CARS

‘HOCKEHEIM SILVER METALLIC’ สีสันที่ได้แรงบันดาลใจจากความสำเร็จบนสังเวียนมอเตอร์สปอร์ต

By: SPLESS November 24, 2020

ปฏิเสธไม่ได้ว่า สีสัน กลายมาเป็นองค์ประกอบที่มีความสำคัญกับชีวิตของคนเราในหลายด้านและมนุษย์แต่ละคนต่างมีโทนสีที่ชื่นชอบเป็นของตัวเอง ซึ่งสามารถสังเกตได้จากสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า, รองเท้า, เฟอร์นิเจอร์ในบ้านไปจนถึงสีสันของรถคู่ใจที่เลือกใช้งาน นอกจากความสวยงาม สีของรถยนต์ยังสะท้อนคาแรคเตอร์ของรถยนต์และผู้ขับได้อย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม หากพูดถึงเรื่องสีสันบนพาหนะ ค่ายรถสัญชาติเยอรมันอย่างบีเอ็มดับเบิลยู (BMW) ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ให้กำเนิดสีรถที่มีเอกลักษณ์ออกมาเป็นจำนวนมาก และมีจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจ เกิดจากความหลงใหลในสังเวียนมอเตอร์สปอร์ตที่อยู่ใน DNA ของพวกเขา โดยเฉพาะรถยนต์ในตระกูล BMW M ที่ถูกตั้งชื่อสีสันให้เหมือนกับสนามแข่งรถ Formula 1 ซึ่งต่อมากลายเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของ BMW ในวงการรถสูตร 1 และวันนี้ เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับจุดเริ่มต้นรวมถึงความพิเศษของโทนสีเหล่านี้ไปพร้อมกัน

BMW Blog 

สีที่ดุดันจาก BMW M สีแรกที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนรู้จักคือ สีแดง Imola Red โทนสีแดงที่โดดเด่นมีจุดเริ่มต้นมาจากการฉลองชัยชนะบนสังเวียน F1 ของทีม BMW Williams เมื่อปี 2001 ในแข่งขัน San Marino Grand Prix ซึ่งจัดขึ้นที่สนาม Autodromo Internazionale Enzo e Dino Ferrari หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่าสนาม Imola

การแข่งขันในวันนั้น นักแข่งของทีม BMW Williams คือ ราล์ฟ ชูมักเกอร์ (Ralf Schumacher) ได้ควบรถแข่ง FW-23 ทะยานเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 1 ซึ่งถือเป็นชัยชนะครั้งแรกของทีมในปีนั้น เป็นการคว้าอันดับหนึ่งบนโพเดียมครั้งแรกของราล์ฟ ชูมักเกอร์ในฐานะนักขับรถสูตร 1 อีกด้วย

ความสำเร็จครั้งนั้นทำให้ BMW เลือกสร้างสีพิเศษในชื่อ Imola Red ขึ้นมาก่อนเปิดตัวครั้งแรกกับรถยนต์ BMW M3 (E46) และกลายเป็นอีกหนึ่งโทนสีที่นักสะสมทั่วโลกตามหา ซึ่งปัจจุบันได้ถูกนำกลับมาใช้งานอีกครั้งใน 2020 BMW M5 Competition 

BMW Blog


สีน้ำเงินหรือสีฟ้า เป็นอีกโทนสีเที่เรามีโอกาสเห็นจากบีเอ็มดับเบิลยูรุ่นพิเศษอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นสีน้ำเงิน Interlagos Blue สีที่ได้แรงบันดาลใจมาจากชัยชนะของ ฮวน ปาโบล มอนโตย่า นักขับแข่งสูตร 1 ทีมชาวโคลอมเบียของทีม BMW Williams คว้าชัยชนะครั้งสำคัญในการแข่งขัน Brazilian Grand Prix เมื่อปี 2004 จัดขึ้น ณ สนาม Autodromo Jose Carlos Pace หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่าสนาม Interlagos ต่อมาโทนสี Interlagos Blue ถูกถ่ายทอดลงในรถยนต์อย่าง BMW M3 (E46) Competition Package รวมถึงในรถรุ่นแรร์อย่าง BMW M5 (E61)

BMW Blog

ขณะเดียวกันยังมีสีน้ำเงิน Monaco Blue สีที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสนามแข่งรถสตรีตเซอร์กิตที่ถือเป็นตำนานของวงการรถแข่งอย่างสนาม Circuit De Monaco ในมอนติ คาร์โล และการคว้าอันดับ 1 ของ ฮวน ปาโบล มอนโตย่า ให้กับทีม BMW Williams ในสนามแห่งนี้เมื่อปี 2003 ความพิเศษคือสนาม Circuit De Monaco แห่งนี้ยังเคยถูกใช้เป็นสนามสำหรับการแข่งขัน BMW M1 Procar Championship ซึ่งจัดขึ้นระหว่างปี 1979-1980 อีกด้วย โดยเราจะมีโอกาสได้เห็นสีน้ำเงิน Monaco Blue ในโมเดลอย่าง BMW X5 M และ BMW X6 M

อีกหนึ่งสีโทนน้ำเงินที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนรู้จักคือ สีน้ำเงิน Montreal Blue ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากชัยชนะของทีม BMW Sauber เมื่อปี 2008 เมื่อนักแข่งของทีมคือโรเบิร์ต คูบิซ่า สามารถเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 รวมถึง นิค ไฮด์ฟิลด์ (Nick Heidfeld) ที่เข้าเส้นชัยมาในอันดับที่ 2 ในการแข่งขัน Canadian Grand Prix ณ สนาม Circuit Gilles Villeneuve ที่ตั้งอยู่ในเมืองมอลทรีออล ทำให้สีน้ำเงินที่สร้างขึ้นถูกเรียกว่า Montreal Blue


BMW

ข้ามมาดูสีที่ได้แรงบันดาลใจจากสนามแข่งรถในโซนทวีปเอเชียใกล้บ้านเรากันบ้างกับ สีบรอนซ์ Sepang Bronze ที่ตั้งชื่อตามสนามแข่งรถ Sepang International Circuit ประเทศมาเลเซีย โดยสีดังกล่าวสร้างขึ้นมาเพื่อฉลองชัยชนะทีม BMW Williams ในปี 2002 หลังจากนักแข่งของทีมคือ ราล์ฟ ชูมักเกอ ร์และ ฮวน ปาโบล มอนโตย่า สามารถเข้าเส้นชัยในอันดับที่ 1 และ 2 ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ BMW Williams คว้ารองแชมป์ในการแข่งขันประเภททีมผู้สร้างของปี 2002 มาครองได้สำเร็จ

ในเวลาต่อมาสีบรอนซ์ Sepang Bronze เปิดตัวเป็นครั้งแรกในปี 2004 กับ BMW M5 (E60) รวมถึงถูกใช้งานบนตัวถังของรุ่นเปิดประทุนอย่าง BMW M6 (E64) ซึ่งสวยงามและลงตัวมาก ๆ

อีกหนึ่งสีที่โดดเด่นของรถยนต์ BMW M คือสีเทา Hockenheim Silver Metallic สีที่ถูกตั้งชื่อตามสนามแข่งรถ Hockenheimring ที่ตั้งอยู่ในหุบเขาของเมืองฮอคเกนไฮม์ (Hockenheim) ประเทศเยอรมนี โดยสีพิเศษนี้เป็นสีที่ได้แรงบันดาลใจมาจากความสำเร็จของทีม BMW Williams ที่เคยสร้างไว้บนสนามแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นชัยชนะในการแข่งขัน German Grand Prix เมื่อปี 2001 ของราล์ฟ ชูมักเกอร์ รวมถึงชัยชนะของ ฮวน ปาโบล มอนโตย่า ในปี 2003 ก่อนที่สีเทา Hockenheim Silver Metallic จะถูกใช้ครั้งแรกบนตัวถังของ BMW M2 Competition

ต่อมาสีเงิน Hockenheim Silver Metallic ยังถูกถ่ายทอดลงบนตัวถังของ BMW M8 Competition Gran Coupé รวมถึงถูกเพิ่มเข้าไปในตัวเลือกสีของโมเดลอย่าง BMW M2 CS และในปีนี้เป็นครั้งแรกที่ BMW เลือกถ่ายทอดสี Hockenheim Silver Metallic ลงบนรถมอเตอร์ไซค์คันใหม่ของค่ายอย่าง BMW S1000RR รุ่นล่าสุดของปี 2020 เพื่อสานต่อตำนานและดีเอ็นเอมอเตอร์สปอร์ตเข้ากับเทคโนโลยียุคใหม่

 

 

SPLESS
WRITER: SPLESS
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line