Entertainment

15 Rock Music ที่จะทำให้คุณนึกถึงยุคทองอันรุ่งเรืองของดนตรี Emo

By: unlockmen February 24, 2016

หากคุณเป็นหนึ่งคนที่ชื่นชอบการฟังเพลงร็อค ในช่วงต้นของปี 2000 ถึงประมาณ 2007 มีแนวเพลงอยู่แนวหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก วัยรุ่นน้อยใหญ่ต่างโยกหัว และใส่ชุดดำ ไปพร้อมๆ กับการหวีผมเป๋ให้เข้ากับ culture นี้อย่างพร้อมเพรียง ซึ่งแนวเพลงนี้ได้แตกย่อยออกมาจากฮาร์ดคอร์พังก์ และเราได้ให้คำจำกัดความมันว่า “Emo” ฟังดูเหมือนเพิ่งมาในช่วงปี 2000 แต่จริงๆ แล้ว Emo นั้นเริ่มต้นมาตั้งแต่ช่วงกลางทศวรรษ 80s แล้ว Emo ย่อมาจากคำว่า Emotional Hardcore เป็นแนวเพลงฮาร์ดคอร์ที่เราจะเน้นเรื่องของอารมณ์เป็นสำคัญ

นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมดนตรี Emo จึงมีความดิบมากกว่าฮาร์ดคอร์ทั่วไป ในช่วง 80s นั้นจะมีวงดังๆ ก็คือ one last wish ต่อมาในปี 90s วงที่เป็นตำนานอีกหนึ่งวงก็คือ Jimmy Eat Word ซึ่งถือเป็นการพัฒนาของ Emo มาเรื่อยๆ จนมาในช่วงหลัง Emo มีความรุนแรงของดนตรีและการว้ากมากขึ้น เราจะรู้จักกันในแนว Screamo

ย้อนอดีตกันไปคร่าวๆ แล้ว วันนี้ UNLOCKMEN ขอชวนวัยรุ่นชาวร็อคเสื้อดำ มาย้อนอดีตกันต่อด้วย 16 บทเพลงที่ฟังแล้วคุณจะนึกถึงวันวานของความรุ่งเรืองของดนตรีแบบ Emo ขึ้นมาเลยล่ะ เตรียมตัวให้พร้อมแล้วไปโยกหัวพร้อมๆ กันได้เลย!

  • Saosin – Seven Years  

ก็ถ้าจะให้พูดถึงแนว Emo แล้วจะขาดวงนี้ไปได้อย่างไรจริงไหม Saosin หนึ่งในวงดนตรีที่สร้างความประทับใจให้กับวัยรุ่นแนวเราในยุคนั้นแบบสุดๆ บทเพลงที่ตราตรึงที่ได้ยินทีไรก็ยังแหกปากร้องตามได้อยู่เสมอคงหนีไม่พ้น “Seven Years” ที่เป็น First Ep ของพวกเขาในปี 2003 จากอัลบั้ม Translating the Name ซึ่งร้องโดย Anthony Green เพลง จากนั้น Seven Years ก็กลายเป็นบทเพลงที่ฮิตไปอย่างรวดเร็ว ถ้านึกถึงยุค MySpace ก็พวกเขานี่แหละที่เป็นหนึ่งในวงที่โปรโมทตัวเองผ่าน MySpace

  • Story Of The Year – Until The Day I Die

มาต่อกันที่ Story of the Year วงร็อคจาก St. Louis ที่ก่อตั้งในปี 95s เพลงฮิตติดลมบนจนหนุ่มชาวร็อคต้องโยกหัวกันทุกครั้งเมื่อได้ยินคงจะเป็นเพลงไหนไปไม่ได้นอกจาก “Untill The Day I Die” จากอัลบั้ม Page Avenue (2003) ซึ่งเป็นอัลบั้มแรกของพวกเขา เห็นไหมว่าถ้าเปิดตัวดี จะผ่านไปกี่สิบปีเพลงก็ยังถูกพูดถึง และทำให้เรานึกถึงอดีตอันน่าจดจำเสมอ

  • The Used – The Taste Of Ink

ต่อเนื่องกันที่ The Used วงร็อคจาก Utah ที่ฟอร์มวงขึ้นในปี 2001 เพลงที่เราเลือกมาจากศิลปินกลุ่มนี้ก็คือ “The Taste Of Ink” เพลงที่ 2 จากอัลบั้ม debut ของพวกเขานั่นเอง The Used เป็นหนึ่งในวงที่สร้างกระแสความเป็น Emo ในยุคนั้นอย่างแท้จริงอีกหนึ่งวง แถมยังมีอิทธิพลต่อศิลปินไทยมากมาย ถึงกับแต่งตัวมาในแนวทางแบบ The Used กันเลยล่ะ

  • Underoath – Reinventing Your Exit

Underoath ไม่พูดถึงไม่ได้จริงๆ อาจจะดูลำเอียงนิดหน่อย ถ้าบอกว่าวงนี้เป็นวงโปรดของผู้เขียนเอง Underoath เป็นศิลปินร็อคที่จำกัดความตัวเองว่าเป็น Christian post-hardcore ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1997 เป็นหนึ่งวงที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีสไตล์การร้องที่น่าสนใจ ถือเป็นหนึ่งวงที่มือกลองรับหน้าที่ร้องเพลงด้วย “Reinventing Your Exit” เป็นเพลงที่เปิดตัวในปี 2004 และมียอดวิวสูงสุดของ Underoath

  • Bless The Fall – Higinia 

Bless The Fall ตอนเลือกเพลงเกือบลืมวงนี้ไปแล้วจริงๆ แต่อะไรไม่รู้ดลใจทำให้เรานึกถึงวงนี้ขึ้นมาได้ซะอย่างนั้น Bless The Fall เป็นวงจาก Arizona ที่ก่อตั้งในปี 2003 เพลง Higinia เป็นเพลงที่อยู่ในอัลบั้ม His Last Walk ปี 2007 บีทแบบนี้ เสียงแบบนี้ ใครจำไม่ได้ก็ใจร้ายเกินไปแล้ว

  • Harem Belle – น้ำตาเป็นเลือด 

สากลกันไปเยอะแล้ว เรามาเปลี่ยนฟีลกันด้วยวงจากเมืองไทยที่สร้างปรากฎการณ์ของ Emo อีกวงหนึ่งกันบ้างดีกว่า Harem Belle เป็นวงหนึ่งที่เปิดตัวมาในอัลบั้มรวมศิลปิน Do it or die กับเพลงน้ำตาเป็นเลือด จากนั้นก็ปล่อยอัลบั้มเต็มออกมา โดยมีเพลงดังอย่าง เครื่องช่วยหายใจ ที่ได้ view ไปเป็นล้าน ยุคนั้นไปร้องคาราโอเกะก็ต้องมีเพลงนี้อยู่ในลิสต์กันบ้างแหละ

  • Ritalinn – เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ 

Ritalinn อีกหนึ่งวงพังค์ร็อคที่มีส่วมผสมของความเป็น Emo อีกหนึ่งวง พวกเขาเปิดตัวจากอัลบั้ม Do it or die เช่นเดียวกัน Harem Belle ด้วยเพลง “เกิดมาเพื่อสิ่งนี้” จากนั้นพวกเขาก็เป็นที่รู้จัก และกลายเป็นวงร็อคหนึ่งวงที่มีงานโชว์ต่อเนื่อง และมีอิทธิพลต่อเด็กวัยรุ่นเสื้อดำในยุคนั้น จากนั้นพวกเขาก็ได้ออกอัลบั้มแรกของตัวเองที่ชื่อว่า กับอัลบั้ม Heaven & Hell มีเพลงเจ๋งๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ตายทั้งเป็น และ Say U Love ที่เปิดฟังเมื่อไรก็ยังนึกถึงยุคนั้นอยู่เสมอ

  • Funeral For A Friend – Roses For The Dead

วง Post-hardcore แห่งยุคอีกหนึ่งวงที่ต้องอยู่ในลิสต์นี้ จริงๆ Funeral For A Friend เป็นวงหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อนักฟังเพลงชาวไทยในยุคนั้นมากทีเดียว เพลงที่เราหยิบยกจากวงนี้มาก็คือ “Roses For The Dead” จากอัลบั้ม Hours ในปี 2005 เพลงนี้ฮิตติดชาร์ตอยู่ในอันดับที่ 39 ของชาร์ต UK ฮิตติดหูมากจริงๆ สำหรับเพลงนี้

  • Taking Back Sunday – “Cute Without the ‘E’ (Cut from the Team)

มาต่อกันที่ Taking Back Sunday จาก New York ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1999 “Cute Without the ‘E’ (Cut from the Team) เป็นเพลงจากอัลบั้ม Tell All Your Friends (2002) ที่หนุ่มๆ Emo น่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะลองซาวเสียงจากคนอื่นแล้วว่า Taking Back Sunday ก็ต้องเป็นเพลงนี้แหละ

  • My Chemical Romance – “Helena” 

จะไม่ให้มีเพลงนี้ก็คงจะจัดอันดับลิสต์ได้ยากมาก “Helena” สุดยอดเพลงฮิตจาก My Chemical Romance วงร็อค Emo จาก New Jersey ที่ยังคงอยู่ในความทรงจำเรามาจนทุกวันนี้ Helena เป็นเพลงจากอัลบั้ม Three Cheers for Sweet Revenge (2004) อัลบั้มที่ 2 ของพวกเขา เปิดตัวได้ไม่นาน Helena ก็เข้าไปอยู่ที่อันดับ 1 ของ UK Rock อันดับ 20 ของ UK Singles และ U.S. Billboard Hot 100 ในอันดับที่ 33 นอกจากเพลงที่มีสไตล์น่าจดจำแล้ว ตัว MV ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน

  • Panic! At The Disco – I Write Sins Not Tragedies

Panic! At The Disco วง Pop Punk/Emo จาก Nevada ที่ก่อตั้งในปี 2004 หนึ่งเพลงที่ถือว่าเป็นเพลงเปิดตัวของพวกเขา และสร้างภาพที่น่าจดจำมาจนทุกวันนี้ก็คือ  “I Write Sins Not Tragedies” จากอัลบั้ม A Fever You Can’t Sweat Out  ในปี 2005 อันดับชาร์ตก็เป็นที่น่าพอใจ สามารถเข้าไปอยู่ใน US Billboard Hot 100 ได้ถึงอันดับที่ 7 แล้วก็เป็นอีกวงที่มีลูกเล่นของ MV ที่น่าจับตามอง

  • Paramore – Misery Business

Paramore ก็เป็นหนึ่งวงที่ทุกวันนี้ก็ยังได้รับความนิยมอยู่ พวกเขาก่อตั้งวงกันในปี 2004 โดยนักร้องนำ Hayley Williams และมือกีต้าร์ Taylor York เพลงฮิตติดหูของ Paramore มีอยู่หลายเพลงทีเดียว แต่เพลงที่เราเลือกนำมาใส่ลิสต์นี้นั้นก็เป็นเพลงที่มีจังหวะดนตรีๆ มันๆ อย่าง Misery Business จากอัลบั้ม Riot! (2007) ด้วยดนตรีที่มีสีสันสไตล์ ของ Paramore นั้นสามารถทำให้เรานึกถึงกลิ่นอายบรรยากาศในยุคนั้นได้เป็นอย่างดี ได้ยินทีก็เป็นต้องโยกล่ะ

  • Escape The Fate – Situations 

“Situations” เพลงมันๆ จาก Escape The Fate วง Emo ที่มีคาแรคเตอร์โดดเด่นอีกหนึ่งวง พวกเขาฟอร์มวงกันในปี 2005 เพลงนี้ถือเป็นซิงเกิ้ลที่สองของพวกเขา จากอัลบั้ม Dying Is Your Latest Fashion (2006) อัลบั้ม Debut ที่ทำให้เราได้รู้จักพวกเขาในฐานะวง Emo แห่งยุคอีกหนึ่งวง

  • Bikini – ปลดปล่อย 

Bikini เป็นวงที่โด่งดังมาตั้งแต่ตอนที่อยู่ใต้ดิน มีทั้ง Ep อัลบั้มที่มีดนตรีค่อนข้างหนัก และเป็นที่รู้จักในหมู่คนฟังเพลงร็อค จากนั้นพวกเขาก็ได้ทำเพลงอยู่ในอัลบั้มรวมศิลปิน Do it or die กับเพลงที่มีชื่อว่า “ปลดปล่อย” แน่นอนว่ามันทำให้พวกเขาเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ถ้าพูดถึง Emo Bikini ต้องเป็นวงไทยอีกวงที่ถูกพูดถึง

  • Alesana – Apology 

ขอปิดท้ายกันด้วยเพลง Apology จาก Alesana วง Screamo จาก North Carolina ที่ฟอร์มวงมาตั้งแต่ปี 2004 เพลง Apology เป็นบทเพลงจากอัลบั้ม On Frail Wings of Vanity and Wax ที่เป็น Debut Album ของพวกเขาในปี 2006 ฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง วงน้อยใหญ่ในบ้านเราก็เลือกที่จะ Cover เพลงของพวกเขาตามงานดนตรีอยู่บ่อยครั้ง ได้ยินเพลงนี้แล้วก็นึกถึงบรรยากาศเก่าๆ จริงๆ

จริงๆ แล้วยังมีเพลงอีกมากมายที่เราไม่ได้พูดถึง เรียกว่าเยอะมากจริงๆ ต้องตัดใจไปหลายเพลง พยายามเลือกที่ทุกคนน่าจะเคยได้ยินมารวมไว้ วง Emo ของเมืองไทยก็มีที่ไม่ได้ถูกพูดถึงในลิสต์นี้อยู่หลายวง แต่ได้ยินทีไรก็ทำให้เรานึกถึงภาพบรรยากาศเก่าๆ ของเด็กวัยรุ่นในยุคนั้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ ลองเปิดดูรูปตัวเองสิว่า มีภาพตัวเองใส่เสื้อดำ กางเกงขาเดฟสีดำ หวีผมเรียบเป๋อยู่กับเขาบ้างหรือเปล่า

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line