หากโลกนี้ความบางคือความสง่างาม ความแม่นยำคือบทกวี และ Tourbillon คือบทสุดท้ายของตำนาน… Bulgari ได้เขียนบทนี้ใหม่อีกครั้ง ด้วย Bulgari Octo Finissimo Ultra Tourbillon – ผู้สร้างสถิตินาฬิกาบางที่สุดในโลกถึง 10 ครั้งในทศวรรษเดียว ย้ำสถานะราชาแห่งความบางของวงการ haute horlogerie อย่างแท้จริง Octo Finissimo Ultra Tourbillon มาพร้อมตัวเรือนไทเทเนียมขนาด 40mm x 1.85mm ที่หล่อขึ้นพร้อมกับฐานกลไกเป็นเนื้อเดียวกับฝาหลัง ด้วยวัสดุ ultra-hard tungsten carbide mainplate/caseback แข็งแรงและบางในเวลาเดียวกัน กลไก BVF 900 ที่จาก BVL 180 ของ Octo Finissimo Ultra COSC 2024 พัฒนาร่วมกับ movement specialist Concepto ทำลายขีดจำกัดของคำว่า ultra-thin ทุกฟังก์ชันต้องอยู่บนระนาบเดียวกัน
ย้อนกลับไปแค่สองปีก่อน Rolex เคยทำให้โลกต้องตั้งคำถามกับ “Destro” หรือ GMT-Master II ที่ถูกออกแบบให้คนถนัดซ้ายใช้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยการย้ายเม็ดมะยม วันที่ และ Cyclops ไปอยู่ฝั่งซ้ายทั้งหมด ในตอนนั้นหลายคนว่าแปลก บางคนว่าท้าทาย วันนี้ Rolex กลับมาเล่าเรื่องนั้นอีกครั้ง — แต่ในโทนที่หรูหรากว่า หนักแน่นกว่า และเขียวขึ้นอย่างเหนือความคาดหมาย นี่คือ GMT-Master II Ref. 126729VTNR ในเวอร์ชั่น ทองคำขาว พร้อมหน้าปัด “เซรามิกเขียว” Cerachrom รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ ถ้าคุณเป็นคนที่คุ้นชินกับ Rolex แบบเดิม คุณอาจคิดว่ามันแค่เปลี่ยนสี เปลี่ยนวัสดุ แล้วขายใหม่ในราคาที่แพงขึ้น แต่ในความจริง มันมีอะไรมากกว่านั้น โดยเฉพาะ “เนื้อของหน้าปัด” ที่ไม่ได้ใช้การพ่นสีแบบ lacquer เหมือนที่ผ่านมา แต่ใช้วัสดุ Cerachrom (เซรามิกชนิดพิเศษที่แบรนด์พัฒนาขึ้นเอง) ที่ต้องใช้ฝีมือและการควบคุมเฉดสีอย่างแม่นยำ และในรุ่นนี้ Rolex จงใจเลือกสีเขียวให้แมตช์กับขอบหน้าปัดครึ่งล่างได้อย่างแนบเนียน ซึ่งถือว่า rare
ลองจินตนาการดูว่า Yamaha แบรนด์ที่คุณน่าจะคุ้นจากมอเตอร์ไซค์ R-Series หรือเปียโนข้างบ้าน จู่ ๆ ประกาศว่าจะสร้าง ซูเปอร์คาร์กลางเครื่อง วางเครื่อง V12 แบบเดียวกับใน F1 ที่วิ่งได้บนถนนจริง ๆ — ใช่ครับ มันเกิดขึ้นจริง ในช่วงปี 1992 และชื่อของมันคือ OX99-11 ก่อนจะพูดถึง OX99-11 เราต้องเล่าก่อนว่า Yamaha คือ “เบื้องหลังความแรง” ของรถดังหลายรุ่น เช่น Toyota 2000GT (1967) รวมถึงสุดยอดแห่งความภาคภูมิใจ Lexus LFA กับเครื่อง V10 1LR-GUE – ผลงานที่ Yamaha มีส่วนร่วมทั้งเสียงและความบ้าคลั่ง พร้อมซาวด์ระดับเทพที่ใครได้ยินจะไม่มีวันลืม – คราวนี้ลองนึกภาพดูว่า ถ้าพวกเขาไม่แค่ “ช่วยออกแบบ” แต่ “สร้างทั้งคัน” จะเกิดอะไรขึ้น? ในช่วงปี 89’s Yamaha กระโจนเข้าสู่สนาม
ย้อนกลับไปปี 1967 โลกทั้งใบหันมามองรถญี่ปุ่นคันนี้ เพราะมันเป็นรถญี่ปุ่นคันแรกและคันเดียวที่ได้รับเลือกให้เป็น “Bond Car” ในภาพยนตร์เรื่อง You Only Live Twice ซึ่งถ่ายทำในประเทศญี่ปุ่น เดิมที ผู้กำกับ Lewis Gilbert มีแผนจะใช้ Chevrolet Camaro ในฉากไล่ล่า แต่ Sachio Fukuzawa นักแข่งรถของ Toyota ได้แนะนำให้ใช้รถยนต์ญี่ปุ่นเพื่อให้สอดคล้องกับสถานที่ถ่ายทำ ทำให้ Toyota 2000GT เครื่องยนต์ 2.0L inline-6 DOHC 150 แรงม้า เกียร์ธรรมดา 5 สปีด ขับหลัง 0-100 km/h ภายใน 8.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 220 km/h ได้รับบทบาทนี้ไปในที่สุด อย่างไรก็ตาม ห้องโดยสารของ 2000GT ค่อนข้างเตี้ยและแคบ Sean Connery ซึ่งมีรูปร่างสูงใหญ่ไม่สามารถนั่งได้อย่างสบาย
ในโลกที่นาฬิกาจักรกลถูกนิยามด้วยคำว่า “คลาสสิก” Rolex กลับเลือกจะเขียนคำว่า “อนาคต” ให้ชัดขึ้นกว่าที่เคย และ Land-Dweller คือการประกาศทิศทางใหม่ของแบรนด์ที่ไม่ต้องประกาศ แต่เริ่มจากกลไกที่เดินอยู่เงียบ ๆ ใต้หน้าปัด ชื่อ Land-Dweller ถูกจดทะเบียนตั้งแต่กลางปี 2023 การกลับมาอีกครั้งของแนวทางการออกแบบ ตัวเรือนแบบ integrated Flat Jubilee bracelet รื้อฟื้นภาพจำของยุค Oysterquartz ดีไซน์จาก Datejust ref. 1530 ในปี 1975 เป็นแกนกลางในการออกแบบใหม่ทั้งหมด ด้วยตัวเรือนทรง barrel เปิดตัวพร้อมกันถึง 10 references โดยมีทั้งตัวเรือน steel, Everose gold และ platinum ในขนาด 36mm และ 40mm บางเพียง 9.7mm กับหน้าปัด honeycomb ลายรังผึ้ง ประกบด้วยกระจก sapphire ทั้งหน้าและหลัง —
เมื่อพูดถึง Ferrari F40 หลายคนอาจนึกถึงซูเปอร์คาร์ยุค 80s ที่เป็นไอคอนของความเร็วและดีไซน์เหนือกาลเวลา แต่หากคุณเป็นนักสะสมตัวจริงหรือแฟนพันธุ์แท้ของ Ferrari คุณจะรู้ว่ามีเวอร์ชันที่หายากและทรงพลังยิ่งกว่าเดิม นั่นคือ Ferrari F40 LM ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสนามแข่งโดยเฉพาะ จากถนนสู่สนามแข่ง Ferrari F40 เดิมทีถูกออกแบบมาเพื่อฉลองครบรอบ 40 ปีของ Ferrari ในปี 1987 และเป็นรถรุ่นสุดท้ายที่ได้รับการอนุมัติจาก Enzo Ferrari โดยตรง แต่เวอร์ชัน F40 LM (Le Mans) ถูกปรับแต่งใหม่โดยทีมพัฒนาของ Michelotto เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันในรายการ IMSA GT และ Le Mans 24 Hours ความแรงระดับสนามแข่ง สิ่งที่ทำให้ F40 LM โดดเด่นเหนือกว่า F40 รุ่นมาตรฐานคือการอัปเกรดเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ ขนาด 2.9 ลิตร ที่เพิ่มพลังจาก
ในยุคที่เทคโนโลยีและสไตล์ต้องมาพร้อมกัน เวสป้าพร้อมที่จะนำเสนอประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับด้วย Vespa Sprint Tech 150 i-Get ABS ยานพาหนะที่ผสานความคลาสสิกเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานของแบรนด์ที่โดดเด่นในด้านการดีไซน์ เวสป้าไม่เคยหยุดที่จะพัฒนา Vespa Sprint Tech รุ่นใหม่นี้จึงเป็นการผสานเทคโนโลยีเข้ากับความงามอันเป็นเอกลักษณ์ของเวสป้าดีไซน์ที่สะกดทุกสายตา ดีไซน์ที่สะกดทุกสายตา โฉมใหม่ของ Vespa Sprint Tech 150 i-Get ABS มาพร้อมการผสมผสานสีที่สื่อถึงความทันสมัย ด้วยโทนสีดำ Black Convinto (Matt) สีเทา Grey Entusiasta และจุดเด่นด้วยสีเขียวฟลูออเรสเซนต์ที่เพิ่มความมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ส่วนไฟ LED ดีไซน์ใหม่บนแผ่นบังโคลนทั้งสองข้างไม่เพียงเพิ่มความปลอดภัย แต่ยังสร้างความโดดเด่นในทุกเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นการกดปุ่ม “ค้นหารถ” หรือขณะสตาร์ทเครื่องยนต์ หน้าจอ TFT ก้าวล้ำไปอีกขั้นด้วยหน้าจอ TFT ขนาด 5 นิ้ว ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานในทุกสภาวะ ด้วยการแสดงผลสีคมชัดทั้งในโหมดกลางวันและกลางคืน พร้อมฟังก์ชันอัจฉริยะที่ช่วยให้การเดินทางของคุณสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น โดยเเชื่อมต่อกับ Vespa MIA** และ Vespa
แล็ปท็อปยอดนิยมของโลกมาพร้อมความคุ้มค่ายิ่งกว่าที่เคยด้วยประสิทธิภาพที่สูงขึ้น, แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุด 18 ชั่วโมง, กล้อง 12MP Center Stage และการรองรับจอภาพภายนอกที่ดีกว่าเดิม ทั้งหมดนี้มาในดีไซน์ที่ทั้งบางเฉียบและเบาสุดๆ เบา เล็ก และแรงสุด ๆ เหมาะกับคนที่ต้องพก laptop ติดตัวเป็นประจำ MacBook Air ใหม่ที่มาพร้อมด้วยประสิทธิภาพที่เร็วสุดขั้วของชิป M4 แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุด 18 ชั่วโมง กล้อง 12MP Center Stage ใหม่ และราคาเริ่มต้นที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังรองรับจอภาพภายนอกสูงสุด 2 จอ นอกเหนือจากจอภาพในตัว, หน่วยความจำแบบรวมเริ่มต้น 16GB และความสามารถอันน่าทึ่งของ macOS Sequoia พร้อม Apple Intelligence ทั้งหมดนี้รวมอยู่ในดีไซน์ที่ทั้งบางเฉียบและเบาสุดๆ ซึ่งสร้างมาให้ใช้งานได้ยาวนาน ตอนนี้ MacBook Air ใหม่ยังมาในสีใหม่อย่างสีสกายบลู หรือสีฟ้าอ่อนแบบเมทัลลิก ซึ่งเมื่อนับรวมกับสีมิดไนท์ สีสตาร์ไลท์ และสีเงิน ก็จะกลายเป็นชุดสีสำหรับ MacBook Air
นี่คือรถยนต์สไตล์ Wagon ที่เหมือนกับออกแบบตัวถัง 5 ประตูเป็นหลัก ก่อนจะปรับลดเป็นตัวถังซีดาน เปิดตัวขวัญใจพ่อบ้าน generation ใหม่ล่าสุด 2025 Audi A6 Avant ที่กำลังอยู่ในช่วงมึนงงสับสนกันทั้งค่าย ไม่ว่าจะเป็นทิศทางรถ EV หรือแม้แต่ชื่อรุ่น จากเดิมที่จะถูกปรับชื่อรุ่นเป็น A7 Avant ตามแนวทางการตั้งชื่อยุคใหม่ที่วุ่นวายของ Audi แต่สุดท้ายตัวแบกของค่ายก็ได้ขอยกเว้นในการใช้รหัส A6 Avant เหมือนเดิม วางขายคู่กับ A6 E-Tron Avant ขุมพลังไฟฟ้า ซึ่งมีดีไซน์ที่แตกต่างกันชัดเจน (เดิมทีแนวทางตั้งชื่อใหม่ รุ่นเลขคี่ A3, A5, A7 จะใช้สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ ICE ส่วนเลขคู่ A4, A6, A8 จะใช้สำหรับ all-electric model) ลืมเรื่องความวุ่นวายของชื่อรุ่น Audi ไปก่อน มาโฟกัสกันที่ความน่าสนใจของ A6 C9 กันดีกว่า – ดีไซน์เน้นความ
นับตั้งแต่วินาทีที่ Honda เปิดตัว mid-engine NSX เครื่องยนต์ all-aluminium 3.0L V6 พร้อมระบบ VTEC (Variable Valve Timing and Lift Electronic Control) ออกมาในปี 1989 ก็กลายเป็น new iconic supercar ไปพร้อม ๆ กับ Ayrton Senna ทำตลาดมายาวนานถึง 15 ปีโดยมีรุ่นพิเศษออกมามากมาย แต่ที่พิเศษและโหดที่สุดก็คือ The RR concept ซึ่ง Honda ได้เปิดทางให้ Mugen tuner คู่บุญของ Soichiro Honda ลูกชายท่านประธานเป็นคนสร้างอย่างไร้ขีดจำกัด 2009 Mugen RR concept ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 20 ปีให้กับ NSX โดยเปิดตัวออกมาสี่ปีหลังจาก NSX