เศร้า เหงา หว่อง ไปกับ 5 หนังอวกาศ ท่ามกลางความเงียบสุดอ้างว้างที่จะทำให้เราเหงาจับใจ

กระแสของเรื่องราวของดาราศาสตร์ อวกาศกับดวงดาว เป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงอยู่เป็นระยะ แถมในช่วงนี้องค์การอวกาศชื่อดังอย่าง NASA ก็กลับมามีบทบาทในสื่ออีกครั้งกับการครบรอบ 50 ปี ของการขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์ครั้งแรกของมนุษยชาติ และเมื่อพูดถึงอวกาศ ก็จะต้องนึกถึงบรรยากาศไร้แรงโน้มถ่วงนอกโลกกับสีดำสุดลูกหูลูกตาที่ยิ่งทำให้เคว้งคว้างกว่าเดิม

ด้วยเหตุผลหลายอย่างทำให้  UNLOCKMEN เลือกหนังเกี่ยวกับอวกาศ 5 เรื่อง ที่ทั้งเศร้า เหงา หว่อง ไปจนถึงงุนงงมาให้ทุกคนได้ดูกันว่าชีวิตของเราในตอนนี้กับตัวละครในหนังใครจะเหงากว่ากัน

The Martian (2015)

ในขณะที่กลุ่มนักบินอวกาศกำลังสำรวจบนดาวอังคาร แต่กลับต้องเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างพายุที่อาจสร้างความเสียหายให้กับยานจึงต้องยกเลิกภารกิจ ระหว่างการอพยพ Mark ถูกชิ้นส่วนของยานกระแทกจนกระเด็นออกห่างจากคนอื่นและทางยานก็ไม่พบสัญญาณชีพของเขา จึงต้องยกเลิกการค้นหาตัวเขาพร้อมนำยานออกจากดาวอังคาร แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายคือ Mark ยังไม่ตาย 

Mark พาตัวเองไปยังศูนย์อาศัยไร้คนบนดาวอังคาร เขาตรวจสอบข้อมูลและพบว่ามนุษย์จะกลับมาที่ดาวอีกครั้งในอีก 4 ปี แต่เขามีอาหารที่จะประทังชีพเพียงแค่ 300 วัน ทำให้เขาต้องดึงความรู้เรื่องของพฤกษศาสตร์มาใช้ดำรงชีพพร้อมกับความรู้ทางวิศวกรรมเพื่อดัดแปลงรถ เครื่องยนต์ต่าง ๆ เพื่อให้ตัวเองอยู่รอดได้นานที่สุด ในขณะที่โลกก็ทราบถึงการมีชีวิตของเขาและหาทางช่วยเหลือให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

The Martian (2015) เป็นผลงานกำกับของ Ridley Scott นำแสดงโดย Matt Damon และเข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 7 สาขาด้วยกัน เป็นหนึ่งเรื่องที่เต็มไปด้วยอารมณ์เหงาของการต้องอยู่คนเดียวได้อย่างชัดเจน 

Gravity (2013)

ภาพยนตร์กลางอวกาศที่ได้รับความสนใจและถูกพูดถึงมากที่สุดในปี 2013 กับเรื่อง Gravity ที่เปิดเรื่องอย่างน่าประทับใจด้วยฉาก Long Take ยาวกว่า 20 นาที เมื่อ Ryan Stone (Sandra Bullock) และพ่อของเธอต้องทำทุกวิถีทางเอาตัวรอดกลางอวกาศที่ไร้สุญญากาศ ไร้ความช่วยเหลือ เพื่อหาทางกลับโลกอย่างปลอดภัยให้ได้

แม้ว่าในหนังจะมีนักแสดงหลักเพียงแค่สองคน แต่การแสดงของ Sandra Bullock ก็สร้างความอึดอัด ลุ้นระทึก คอยเอาใจช่วยให้เธอกลับบ้านอย่างปลอดภัย โดยหนังจะเล่าออกมาเป็นภาพที่มีเทคนิคถ่ายทำอันเป็นเอกลักษณ์ ด้วยองค์ประกอบหลาย ๆ อย่าง ทำให้ Gravity ผลงานกำกับของ Alfonso Cuaron สามารถกวาดรางวัลออสการ์ครั้งที่ 86 ไปทั้งหมด 7 รางวัลด้วยกันจากการเข้าชิง 10 สาขา รวมถึงสาขาใหญ่อย่างรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม ซึ่งใครอยากหาหนังเกี่ยวกับอวกาศแบบเหงา ๆ ที่มาพร้อมกับความอึดอัด Gravity จะเป็นชื่อแรก ๆ ที่ถูกพูดถึงเสมอ

Moon (2009)

เมื่อโลกของเราต้องเผชิญกับวิกฤตพลังงานครั้งใหญ่ที่อาจส่งผลทำให้สิ่งมีชีวิตบนโลกต้องล่มสลาย เหล่านักวิทยาศาสตร์และนักดาราศาสตร์ทั่วโลกจะต้องคิดหาวิธีเพื่อป้องกันวิกฤตครั้งนี้ โดยได้ไอเดียจากการนำแร่ธาตุบนดวงจันทร์มาใช้เป็นเชื้อเพลิง ซึ่งเชื้อเพลิงดังกล่าวเป็นพลังงานที่มนุษย์โลกเคยมีมาเสียอีก จึงทำให้มนุษย์ต้องเร่งขนแร่ดังกล่าวมาที่โลกโดยเร็ว 

Sam Bell คือนักวิจัยเพียงคนเดียวที่อาศัยอยู่ในเหมืองแร่เอกชนบนดวงจันทร์ เขาคือคนสำคัญของภารกิจนี้และระหว่างที่ใช้ชีวิตอยู่บนดวงจันทร์ Sam มีเพื่อนเป็นปัญญาประดิษฐ์ชื่อ Gertry ที่คอยพูดคุยเป็นเพื่อนยามเหงา การทำงานแสนน่าเบื่อของ Sam ใกล้สิ้นสุดลงเมื่อถึงเวลาที่เขาจะได้กลับบ้าน แต่เขากลับเห็นภรรยาที่คิดอย่างไรก็ไม่มีทางขึ้นมาอยู่บนดวงจันทร์ได้ รวมถึงพบเจอเรื่องแปลกประหลาดอีกมาก ทำให้ Sam ต้องหาคำตอบของเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดย Moon (2009) เป็นผลงานของผู้กำกับ Duncan Jones จากเรื่อง Source Code (2011) 

Wall-E (2008)  

เมื่อโลกเข้าสู่ยุคเสื่อมโทรมที่ทุกมุมเมืองเต็มไปด้วยขยะจำนวนมหาศาล ทำให้สิ่งปฏิกูลรุกรานที่อยู่อาศัยของมนุษย์ เรื่องราวทั้งหมดจะเล่าผ่านหุ่นเก็บขยะตัวสุดท้ายของโลกที่ชื่อว่า Wall-E ที่ยังคงทำงานอยู่อย่างโดดเดี่ยวโดยมี “แมลงสาบ” สิ่งที่มีชีวิตประเภทเดียวที่ยังคงยืนหยัดอยู่บนโลกอย่างสบาย ๆ เป็นเพื่อน

หลังจากการทำงาน Wall-E ใช้เวลาว่างนั่งดูหนังรักสุดคลาสสิกพร้อมกับครุ่นคิดว่าจะมีไหมสักวันหนึ่งที่หุ่นยนต์อย่างเขาจะเจอรักโรแมนติกเหมือนกับมนุษย์ จนวันหนึ่งสิ่งที่ Wall-E เฝ้าฝันถึงก็ใกล้เป็นจริงเมื่อมีหุ่นยนต์นามว่า Eve ถูกส่งมายังโลกเพื่อค้นหาสิ่งมีชีวิตที่สังเคราะห์แสงได้ 

ถึงแม้ Wall-E จะเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันที่ใช้หุ่นยนต์ดำเนินเรื่องแต่อย่าให้ความเป็นการ์ตูนทำให้คุณมองข้ามหนังเรื่องนี้ไป เพราะ Wall-E สามารถถ่ายทอดความเหงาออกมาได้อย่างจับใจ ด้วยบรรยากาศหม่น ๆ ร่วมกับการดึงเทคนิคหนังเงียบมาใช้ แถมหน้าตาที่สื่ออารมณ์ของหุ่น องค์ประกอบทั้งหมดทำให้หลายคนยกย่องว่าหนังเรื่องนี้คือหนึ่งในผลงานชั้นยอดจาก Pixar และหากใครอยากได้อารมณ์เหงา ๆ แล้วล่ะก็ หนังเรื่องนี้จะตอบโจทย์อย่างแน่นอน 

2001: A Space Odyssey (1968) 

เมื่อหลายล้านปีก่อนมีแท่งหินสีดำไม่ทราบที่มาที่ไปปรากฏตัวขึ้นบนเนินเขาแห่งหนึ่ง วันเวลาผ่านไปจนเกิดวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตรวมถึงการเกิดมนุษย์ผู้มีปัญญา ผู้คนเริ่มหยั่งรู้ถึงการมีอยู่ของดวงดาวนอกอวกาศ พร้อมกับพบว่ามีแท่งหินสีดำอีกอันอยู่บนดวงจันทร์ ทำให้องค์การ NASA ส่งยานอวกาศไปสำรวจ ซึ่งการเดินทางครั้งนี้จะทำให้เหล่าลูกเรือต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ มากมายเพื่อค้นพบความจริงของจักรวาล 

ภาพยนตร์เรื่อง 2001: A Space Odyssey (1968) สร้างจากนิยายวิทยาศาสตร์ Space Odyssey ของ Sir Arthur Charles Clarke โดยได้ผู้กำกับชื่อดังของยุคอย่าง Stanley Kubrick มานั่งแท่นควบคุมการดำเนินงานสร้าง ด้วยเทคนิคของยุคนั้นที่ยังไม่ทันสมัยเท่าตอนนี้แต่ก็สามารถสร้างอวกาศออกมาอย่างไร้ที่ติจนสามารถคว้ารางวัลออสการ์สาขา Visual Effects มาครองได้สำเร็จ

ด้วยองค์ประกอบต่าง ๆ ทำให้หนังเรื่อง 2001: A Space Odyssey (1968) ขึ้นแท่นหนังอวกาศ sci-fi ในตำนานที่นอกจากจะให้ความรู้สึกหม่น ๆ แล้วยังได้ความมึนงงที่ชวนให้ขบคิดถึงปรัชญากลับไปอีกด้วย 

ความเหงา เคว้งคว้าง และอยู่ลำพังกับตัวเอง 5 เรื่องที่เราเลือกมาจะเติมเต็มช่องว่างในใจชาว UNLOCKMEN ได้หรือเปล่า? หรือใครอยากให้แนะนำหนังมู้ดไหนเพิ่มเติม คอมเมนต์กลับมาได้ ไม่แน่ว่า…ครั้งหน้าเรื่องที่เรารวมมาฝากอีกครั้งอาจจะเป็นแนวเรื่องที่คุณกำลังอยากดู

SOURCE: 1 / 2 / 3 / 4 / 5