จึงได้ไอเดียที่ว่าตอนนี้พวกเขากลายเป็นเหมือนหุ่นยนต์ไปเสียแล้วที่ทำงานอย่างหนักหน่วงตลอดเวลา เป็นครึ่งคนครึ่งหุ่นยนต์ เลยเป็นที่มาของหน้ากากโรบอท และพวกเขาก็ใส่มันเรื่อยมาจนไม่คิดว่าจะถอดออกเสียแล้ว เพราะเขาได้รู้สึกผูกพันธ์เหมือนเวลาอยู่ภายใต้หน้ากากเขาเหมือนฮีโร่บนเวทีคล้าย ๆ กับซุปเปอร์แมนที่ช่วยเหลือมนุษย์และเวลาปกติเขาก็เป็นเพียงคนธรรมดาที่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ

mask-8

Daft Punk ก็เหมือนแรงบันดาลใจให้กับ DJ ยุคใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น Deadmau5 หรือจะเป็น Marshmellow ที่ปัจจุบันก็ยังไม่มีใครทราบว่าเขาเหล่านี้เป็นใคร ในประเด็นเรื่องการใส่หน้ากากบางทีพวกเราก็มานั่งคิดว่ามันไม่ได้มีแต่ข้อดีเสมอไป เพราะการที่คุณเลือกจะปกปิดหน้าตาของตัวเอง ข้อแรกเลยคนจะไม่ได้สนใจที่หน้าตาของคุณ หน้ากากอาจจะเป็นจุดดึงดูด แต่คนฟังจะเลือกโฟกัสที่ผลงานของเพียว ๆ เพราะบางครั้งเราจะเห็นได้ว่าการที่นักร้อง นักดนตรีที่มีหน้าตาหรือรูปลักษณ์ที่ดี ก็สามารถลบข้อแย่ในเรื่องการแสดงของคุณไปได้ ดังนั้นการสร้างจุดเด่นภายใต้หน้ากากอาจเสมือนการสร้างงานหนักสองเท่าตัว ที่จะต้องเค้นความสามารถออกมาให้สุดกว่าคนธรรมดา หากคุณสามารถทำได้อย่างพื้น ๆ ก็จะกลายเป็นคุณอยากเป็นจุดเด่นแต่ไม่ได้มีอะไรที่น่าสนใจเลยทำให้ต้องใส่หน้ากาก

mask-10

Deadmau5

mask-9

Marshmellow

แต่ข้อดีของมันก็คือหากคุณเป็นคนที่เก่งและมั่นใจในผลงานของตัวเองการใส่หน้ากาก ก็เหมือนการขีดเส้นแบ่งระหว่างความจริงกับความฝันที่เราได้สร้างตัวตนที่ไม่มีจริงในโลกความเป็นจริงให้กับแฟนเพลง จะทำให้พวกเขามีพื้นที่ส่วนตัวมากโข แถมเงินใช้ไม่ยั้ง ซึ่งนั่นเป็นปัญหาที่เหล่าศิลปินดัง ๆ มักจะต้องเจอหากพวกเขาขายทั้งหน้าตาและฝีมือพร้อมกัน บางคนไม่สามารถมีชีวิตในแบบที่ต้องการได้เรียกว่าต้อง keep look กันตลอดเวลา แต่อย่างไรก็แล้วแต่สิ่งที่เราอยากให้ทุกคนให้ความสำคัญ ไม่ใช่หน้ากากที่อยู่ตรงหน้า หรือรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่ให้มองลึกลงไปในจิตใจ ความสามารถของคนเหล่านั้นจะดีที่สุด

Thada
WRITER: Thada
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line