Girls

A GIRL WE LOVE: ‘มิลลี่’ สาวน้อยมากความสามารถกับเสียงดนตรีและความสดใสที่ใครก็ต้องรัก

By: PERLE December 18, 2018

เป็นอีกครั้งที่คอลัมน์ A GIRL WE LOVE ของ UNLOCKMEN มีโอกาสทำความรู้จักผู้หญิงน่ารักมากความสามารถ ผู้หญิงน่ารักที่เราจะพูดคุยกับเธอวันนี้เป็นเพียงเด็กสาววัย 18 เท่านั้น แต่ความสามารถนำอายุไปไกลโข เนื่องจากเธอเป็นมือคีย์บอร์ดให้กับวงดนตรีระดับประเทศอย่าง ‘Scrubb’ ควบคู่ไปกับการเรียนในโรงเรียนดนตรีที่ดีที่สุดอีกแห่งหนึ่งของประเทศอย่าง ‘วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล’

‘มิลลี่ ศิริชฎา ร่วมฤดีกูล’ คือชื่อของเธอ วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักเธอให้มากขึ้น แต่ก่อนที่จะเข้าบทสนทนาเราขอเตือนหนุ่ม ๆ ทั้งหลายให้ใจแข็งเข้าไว้ ไม่งั้นอาจโดนความน่ารักสดใสและพลังงานอันล้นเหลือของเธอตกเอาได้ง่าย ๆ

เราอาจเห็นมิลลี่แบบผ่านตามาบ้างตาม Social Network และสื่อออนไลน์ แต่เมื่อมานั่งอยู่ตรงหน้า ความน่ารักสดใสของเธอยิ่งเปล่งประกายขึ้นไปอีก เราจึงไม่รอช้าที่จะเริ่มต้นบทสนทนา

ก่อนอื่นช่วยแนะนำตัวเองกับผู้อ่านที่ยังไม่รู้จักเราหน่อยครับ?

“สวัสดีค่ะชื่อ ศิริชฎา ร่วมฤดีกูล ชื่อเล่นชื่อมิลลี่ค่ะ อายุ 18 ปี ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 1 ของมหาวิทยาลัยมหิดลดุริยางคศิลป์ เอกเปียโนแจ๊สค่ะ”

จากเด็กผู้หญิงธรรมดาสู่เส้นทางสายดนตรีได้ยังไง?

“คุณพ่อคุณแม่ชอบดนตรีอยู่แล้วค่ะ ก็เลยให้หนูเรียนเปียโนตั้งแต่หนู 3 ขวบ เรียนมาเรื่อย ๆ จนจบเกรดครู ตอนนี้ก็เป็นครูสอนเปียโนด้วยค่ะ ส่วนเต้นเริ่มเรียนตอน 4 ขวบค่ะ เป็นการเต้นแจ๊ส เรียนมาเรื่อย ๆ จนตอนนี้จบเกรดครู ก็เลยกลายเป็นครูสอนเต้นด้วยเหมือนกันค่ะ (หัวเราะ)

และไม่ใช่แค่เปียโนเท่านั้น เพราะมิลลี่มีความสามารถด้านดนตรีที่ค่อนข้างรอบด้าน ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่รู้

“เล่นกีตาร์ได้ค่ะ อูคูเลเล่ แล้วก็ตีกลองด้วยค่ะ”

แนวเพลงที่สื่อถึงตัวตนของมิลลี่คือแนวเพลงแบบไหน

“ด้วยความที่ตอนนี้เรียนแจ๊สอยู่ ก็เลยชอบเพลงแจ๊สไปด้วย แต่ส่วนตัวจริง ๆ แล้วชอบฟังพวก R&B ค่ะ”

ด้วยความที่มิลลี่เรียนโรงเรียนดนตรีมาตั้งแต่มัธยมถึงระดับมหาวิทยาลัย เราจึงอยากรู้ว่าชีวิตในรั้วโรงเรียนดนตรีจะสบายเหมือนที่หลายคนคิดหรือเปล่า

“จริง ๆ คนทั่วไปจะคิดว่าเรียนโรงเรียนดนตรีก็เรียนแค่ดนตรีหรือเปล่า แต่ว่าจริง ๆ แล้วในส่วนของวิชาการก็ต้องเรียนด้วยเหมือนกัน ควบคู่กันไป มีภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ เหมือนเด็กทั่วไปนี่แหละค่ะ แต่ก็จะมีในส่วนของดนตรีเพิ่มเข้ามา ทั้งการเรียนแบบรวมวง หมายถึงการรวมเครื่องดนตรีต่าง ๆ มาเล่นเป็นวง มีทั้งรวมวงเล็ก (5-6 คน) แล้วก็รวมวงใหญ่ (20+ คน) ค่ะ นอกจากนั้นยังมีวิชา Private ซึ่งเป็นการเรียนเดี่ยวด้วยค่ะ”

นอกจากตัวตนด้านดนตรีแล้ว เราอยากทำความรู้จักมิลลี่ในฐานะเด็กผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งให้มากยิ่งขึ้น เราจึงลองให้เธอนิยามความเป็นตัวเองให้เราฟัง

“จริง ๆ เป็นคนค่อนข้าง Alert ตลอดเวลาค่ะ แล้วก็ขี้หลงขี้ลืม (หัวเราะ) เป็นคนขี้ลืมมาก ชอบลืมของแล้วจำไม่ได้ว่าลืมไว้ตรงไหน คนก็จะบอกว่าหนูเป็นคนเฮฮา สนุกสนาน ประมาณนี้ค่ะ”

ถึงแม้การศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยของมิลลี่จะไม่ได้ย้ายไปไหนไกล เนื่องจากเธอเรียนที่วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดลมาตั้งแต่ระดับมัธยมปลาย แต่มันก็พอจะมีความเปลี่ยนแปลงอยู่บ้างเหมือนกัน 

“ตอนม.4-ม.6 หนูเรียนสาย Perform ก็คือเรียนเปียโนแจ๊สอย่างเดียวเลยค่ะ แต่พอมาปี 1 หนูเปลี่ยนสายมาเรียนสาขาเทคโนโลยีดนตรี ก็คือการเรียน Sound Engineer, ทำเพลง, แต่งเพลง, โปรดิวซ์เพลง การเรียนก็จะแตกต่างกับตอนมัธยม แต่ก็ยังมีเครื่องมือเอกอยู่ค่ะ”

จากเด็กเปียโนแจ๊สสู่มือคีย์บอร์ดวง Scrubb

“หนูรู้จักกับรุ่นพี่ที่เล่นให้กับ What The Duck อยู่แล้วค่ะ แล้วก็บังเอิญที่ตอนนั้นพี่บอล (Scrubb) กำลังหามือคีย์บอร์ดอยู่พอดี เขาต้องการคนที่เล่นเปียโนได้ ร้องคอรัสได้ และก็เป็นผู้หญิง เค้าก็เลยแนะนำหนูไป หนูก็เลยได้ไปเล่นให้พี่บอลดู พี่บอลก็โอเค ประมาณนี้ค่ะ (ยิ้ม)”

ประสบการณ์ต่างแดนในแผ่นดินมังกร

“มันเป็นรายการ Come Sing with Me ค่ะ ซึ่งมันจะคล้าย ๆ กับ I Can See Your Voice ของประเทศไทยค่ะ แต่ว่าคราวนี้เค้าจะให้เราร้องแล้วให้ศิลปินเลือกเข้าไป หนูโชคดีมากได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปร้องเพลงกับ หวังหยวน จากวง TFBoys ซึ่งเป็นบอยแบนด์ที่ดังมาก ๆ ในจีน หนูก็ได้มีโอกาสไปตรงนั้น เวทีเค้าใหญ่มาก ตื่นเต้นมากเลยค่ะ”

BNK48 เมื่อความฝันและความจริงสวนทางกัน

“จริง ๆ แล้วพอหนูได้อ่านกฎ ทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อห้ามหรือข้อสัญญาต่าง ๆ หนูก็รู้สึกว่าเค้าต้องการเวลาเราเยอะมาก ๆ พอดีว่าหนูเพิ่งเข้าปี 1 ที่มหิดลด้วย ซึ่งมหาลัยดนตรีแบบนี้เค้าก็ต้องการเวลาเราเยอะเหมือนกัน หมายความว่ามันก็ต้องมีการซ้อมหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ของมหาลัยค่ะ ยิ่งพอหนูมาเรียนในสาขาเทคโนโลยีดนตรี มันก็มีการทำเพลงทำให้อาจจะต้องอยู่ดึกหน่อย ซึ่งทาง BNK48 เค้าต้องการเวลาตรงนี้ เพราะมีการซ้อมเกือบทุกวัน

หนูเลยกลัวว่าถ้าหนูเข้าไปใน BNK48 แล้วหนูจะทำได้ไม่เต็มที่ ทำออกมาได้ไม่ดี ก็เลยสละสิทธิ์ค่ะ

ด้วยความที่เราติดตาม BNK48 พอสมควร เราจึงทราบว่าสมาชิกส่วนใหญ่ที่ยังอยู่ในวัยนักเรียนนักศึกษาเลือกที่จะดร็อปไว้ก่อน แต่มิลลี่กลับเลือกที่จะโฟกัสในด้านการเรียนมากกว่า

“หนูอุตส่าห์ติดเข้าปี 1 แล้ว และมันก็เป็นสาขาวิชาที่เราชอบด้วย เพราะว่าหนูก็อยากทำเพลงเป็นของตัวเอง โปรดิวซ์เพลงตัวเอง ก็เลยคิดว่าเลือกเรียนดีกว่าค่ะ (หัวเราะ)

เส้นทางความฝันของมิลลี่

“จริง ๆ ก็อยากทำงานทั้งเบื้องหน้าทั้งเบื้องหลังเลยค่ะ เบื้องหลังก็อย่างที่บอกไปว่าอยากเป็นโปรดิวซ์เซอร์ อยากทำเพลง ส่วนเบื้องหน้าก็อยากทำค่ะ อยากเป็นศิลปิน ที่เลือกเรียนสาขานี้ก็เพราะเหตุผลนี้ด้วยค่ะ เผื่อเราเป็นศิลปินแล้วไม่รุ่ง อย่างน้อยเราก็ยังมีอาชีพรองรับอยู่ค่ะ”

การเปลี่ยนแปลงของ ‘มิลลี่ในปัจจุบัน’ สู่ ‘มิลลี่ในอนาคต’

“คิดว่าหนูก็ต้องทุ่มเทให้กับมันมากขึ้นค่ะ เหมือนกับว่าเราต้องโฟกัสกับมัน ให้เวลากับมัน แล้วก็ต้องมีแพสชั่นกับมันค่ะ ถึงจะทำมันออกมาได้ดี”

เสน่ห์ในแบบของมิลลี่

“(นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง) เฮ้ย คิดไม่ออก! (หัวเราะ) ความสดใสหรือเปล่า เขินอะ ไม่รู้จะตอบยังไง ส่วนใหญ่แฟนคลับหนูจะบอกว่าหนูสดใสแล้วก็ชอบเวลาหนูร้องเพลง หนูเล่นเปียโน ก็อาจจะประมาณนี้…มั้งคะ (หัวเราะ)

นี่ขนาดไม่รู้เธอยังตอบออกมาได้มีเสน่ห์ขนาดนี้ เราจึงไม่รอช้าถามคำถามต่อไปทันที เชื่อว่าเป็นคำถามที่หนุ่ม ๆ น่าจะอยากรู้เป็นพิเศษ หนุ่มในสเปคของมิลลี่เป็นแบบไหน?

“ก็จริง ๆ หนูไม่มีสเปคนะคะ แค่ต้องเป็นคนที่คุยด้วยแล้วสบายใจ คุยกันแล้วเข้าใจกัน  อาจจะต้องเป็นคนเฮฮานิดนึงค่ะ ไม่ได้โฟกัสที่รูปลักษณ์ภายนอกค่ะ”

สุดท้ายแล้วมีอะไรอยากจะฝากบ้างครับ แล้วเราสามารถติดตามมิลลี่ได้ในช่องทางไหน?

“ติดตามได้ทาง Instagarm ชื่อ millie.snow_  ใน Facebook ก็ชื่อเดียวกันค่ะ ช่อง YouTube Millie Snow แล้วก็เร็ว ๆ นี้ก็จะมีซิงเกิ้ลเป็นของตัวเองกับทางค่าย Mono Music ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ”

บทสนทนาจบลงเพียงเท่านี้ ถึงแม้จะเป็นการพูดคุยสั้น ๆ ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง แต่เราก็สัมผัสได้ถึงความน่ารักสดใสและความหลงรักในดนตรีที่เธอมีอย่างเต็มเปี่ยม มีแพสชั่นกับสิ่งที่ทำเป็นอย่างมาก จนเราอยากเอาใจช่วยให้เธอสามารถทำตามความฝันได้สำเร็จ ซึ่งเราคิดว่าผู้อ่านทุกท่านก็คงคิดเช่นเดียวกัน

และนอกจากบทสัมภาษณ์ฉบับนี้ UNLOCKMEN ยังได้ให้มิลลี่ร้องเพลง เล่นดนตรี และเต้นโชว์ให้ดูด้วย เอาเป็นว่ากด See First Page Facebook UNLOCKMEN ไว้แล้วรอติดตามได้เลย

 

PHOTOGRAPHER: Krittapas Suttikittibut

PERLE
WRITER: PERLE
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line