เราเชื่อว่าผู้ชายทุกคนคงเคยเดทในชีวิตมานับครั้งไม่ถ้วน บางคนสมหวังสามารถเอาชนะใจผู้หญิงได้ตั้งแต่เดทแรก แต่บางครั้งก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า ซึ่งเราเคยสงสัยไม่ว่าทำไมพอหลังจากเดทแรกปุ๊ป ฝ่ายหญิงถึงตีตัวออกห่าง หรือทำตัวเหมือนไม่อยากคุยกับเราแล้ว แม้เราจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องความรัก แต่สาเหตุทั้งหมดน่าจะมาการพฤติกรรมการเดทของคุณ เพราะเคยมีคนบอกว่าเดทแรกจะสามารถเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาได้ ยิ่งเมื่อเวลาที่เราอยู่ใกล้กับคนที่ตัวเองชอบมากเท่าไหร่ ผู้ชายก็ยิ่งคาดหวัง พยายามอยากจะทำแต้มพิชิตใจเธอ จนบางทีอาจเผลอทำอะไรที่ไม่เข้าท่าออกไปโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นวันนี้ทีมงานจะขอมาแชร์พฤติกรรมที่ชาว UNLOCKMEN ควรระวังอย่าเผลอทำในเดทแรก เพราะถ้าหากทำแล้วผู้หญิงอาจจะร้องยี้ได้ ห้ามมองผู้หญิงคนอื่น แน่นอนในเมื่อคุณมาเดทกับเขา แต่ดันไปมองผู้หญิงคนอื่น มันเท่ากับว่าเป็นการเสียมารยาทอย่างมากที่สุด ซึ่งเราก็เข้าใจว่าบางทีก็มีเย้ายวนใจให้คุณหันไปมองอยู่บ้าง แต่อย่างน้อยเราควรจะเก็บอาการนิดนึง อย่าแสดงออกมากนัก เพราะผู้หญิงเป็นเพศที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด หากเธอเห็นว่าคุณมีสายตาที่ล่อกแล่ก อาจทำให้เสียแต้มในการเดทครั้งนี้ได้ ดังนั้นพยายามโฟกัสกับคู่เดทของเราถ้าไม่อยากให้รักล่ม เป็นผู้ฟังที่ดี อย่าพูดเรื่องตัวเองเยอะ ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีใครชอบมาฟังเรื่องของเราหรอก เพราะถ้าพวกเธออยากรู้อะไรเกี่ยวกับเราเดี๋ยวก็ไปหาวิธีสืบเอาเองจนได้ ดังนั้นวิธีง่าย ๆ คือการเป็นผู้ฟังที่ดี คอยรับฟังในทุกเรื่องที่เธอกำลังพูดแม้คุณจะไม่เข้าใจมันเลยก็ตาม แล้วอย่าลืมเอาคำเชื่อมประโยคต่าง ๆ ไปด้วย เวลาที่ผู้หญิงเล่าอะไรมาจะได้ดูเหมือนว่าเราให้ความสนใจ และมีการโต้ตอบกับพวกเธอ ใจดีสปอร์ต ช่วยเพิ่มแต้มต่อให้กับคุณเห็น ๆ ธรรมเนียมแบบอเมริกันแชร์นั่นใช้ไม่ได้สำหรับสังคมไทยจงลืมไปซะ อีกทั้งขึ้นชื่อว่าเดทแรกแล้ว จนเตรียมเงินอะไรไปให้พร้อม หากไม่แน่ใจจริง ๆ กรุณาเช็คข้อมูลราคาของร้านอาหารที่เรากำลังจะไป เพราะบางทีการไปกินร้านอาหารที่ไม่รับบัตรเครดิต แล้วเราขอยืมตังผู้หญิงไปจ่ายก่อน ต่อให้เราจะจ่ายคืนทันทีที่เจอตู้ ATM แต่นั้นก็ทำลายภาพลักษณ์ของเราไปเรียบร้อยแล้ว
เวลาที่เราต้องไม่อยู่บ้านรู้สึกกังวลใจกันบ้างไหมครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่สารพัดสิ่งอย่างในบ้านให้ห่วงเวลาต้องออกเดินข้างนอกตลอด ไม่ว่าจะสัตว์เลี้ยงจะอยู่ได้ไหม จะมีขโมยขึ้นบ้านหรือเปล่า หรือจะลืมปิดน้ำ ถอดปลั้กปิดไฟยังนะ เลยพาลให้เวลาออกไปไหนแทนที่จะมีความสุข กลับต้องมาห่วงเล็กห่วงน้อยแทบจะตลอดเวลา เดี๋ยวนี้ก็ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนหน่อย เราสามารถติดกล้องวงจรปิดบริเวณที่ต้องการได้และดูออนไลน์ทางไกลให้ไม่ต้องกังวลใจ แต่ว่าเราก็คงไม่สามารถติดได้ทุกจุดในบ้านอยู่ดี เพราะยิ่งหลายตัวก็ยิ่งราคาเพิ่มขึ้นทั้งตอนติดตั้งและค่าบำรุงดูแล UNLOCKMEN เลยจะมาแนะนำกล้องวงจรบินอัจฉริยะที่จะลบข้อจำกัดด้านจุดอับ เก็บภาพไม่หมดทิ้งไปซะ Aire เป็นหุ่นยนต์บินได้ที่จะมาช่วยเพิ่มความปลอดภัยในพื้นที่บ้านได้อย่างชาญฉลาด เพราะสามารถบินสำรวจได้ด้วยตัวเอง พร้อมกับกล้องแบบ 360 องศา ให้เราได้เห็นทุกมุมมองภายในบ้าน ไม่พลาดแม้แต่มุมอับของบ้าน และยังสามารถบินหลบสิ่งกีดขวางได้ด้วยตัวเองอีกด้วย ระหว่างที่ Aire บิน จะมีเสียงรบกวนให้ระดับต่ำ (ไม่ดังเหมือนพวกโดรน) รองรับการสั่งงานด้วยเสียงและผ่านแอปฯ บนสมาร์ทโฟนได้จากทั่วทุกที่ ซึ่งเทคโนโลยีที่ถูกใส่เข้ามาใน Aire เป็นแบบเดียวกับพวกรถยนต์ไร้คนขับที่คาดว่าจะมาปฏิบัติวงการกล้องวงจรปิดแบบเก่าให้ตายไปเลยทีเดียว เพราะใส่ระบบผู้ช่วยอัจฉริยะอย่างพวก Alexa , Google Home เข้ามาในตัวเครื่องอีกด้วย ส่วนฟังก์ชั่นด้านความปลอดภัย มีตั้งแต่ช่วยสอดส่องและสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นและแจ้งเตือนให้กับเจ้าของได้รับรู้ อย่างเช่นมีคนแปลกหน้า เข้ามาตอนที่เราไม่อยู่บ้าน เครื่องจะทำการสั่งบินตรวจสอบและแจ้งเตือน เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น ด้านการบิน ใส่เซ็นเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวางให้บินได้ปลอดภัยภายในบ้าน ไม่ว่าบ้านเราจะใหญ่โตหรือหลายชั้นขนาดไหน Aire ก็สามารถบินทำงานและพาตัวเองกลับมาที่ฐาน (Dock) ของตัวเองได้สบาย ตัวกล้องตามที่เราได้บอกไว้คือสามารถเก็บภาพได้ 360
เราเคยอ่านงานวิจัยว่าด้วยความลับในจิตใจของมนุษย์ 1 ใน 13 ความลับที่ทุกคนล้วนมีตรงกันคือเรื่อง “SEX” แม้ทางหนึ่ง SEX จะเป็นสิ่งที่ต้องถูกเก็บให้พ้นสายตาคนด้วยเหตุผลเรื่องความเป็นส่วนตัว แต่เราก็เชื่อว่าความต้องการ ความปรารถนา ความหลงใหลที่จะแสดงออกซึ่งความเย้ายวนเป็นสิ่งที่เราล้วนต้องซื่อสัตย์ต่อตนเอง และแสดงมันออกมาในรูปแบบสิ่งของที่จะไว้สร้างความสุขให้กับตัวเราเองบ้าง นั่นจึงเป็นเหตุผลให้วันนี้ UNLOCKMEN พาแหวกม่านแห่งความปรารถนา แหวกความต้องการทางเพศเข้าสู่ตู้ลับที่ใคร ๆ ก็อยากเก็บไว้ไม่ให้ใครรู้ แต่ทุกคนล้วนมีความปรารถนาเดียวกัน UNLOCKMEN จึงขอนำคุณเข้าสู่ ‘The Hidden Closet’ตู้ลับแห่งความต้องการของมนุษย์ แสงสีแดงสดอาบไล้เรือนร่างทีมงาน UNLOCKMEN ทุกคนทันทีที่ก้าวเข้าไปในร้าน ‘The Hidden Closet’ ให้ความรู้สึกร้อนเร่าแค่ก้าวเท้าเข้ามา ถ้าจะให้เราบรรยายบรรยากาศที่เราเห็นตอนนี้ก็คงนิยามได้ว่านี่คือห้องลับที่ไว้แสดงความปรารถนาทางเพศอย่างมีชั้นเชิงที่สุดเท่าที่เราเคยเห็นมา แต่ถ้าให้บอกง่าย ๆ คร่าว ๆ นี่คือร้านขายของเล่นสำหรับผู้ใหญ่ ไม่ได้มีสินค้าฮาร์ดคอร์เหมือนญี่ปุ่นหรือประเทศที่มีของเล่นเหล่านี้ขายได้อย่างถูกกฏหมาย แต่ถ้ากำลังพลิกโลกหาของเล่นทางเพศทุกชนิดที่ไม่ละเมิดกฏหมายบ้านเรา UNLOCKMEN ขอกระซิบให้ความมั่นใจเต็มเปี่ยมเลยว่าคุณมาถูกทางแล้ว แต่ในฐานะที่ที่นี่มอง SEX เป็นศิลปะ และ Fashion การจัดวางและเหตุผลที่ทำร้านนี้จึงไม่ใช่นำเสนอแค่เรื่อง เพศ เพศ เพศ อย่างเดียวจนเราแทบสำลักเพราะความล้นเกิน แต่ที่นี่จะให้ความสุนทรีย์กับคุณแบบที่คุณไม่เคยได้รับจากที่ไหนมาก่อน เรามาคุยกับเจ้าของร้านไปพร้อม ๆ
หันไปทางไหนตอนนี้ ก็เริ่มเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ อย่างในด้านความก้าวหน้าของเทคโนโลยี อย่างเช่นการเปลี่ยนอุปกรณ์หลายตัวไปสู่ระบบไร้สายแบบเต็มตัว ถ้าเป็นเมื่อ 5-10 ปีก่อนคงไม่มีใครกล้าเสี่ยงสักเท่าไหร่ เพราะตัดสายทิ้งมันจะส่งสัญญาณได้ดีกว่ามีสายได้ยังไงกัน แต่ในตอนนี้กลับกลายว่ามันเป็นเรื่องปกติทั่วไปซะแล้ว ยกตัวอย่างเช่นเรา ก็เลือกมองหาอุปกรณ์ที่ใช้งานไร้สายซะเป็นส่วนใหญ่ เพื่อความสะดวกสบายในการพกพาอุปกรณ์ ยิ่งสมัยนี้คนเราไม่ได้เกาะยึดติดอยู่กับที่ตลอดเวลา เพราะงั้น UNLOCKMEN จะมาแนะนำอุปกรณ์ชาร์จไร้สายสุดเจ๋ง ที่รองรับระบบไร้สายได้อัจฉริยะกว่ารุ่นอื่น ๆ ในตลาดได้แบบชิดซ้าย โดยที่เรากำลังจะพูดถึงนี่เป็น Pi ที่ชาร์จไร้สายสุดเจ๋ง แบบที่ไม่ต้องวางบนแท่นชาร์จเหมือนกับเจ้าอื่น ๆ (แบบที่ต้องวางไว้บนแท่นชาร์จมันไร้สายก็จริง แต่ก็ต้องอยู่ในตำแหน่งที่จัดเตรียมของเครื่องชาร์จ) แต่เจ้าตัว Pi สามารถวางห่าง 1 ฟุตก็ยังชาร์จไฟได้แบบปกติ ไม่ต้องมีแท่นชาร์จให้กวนใจ Pi เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงจากบริษัท Startup ทีมศิลป์เก่า MIT ที่ระดมหัวช่วยกันคิดค้นแท่นชาร์จไร้สายแบบตั้งโต๊ะที่ไม่ว่าจะเป็น Tablet หรือ SmartPhone ก็สามารทชาร์จไฟได้ปกติแม้จะทิ้งระยะว่างห่างจากตำแหน่งที่แท่นตั้งอยู่ก็ตาม แม้ว่าจะไม่มีแท่นชาร์จแต่ก็ต้องใส่เคสที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับตัวเทคโนโลยีการชาร์จแบบ Resonant Induction โดยหลักการทำงานของเทคโนโลยีมีเบื้องหลังก็คือ Algorithm Beam-Forming ที่จะทำการยิงคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไปยังอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ต้องการชาร์จไฟได้โดยตรง ไม่ว่าจะอยู่ในทิศทางหรือตำแหน่งไหนรอบด้าน ก็สามารถชาร์จได้ ซึ่งก็ทำให้เราเห็นข้อดีของมันได้แบบชัดเจนคือ
มีหลายคนที่ตอนนี้กำลังอยู่ในออฟฟิศในขณะที่อาการเมาค้างยังคงทำการเหวี่ยงศีรษะไปจนแทบจะอ้วกแตก หลังจากที่ปาร์ตี้ และดื่มสุรามาสารพัดชนิดเมื่อคืนที่ผ่านมา บางคนก็อาจจะรู้มากรีบปิด Tag งดการเคลื่อนไหวในโลกออนไลน์ตั้งแต่ในคืนวันปาร์ตี้ เพื่อจะได้เตรียมการโทรลาป่วยกับเจ้านายในตอนเช้าได้อย่างแนบเนียน แต่อย่างที่รู้ ๆ กันว่า ไม่ว่าคุณจะทำงานอยู่บริษัทไหนบนโลกก็ตามคงจะไม่มีที่ไหนเห็นดีเห็นงามในการลาหยุด ด้วยเหตุผลที่ว่า เมื่อคืนดื่มเหล้าหนักไปหน่อยเลยไปทำงานไม่ไหวครับเจ้านายแน่ ๆ ยกเว้นบริษัทหนึ่งในประเทศอังกฤษที่ทำให้พนักงานของเขาไม่ต้องใช้ข้ออ้างใด ๆ ให้มีเรื่องต้องผิดใจกันกับเจ้านายในภายหลัง บริษัทที่ว่านี้มีชื่อว่า DICE เป็นบริษัทจัดจำหน่ายตั๋วคอนเสิร์ต และเพื่อให้พนักงานในบริษัททุกคนนั้น มีประสบการณ์ และหลงใหลในการเสพดนตรีพวกเขาจึงสนับสนุนเป็นอย่างยิ่งให้พนักงานออกไปเที่ยวในตอนกลางคืน และดูการเล่นสดของวงดนตรีต่าง ๆ รวมไปถึงการออกไปฟังดนตรีสดตามผับ และบาร์ แน่นอนว่า การออกไปเที่ยวยามราตรีนั้นคงจะหนีไม่พ้นการดื่มอย่างแน่นอน บริษัท DICE ก็ยินดีให้พนักงานที่เมาหนักมาเมื่อคืนลางานได้!! โดยไม่มีความผิด แต่ขอแค่ให้พนักงาน Text หานาย Phil Hutcheon ซึ่งเป็นบอสของพวกเขาด้วย Emoticon ตามที่กำหนดมาได้แก่ Emoticon *music*, *beer* หรือ *sickface* ผ่านทาง WhatApps เท่านั้นเป็นอันรู้กันว่า เมื่อคืนหนักมาแล้ววันนี้ขอลาเพราะเมาค้างอยู่นะครับเจ้านาย Phil Hutcheon อธิบายเอาไว้ว่า “ทีมงานของเราทุกคนต้องอยู่กับเสียงดนตรี และการแสดงสด
สูท ถือเป็นสิ่งที่บ่งบอกความเป็นชายได้ดีอย่างหนึ่ง แต่ด้วยวัฒนธรรมของคนไทยที่อาจจะไม่ค่อยคุ้นชินกับมันเสียเท่าไหร่ เนื่องด้วยโอกาส และอากาศที่มีให้เลือกใส่ได้น้อยครั้ง ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วผู้ชายอย่างเราจะได้ใส่สูทก็ต่อเมื่อมีเหตุการณ์สำคัญ งานเลี้ยง หรือจะเป็นงานแต่งใครก็แล้วแต่ที่ต้องการความเป็นทางการเท่านั้น จึงไม่น่าแปลกใจหากหนุ่มไทยหลายคนจะอ่อนด้อยประสบการณ์ และมีความเชี่ยวชาญเรื่องนี้น้อยไปเสียหน่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับมือใหม่ที่ไม่ค่อยมีความรู้ อาจจะรู้สึกไม่มั่นใจว่าถ้าเกิดจะตัดชุดสูทสักชุดไว้ใส่ลุยทุกงานว่าควรจะต้องเลือกยังไง วันนี้ทีมงาน UNLOCKMEN จึงนำชุดสูท 4 แบบที่สามารถพบเห็นได้ง่าย และสามารถใช้เป็นไกด์แนวทางหากต้องการชุดสูทแบบครอบจักรวาลสามารถไปได้ทุกงาน Plain Navy One-Button เป็นสูทที่นิยมกันมากที่สุด เพราะหาซื้อง่าย และนิยมขายแบบสำเร็จรูป ถ้าคุณมีช่วงลำตัวสั้น สูทแบบ 1 กระดุมจะเป็นแบบที่เหมาะสมที่สุด เพราะไม่รัดจนเกินไป และไม่ทำให้สูทเข้ารูป จึงเหมาะกับคนที่ต้องการพรางรูปร่างช่วงลำตัว แต่ถ้าเราพอมีทุนทรัพย์เพียงพอ การหาร้านตัดสูทดี ๆ แบบสั่งตัด เลยก็ดีกว่าเพราะเราจะสามารถเลือกคัทติ้ง และเนื้อผ้าแบบที่ชอบเองได้ โดยที่อาจจะเลือกเป็นผ้าน้ำหนักปานกลาง ประมาณ 11-12 oz เพื่อให้สวมใส่สบาย ไม่ร้อนจนไป แถมกันหนาวได้ด้วย ซึ่งถ้าต้องเลือกเฉดสีที่กลาง ๆ สามารถใส่ได้บ่อยสุดก็คงหนีไม่พ้น Navy เพราะจะใส่ไปออกงาน ไหนก็ดูดีได้ไม่ซ้ำใคร Plain Grey Two-Button ก่อนหน้านี้เราบอกไปแล้วว่าอยากให้ใส่สูทสีเข้ม เพื่อพรางตัว และใส่ได้ทุกโอกาส
“ย้อนเวลา” เป็นสิ่งหนึ่งที่ใครก็อยากทำ แต่จะมีสักกี่คนที่ย้อนวันเวลาได้ วันนี้ UNLOCKMEN จะพาคุณย้อนวันเวลาไปหาตำนานเกาเหลาเนื้อไร้เทียมทานแห่งเวิ้งนาครเขษมที่มีสูตรต้นตำรับยาวนานมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เรารับรองได้เลยว่าการได้ลิ้มรสเกาเหลาเนื้อจาก Ten Suns ไร้เทียมทาน 十光 จะไม่ต่างการได้ย้อนเวลากลับไปยังบรรยาการเก่า ๆ ของร้าน ชิ่ว เนื้อวัวไร้เทียมทาน เกาเหลาเนื้อที่จะทำให้คุณล่องลอยข้ามกาลเวลาอย่างไร้เทียมทานได้จริง ในวันที่ UNLOCKMEN เดินทางไปถึงร้าน Ten Suns ไร้เทียมทาน 十光 บอล-กันต์ รุจิณรงค์ มือกีตาร์วง อพาร์ตเมนต์คุณป้า ยืนรอเราอยู่แล้ว เขาเล่าถึงเสน่ห์ของ ชิ่ว เนื้อวัวไร้เทียมทาน ที่ไม่อาจปล่อยให้เลือนหายไปกับกาลเวลาได้เลย วันที่ ชิ่ว เนื้อวัวไร้เทียมทาน จะต้องปิดตัวลงด้วยเหตุผลด้านสถานที่จึงเป็นสิ่งที่เขาและ เชฟโจ๊ก-สมเกียรติ ไพโรจน์มหกิจ แห่งร้าน Seven Spoons ปล่อยให้เกิดขึ้นไม่ได้ นี่จึงไม่ต่างจากการย้อนเวลา ไม่ต่างจากการควานคว้าร้านอาหารเจ้าประจำในดวงใจมาเก็บรักษาไว้อย่างที่ควรจะเป็น โดยเขาเล่าว่าชีวิตของเขาผูกพันกับเวิ้งนาครเขษมมาตลอด เพราะด้วยความเป็นนักดนตรีถ้าจะซื้อเครื่องดนตรี ทุกคนก็ต้องมาที่เวิ้งฯ นี่ เมื่อร้านที่เขารักกำลังจะจากไปเขาและเพื่อนจึงอยากนำร้านกลับมาเพื่อไม่ให้ลูกค้าเก่า ๆ หาร้านที่พวกเขารักไม่เจออีก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขาได้เจอกับเฮียบัติ-ชญาณญ์พัฒณ์ ติเวชยันต์
ชีวิตในวัยทำงานไม่เคยง่ายดายสำหรับใคร เพราะเราจะต้องใช้ชีวิตตื่นนอนแต่เช้าเดินทางออกจากบ้านมาทำงาน จนกระทั่งหมดวัน เพื่อใช้ชีวิตทำเรื่องซ้ำ ๆ เดิม ๆ แบบไม่รู้จบ จะมีบ้างในวันหยุดเทศกาลที่พอจะทำให้ชีวิตรู้สึกผ่อนคลายขึ้นก่อนจะกลับไปสู่วงโคจรชีวิตแบบเดิมอีก ซึ่งอันที่จริงแล้วมนุษย์ทุกคนควรจะมีงานอดิเรก หรือสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบไว้สักหนึ่งอย่าง เพื่อให้ตัวเองยังรู้สึกว่าร่างกายของเราไม่ใช่หุ่นยนต์ที่คอยต้องมาป้อนคำสั่งเพื่อทำงานเพียงอย่างเดียว ทั้งที่คุณเองควรจะเป็นคนกำหนดออกแบบชีวิตของตัวเองว่าอยากจะเลือกทำอะไร ดังนั้นเราจึงมีเหตุผลที่ว่าทำไมผู้ชาย UNLOCKMEN ถึงควรมีงานอดิเรกสักหนึ่งอย่างเพื่อไว้ขัดเกลาอารมณ์ให้แจ่มใส่ และพัฒนาสมองให้เฉียบคมมากยิ่งขึ้น การเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ทำให้สมองสามารถคิดอะไรได้เฉียบคมมากขึ้น คนส่วนใหญ่มักคิดว่างานอดิเรกคือเรื่องสำหรับเด็ก แต่ความจริงงานอดิเรกทุกประเภท ล้วนเป็นการฝึกฝนสมองรูปแบบหนึ่ง โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งจากการเรียนหนังสือ เพราะเมื่อเวลาที่เราสนใจเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เราก็จะมีความมุ่งมั่นเพื่อต่อยอดให้งานนั้น ๆ ออกมาดียิ่งขึ้น โดยไม่ว่าจะเป็นการพยายามหาข้อมูล ศึกษาเพิ่มเติม หรือแม้กระทั่งเสียเวลาฝึกฝน เพื่อให้ชิ้นงานออกมาดียิ่งขึ้น จากการศึกษาในปี 2013 ของมหาวิทยาลัยเท็กซัส ได้ทดสอบผู้ใหญ่จำนวน 200 คนให้เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ปรากฎว่าการเรียนรู้เหล่านี้ทำให้สมองของพวกเขาสามารถจัดเรียงประมวลความคิด จนสามารถคิดไตร่ตรองเรื่องต่าง ๆ รวมถึงเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ได้ดียิ่งขึ้น งานอดิเรกทำให้คุณรู้จักคุณค่าในตัวเอง งานอดิเรกจะช่วยเพิ่มความท้าทายให้กับตัวคุณเองไม่ว่าจะเป็นทางด้านร่างกาย หรือจิตใจ เพราะทุกกิจกรรมล้วนถูกออกแบบมาเพื่อให้คุณเอาชนะขีดความสามารถของตัวเอง และเมื่อคุณสามารถประสบความสำเร็จในเป้าหมายต่าง ๆ ก็จะเกิดเป็นความมั่นใจทำให้คุณรู้จักคุณค่าของตัวเองมากยิ่งขึ้น ซึ่งการรู้จักคุณค่าในตัวเองจะช่วยเพิ่มโอกาสการทำงานดี ๆ ให้สำเร็จลุล่วงได้ง่ายดายยิ่งขึ้นเช่นกัน การเบี่ยงเบนความสนใจชั่วคราว สามารถชาร์จพลังงานให้สมองได้
เสน่ห์ของผู้ชาย ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องหล่อ ต้องรวยเสมอไป บางคนไม่ได้หล่อ ไม่ได้รวย แต่ก็ยังมีคนรักที่ทำให้ผู้ชายหลายคนอิจฉาได้เหมือนกัน นั่นแสดงว่าผู้ชายทุกคนล้วนมีเสน่ห์อยู่ในตัวเองอยู่แล้ว เพียงแต่คุณหาเสน่ห์ของตัวเองเจอหรือยัง เสน่ห์ไม่ได้ส่งผลต่อความรัก ความใคร่เพียงอย่างเดียว แต่มันยังช่วยเสริมบุคลิกของคุณให้ดูน่าเชื่อถือน่านับถือ ดูเป็นผู้ชายที่มีความมั่นใจได้อีกด้วย แต่การจะทำให้ตัวเองดูเป็นคนมีเสน่ห์ขึ้นมา ไม่ได้มีแค่ด้านเดียว แต่ต้องทำหลาย ๆ ด้านไปพร้อม ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการวางตัว การพูดการจา การแต่งตัว บุคลิกภาพ สมรรถภาพในด้านต่าง ๆ เหล่านี้คือส่วนสำคัญที่จะบ่งบอกตัวตนของคุณภาพรวมทั้งหมดให้เห็นว่าคุณมีเสน่ห์แล้วหรือยัง ถ้าคุณพร้อมแล้ว มาเปลี่ยนผู้ชายธรรมดาให้ดูมีเสน่ห์ไปพร้อมกัน 1. เสริมความมั่นใจ สร้างเสน่ห์ เริ่มเปลี่ยนจากใจตัวเองก่อน ถ้ามัวแต่บอกตัวเองทุกวันว่าเรา “ไม่ดี ไม่เก่ง ไม่หล่อ ไม่รวย จะไปสู้ใครไหว” แบบนี้มันจะไปเหลือความมั่นใจได้ยังไง ก่อนอื่นเลยต้องเลิกคิดกับตัวเองในแง่ลบก่อน เพราะความคิดพวกนี้แหละที่จะทำให้เราเกิดอาการไม่มั่นใจ ไม่รักตัวเอง แล้วของแบบนี้บอกเลยว่าคนรอบข้างเขาก็รู้สึกได้ ว่าคุณไม่มั่นใจ คุณต้องหันมามองตัวเองและยอมรับในความเป็นตัวตนของคุณที่ไม่เหมือนใคร อย่ามองว่าคุณไร้ค่า ทุกคนมีคุณค่า มีเสน่ห์อยู่ในตัวเองเสมอ 2. สมรรถภาพดี สุขภาพดี ก็มีเสน่ห์ได้เหมือนกัน สมรรถภาพดีคือ การที่สภาวะความสมบูรณ์ของร่างกายใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ บางคนดูรูปลักษณ์ภายนอกเหมือนจะดูดี
หากพูดถึงกลุ่มแก๊งค์โหด ๆ ที่ชอบมีเรื่องมีราว และเป็นที่จับตามองของตำรวจนั้น ถือว่ามีอยู่ทุกหนแห่งทั่วโลก ทุก ๆ ครั้งที่แก๊งค์เหล่านี้มีปัญหายกพวกบู๊ตะลุมบอนกันก็สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องต้องบาดเจ็บ หรือข้าวของพังเสียหายกันอยู่เป็นประจำ ซึ่งก็ต้องยอมรับเลยว่า แม้บ้านเมืองจะมีตำรวจ และกฏหมายบ้านเมืองคุ้มครองอยู่ แต่มันก็เป็นเรื่องยากที่จะหยุดความหัวร้อนของชาวแก๊งค์เหล่านี้เมื่อเจอหน้าคู่อริอยู่ดี ความบาดหมางระหว่างแก๊งค์เป็นเรื่องที่คนธรรมดาอย่างเรายากที่จะเข้าใจ และไม่คิดว่ามันเป็นสิ่งสำคัญในชีวิต แต่สำหรับสมาชิกแก๊งค์เหล่านี้กลับเห็นต่างออกไป มันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี เป็นเรื่องของพวกพ้อง และเป็นเรื่องของการประกาศอำนาจในความเหนือกว่าของแก๊งค์ตนกับคู่อริ แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ การเปิดศึกประจันหน้ากันของชาวแก๊งค์ได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบไปจากเดิม แถมยังเป็นแนวทางที่ดูเข้าท่าเข้าทางซะด้วย หากใครอยากรู้ว่าเรื่องราวที่ว่านี้มันเป็นยังไง วันนี้เราจะขอพาชาว UNLOCKMEN ทุกคนไปพบกับ Event สุดโหดที่มีชื่อว่า Northland Gang ‘Fight Night’ ซึ่งเป็นการรวมตัวของแก๊งค์สุดโหด 12 แก๊งค์ที่เป็นคู่อริกันเอาไว้ในสถานที่เดียวกัน เพื่อทำการจับคู่ซัดโดยอยู่ภายใต้การควบคุมของตำรวจอีกด้วย Event สุดบ้าคลั่งนี้ถูกจัดขึ้นที่เมือง Whangarei ในประเทศ New Zealand โดยงานนี้มีแขกรับเชิญเป็นแก๊งค์ที่เป็นคู่อริกันทั้งหมด 12 แก๊งค์ มาอยู่ภายใต้หลังคาเดียวกัน เพื่อเคลียร์ปัญหาแบบลูกผู้ชายด้วยการส่งตัวแทนออกมาดวลกำปั้นกันให้รู้ผลแพ้ชนะ โดยมีตำรวจเป็นเหมือนกรรมการคอยจับตาดูว่า มีใครตุกติกไม่ทำตามกติกา และคอยควบคุมสถานการณ์ไม่ให้บานปลายจากการชกกันแบบ 1 ต่อ 1