MUSIC

ยุครุ่งเรือง! 12 ผลงานร็อกสุดคลาสสิคในช่วงปี 2000-2005 จากค่ายยักษ์ใหญ่ย่านอโศก

By: JEDDY December 16, 2022

ก่อนที่กระแสดนตรีฮิปฮอปและดนตรีป๊อปอีซีลีเซ็นนิงจะก้าวขึ้นมาครองชาร์ตวิทยุในบ้านเราเหมือนที่เห็นในปัจจุบัน หากย้อนช่วงปี 2000’s มันเป็นช่วงที่ดนตรีร็อกครองตลาดบ้านเราอย่างชัดเจน ส่วนหนึ่งต้องยกเครดิตให้กับค่ายเพลงยักษ์ใหญ่โดยเฉพาะฝั่งอโศกที่ผลิตศิลปินร็อกคุณภาพออกมามากมาย สำหรับในพาร์ตนี้ เราลองมาดูกันดีกว่าว่าในช่วงปี 2000-2005 มีผลงานอะไรในยุคนั้นที่ยังถูกพูดถึงมาจนทุกวันนี้บ้าง


SILLY FOOLS

“JUICY” (2002)

 

หลังจากปรับทิศทางลดเพดานความหนักหน่วงลงนับตั้งแต่อัลบั้ม “I.Q.180” เส้นทางการเติบโตบนวงการดนตรีของ Silly Fools ก็ค่อย ๆ พุ่งทะยานสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งมาถึงอัลบั้ม “Juicy” ที่เหมือนเป็นการตกผลึกประสบการณ์ตลอดทั้ง 3 อัลบั้มที่ผ่านมา มีการบาลานซ์ความหนักและความป๊อปได้อย่างลงตัว แถมผลงานเพลงในอัลบั้มนี้เรียกได้ว่าฮิตแทบทุกเพลง ไม่ว่าจะเป็น “บ้าบอ”, “หน้าไม่อาย”, “ผิดที่ไว้ใจ”, “ขี้หึง”, “แกล้ง”, “น้ำนิ่งไหลลึก” และ “วัดใจ” 

แม้ว่าเวลาจะผ่านมา 20 ปีแล้ว แต่เราก็ยังคงได้ยินผลงานเพลงจากชุดนี้อยู่เป็นประจำ


PARADOX

“SUMMER” (2000)

วงร็อกที่มีโชว์สุดวาไรตี้ พวกเขาเติบโตมาจากยุคอัลเทอร์เนทีฟรุ่งเรือง ก่อนจะไต่เต้าเข้ามาสู่ชายคาค่ายใหญ่ย่านอโศก โดยมีผลงานเดบิวต์กับ genie records ที่มีชื่อว่า “Summer”

Paradox ใช้เวลาไม่นานก็มีเพลงฮิตประดับคลื่นวิทยุทันที เปิดตัวด้วยเพลงร็อกเนื้อหาจิต ๆ อย่าง “น้องเปิ้ล” ตามมาด้วยผลงานคลาสสิคตลอดกาล “ฤดูร้อน”, เพลงรักเนื้อหาน่ารัก “Love”, เพลงจังหวะมันส์ ๆ “ไถล” และเพลงเต้นขวัญใจวัยหัวเกรียน “ร.ด. แดนซ์”

“Summer” ถือเป็นผลงานที่สร้างรากฐานอันแข็งแกร่งให้กับ Paradox ได้เป็นอย่างดี


BIG ASS

“SEVEN” (2004)

 

“Seven” ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของ Big Ass ที่ทำให้พวกเขาก้าวขึ้นมาเป็นวงร็อกระดับแนวหน้าของบ้านเราอย่างเต็มภาคภูมิ มันคือผลงานที่ต่อยอดจากอัลบั้ม “My World” อย่างชัดเจน มันคือสูตรสำเร็จที่ทางวงค้นพบในการเอาความซอฟต์เข้าไปใส่ในความหนักได้อย่างแนบเนียน

เบสออนของอัลบั้มนี้มันคือซาวด์ของนูเมทัลสุดเกรี้ยวกราดที่เราจะได้ยินมันแทบทุกเพลง เช่น “ยักษ์ใหญ่ ไล่ยักษ์เล็ก”, “เล่นของสูง”, “ทางหนีไฟ”, “ศัตรูที่มองไม่เห็น”, “ฉันตะโกนดังพอหรือยัง”, “เดิมพัน” และ “ดีแต่ปาก” แต่ก็ยังคงไม่ทิ้งเพลงช้าซึ้ง ๆ อย่าง “คนไม่เอาถ่าน” และ “เกิดมาแค่รักกัน” 

อัลบั้ม “Seven” ยังส่งให้วงต้องออกไปใช้ชีวิตอยู่บนรถตู้ เพราะตารางทัวร์แน่นกันข้ามปีเลยทีเดียว


BODYSLAM

“BELIEVE” (2005)

สตูดิโออัลบั้มที่ 3 ของวง Bodyslam และเป็นอัลบั้มแรกที่ออกกับทาง genie records ซึ่งสร้างความแปลกตาให้กับแฟนเพลงโดยทันทีจากสไตล์การแต่งตัวแบบเด็กอีโมทรงดำทั้งตัว ที่มาพร้อมกับการใส่เสื้อวงดนตรีจากต่างประเทศ แน่นอนว่าดนตรีของพวกเขาก็สอดคล้องไปกับลุคการแต่งตัวด้วยเช่นกัน ถือเป็นการหนีจากกรอบเดิม ๆ ที่เคยทำไว้ใน 2 อัลบั้มแรก แถมยังมีการปรับเปลี่ยนสมาชิกในส่วนของมือกีตาร์จาก “เภา” มาเป็น “ยอด” และได้ “ชัช” มาประจำการในตำแหน่งมือกลอง

ส่วนผลงานที่โดดเด่นประกอบไปด้วย “ขอบฟ้า”, “ความรักทำให้คนตาบอด”, “ความเชื่อ” และ “คนที่ถูกรัก” 


CATAROCK

“AWAKE” (2001)

 

แม้ว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ “แมว-จิรศักดิ์ ปานพุ่ม” จะเคยให้สัมภาษณ์ว่าตัวเขาเมื่อก่อนไม่ค่อยถนัดเพลงร็อกซักเท่าไหร่ แต่หากให้มองไปย้อนดูผลงานในยุค Catarock เราก็แทบไม่อยากจะเชื่อคำพูดของเขาเลยซักนิด เพราะแมวสามารถถ่ายทอดซาวด์ของร็อกออกมาได้อย่างออกรสมาก ๆ โดยเฉพาะกับอัลบั้ม “Awake” ที่กลายเป็นอีกหนึ่งมาสเตอร์พีซวงร็อกยุค 2000’s โดยแท้จริง

ผลงานที่โดดเด่นในอัลบั้มนี้ประกอบไปด้วย “ราตรีสวัสดิ์”, “มุมมืด”, “คือฉันรักเธอ”, “คนของเธอ”, “ทางใครทางมัน” และ “รับได้ไหม” จากรายชื่อแล้วจะเห็นได้ว่าบางผลงานกลายเป็นเพลงอมตะไปแล้ว


CLASH

“ONE” (2001)

 

ผลผลิตจากเวทีประกวด Hotwave Music Awards พวกเขาได้เปลี่ยนชื่อวงจาก Lucifer มาเป็นวง Clash และมีผลงานชุดแรกด้วยวัยยังไม่ถึง 20 ปีกันเลยด้วยซ้ำ แม้อัลบั้ม “One” อาจจะไม่ได้มีซาวด์ที่สะใจหากเทียบกับอัลบั้มอย่าง “Brainstorm” หรือ “Emotion” แต่ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าอัลบั้มนี้ ณ เวลานั้นมันคือปรากฏการณ์อย่างแท้จริง 

ทันทีที่ซิงเกิ้ลแรก “กอด” ถูกส่งออกมา พวกเขาก็สามารถสร้างฐานแฟนคลับได้ในเวลาอันรวดเร็ว ก่อนจะสร้างกระแสต่อเนื่องด้วยเพลง “รับได้ทุกอย่าง” ที่ดังกระหึ่มติดชาร์ตทุกคลื่นวิทยุทั่วประเทศ 

จุดเด่นที่ทำให้ผลงานของวง Clash เข้าถึงทุกคน คือการสร้างดนตรีร็อกให้มีอารมณ์แบบโรแมนติคได้อย่างลงตัวนั่นเอง


LOSO

“ปกแดง” (2001) 

 

อีกหนึ่งผลงานสุดคลาสสิคของ 3 สมาชิก เสก, ใหญ่ และรัตน์ ในนามวง Loso ที่มาพร้อมกับซาวด์ดนตรีอันจัดจ้าน เต็มไปด้วยส่วนผสมของ อัลเทอร์เนทีฟ, กรันจ์ และพังก์ เปิดอัลบั้มกันมาด้วยบทเพลงตีแสกหน้าวงการเทปฝีซีดีเถื่อนอย่าง “พันธุ์ทิพย์”, เพลงอกหักซาวด์สุดอลังการ “เคยรักฉันบ้างไหม”, เพลงอะคูสติคสุดเพราะ “ฝนตกที่หน้าต่าง” หรือจะเป็นเพลงติดสำเนียงแกลมร็อกอย่าง “เธอชอบนาย” 

อัลบั้ม “ปกแดง” ยังกลายเป็นอีกหนึ่งผลงานที่ประสบความสำเร็จของวง Loso ด้วยเช่นกัน


BLACKHEAD

“HANDMADE” (2003)

ผลงานสุดพีคของวงร็อกหัวดำ ที่เต็มไปด้วยเพลงดังมากมาย เรียกได้ว่าใครได้ยินก็ต้องร้องตามกันได้ ไล่ตั้งแต่เพลง “เหตุผล”, “ไม่เป็นไร” และ “ฉันอยู่ตรงนี้” ซึ่งถูกนำไปใช้ประกอบภาพยนตร์ “สายล่อฟ้า” ด้วย

ส่วนใครที่คิดถึงความหนักหน่วงพวกเขาก็พร้อมเสิร์ฟด้วยเพลง “เพื่อใคร” กับกลิ่นอายของดนตรีกรันจ์ผสมเฮฟวี่เมทัล, “มารักกับพี่” และ “ไหงยังงี้” กับสไตล์ฟังก์ร็อกสุดมันส์ กรูฟหนึบ ๆ, “หน้าด้าน ๆ” ซาวด์ดั้งเดิมของวงต้องแบบนี้ และ “Save Me” จังหวะหน่วง ๆ ช่วยนวดคอได้เป็นอย่างดี

อย่ามัวแต่ฟังเพลงฮิตในอัลบั้ม เพราะคุณอาจจะพลาดของดีไปโดยไม่รู้ตัว


ZEAL

“ZEAL” (2002)

 

ก่อนที่กลายมาเป็นวงสายฮาในปัจจุบัน ในยุคแรกไม่มีใครกล้าปฏิเสธเลยว่าพวกเขาเป็นวงที่ฝีมืออันเหนือชั้นกันมากขนาดไหน อดีตวงที่เคยเป็นแบ็คอัพให้กับ “ดัง พันกร” (และอีกหลาย ๆ ศิลปิน) ผันตัวมาเป็นศิลปินมอร์มิวสิค โดยได้ “เป๊ก” เข้ามารับหน้าที่ร้องนำ

ผลงานในอัลบั้มแรกมันมาพร้อมกับซาวด์อิเลกทรอนิกส์ร็อกสุดล้ำนำกว่าวงอื่น ๆ ในช่วงนั้น สัดส่วนในแต่ละเพลงใครเอาไปแกะตามรับรองปวดหัวแน่นอน โดยเฉพาะไลน์กลองของเคนที่แอบใส่เทคนิคอันร้ายกาจเอาไว้เพียบ 

ส่วนผลงานสร้างชื่อให้กับอัลบั้มแรกคงหนีไม่พ้น “เหวี่ยง”, “โง่เขลา”, “แค่ฝันก็เอาแล้ว” และ “สองรัก”


ULTRA CHUADZ

“ULTRA SOUND” (2002)

พวกเขาเป็นวงชนะเลิศจากเวที Hotwave Music Awards ในนามโรงเรียนสาธิตเกษตรศาสตร์ และได้มาเซ็นสัญญาอยู่กับค่าย Mad Catz Records ภายใต้การดูแลของ “แมว-จิรศักดิ์ ปานพุ่ม” ก่อนจะได้เข็นอัลบั้มแรกออกมาในปี 2002 และเป็นอัลบั้มเดียวที่ได้ออกกับค่ายใหญ่

ซาวด์ในอัลบั้มนี้เกรี้ยวกราดในสไตล์นูเมทัลแบบจัดเต็มสะใจ เช่นเพลง “Ultra Sound”, “ช่วยไม่ได้” และ “เอาแต่ใจ” ส่วนเพลงขายที่หลาย ๆ คนรู้จักกันดีคือ “ไม่เป็นไร” และ “กล้าขอกล้าให้”

ปัจจุบันวง Ultra Chuadz ยังคงรับงานเล่นคอนเสิร์ตตามปกติ แต่สมาชิกดั้งเดิมเหลือเพียง “แทน” นักร้องนำเพียงคนเดียวเท่านั้น


กะลา

“นอกคอก” (2001)

ผลงานพลิกชีวิตของวงกะลาที่สร้างชื่อเสียงให้กับพวกเขาด้วยเพลง “ขอเป็นตัวเลือก” ซึ่งถูกนำไปใช้ประกอบละครด้วยเช่นกัน เสน่ห์ของอัลบั้มนี้คือการใช้ภาษาง่าย ๆ บ้าน ๆ ฟังแล้วไม่ต้องไปตีความหมายอะไรให้ปวดหัว จากจุดนี้เองทำใหเพลงของกะลาเข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัย

แต่ใช่ว่าพวกเขาจะมีแต่เพลงช้า เพราะในอัลบั้มก็มีเพลงกวน ๆ มันส์ ๆ ที่ดังข้ามยุคอย่าง “แม่ (ภาค2)” มาให้ฟังเช่นกัน ด้วยกระแสอันร้อนแรงของอัลบั้ม “นอกคอก” ส่งผลงให้พวกเขาได้ออกอัลบั้มพิเศษ “หัวกะทิ” ตามออกมาอีก 1 ชุด

ปัจจุบันวงกะลาได้แยกย้ายกันไปแล้ว เหลือเพียง “หนุ่ม” คนเดียวเท่านั้นที่ยังคงทำหน้าที่เป็นนักร้องต่อ และมีผลงานเพลงออกมาให้ฟังอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีคอนเสิร์ตใหญ่เป็นของตัวเองมาแล้วอีกด้วย


AB NORMAL

“FAST LANE” (2004)

เลือกยากจริง ๆ สำหรับผลงานของ AB Normal ระหว่างอัลบั้มแรก “ปกติ” และอัลบั้มสอง “Fast Lane” แต่สุดท้ายของตัดสินใจเลือกอัลบั้มหลัง เพราะแอบหลงรักซาวด์ของป๊อปพังก์ที่ซ่อนอยู่ในผลงานชุดนี้ (โดยมีสไตล์อัลเทอร์เนทีฟร็อก และนูเมทัล ผสมอยู่ด้วย)

AB Normal ประสบความสำเร็จตั้งแต่อัลบั้มแรกด้วยเพลง “พูดไม่ค่อยเก่ง” และ “ตัวประกอบ” ก่อนจะมาต่อยอดด้วยอัลบั้มที่ 2 ซึ่งก็ยังคงมีเพลงฮิตทำงานจนทำให้วงติดลมบน เช่น “เด็กกว่าแล้วไง” และ “ใจน้อย” 


ใครได้ฟังครบทุกเพลงแล้ว คงจะนีกถึงอดีตในช่วงวัยรุ่นกันขึ้นมาทันทีเลย่ใช่ไหมครับ ส่วนใครที่เกิดไม่ทันก็หวังว่าผลงานเหล่านี้จะทำให้ทุกคนได้เห็นภาพความรุ่งเรืองของดนตรีร็อกในยุค 2000’s แบบชัดเจนมากยิ่งขึ้นนะครับ

JEDDY
WRITER: JEDDY
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line