Off-White ถือว่าเป็นแบรนด์สตรีตแฟชั่นสัญชาติอเมริกาที่คนไทยรู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แถมชาว UNLOCKMEN ที่กำลังอ่านคอนเทนต์อยู่ตอนนี้หลายคนก็เคยไปยืนต่อแถวเข้าคิวเพื่อซื้อคอลเลกชันใหม่เมื่อ Off-White เปิดสาขาในประเทศไทยครั้งแรกกันมาแล้ว และตอนนี้แบรนด์ที่อยู่กึ่งกลางระหว่างแฟชั่นไฮเอนด์กับแฟชั่นสตรีตก็เตรียมปล่อยหมัดเด็ดใส่ชาวไทยด้วยคอลเลกชันที่มีชื่อว่า “Bangkok” การหยิบเรื่องราวของเมืองหลวงอย่าง ‘กรุงเทพมหานคร’ มาเล่าเรื่องผ่านแฟชั่นของ Off-White เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้เมื่อปี 2018 ทางแบรนด์ได้นำเอาลายเส้นจราจร รั้วกั้นสีเหลืองบนถนน ป้ายเตือนที่ตั้งอยู่ตามสี่แยก และแท็กซี่สีเขียว-เหลือง อันเป็นเอกลักษณ์ที่พบได้เฉพาะกรุงเทพมาปรับเข้ากับไอเทมแฟชั่นมาแล้ว สำหรับปี 2020 แบรนด์สตรีตก็ยังเอาใจสาวกชาวไทยอย่างต่อเนื่องด้วยการนำแรงบันดาลใจจากเมืองหลวงของไทยมาปรับใหม่อีกครั้ง แต่ครั้งนี้จะเน้นเรื่องราวของกรุงเทพฯ ที่ปรับเข้ากับความโมเดิร์นของแบรนด์ และแสดงออกมาบนเครื่องแต่งกายสไตล์สตรีตแบบ Unisex โดยเลือกใช้สีเทา สีกรมท่า ประกอบเข้ากับลายพิมพ์สีส้มนีออนสะท้อนแสงที่ซ่อนอยู่ตามไอเทมต่าง ๆ ไอเทมบางชิ้นจากคอลเลกชัน Bangkok ประจำปี 2020 ประกอบด้วยเสื้อยืด เสื้อเชิ้ตสไตล์ workwear ที่ประยุกต์มาจากแฟชั่นสุดคลาสสิกช่วงยุคอุตสาหกรรม ฮู้ดแขนยาว กางเกงขาสั้นเข้าเซต กางเกงคาร์โก และกางเกงยีนส์เข้ารูปแบบเป้าต่ำสไตล์หนุ่มฮิปฮอป แถมซิปกางเกงยังซ่อนลูกเล่นเล็ก ๆ อย่างหัวซิปรูปคลิปหนีบกระดาษสีส้มนีออน ส่วนการสร้างสรรค์ลวดลาย Off-White เลือกใช้เทคนิคการมัดย้อมด้วยสีคุณภาพสูง เพราะการสร้างสีสันบนเครื่องแต่งกายด้วยการมัดย้อมช่วยสร้างเอกลักษณ์ให้ลวดลายบนผืนผ้าแตกต่างกัน นอกจากนี้เครื่องแต่งกายทุกชิ้นของ Off-White “Bangkok” ยังมาพร้อมกับสัญลักษณ์คุ้นตาของแบรนด์อย่างลายพิมพ์ลูกศร (arrow)
‘Whidbey Farm’ เป็นผลงานการออกแบบบ้านของ MW Works สตูดิโอออกแบบในซีแอตเทิล ที่เนรมิตฟาร์มเก่าแก่อายุร่วม 100 ปี ให้กลายเป็นบ้านแสนสงบบนเนินเขา มองเห็นทัศนียภาพของทุ่งหญ้า บ่อน้ำ และป่าไม้ได้เต็มสองตา บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ที่ Whidbey Island ทางตอนเหนือของ Seattle ในรัฐ Washington เดิมทีเป็นฟาร์มที่มีต้นไม้ บ่อตกปลา และโรงนาอายุเก่าแก่หลายช่วงอายุคน ก่อนที่สตูดิโอ MW Works จะเข้ามาสร้างสถานที่พักผ่อนสุดพิเศษ เปลี่ยนฟาร์มเป็นบ้านที่ยืดหยุ่น ทนทาน และรองรับผู้พักอาศัยได้สูงสุด 20 คน (ตามโจทย์ของเจ้าของบ้าน) พื้นที่ 4,420 ตารางฟุต ถูกตอกเสาเข็มสร้างเป็นบ้านพักตากอากาศที่รองรับครอบครัวขนาดใหญ่ นอกจากต้องมีพื้นที่ให้คนทุกช่วงวัยทำกิจกรรมร่วมกันได้แล้ว ยังต้องเชื่อมความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวให้เป็นหนึ่งเดียวอีกด้วย ทีมสถาปนิกจึงสร้างบ้านบริเวณใจกลางลานที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้หลากชนิด ตั้งแต่ต้นซีดาร์และต้นเฟอร์สูงใหญ่ ไปจนถึงต้นหญ้าและเฟิร์นที่มีขนาดเล็กลงมา ซึ่งลานกลางบ้านนี้จะกลายเป็นพื้นที่ที่เชื่อมโยงคนในครอบครัวเข้าด้วยกัน ผ่านทางเดินไม้ที่เชื่อมต่อไปยังส่วนอื่น ๆ ของบ้าน นอกจากผนังกระจกทรงสูงที่เปิดรับภูมิทัศน์ด้านนอก ตัวบ้านยังใช้ผนังไม้ซีดาร์สีแดงแบบตะวันตกช่วยสร้างความรู้สึกมิดชิดและเป็นส่วนตัวให้คนในบ้าน แถมผนังบางส่วนก็สร้างจากกำแพงหินที่วางเรียงซ้อนกัน ทำให้บ้านดูกลมกลืนกับธรรมชาติโดยรอบมากยิ่งขึ้น บริเวณลานมีกำแพงเตี้ย ๆ ที่ทำจากหินบะซอลต์ในท้องถิ่น ช่วยแบ่งขอบเขต และทำหน้าที่เหมือนรั้วบ้านขนาดย่อมที่ไม่ทำให้บ้านดูอึดอัดทึบตัน
Leica แบรนด์กล้องสัญชาติเยอรมันที่โด่งดังระดับโลก เพิ่งเปิดตัว ‘Leica M10 Monochrom’ กล้อง Rangefinder ตัวใหม่ที่นำโมเดลกล้องรุ่นยอดนิยมอย่าง Leica M10-P มาเสริมประสิทธิภาพการทำงานให้เทพกว่าเดิม เฉือนตัวเครื่องให้บางเฉียบกว่าเก่า เพิ่มการเชื่อมต่อแบบไร้สาย และที่สำคัญมาพร้อมเซนเซอร์ขาวดำ 40 ล้านพิกเซล Leica M10 Monochrom ตัวนี้ดีไซน์บอดี้ให้เป็นสีดำเทาล้วน ลบโลโก้สีแดงที่เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ Leica ออกไป ขณะที่ใช้การแกะสลักและพื้นผิวสีดำเรียบหรูเข้ามาแทนที่ เพื่อสะท้อนเอกลักษณ์ของกล้องขาวดำแห่งยุคแอนะล็อก ไม่เพียงงานดีไซน์กล้องที่เปลี่ยนไป แต่สเปกก็ถูกอัปเกรดให้ทรงประสิทธิภาพกว่าเดิม Leica M10 Monochrom ใช้เซนเซอร์ฟูลเฟรม 40 ล้านพิกเซลที่พัฒนาขึ้นใหม่ เหมาะสำหรับการถ่ายภาพขาวดำโดยเฉพาะ ช่วยให้ภาพดูคมชัด เป็นธรรมชาติ และเก็บทุกรายละเอียดยิบย่อยได้อย่างน่าทึ่ง นอกจากวงแหวนตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์และวงแหวนตั้งค่า ISO จะถูกเปลี่ยนให้เป็นสีเทาดำ ช่วงความไวแสงก็ปรับใหม่ให้อยู่ที่ ISO 160-100,000 ทำให้บันทึกภาพด้วยช่วงไดนามิกที่กว้างขึ้นได้ สร้างเสถียรภาพให้กล้องทำงานได้ดีในสภาพแสงน้อย แม้จะถ่ายภาพในสภาวะที่มีคอนทราสต์ไม่สม่ำเสมอกัน แต่ภาพก็ยังคงมีพื้นที่ให้เงาและแสงสว่างตัดกันอย่างชัดเจน กล้องยังติดตั้งหน้าจอสัมผัส LCD ขนาด 3 นิ้วไว้ด้านหลัง ช่วยแสดงผลภาพถ่ายได้อย่างจุใจ มีบัฟเฟอร์หน่วยความจำ
Nissan Leaf Nismo RC ต้นแบบรถแข่งพลังงานไฟฟ้ารุ่นที่ 2 โชว์ความแรงในทวีปยุโรปเป็นครั้งแรกที่ Circuit Ricardo Torno สนามแข่งรถในเมืองบาเลนเซีย ประเทศสเปน พร้อมพลังที่เพิ่มจากรถรุ่นแรกเกือบเท่าตัว Nissan Leaf Nismo RC รุ่นปี 2020 คือรถแข่งพลังไฟฟ้าที่มีพื้นฐานจาก Nissan Leaf (ZE1) โดยไม่ได้สร้างมาแค่จัดแสดงเท่านั้น แต่เป็นรถสำหรับทดสอบพัฒนาการของเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าของนิสสันในอนาคต ทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ รวมถึง Nissan Leaf ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มียอดขายถึง 450,000 คัน Leaf Nismo RC มาพร้อมดีไซน์ภายนอกแบบใหม่สไตล์ Racing ที่สร้างและพัฒนาโดย NISMO แผนกรถแข่งของค่าย ออกมาเป็น Nissan Leaf ลุค 2 ประตูแบบต่อท้าย มาพร้อมกับสปอยเลอร์ขนาดใหญ่ เพื่อตอบโจทย์ระบบ Aerodynamic บนสนามแข่งที่ดีที่สุด
Seiko เริ่มต้นปี 2020 ด้วยการประกาศเปิดตัวนาฬิกาสามรุ่นล่าสุดในตระกูล ‘Black Series’ ของไลน์อัป Seiko Prospex ประกอบไปด้วยรุ่น SLA035J1, SPB125J1 และ SSC761J1 ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากความมืดมิดและระดับความลึกใต้มหาสมุทร นาฬิกาทั้งสามรุ่นถูกห่อหุ้มด้วยเคสสเตนเลสสีดำไอออน สะท้อนความงดงามใต้ท้องทะเลลึก พร้อมสอดแทรกรายละเอียดงานดีไซน์บนหน้าปัดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และใช้เทคโนโลยีส่องสว่าง LumiBrite ช่วยให้มองเห็นใต้น้ำได้แจ่มชัดยิ่งขึ้น SEIKO PROSPEX BLACK SERIES SLA035J1 นาฬิการุ่นนี้ใช้โมเดล SLA021 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นาน เป็นพื้นฐานการออกแบบ แถมยังได้สมญานามว่าเป็นทายาทของ MarineMaster 300 หนึ่งในนาฬิกาดำน้ำที่มีชื่อเสียงที่สุดของ Seiko ‘SLA035J1’ มาพร้อมตัวเรือนแบบชิ้นเดียว (Monobloc) และสายซิลิโคนสีดำกับหัวเข็มขัดแบบหมุด นอกจากงานดีไซน์ที่ดูโฉบเฉี่ยว เรือนนี้ยังใช้กลไก Calibre 8L35 ที่แม่นยำและน่าเชื่อถืออีกด้วย บนหน้าปัดขนาด 44.3 มิลลิเมตร ตกแต่งด้วยเข็มวินาทีสีแดงเด่น มีฝาเซรามิกแบบทิศทางเดียวที่แข็งแรงทนทาน ช่วยให้นาฬิกากันน้ำได้ลึกถึง 300 เมตร หน้าปัดยังใช้เทคโนโลยีส่องสว่าง Lumibrite ที่ให้ความสว่างมากกว่าและนานกว่าสารเรืองแสงทั่วไป
กล้ามเนื้อหลังแขนหรือ Triceps ถือเป็นกล้ามเนื้อสำคัญที่ตอบโจทย์การเคลื่อนไหวร่างกายในชีวิตประจำวัน รวมถึงเป็นมัดกล้ามเนื้อที่สาว ๆ หลงใหลมากที่สุด การสร้างกล้ามเนื้อส่วนนี้ไว้เพื่อความแข็งแรง และเสริมสร้างบุคลิกความมั่นใจจึงเป็นสิ่งที่ผู้ชายอย่างเราไม่ควรละเลย อย่างไรก็ตามการสร้างกล้ามเนื้อหลังแขนประกอบไปด้วยท่าฝึกหลายท่า ซึ่งอาจไม่เหมาะสมกับการออกกำลังที่มีเวลาจำกัด QUICK WORKOUT วันนี้จึงอยากเสนอตัวช่วย 8 ท่าเล่นหลังแขนที่ฝึกง่าย ๆ และมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญคือใช้เวลาฝึกรวมเพียง 1 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น มาดูกันว่าโปรแกรม Triceps ครั้งนี้ประกอบไปด้วยท่าอะไรบ้าง Diamond Push-Ups Diamond Push-Ups คือท่าวิดพื้นที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบวางมือให้มีผลกับกล้ามเนื้อหลังแขน ถือเป็นอีกหนึ่งท่าที่อาศัยความแข็งแรงของร่างกายโดยพอสมควร แต่ก็มีรูปแบบการฝึกสำหรับผู้เริ่มต้นเหมือนกัน How to: เตรียมฝึกท่า Diamond Push-Ups ด้วยการนั่งคุกเข่า โดยประสานมือบนพื้นให้ช่องวางเป็นสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ข้อควรระวังคือลักษณะการกางแขนที่ต้องเฉียงไปด้านหลังไม่ใช่กางออกด้านข้าง โดยตำแหน่งมือจะอยู่ตรงกลางอก สำหรับคนที่เหยียดขาตรงแล้วดันตัวไม่ขึ้นสามารถนั่งคุกเข่าและดันตัวเพื่อทำความคุ้นเคยก่อนได้ Kickbacks Kickbacks ท่ายอดนิยมสำหรับคนชอบเล่นหลังแขนเพราะทั้งเล่นง่ายและมีประสิทธิภาพ แถมยังช่วยเพิ่มสมดุลกล้ามเนื้อร่างกายได้เป็นอย่างดี How to: วางเข่า 1 ข้างบนเก้าอี้ยกน้ำหนักสำหรับเตรียมตัวโดยใช้มือข้างเดียวกันพยุงสมดุลไว้ ก่อนใช้มืออีกข้างยกดัมเบลขึ้นมาข้างลำตัวให้ขอศอกเป็น 45 องศา ก่อนใช้แขนเหวี่ยงดัมเบลไปข้างหลังโดยเน้นออกแรงจากหลังแขนและควรระวังไม่ให้แขนเหวี่ยงหรือแกว่งมากเกินไประหว่างฝึก
เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา ภาพยนตร์เรื่อง Bohemian Rhapsody ปลุกกระแสให้ตำนานไม่มีวันตายอย่างวง Queen กลับเข้าสู่ยุคเฟื่องฟูอีกครั้ง เรื่องความเจ๋งของเขาเราไม่เถียง เพราะพวกเขาเป็นวง Glam Rock ระดับตำนานที่ไม่มีใครมาล้มล้างได้ แต่ก็ต้องยอมรับจริง ๆ ว่าหนังเรื่องนี้มีส่วนทำให้วงกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง แถมยังขยายฐานแฟนเพลงเด็กรุ่นใหม่มากมาย แม้สมาชิกในวงจะอายุรุ่นราวคราวปู่ ล่าสุดก็มีเรื่องราวดี ๆ เกิดขึ้นอีกแล้ว เมื่อโรงกษาปณ์ The Royal Mint แห่งสหราชอาณาจักรประกาศคอลเลกชันใหม่เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ความยิ่งใหญ่ของวง โดยเป็นชุดแรกของคอลเลกชันในหมวด ‘Music Legends’ ซึ่งวงแรกที่ได้รับเกียรตินั้นจะเป็นใครไม่ได้นอกจากพวกเขาวง Queen แน่นอนว่าเหรียญระดับพรีเมียมแบบนี้ไม่ได้มาแค่ชิ้นเดียว แต่ผลิตออกมาหลากหลายรูปแบบให้คุณเลือกสรร (ถ้ากำลังทรัพย์ของคุณมากพอ) แบบธรรมดาราคา 13 ปอนด์ (ราว 514 บาท) แบบมีซองรูปวง Queen ราคา 15 ปอนด์ มีทั้งแบบธรรมดาและแบบ Limited Edition ผลิตแค่ 25,000 ชิ้น (ราว 593 บาท)
กีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 32 หรือรู้จักกันในชื่อ Olympic Tokyo 2020 กำลังจะเริ่มขึ้นในช่วงกลางปี 2020 นี้ ขณะที่กระแสความนิยมต่อการแข่งขันกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกส่งผลให้มีไอเทมจำนวนมากผลิตออกมาสู่ตลาด สำหรับตลาดรองเท้าในตอนนี้ คงไม่มีแคปซูลไหนโดดเด่นไปกว่าคอลเลกชัน Air Max 97 “Olympic Rings” Air Max 97 “Olympic Rings” แคปซูลรองเท้าที่ Nike ปล่อยออกมาต้อนรับกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 32 ซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคม – 9 สิงหาคมปีนี้ ประกอบไปด้วย Air Max 97 ทั้งหมด 5 สีที่ได้แรงบันดาลใจจากสัญลักษณ์ของกีฬาโอลิมปิกที่ทุกคนรู้จัก หรือ Olympic Ring โดยประกอบไปด้วยห่วงสีฟ้า สีดำและสีแดง ด้านบนห่วงสีเหลืองและสีเขียว ดีไซน์ของ Air Max 97 “Olympic Rings” ทั้ง 5 คู่จะเหมือนกันคืออัปเปอร์จะเป็นสีจาก
เมื่อถามถึงชื่อของแบรนด์สตรีตแฟชั่นในปัจจุบัน บางคนก็จะตอบวน ๆ กันอยู่สองแบรนด์ว่า Supreme กับ Off-White แต่แบรนด์ที่ดังในฝั่งยุโรปหรืออเมริกาอาจจะคุ้นชื่อของ Kith กันเป็นอย่างดี แถมในตอนนี้แบรนด์สตรีตแฟชั่นก็ปล่อยการ collaboration ที่น่าสนใจออกมาอีกครั้ง Kith แบรนด์น้องใหม่ก่อตั้งเมื่อปี 2011 ของดีไซเนอร์ผิวสีชาวสหรัฐฯ Ronnie Fieg ที่นอกจากจะออกคอลเลกชันภายใต้ชื่อแบรนด์ของตัวเองแล้ว Kith ยังเป็นสถานที่ที่รวบรวมเสื้อผ้า รองเท้า และไอเทมแฟชั่นจากหลากหลายแบรนด์มาไว้ในร้านเพื่อตอบสนองความต้องการของหนุ่มสตรีตที่แค่เดินเข้าร้านมาหาไอเทมเท่ ๆ ร้านเดียว ก็มั่นใจได้ว่าจะได้สิ่งที่คาดหวังกลับบ้านไปแน่นอน นอกจากนี้ Ronnie Fieg ยังมักปล่อยคอลเลกชันแหวก ๆ และ collaboration กับแบรนด์อื่น ๆ อยู่บ่อยครั้ง บางครั้งก็ออกคอลเลกชันร่วมกับแบรนด์แฟชั่นไฮเอนด์ฯ Versace หรือแบรนด์มินิมัล Tommu Hilfiger บางครั้งก็หันไปจับคู่กับแบรนด์น้ำชื่อดัง Coca-Cola ดูแล้วแทบไม่ซ้ำกับเลยเพราะ Kith พร้อมเปิดรับไอเดียใหม่จากทุกคนอยู่เสมอ ปี 2020 Kith เริ่มกลายเป็นกระแสตั้งแต่ต้นปีเพราะเลือก collaboration กับภาพยนตร์โคตรมาเฟียในตำนานอย่าง The Godfather
ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง เราทุกคนล้วนต้องผ่านช่วงเวลาเป็นเด็กด้วยกันทั้งนั้น และกิจกรรมวัยเด็กขาดไม่ได้คือการตื่นเช้ามานั่งรอดูการ์ตูน อ่านหนังสือการ์ตูนเรื่องที่ชอบ ตามซื้อนิตยสารการ์ตูนเพื่อจะได้อ่านตอนถัดไปก่อนใคร ตามเก็บของเล่นที่แถมมากับขนม และเอาเรื่องราวมัน ๆ ในการ์ตูนมาคุยกับเพื่อนที่โรงเรียน ยุคหนึ่งเคยมีการ์ตูนเรื่องหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากทั้งในประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทย มังงะจากเกาะญี่ปุ่นที่เล่าเรื่องราวการผจญภัยของซุน โกคู เด็กชายผู้ออกตระเวนไปตามที่ต่าง ๆ เพื่อรวบรวมดราก้อนบอลให้ครบ 7 ลูก เพราะหากเก็บครบแล้วจะสามารถขอพรจากเทพเจ้ามังกร เรื่องราวการเดินทางที่ต้องพบเจอทั้งอุปสรรค เพื่อนฝูง เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการผจญภัย ทำให้เด็ก ๆ ทุกคนติดการ์ตูนเรื่อง Dragon Ball กันแจ DARGON BALL ในยุคคุณดังแค่ไหน ? เมื่อถูกถามขึ้นว่า “Dragon Ball ดังแค่ไหน ?” บางคนอาจสงสัยว่าทำไมถึงถามคำถามนี้ เพราะคำตอบคือสิ่งที่รู้กันอยู่แล้วว่า “การ์ตูนเรื่องนี้แม่งโคตรดัง!” แต่เมื่อยุคสมัยผ่านไป คนรุ่นก่อนที่ทันอ่านมังงะเรื่องนี้ก็เติบโตขึ้นตามกาลเวลา ซึ่งถ้าย้อนกลับไปดูพบว่าช่วงเวลาที่ Dragon Ball ตีพิมพ์คือ ค.ศ. 1984-1995 (พ.ศ. 2527-2538) สรุปคือตอนนี้การ์ตูนเรื่องดังจบลงนานกว่า 25 ปีแล้ว เด็ก ๆ