ผลวิจัยบอกว่าผู้ชายใส่เสื้อสีชมพู สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้มากขึ้น
เชื่อว่าทุกคนต้องมีเพื่อน หรือคนรู้จักที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความสายกันอย่างแน่นอน เรียกได้ว่าไม่ว่าจะนัดตอนกี่โมง จะเผื่อเวลานัดให้ขนาดไหน คนเหล่านั้นก็เหมือนจะพลังพิเศษหยั่งรู้ เพราะไม่ว่าเราจะหลอกล่อ จะเผื่อ จะทำวิธีไหนก็ตาม คนเหล่านั้นก็ยังคงความสายเอาไว้ได้อย่างมีมาตรฐาน บางคนสายจนเจ้าตัวเองก็เริ่มสงสัยว่า แท้จริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตกันแน่ เพราะถึงแม้ว่า จะตั้งใจจะตื่นให้เช้าขึ้น ทำอะไรให้เร็วขึ้น แต่สุดท้ายพอมองดูนาฬิกาก็พบว่า มันเลยเวลาที่ตัวเองกำหนดเอาไว้ในตอนแรกไปอีกแล้ว โดนเฉพาะทุก ๆ วันที่ต้องไปทำงาน ที่แหกขี้ตาตื่นมาพร้อมกับความตั้งใจว่า วันนี้กูจะไม่สายแน่ ๆ แต่สุดท้ายก็เข้าฟอร์มเดิมตามระเบียบ การมาสายกลายเป็นปัญหาของใครหลาย ๆ จนเกือบทำเอาชีวิตล้มเหลว เพราะสายเป็นประจำจนคนรอบข้างเริ่มจะหมดปัญญาในการช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็น เจ้านาย, เพื่อนร่วมงาน, แฟน หรือแม้แต่คนในครอบครัวต่างก็พยายามอย่างเต็มที่แล้วทั้งสิ้น แล้วเพราะอะไรกันล่ะ ที่ยังทำให้ความสายมันอยู่คงทนขนาดนี้ วันนี้เราจึงได้นำเอางานวิจัยชิ้นหนึ่งที่พูดเกี่ยวกับเรื่องอาการสายเป็นประจำจนกลายเป็นสไตล์ประจำตัวนี้ มาให้กับชาว UNLOCKMEN ที่สงสัยเช่นเดียวกันกับที่เรากำลังสงสัยอยู่ว่า มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกับตัวเองถึงได้เป็นคนแบบนี้ได้ดูกัน นักเขียน และวิทยากรจาก Alfie Kohn ได้กล่าวเกี่ยวกับเรื่องการศึกษาพฤติกรรมนี้เอาไว้ว่า “คนเหล่านี้ดูเหมือนจะไม่สนใจในเรื่องเวลาในสายตาคนอื่น พวกเขาคือคนที่ไม่สนใจเวลานัดหมายสำหรับคนที่มาก่อน แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันไม่ใช่เหตุผลของความล่าช้า” ก่อนอื่นคุณต้องแบ่งคนพวกสายเสมอออกเป็น 2 ประเภท แบบแรกคือ คนที่ไปสายเพื่ออยากจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นที่น่าสนใจ ทุกคนมองเห็นเมื่อ เข้า-ออก
ความเมาเป็นสภาวะคู่กายผู้ชายอย่างเรา บางทีก็เมารู้เรื่อง บางทีก็ไม่รู้เรื่อง แต่เคยสงสัยไหมว่าความเมามีกี่ประเภทกันแน่ แล้วเราเป็นคนเมาประเภทไหน งานวิจัยเรื่อง A five-factor approach to characterizing “types of drunks” มีคำตอบมาให้แล้ว 1.คอทองแดง งานวิจัยเรียกคนเมากลุ่มนี้ว่า Ernest Hemingways นักเขียนชื่อดังที่กินวิสกี้ไปเท่าไหร่ก็ไม่เมา แต่ UNLOCKMEN ขอนิยามคนกลุ่มนี้ว่าพวกคอทองแดง โดยคนกลุ่มนี้มีมากถึง 40% ของการสำรวจ คือไม่ว่าดื่มกินไปเท่าไหร่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง อาจจะมีสติหรือเมาแต่ไม่มีผลต่อบุคลิกภาพหรือการแสดงออก 2.ช่างพูด คนเมาประเภทที่สองนี้โดยปกติเป็นคนเข้าสังคมอยู่แล้ว ชอบพูดคุย ชอบพบปะผู้คน ยิ่งได้ดื่มเหล้า ดื่มเบียร์พอกรึ่ม ๆ สนุกสนาน ก็ยิ่งกลายเป็นคนที่น่าเข้าใกล้ ช่างพูดคุยมากขึ้นไปอีก 3.ปลุกด้านใหม่ในตัวคุณ งานวิจัยระบุว่าคนเมาแบบที่สาม คือคนที่ปกติเงียบ ๆ ไม่ชอบพูดคุยกับใคร ไม่ได้อยากออกมาปาร์ตี้กับคนเยอะ ๆ แต่ถ้าเมาแล้ว แอลกอฮอล์ได้เข้าไปดึงเอาบุคลิกภาพอีกด้านออกมา ก็จะช่างพูดขึ้นมาซะอย่างนั้น (เทียบกับปกติที่ไม่พูดไม่จาเอาเสียเลย) 4.จอมวายร้าย เมาแบบสุดท้าย คือเมาแบบที่ใคร ก็ไม่อยากเป็น แต่ก็มีคนเมาแบบนี้อยู่จริง คือเมื่อตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของแอลกอฮอล์แล้วจะมีความรับผิดชอบต่อสิ่งต่าง
เราต่างมีเวลาในหนึ่งวันเท่า ๆ กัน แต่การจัดการและการเลือกใช้เวลาไม่เหมือนกัน คนประสบความสำเร็จเขาทำอะไรในหนึ่งวันเราคงพอจะรู้กันมาบ้าง แต่สิ่งสุดท้ายที่พวกเขาทำก่อนนอนคืออะไรบ้าง ทำแล้วจะช่วยให้นอนอย่างมีประสิทธิภาพขึ้นไหม? หรือทำแล้วชีวิตวันต่อไปจะง่ายขึ้นบ้างหรือเปล่า? เรามาดูกันว่าคนประสบความสำเร็จระดับโลก 7 คนเขาทำอะไรก่อนเข้านอนกัน 1.Bill Gates: อ่านหนังสือก่อนนอน เจ้าพ่อไมโครซอฟต์อย่าง Bill Gates มักจะเผื่อเวลาก่อนเข้านอนของตัวเองไว้สำหรับการอ่านหนังสือเสมอ โดยเขาจะอ่านหนังสือก่อนเข้านอนเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ไม่ว่าคืนนั้นเขาจะนอนดึกขนาดไหน 2.Sheryl Sandberg: ตัดขาดการติดต่อสื่อสาร Sheryl Sandberg คืออดีตกรรมการอำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของโซเชียลมีเดียชื่อก้องโลกอย่างเฟซบุ๊ก เธอเลิกที่จะชัตดาวน์การสื่อสาร ด้วยการปิดโทรศัพท์มือถือคู่กายลงเมื่อเธอจะต้องเข้านอน โดยเธอยอมรับว่าแม้มันจะเจ็บปวดมากเมื่อต้องปิดมือถือแต่ละที แต่ก็คุ้มค่ากับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ 3.Oprah Winfrey: นั่งสมาธิ ถ้าจะให้บอกว่า Oprah Winfrey เป็นใคร ก็คงต้องไล่กันยาว เพราะเธอเป็นทั้งนักธุรกิจ นักแสดง โปรดิวเซอร์ และพิธีกรชื่อดัง แต่ไม่ว่าในแต่ละวันเธอจะยุ่งมากขนาดไหน ก่อนนอนเธอก็จะแบ่งเวลาให้กับการทำสมาธิเสมอ ๆ 4.Elon Musk: หยุดกินกาแฟ CEO ระดับโลกที่กำลังมาแรงที่สุดขณะนี้อีกคนหนึ่งคงหนีไม่พ้น Elon Musk ที่ปกติเขาต้องดื่มกาแฟ
ผู้ชายอย่างเรามักจะหลอก และเข้าข้างตัวเองว่า พระเจ้าสร้างให้เราเกิดมามีคอลลาเจนในผิวมากกว่าผู้หญิง ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องดูแลรักษาผิวหน้าตัวเองมากนัก แต่พอรู้ตัวอีกทีหน้าเราก็ผ่านการใช้งานมากอย่างหนัก จนยากเกินกว่าจะเยียวยามันให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิม เพราะต้องไม่ลืมว่าผิวของคนเราก็ต้องการดูแล รักษาไม่ต่างจากอวัยวะส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย เนื่องจากในชีวิตประจำวันของวิธีคนเมืองนั้น ล้วนต้องเจอกับตัวแปรหลายอย่างที่จะมาทำลายเซลล์ผิวบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็น ฝุ่นบนท้องถนน รังสี UV ไหนจะภาวะเครียด หรือแม้กระทั้งการยิ้ม การหัวเราะ เรียกได้ว่า เราต้องเจอศึกหนัก ๆ ทำให้ผิวหน้าอ่อนล้า และดูหมองคล้ำไม่เว้นแต่ละวัน ซึ่งจริง ๆ แล้ววิธีการดูแลผิวหน้าของผู้ชายเราก็แสนง่าย เพราะใช้เวลาเพียงเล็กน้อยกับขั้นตอนอีกเพียง 4 Step เท่านั้น ซึ่งนั้นไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย เพียงแต่เราใส่ใจมันสักนิด สละเวลากับมันสะหน่อย จะได้ไปไม่ต้องมานั่งเสียใจในวันที่มันสายไป เพราะคนเรานั้นเกิดมามีเพียงหน้าเดียว ไม่สามารถ Face off ได้เวลาที่มันพัง ดังนั้นเพื่อเป็นการปกป้องผิวหน้าของเราวันนี้ UNLOCKMEN จะรวบรวมการดูแลผิวหน้าในตอนเช้าเพื่อหนุ่ม ๆ ทุกคน ล้างหน้า เคยสังเกตไหมว่าทั้งที่เราล้างหน้าทุกวันเช้าเย็น แต่ทำไมยังมีสิว และผิวหมองคล้ำ นั่นก็เพราะเราล้างหน้าไม่สะอาด ก่อนอื่นเลยเราต้องวิเคราะห์ผิวหน้าตัวเองเสียก่อน ถ้าเราเป็นคนผิวแห้งแพ้ง่าย ยิ่งต้องใส่ใจเรื่องผลิตภัทฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิวมาก ๆ อย่างแรกเลยในตอนเช้าสิ่งแรกที่ต้องทำคือทำความสะอาดล้างสิ่งสกปรกบนใบหน้า
ต้นสัปดาห์ทีไร อาการง่วง เหงา หาว นอน รู้สึกว่าวันหยุดทำไมมันช่างแสนสั้นเหลือเกิน อยากจะนอนพักผ่อนอยู่บ้านหายใจทิ้งไปอย่างเฉย ๆ ยังไม่พร้อมจะลุกขึ้นมาทำงาน ด้วยภารกิจหน้าที่การงาน ทำให้เราต้องลุกขึ้นมารับผิดชอบกับกิจกรรมประจำวันที่สำคัญกับชีวิต ซึ่งเราเข้าใจว่าการสร้างแรงบันดาลใจในเช้าวันจันทร์เป็นอะไรที่ยาก ดังนั้นเราจึงต้องหาเคล็ดลับในการช่วยเพิ่มพลังอย่างง่าย ๆ นั้นคือการฟังเพลง ซึ่งก่อนหน้านี้เราเคยนำเสนอเรื่องราวที่ว่าดนตรีสามารถปลุกเร้าอารมณ์ให้ผู้ฟังรู้สึกฮึกเหิมละพร้อมจะทำงานไปบ้างแล้ว แต่ข้อดีอีกอย่างของการมี playlist ที่ดี คือสามารถกระตุ้นการตอบสนองทางร่างกาย และจิตใจ ที่เป็นประโยช์นสำหรับการทำงาน และปฎิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานได้ดีอีกด้วย เพราะนักวิจัยที่ Dennis Hsu จากมหาวิทยาลัย Northwestern University ได้ลองทำการสำรวจโดยการสังเกตพฤติกรรมของนักกีฬา เมื่อเขาเปิดเลือกเพลงหลากหลายประเภท อาทิ ฮิปฮอป เร้กเก้ เฮฟวีเมทัล จำนวนกว่า 30 เพลง ผลลัพธ์ที่ได้คือเพลงที่มีจังหวะเบสหนักแน่น จะช่วยเพิ่มแรงขับให้รู้สึกฮึกเหิม และมีกระตุ้นความมั่นใจพร้อมที่จะเริ่มงาน ในเช้าวันใหม่มากขึ้น (CNN) ไม่เท่านั้นเขายังพยายามศึกษาต่อไปว่า เพลงที่มีทำนองเบสเป็นจุดเด่น ยังเสริมความมั่นใจให้กับคนที่กำลังรู้สึก กังวลใจ หรือไม่มั่นใจในตัวเอง สำหรับสถานการณ์ที่น่าตื่นเเต้น อาทิ สัมภาษณ์งาน หรือขายงานลูกค้า ดังนั้นเราจึงไปค้นหาเพลงจังหวะเบสดี ๆ
ยุคสมัยนี้การเล่าเรื่องด้วยภาพได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพเพื่อเล่าเรื่อง หรือแม้แต่การทำหนังก็ช่วยสื่อสารสิ่งที่มีไปยังคนดูได้ง่ายยิ่งขึ้น เรื่องจริงในหน้าประวัติศาสตร์ เรื่องราวชีวประวัติของบุคคลสำคัญ ก็ถูกนำมาสร้างสรรค์ลงบนจอเงินให้คนทั่วไปได้ซึมซับเรื่องราวกันอย่างกว้างขวาง และนี่คือ 10 หนังน่าดูที่สร้างมาจากเรื่องจริงที่คนดูหนังไม่ควรพลาด จะมีเรื่องอะไรบ้างนั้น เตรียมเครื่องเสียงสเตอริโอ และทีวีของคุณให้พร้อม แล้วเรามาดูไปพร้อมๆ กันเลย American Sniper (2014) ผลงานภาพยนตร์แนว American Hero ที่ทำรายได้ถล่มทลายถึง 547.4 ล้านเหรียญ ผลงานชิ้นโบว์แดงของ Client Eastwood เกี่ยวกับ US Navy SEAL เนื้อเรื่องทั้งหมดสร้างจากคำบอกเล่าที่แปลมาจากหนังสือ “American Sniper: The Autobiography of the Most Lethal Sniper in U.S. Military History” ของ Chris Kyle มือ sniper ประจำกองทัพที่แม่นยำ ลุยทุกภารกิจ ช่วยเหลือเพื่อในกองทัพไว้ได้มากมาย ทำลายล้างศัตรูไปมากกว่า 255 ศพ จากการรบในสงคราม
อาการอยากคุยโทรศัพท์ แต่ไม่อยากต้องใช้มือหยิบยกโทรศัพท์เอาไว้นาน ๆ ถือเป็นอาการที่อยู่คู่กับมนุษย์เรามาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่นที่ติดแฟน ต้องคุยโทรศัพท์ทั้งวัน หรือ จะเป็นผู้ใหญ่ที่ต้องใช้โทรศัพท์ในการทำธุรกิจ หรือทำมาหากินแทบจะตลอดเวลา รวมถึงใครที่มีธุระด่วนจำเป็นต้องคุยโทรศัพท์แล้วต้องขับรถไปด้วยก็เช่นกัน ผู้คนเหล่านี้จะรู้ดีว่า ปัญหาที่ดูธรรมดา ๆ แบบนี้ มันหนักหนากับชีวิตซะเหลือเกิน และนั่นเองที่ทำให้โลกเรา กำเนิดอุปกรณ์ที่เข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระอันหนักอึ้งที่ต้องถือไว้ในอุ้งมืออย่าง Small Talk ขึ้นมา แต่หลังจากนั้น Small Talk ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสิ่งที่เทพเทวดา ก็ทำให้คนรู้สึกว่า สายตุ้งติ้งของมันช่างเป็นเสี้ยนหนามของชีวิตอะไรขนาดนี้ ทำให้คนเรากลับมาหนทางที่จะผลิตสิ่งที่สะดวกสบายกว่าออกมาจนกลายเป็น หูฟัง Bluetooth ในที่สุด แต่ที่สุดแล้วก็ดูเหมือนว่า คนเราจะไม่เคยพอใจอะไรสักที เมื่อ หูฟัง Bluetooth กำลังจะกลายเป็นเรื่องที่ล้าสมัยไปอีกซะแล้ว เพราะไม่นานมานี้ ได้มีการเปิดตัวเทคโนโลยีล่าสุดที่ทั่วโลกต้องทึ่ง นั่นก็คือ “Orii Smart Ring” อย่ามัวเสียเวลากันเลยดีกว่า ดังนั้นเราจะพาทุกคนไปรู้จักกับมันกันเลยในตอนนี้ “Bluetooth Earpieces” หรือ หูฟัง Bluetooth ที่เราเรียกกันนั้น เป็นอุปกรณ์ที่มาช่วยให้เราคุยโทรศัพท์ของเรานั้นง่ายดายขึ้นมากมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว เพียงแค่เรานำหูฟังที่ไร้สาย เสียบคาไว้ที่หู จากนั้นก็ปล่อยมันทิ้งไว้ได้ตลอดทั้งวัน เมื่อเวลามีสายเข้า
“FASHION CHANGES, STYLE ENDURES” เมื่อสักประมาณสัปดาห์ที่ผ่านมาทีมงาน UNLOCKMEN มีโอกาสได้ดูคลิปตัวหนึ่งของผู้ก่อตั้งบริษัทขายอาหารเสริมยี่ห้อหนึ่ง ที่มีการนำเอาเสื้อราคากว่า 150,000 บาท มาฉีก พร้อมให้แง่คิดในเรื่องของวัตถุปรุงแต่ง ซึ่งเราก็ได้แง่คิด และรู้สึกเหมือนกันตรงจุดนี้ วันนี้จึงอยากนำแง่มุมสิ่งที่คิดมาแชร์ถึงผู้อ่านทุกคน แม้ว่าก่อนหน้านี้เราเองจะเคยแนะนำไอเทมใหม่ต่าง ๆ ไปมากมาย แต่สิ่งที่เราคอยเน้นเสมอในเรื่องของแฟชั่นคือการที่เราไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อของราคาแพงมากมาย เพราะเรามีแนวคิด และความเชื่อที่ว่าคนแต่งตัวดี ไม่เกี่ยวกับว่าของที่คุณใส่มีมูลค่าเท่าไหร่ หรือจำนวนไอเทมว่ามากมายสักแค่ไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือการใช้สอยของที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดมากกว่า ซึ่งเราก็รู้สึกว่าคนในยุคปัจจุบันนั้นถูกหล่อหลอมด้วยการโชว์ โอ้อวด ทางออนไลน์ เพราะบางคนอาจจะแคร์สายตาของคนอื่นมากกว่าสายตาตัวเองเสียด้วยซ้ำ สิ่งที่เราพบเจอบ่อยคือการอยากครอบครองของ Hype โดยที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมัน ไม่ได้คิดว่ามันสวยงามขนาดนั้นเมื่อเทียบกับราคา ลึก ๆ ในใจอาจจะไม่ได้ชอบมันด้วยซ้ำ แต่เห็นว่ามันกำลังเป็นที่นิยม ก็เลยจำเป็นต้องอยากได้ตาม ๆ กัน เพราะแฟชั่นชิ้นนั้นเป็นการการันตีให้คนใส่ได้มั่นใจว่า เป็นคนคูลที่ทันสมัย บางครั้งเราก็ทำอะไรตาม ๆ กันไปโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชอบหรือไม่ รวมถึงมันเหมาะสมกับเรามากน้อยสักเท่าไหร่ ตัวอย่างชัด ๆ คือรองเท้า NMD , Yeezy ที่เอาจริงเราเชื่อว่าวินาทีแรก หลาย ๆ คนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
ขนาดจะสำคัญหรือเปล่าไม่รู้แน่ชัด แต่ลีลาท่วงท่าที่ใช้โหมซัดนั้นสำคัญแน่นอน! คงไม่มีผู้ชายคนไหนที่ไม่อยากทำให้สาว ๆ พอใจ หรือไม่อยากทำให้สาว ๆ จดจำลีลาบนเตียงของเราได้ แต่ไอ้จะมัวทำแต่ท่าทางเดิม ๆ เขาอยู่ล่าง เราอยู่บนไปทุกครั้ง ๆ มันก็ออกจะซ้ำซากจำเจไปหน่อย UNLOCKMEN เลยอาสาเพื่อผู้ชายทุกคน นำผลสำรวจจากผู้หญิงกว่า 1,100 คนมาฝากกันว่านอกจากไอ้ท่าเดิม ๆ ซ้ำ ๆ นั่นแล้ว มันมีอีก 4 ท่าไหนที่พวกเธอติดอกติดใจและอยากทำให้ได้บ่อยกว่าเดิม 1. The Face-Off Sex Position ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า สาว ๆ ร้อยละ 48 เลือกท่านี้ไว้ในสามอันดับท่วงท่าที่เธออยากใช้มากที่สุด เพราะท่านี้มันทำให้ร่างกายของคุณเข้าไปอยู่ในตัวเธอได้ลึกสมใจเธอ แถมท่านี้ยังทำให้หน้าอกหน้าใจเธออยู่พอดีตรงหน้าคุณ คงไม่ต้องบอกต่อนะว่าควรทำอย่างไร 2. The G-Whiz Sex Position ผู้หญิงร้อยละ 32 ลงความเห็นว่าท่านี้แหละเป็นหนึ่งในท็อปสามท่าสุดจี๊ดของพวกเธอ ทำไมถึงชอบท่านี้? นั่นเป็นเพราะว่าเวลาที่พกเธอได้ยกยืดขาเรียวยาวสูงชูขึ้นไปในอากาศมันทำให้ส่วนน้องสาวของเธอเบียดเข้าหากันมากกว่าท่าปกติ และนั่นคือโอกาสที่ทำให้คุณมีโอกาสสัมผัส G-Spot หรือจุดที่ทำให้เธอถึงใจได้มากกว่าท่าปกติเช่นกัน 3. The