Blancpain X Swatch “Scuba Fifty” เผยโฉมแล้วสำหรับการ collaboration ครั้งยิ่งใหญ่ของสองแบรนด์ในเครือ Swatch Group หลังประสบความสำเร็จอย่างสูงจาก Omega x Swatch เรียกว่าเป็น Blancpain Fifty Fathoms ในรูปแบบของ Swatch Blancpain X Swatch สดุดีนาฬิการุ่น Fifty Fathoms นาฬิกาเพื่อนักดำน้ำเรือนแรกที่แท้จริง นาฬิการุ่นนี้รังสรรค์โดยนักดำน้ำลึกที่มีใจรักเมื่อ 70 ปีที่แล้ว นับเป็นการปฏิวัติวงการการทำนาฬิกา ด้วยการเป็นเรือนแรกที่ตอบโจทย์ความต้องการทั้งหมดของนักสำรวจใต้น้ำได้สำเร็จ นาฬิการะบบจักรกลทั้งห้ารุ่นในคอลเลกชัน Bioceramic Scuba Fifty Fathoms คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของตำนานแห่งวงการการทำนาฬิกาแบบสวิสอย่างครบถ้วน พร้อมหยิบยืมจุดเด่นของนาฬิกา SCUBA ตระกูลนาฬิกาเพื่อการดำน้ำของเราเอง นาฬิกาแต่ละรุ่น ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากใต้ท้องทะเลลึก เป็นการสดุดีมหาสมุทรทั้งห้า รวมถึงสิ่งมีชีวิตอันสวยงาม สีสันสดใสอย่างทากทะเล (nudibranch) ที่อาศัยอยู่ในใต้ทะเลลึก โดยมีทั้งหมด 5 สีจาก 5 ocean-themed The Atlantic
Vision Neue Klasse ใช้แนวทางการดีไซน์ใหม่ทั้งหมด เน้นความเป็นอนาคตที่ลดทอนเส้นสายความเป็นสปอร์ตลงซึ่งชาว bimmer หลายคนน่าจะไม่คุ้นตากันแน่นอน โดยเฉพาะไตคู่หน้าที่ยืดเต็มกระจังหน้าและมีเส้นไฟ LED แนวตั้งอยู่บริเวณมุม เป็นการตีความใหม่ของ 3-series ที่ชูความล้ำสมัยให้อารมณ์แบบ retro-modern แบบรถ EV เต็ม ๆ ซึ่งมีผลกับการออกแบบเช่นตัวถังซีดานทรง 3 กล่องที่ยืดระยะ overhang และฐานล้อหน้าและหลังได้เต็มที่เพราะไม่ต้องแชร์เผื่อระบบ ICE อีกต่อไป รวมถึงการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์เช่นช่อง shark nose บนฝากระโปรงหน้า เส้นหลังคาที่เรียบ กระจกข้างถูกแทนที่ด้วยกล้อง รวมถึง diffuser รอบคันที่ดูเหมือนจะเป็น forged carbon เพื่อ aerodynamic ที่ดีขึ้น ในขณะที่ดีไซน์อาจยังไม่ถูกใจใครหลายคน แต่ด้านความเป็นรถ EV ถือว่าพัฒนาได้ดี BMW เคลมว่าดีไซน์ของ Vision Neue Klasse บวกกับแบตเตอรี่ และ eDrive geneeration ที่ 6 จะช่วยเพิ่มระยะทางในการขับไดัถึง
ก่อนจะหยุดสายการผลิตของ SLS AMG supercar ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง Mercedes-Benz ตัดสินใจส่งท้ายด้วย Final Edition ซึ่งเป็น limited series มีเพียง 350 คัน แบ่งเป็น coupe 200 คัน และ roadster 150 คัน แม้แต่ตลาดใหญ่อย่างอเมริกายังได้โควต้าไปเพียงแค่ 10 คัน โดยมันถูกวางตำแหน่งให้เป็นรุ่นท็อปสุดรองจาก SLS AMG Black Series ความพิเศษของ SLS AMG GT Final Edition คือชุดแต่งที่จัดให้อย่างดุเดือดผลิตจาก carbon-fiber สีดำเริ่มตั้งแต่ฝากระโปรงหน้าพร้อมช่องระบายอากาศ ช่องดักอากาศใต้กันชนหน้า และ rear wing ซึ่งอาจจะดูคล้าย SLS AMG Black Series พร้อมล้อ forged สีดำด้าน ภายในหุ้มหนังสีดำเกรดดีขึ้นจาก designo program
เรียกว่า All-new ได้เต็มปากเต็มคำสำหรับ 2024 Mini Countryman โฉมใหม่ใส่เต็ม ตัวถังขนาดยาว 174.5 นิ้ว (+5 นิ้ว) กว้าง 72.5 นิ้ว และสูง 65.1 นิ้ว (+2 นิ้ว) มาพร้อมขุมพลังสองทางเลือก Countryman E : มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวติดตั้งล้อหน้า ให้กำลัง 201 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ 54-kilowatt-hour WLTP-rated 462 กิโลเมตร 0-100 km/h ใน 8.6 วินาที Countryman SE All4 : dual-motor all-wheel drive 308 แรงม้า แรงบิด 494 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ 64-kWh
เปิดตัวใหม่เรียบร้อยแล้ว New Tesla Model 3 Highland หลังโมเดลปัจจุบันทำตลาดมานานถึง 6 ปี โดยรุ่นใหม่นี้ผ่านการอัพเกรดใหม่ทั้งด้านดีไซน์ภายนอกภายใน ระยะทางที่ได้ รวมถึงฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ใส่เข้าไปอีกเพียบ ตอนนี้มีเพียงรุ่น RWD และ LR เท่านั้น ใครต้องการรุ่น Performance ต้องนั่งทับมือไปก่อนระหว่างนี้ Sleeker Design : โดยรวมมิติรถใกล้เคียงกับรุ่นปัจจุบัน ยาวขึ้น 1 นิ้ว ความสูงลดลงเล็กน้อย และเตี้ยลง 5.5 นิ้ว ดีไซน์โดยรวมถูกปรับให้ลงตัวและเฉียบคมมากขึ้น ซึ่ง Tesla บอกว่าดีไซน์นี้ผ่านการปรับปรุง aerodynamics ที่นอกจากจะเท่แล้วยังช่วยให้รถขับดีขึ้น ลดเสียงลมปะทะเข้ามาในห้องโดยสาร และยังได้ระยะทางในการขับเพิ่มมากขึ้นด้วย ด้านหน้าคมคายดูเป็นผู้ใหญ่ที่สปอร์ตและ luxury ขึ้นอย่างชัดเจน โคมไฟหน้าและเส้นไฟ LED ใหม่เพิ่มความดุดันทันสมัย ด้านท้ายปรับทรงไฟ C-shaped ใหม่ โลโก้ Tesla ใหม่ถูกย้ายมาด้านบนกลางฝากระโปรง ล้อ 18
ว่ากันว่ารถที่ใช้ สามารถบ่งบอกตัวตน และไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ออกมาได้เป็นอย่างดี และ New Honda Giorno+ คือการเปิดมิติใหม่ด้วยนิยามความเป็น High Fashion Scooter ที่พร้อมสะท้อนทุกสไตล์ให้ทะลุระดับ New High ยิ่งกว่าเดิม เรียกได้ว่าเปิดตัวกันไปแบบสด ๆ ร้อน เมื่อวานนี้ กับออโตเมติกสกู้ตเตอร์รุ่นล่าสุด และถือเป็นเซกเมนต์ใหม่สุดของ Honda กับ Giorno+ ที่ถูกสร้างสรรค์พัฒนาต่อยอดแรงบันดาลใจจากตัวแทนความเท่ของวัยรุ่นยุค 90s อย่าง Giorno 50cc ปี 1992 สู่ภาษางานออกแบบใหม่ผสานอดีตและอนาคตเอาไว้ในแนวทางโมเดิร์นคลาสสิก ลงตัวกับงานดีไซน์ที่แมทช์กันได้กับทุกลุค ปลุกเร้าจิตวิญญาณ High Fashion Scooter ด้วยชุดไฟหน้า – ไฟท้าย LED ที่โดดเด่น และการเลือกใช้เส้นสาย Horizontal Line สื่อถึงความล้ำสมัย ผสานกับเส้นโค้งมนที่สื่อถึงความเรียบง่าย คลาสสิก พร้อมพื้นผิว รวมถึงสีสันที่ดูพรีเมียมสวยงาม พร้อมให้พวกเราได้บ่งบอกสไตล์ที่แตกต่างผ่านสีสันทั้ง 6 สี ไม่ว่าจะเป็น ขาว
งาน collab ที่ represents street culture จากสองฝั่งแบรนด์แฟชั่นและ fast-food ที่ดูไม่น่าจะไปด้วยกันได้ แต่กลับสามารถนำเสนอลวดลายพรินต์ที่เข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ โลโก้ตัว M Golden Arches ถูกนำมาตีความเป็นดีไซน์หลักใน collection ซึ่งมีทั้ง hoodies, T-shirts และ Skateboards ในสามโทนสีหลัก ดำ ขาว และแดง ก่อนหน้านี้ลูกค้าจะต้องใช้ unique code จากกล่อง McNuggets เพื่อใช้เป็นสิทธิในการซื้อผ่าน microsite แต่ดูเหมือนว่า feedback จะดีมากเกินไปจน Palace ยกเลิกการใช้ unique code ไปแล้วเรียบร้อย
สำหรับแลมเบรตติสต้า หรือชาวแลมสายลึก เราเชื่อว่าเมื่อพูดถึง LAMBRETTA เป็นต้องนึกถึงสกู้ตเตอร์ดีไซน์หล่อคลาสสิก รวมถึงโทนสีวินเทจจี๊ดใจที่สร้างเสน่ห์ให้แฟน ๆ หลงใหลมาถึงปัจจุบัน และต้องบอกว่ารุ่นใหม่อย่าง LAMBRETTA X300 SR ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ Colors Of Time คืออีกหนึ่งตัวแทนความทรงจำดี ๆ ที่ถ่ายทอด DNA งานออกแบบ และโทนสีสุดฮิตในช่วงรอยต่อของยุค 60s และยุค 70s ที่โดดเด่นในเรื่องความสดใส สะท้อนไลฟ์สไตล์, แฟชั่นการแต่งกาย รวมไปถึงสีสันของสกู้ตเตอร์คู่ใจ ซึ่งเต็มไปด้วยชีวิตชีวาของวัยรุ่นยุคนั้น และสีสันแห่งช่วงเวลาอันน่าประทับใจจากอดีต ได้ถูกส่งต่อเป็นความทรงจำที่จับต้องได้ผ่าน LAMBRETTA X300 SR ซึ่งถอดรหัสความเท่คลาสสิกสไตล์สปอร์ต และหยิบยกเอาสีสันจากแลมยอดนิยมในยุคนั้น มาแต่งแต้มเป็นตำนานบทใหม่ของ LAMBRETTA ที่เข้าขากันได้ดีกับไลฟ์สไตล์ของชาวแลมยุคปัจจุบัน แต่ที่สำคัญคือเอกลักษณ์ความเก๋าของแลมวินเทจยังคงเดินทางข้ามเวลามาแบบไม่ตกหล่น กับจุดเด่นเหล่านี้ที่เราอยากชวนชาว UNLOCKMEN ไปสัมผัส เพื่อยืนยันว่า LAMBRETTA X300 SR คือตัวแทนสีสันแห่งช่วงเวลาอย่างแท้จริง ส่งตรงจิตวิญญาณสปอร์ตจาก LAMBRETTA GP/DL ปี 1969
Ford Nugget รถตู้ที่สร้างขึ้นสำหรับชาว Camping โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะด้านดีไซน์ การควบคุม โดยไม่ทิ้งการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม พร้อมตั้งแคมป์ด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกจากโรงงาน โดยมี control unit ไว้ควบคุมและตรวจสอบสถานะพลังงานที่เหลืออยู่ ระดับน้ำ แสงส่องสว่าง ภายในรถถูกออกแบบให้เป็น multi-zone layout แบ่งสัดส่วนการใช้งานเอาไว้อย่างลงตัว สามารถใส่ที่นอนขนาด double beds ได้โดยยังเหลือพื้นที่เหลือเฟือ ส่วนครัวถูกแบ่งด้วยรูปทรง L-shaped layout มาพร้อมระบบน้ำร้อนเย็นในตัว หลังคาสามารถกางออกได้ง่ายด้วย self-folding fabric พร้อมระบบเชื่อมต่อ 5G modem กระจายสัญญาณ internet ระบบ wireless charging และหลังคา solar roof สำหรับชาร์จไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่ได้อย่างง่ายดาย ด้านการขับขี่ Ford Nugget เลือกใช้เครื่องยนต์ 2.5L Atkinson petrol engine PHEV แบตเตอรี่ความจุ 11.8 kWh ระบบ
การกลับมาอีกครั้งของ MB&F HM9 อภิมหาเรือนเวลาที่ถูกเรียกขานว่าเป็นหนึ่งในกลไกที่สวยงามที่สุดในโลก บรรจุในเคสใสสามชิ้นผลิตจาก sapphire crystal ขนาด 57mm x 47mm x 23mm สามารถรับชมการทำงานของตัวเครื่องได้จากทุกมุม มีสองสีใหม่คือ หน้าปัด PVD-coated สีฟ้าในกรอบ white gold และ PVD-coated สีเขียวในกรอบ yellow gold ราคาเรือนละ 16 ล้านบาท ผลิตเพียงสีละ 5 เรือนในโลก MB&F HM9 “Sapphire Vision” Diameter: 57mm x 47mm Caliber: In-house movement Functions: Hours, minutes Power Reserve: 45 hours Winding: Manual Water Resistance: 30 meters