“กินอย่างกับแมวดม มันจะไปอิ่มอะไร” ผู้ชายอย่างเราอาจจะเคยบ่นสาวข้างกายไว้อย่างนี้ การดมกับการกินถูกเอามาเปรียบแบบงง ๆ เพราะถ้าเทียบกันแล้ว ดมยังไงก็ไม่น่าจะทำให้คนอิ่มหรืออ้วนได้ (ก็แน่ล่ะคนเราต้องกิน ไม่ใช่ต้องดม) แต่จะช็อคแค่ไหน ถ้ามีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ออกมาแล้วว่า แค่ดมกลิ่นอาหารก็สามารถทำให้เราน้ำหนักเพิ่มขึ้นได้แล้ว! ฟังดูทั้งช็อค ทั้งน่ากลัว มันจะดมไม่กี่ลมหายใจ แล้วจะหนักขึ้นมาเร็วไวเหมือนที่เราคิดหรือเปล่า หรือมีความซับซ้อนมากกว่านั้น? UNLOCKMEN หาคำตอบมาให้อ่านง่าย ๆ แล้ว The Sense of Smell Impacts Metabolic Health and Obesity คืองานวิจัยที่จัดทำโดย University of California, Berkeley การศึกษาครั้งนี้ก็ดำดิ่งเจาะลึกลงไปว่าการดมกลิ่นนั้นมันมีผลต่อกระบวนการเผาผลาญและความอ้วนของมนุษย์อย่างไรบ้าง ผลปรากฏว่าการดมกลิ่น การได้กลิ่นเชื่อมโยงกับร่างกายมากกว่าที่เราคิด โดยการดมกลิ่นนั้นมีส่วนให้ร่างกายของเราเลือกว่าจะเผาผลาญไขมันที่มีอยู่ หรือเลือกที่จะเก็บสะสมไขมันนั้นไว้ต่อไป การทดลองนี้ทำกับหนูทดลอง 3 กลุ่ม มีหนูทดลองที่มีประสาทรับกลิ่นตามปกติ หนูทดลองที่ไม่สามารถรับกลิ่นได้ และหนูทดลองที่มีความไวต่อกลิ่นเป็นพิเศษ จากนั้นก็เลี้ยงพวกมันด้วยอาหารชวนอ้วนเต็มพิกัดในปริมาณเท่า ๆ กัน ผลปรากฏว่าหนูทดลองกลุ่มที่ไม่สามารถได้กลิ่นอาหารมีน้ำหนักตัวน้อยที่สุดหลังจากการทดลอง แม้จะกินเท่ากันและเหมือนกัน ไม่เพียงเท่านั้นหนูทดลองที่ได้กลิ่นตามปกติมีน้ำหนักและขนาดตัวเพิ่มขึ้น 1 เท่า ในขณะที่หนูทดลองที่ไม่ได้กลิ่นกลับมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเพียง
ภาพผลงานศิลปะระดับมาสเตอร์พีซของศิลปินผู้โด่งดัง ใคร ๆ ก็คงจะคิดว่า มันจะต้องถูกประดับเอาไว้ในหอศิลป์, พิพิธภัณฑ์ หรือไม่ก็คงถูกคนนำไปประชันความงามตามเวทีประกวด รวมไปถึงงานประมูลอย่างแน่นอน แต่เมื่อนานมาแล้วมีผู้ชายอยู่หนึ่งคนที่ได้ทำการ UNLOCK ความเชื่อเหล่านั้น จนกลายเป็นต้นกำเนิดของตำนานความงาม และงานศิลปะที่ได้ชื่อว่าเร็วที่สุดอย่าง BMW Art Cars และเขาคนนั้นก็คือ Hervé Poulain ความคิดสุดแหวกแนวนี้ เดิมทีเป็นเพียงแค่ความฝันลม ๆ แล้ง ๆ ของผู้ชายที่มีอาชีพเป็นนักประมูลรถ ที่มักจะใช้เวลาว่างไปกับการแข่งรถเท่านั้น โดยเขาฝันเอาไว้ว่า ถ้าหากมีโอกาสก็อยากจะเข้าไปลองขับรถแข่งในรายการ The 24 Hour Race ที่สนาม Le Mans ดูสักครั้ง โดยรถที่ใช้จะต้องเป็น Super Sport Cars ที่มีลวดลายโดดเด่นสะดุดตาผู้ชมทุกคน เขาจินตนาการเอาไว้ว่า จะให้ศิลปินระดับท็อปมาทำงานศิลปะประดับลงไปบนตัวรถ ความคิดทั้งหมดนี้เกือบจะกลายเป็นเพียงความฝันไปซะแล้ว แต่ BMW กลับมองเห็นศักยภาพ และความเจ๋งของไอเดียสุดบ้าคลั่งนี้ จึงเริ่มลงมือนำ BMW 3.0 CSL มาเพ้นท์ลวดลายโดยให้จิตรกรชาวอเมริกันอย่าง Alexander Calder
โลกที่เต็มไปด้วยเรื่องราวอันคุ้นชินคือโลกที่สงบสุข แต่โลกที่เรารู้จักท้าทายตัวเองให้เปลี่ยนแปลงตัวเองบ้างคือโลกที่จะทำให้เรากลายเป็นคนใหม่ วันนี้ UNLOCKMEN ขอท้าลูกผู้ชายทุกคนให้ลองเปลี่ยนตัวเองเป็นเวลา 30 วัน! เพื่อทำอะไรที่ดูเหมือนง่ายแสนง่าย แต่อาจเปลี่ยนเราเป็นคนใหม่ได้แบบไม่รู้ตัว 6 ข้อง่าย ๆ ที่จะเปลี่ยนชีวิตเรานั้นมีอะไรบ้าง มาดูไปพร้อม ๆ กัน หัดปฏิเสธเสียบ้าง เราอาจเข้าใจว่าการปฏิเสธมีแต่ด้านไม่ดี แต่พลังแห่งการปฏิเสธก็มีด้านบวกเช่นกัน ลองกระบวนการปฏิเสธอย่างสุภาพ แต่ปฏิเสธมันทุกอย่างที่เราไม่เต็มใจทำ (ไม่ใช่ต้องทำเพราะเกรงใจ) อย่างน้อย 30 วัน 30 วันแห่งการปฏิเสธจะช่วยให้เราได้บริหารจัดการการจัดลำดับความสำคัญในชีวิต แถมมันจะช่วยให้เราเรียนรู้ว่าจริง ๆ โลกมันไม่ได้หยุดหมุนเลยถ้าเราจะปฏิเสธคนอื่นแล้วทำอะไรเพื่อตัวเองก่อนบ้าง ลดการใช้โซเชียลมีเดีย โซเชียลมีเดียเต็มไปด้วยประโยชน์ และงานจำนวนมาก เราก็ต้องทำโดยใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือ จุดนั้นเราคงไม่ว่ากัน แต่การใช้โซเชียลมีเดียที่รุกล้ำเวลาในชีวิตเราไปจำนวนมากนั้นงานวิจัยจำนวนมาก อาทิ Facebook’s emotional consequences: Why Facebook causes a decrease in mood and why people still use it ที่บอกเราว่าการลดใช้โซเชียลมีเดียทำให้เรามีความสุขมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องเชื่อ
แม้รอบกายผู้ชายอย่างเราจะรายล้อมไปด้วยตึกสูงในเมืองใหญ่และไลฟ์สไตล์แบบ Urban Men เรา Work แบบเต็มที่สุดขีด เรา Play แบบอิ่มเอมสุดเหวี่ยง ไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไรก็ถูกโอบไว้ด้วยความสะดวกสบายทุกย่างก้าว แต่สัญชาตญาณลึก ๆ ในตัวผู้ชายอย่างเราทุกคนล้วนส่งเสียงร่ำร้องว่าชีวิตต้องการการผจญภัยอยู่เสมอ สัญชาตญาณการผจญภัยและความต้องการอยู่กับธรรมชาติไม่ได้ไหลเวียนอยู่ในตัวเราเพื่อเรียกร้องให้เราออกไปใช้ชีวิตแบบลุย ๆ เท่านั้น แต่งานวิจัยที่ชื่อว่า Nature experience reduces rumination and subgenual prefrontal cortex activation ออกมาเปิดเผยว่าการได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติหรือพื้นที่สีเขียวมันดีกับผู้ชายอย่างเรามากจริง ๆ งานวิจัยชิ้นนี้เปิดเผยว่าปัจจุบันผู้คนกว่า 50% อาศัยอยู่ในพื้นที่เมือง จากอัตรานี้ภายในปี 2050 ผู้คนจะอาศัยอยู่ในพื้นที่เมืองกว่า 70% ซึ่งการอาศัยอยู่ในบรรยากาศแบบเมืองใหญ่จะทำให้เรามีแนวโน้มมีปัญหาทางสุขภาพจิตมากขึ้น แต่อย่าเพิ่งตกใจไป จิตวิญญาณของผู้ชายรักธรรมชาติและหลงใหลในการผจญภัยถือเป็นประโยชน์กับ URBAN MEN อย่างเรามาก ๆ เพราะการศึกษาจากงานวิจัยชิ้นนี้เปิดเผยว่าคนที่เดินชมธรรมชาติ เดินผ่านพื้นที่สีเขียวเป็นเวลา 90 นาที มีระดับความเสี่ยงที่จะมีปัญหาสุขภาพจิตน้อยกว่าคนที่รายล้อมด้วยบรรยาศตึกรามบ้านช่องแบบเมือง ๆ อย่างเดียว ผู้ชายที่ได้อยู่ท่ามกลางพื้นที่สีเขียวและมีใจรักการผจญภัยจึงไม่ต้องห่วงว่าจะได้รับผลกระทบจากบรรยากาศเมืองอันแสนวุ่นวายไม่ว่าจะจากมลภาวะ เสียงรบกวน หรือผลกระทบต่อสุขภาพจิต จิตวิญญาณนักผจญภัยจึงไม่ใช่การตอบสนองความต้องการลึก ๆ ในตัวเราอย่างเดียว
หลังจากปล่อยให้ค่ายอื่นเปิดตัวสินค้าใหม่กันอย่างโครมคราม คราวนี้มาถึงทีของกล้องจากค่ายจุดแดงอย่าง Leica แบรนด์กล้องถ่ายภาพชื่อดังจากเยอรมัน ซึ่งเป็นแบรนด์ในในฝันของคนเล่นกล้องหลายต่อหลายคน ที่เพิ่งเปิดตัวกล้องใหม่แบบสด ๆ ร้อน ๆ ในชื่อว่า TL2 ซึ่งเป็นกล้อง Mirrorless ในตระกูล TL นั่นเอง แน่นอนว่าของใหม่อะไรก็จะใหม่ ๆ ดี ๆ หน่อย อย่างพวกฟีเจอร์และสเปคที่ดีขึ้น แถมยังมีการออกแบบดีไซน์ของตัวกล้องใหม่อีกด้วย เอาเป็นว่าขอเกริ่นแค่นี้พอ รีบตามมาดูกันเลยดีกว่าว่า Leica TL2 จะมีอะไรใหม่ ๆ เจ๋ง ๆ สมกับชื่อเสียงของค่ายจุดแดงหรือเปล่า เริ่มต้นเลยคือ TL2 วัสดุบอดี้ทำมาจากอะลูมิเนียมบล็อคเดียว ที่จะสวยสมูทลงตัวเป็นเนื้อชิ้นเดียวกันหมดแบบไร้รอยต่อ ให้ความรู้สึกถึงความแข็งแรงของตัวบอดี้ได้เป็นอย่างดี ด้านสเปคของตัวกล้องก็มาพร้อมกับความละเอียดที่ 24 ล้านพิกเซล และเซ็นเซอร์แบบ CMOS APS-C พร้อมตัวประมวลผลภาพแบบ Maestro II ตามแบบฉบับของ Leica และ ISO เพิ่มได้ 50 – 50,000 จากรุ่นเดิม
ทุกวันนี้เราพึ่งพาสิ่งที่เรียกว่าพลังงานกันมากจนเกินไปหรือเปล่า ? เช่นเวลาไปเที่ยว เราก็ต้องพกพาแบตฯ สำรอง (Power Bank) อยู่ทุกครั้ง จนกลายเป็นของคู่กับสมาร์ทโฟนแบบที่ขาดไม่ได้ แต่ไม่ว่าเราจะมีโทรศัพท์มือถือที่มีแบตเตอรี่จุได้เยอะมากมายขนาดไหนหรือมีแบตฯ สำรองขนาดความจุ 30,000 mAh ก็ตาม อย่าลืมว่ามันก็ย่อมมีวันหมด ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินต้องการโทรหาใครสักคนล่ะ เคยคิดเผื่อใจ เผื่อเหลือใช้เวลานั้นกันบ้างหรือเปล่า ปัญหาที่กล่าวมาเหมือนเป็นความท้าทายเหล่าคนใช้ที่ไม่รู้จักประมาณตัวเองในการใช้งานที่คิดว่าการมีแบตฯ สำรองจะช่วยได้ทุกอย่าง ตอนนี้มีทางออกสำหรับปัญหานี้และผู้ที่ต้องการมือถือที่อยู่ได้นาน ๆ แล้ว โดยเหล่านักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ได้คิดค้นโทรศัพท์มือถือที่ไม่จำเป็นต้องใช้แบตฯ ออกมาแล้ว บอกไว้ก่อนเลยว่ามันคือโทรศัพท์มือถือ ไม่ใช่สมาร์ทโฟนแบบจัดเต็มฟังก์ชั่นเหมือนที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ โดยการทำงานของมันทำได้เพียงแค่การใช้รับโทรศัพท์และโทรออกอย่างง่าย ๆ เท่านั้น โดยหลักการทำงานของเจ้ามือถือเครื่องนี้เป็นการใช้กำลังไฟเพียง 3.5 วัตต์เท่านั้นในการทำงาน ซึ่งมือถือเครื่องนี้จะใช้พลังงานจากโซลาร์เซลขนาดเล็ก ๆ และแปลงคลื่นวิทยุโดยรอบตัวให้เป็นพลังงานไฟฟ้า Battery-free Cellphone ออกแบบขึ้นมาอย่างง่าย ๆ ตัวปุ่มกดเป็นคาปาซิทีฟเซ็นเซอร์เพียงไม่กี่ปุ่ม เช่น ปุ่มตัวเลข 0-9 รวมทั้งปุ่ม * และ # และปุ่มแอ็กชั่น 2 ปุ่มสำหรับวางสาย อยู่บนแผงวงจรและมัดรวมผสมกับชิ้นส่วนอื่น ๆ โดยในบอร์ดนั้นทางทีมผู้ผลิตได้กล่าวว่าเป็นชิ้นส่วนที่สามารถหาชื้อได้ทั่วไป
แม้สัญชาตญาณในตัวผู้ชายที่เดือดพล่านจะผลักดันให้เราใช้ชีวิตแบบบุกเดี่ยว WORK HARD PLAY HARD มาโดยตลอด แต่เมื่อเดินทางมาถึงจุดหนึ่งที่ชีวิตต้องการการเติมเต็ม เมื่อถึงจุดที่คำว่า “ครอบครัว” ค่อย ๆ ปรากฏตัวเข้ามาในห้วงความคิด ผู้ชายอย่างเราก็ย่อมรู้ดีว่าความต้องการของเราคนเดียวแบบตะลุยเดี่ยวอย่างที่เคยทำมาอาจไม่ใช่คำตอบ “เพราะครอบครัวคือความเข้าใจ” พื้นที่ของครอบครัวจึงไม่ได้สร้างขึ้นมาจากความต้องการของผู้ชายอย่างเราคนเดียวเท่านั้น แต่เป็นการเติมเต็มพื้นที่แห่งความรัก ความสุข และเสียงหัวเราะร่วมกันของคนสองคนให้สมบูรณ์แบบ ดังนั้นความต้องการของผู้หญิงข้างกายเราจึงเป็นสิ่งที่เราไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะผู้หญิงยุคใหม่ที่ทั้งฉลาด ทั้งเก่ง ทั้งเต็มไปด้วยความคล่องตัว ไม่ใช่ว่าใครหรืออะไรจะมาเติมเต็มเธอได้ง่าย ๆ ยิ่งทำความเข้าใจไลฟ์สไตล์เธอได้อย่างถึงแก่นมากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งเติมเต็มพื้นที่ชีวิตและความเป็นครอบครัวของเธอได้อย่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติมากเท่านั้น MODERN WOMAN IS SMART AND MULTITASKING ภาพผู้หญิงซักผ้า ทำกับข้าว ใช้ชีวิตอยู่กับบ้านในหัวผู้ชายอย่างเราอาจจะจางลงทุกที ๆ เพราะไลฟ์สไตล์ผู้หญิงยุคใหม่ไม่ได้ผูกติดอยู่กับความเป็นแม่บ้านอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ผู้หญิงยุคใหม่นั้นบางวันก็สะพายกระเป๋าออกไปผจญภัยในโลกกว้าง บางวันก็ลุกขึ้นมาทำอาหารให้เราได้ชิม เก่งกาจทั้งงานในบ้านและนอกบ้านจนผู้ชายอย่างเราอดอ้าปากค้างไม่ได้ เพราะไม่ใช่ผู้ชายเท่านั้นที่ WORK HARD PLAY HARD แต่ไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงยุคใหม่ก็เต็มที่กับทุกความหลากหลายในชีวิตไม่แพ้ผู้ชายอย่างเรา งานวิจัยจาก Grant Thornton เปิดเผยว่าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีอัตราเพิ่มของผู้หญิงที่ดำรงตำแหน่งผู้บริหารสูงขึ้นมากกว่าหลายภูมิภาค โดยจำนวนผู้หญิงในประเทศไทยที่รับตำแหน่งผู้บริหารมีมากถึง 31% ซึ่งสูงเป็นอันดับ 3
เชื่อว่ามนุษย์สายครีเอทีฟ หรือสายงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์หลาย ๆ คนคงเคยเจอกับปัญหา ‘สมองตื้อ คิดงานไม่ออก’ กันเป็นประจำ หลายครั้งที่เราต้องขยับตัวออกจากเก้าอี้เพื่อไปหาบรรยากาศใหม่ ๆ สร้าง Inspiration ให้กับตัวเองนอกโต๊ะทำงาน ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่ สวนสาธารณะ หรือ co-working space แต่บ่อยครั้ง ไอเดียที่ดีที่สุด กลับมาปรากฏตัวในขณะที่เรากำลัง ‘เข้าห้องน้ำ’ อยู่ที่บ้านซะงั้น เพราะงานวิจัยบอกว่า ในขณะที่เรากำลังทำพฤติกรรมซ้ำซากจำเจ ทำไปตามอัตโนมัติ โดยไม่ผ่านการคิดที่ซับซ้อน ในสถานที่ ๆ คุ้นเคย และบรรยากาศที่ปลอดโปร่ง เช่น ‘การอาบน้ำ’ จะทำให้สมองของเรารู้สึกผ่อนคลาย และไร้ความกดดัน โมเมนต์เหล่านี้จะช่วยให้สมองปล่อยคลื่นแห่งความสุข และเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดความคิดสร้างสรรค์นั่นเอง แล้วเราต้องจัดบรรยากาศห้องน้ำแบบไหนล่ะ ให้เวิร์คที่สุดสำหรับการปลดปล่อยไอเดียเจ๋ง ๆ IDEA 1 : STAY CLOSE TO NATURE เราจะรู้สึกผ่อนคลาย เมื่อได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ เพราะฉะนั้นหากตกแต่งห้องน้ำ ด้วยสีโทนธรรมชาติ จะทำให้ดูอบอุ่น สะอาดตา ไม่ว่าจะเป็นสีของผนังหรือเครื่องใช้ต่างๆ หากเป็นสีขาว สีครีม
ปฎิเสธไม่ได้ว่ากิจกรรมที่จะทำให้หนุ่ม ๆ อย่างเรารู้สึกใกล้ชิดกับหญิงสาวที่เราแอบชอบ และเพิ่งรู้จักกันคือการดื่มสังสรรค์เพื่อละลายพฤติกรรมให้กล้าพูดคุย แสดงตัวตนที่ซ่อนอยู่ภายในออกมา แต่ถ้าเกิดจะชวนดื่มเลยดื้อ ๆ พวกเธอคงจะไม่เห็นดีเห็นงามด้วยซักเท่าไหร่ ด้วยจริตขนบธรรมเนียมแบบไทย ๆ ถ้าอย่างนั้น UNLOCKMEN ขอเสนอเกมดื่มแอลกอฮอล์ที่คุณสามารถเล่นกันได้สองคนเพื่อช่วยกระชับความสัมพันธ์ให้ชิดใกล้แนบแน่นยิ่งขึ้น 1 ต่อ 1 Beer Pong เกมนี้ทำให้ใครหลายคนได้แฟนมานักต่อนัก ด้วยกติกาสากลง่าย ๆ หาโต๊ะในลักษณะแนวยาวคล้ายกับโต๊ะปิงปอง จากนั้นตีเส้นตรงกลางแบ่งเขต หาแก้วมาเติมเครื่องดื่มให้เต็ม (โดยส่วนใหญ่แล้วจะนิยมเป็นเบียร์) เรียงกันตามความเหมาะสมของโต๊ะ แล้วต่างฝ่ายต่างแข่งกันโยนให้ลงแก้วของอีกฝ่ายใครแพ้ก็ต้องดื่ม หากคุณมั่นใจในความแม่นของตัวเอง นอกจากจะได้ความบันเทิงอาจได้พบกับตัวตนของอีกฝ่ายหลังเล่นจบก็เป็นได้ Crocodile Roulette เดี๋ยวนี้ไม่ต้องพกอุปกรณ์ให้มันมากมาย แค่มีโทรศัพท์สมาร์ทโฟนก็สามารถใช้สำหรับการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นเกม Crocodile Roulette ได้แล้ว ซึ่งจำลองมาจาก ของเล่นจระเข้งับมือ ซึ่งเป็นชิ้นโปรดในวงเหล้า วิธีเล่นก็ง่าย ๆ แค่คุณ และเธอผลัดกันกดฟันเจ้าจระเข้ ถ้าโดนจระเข้งับมือที่ใคร คนนั้นก็ดื่มแค่นั้นเอง Link iOS King Cup หรือเกมไพ่พระราชาตามภาษาบ้าน ซึ่งจะใช้ความซับซ้อนในการเล่น และเล่นสองคนอาจไม่สนุกเท่า แต่เป็นเกมที่ยื้อเวลาได้นานพอสมควร เพราะไพ่แต่ละใบจะมีกฎของมัน Ace ต้องดื่มไปจนกว่าจะมีคนได้
ด้วยนิสัยแบบ Work hard Play hard จึงไม่น่าแปลกใจที่ประเทศเกาหลีใต้จะขึ้นชื่อว่าเป็นนักดื่มตัวยงอันดับต้น ๆ ของโลก ด้วยเหตุนี้จึงมีหนุ่มหัวใสนามว่า Sisun Lee จะใช้ตรงจุดนี้เพื่อสร้างธุรกิจให้กับตัวเอง ด้วยวัฒนธรรมการดื่มอย่างหนักหน่วงทำให้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่นักดื่มจะตื่นมาพร้อมกับอาการแฮงค์โอเว่อร์ ซึ่งเป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก ๆ ในเช้าวันถัดไป Sisun Lee จึงได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากธรรมชาติ และวัตถุดิบในประเทศเพื่อจะสลายอาการเมาค้างให้หมดไปในเช้าวันรุ่งขึ้น สำหรับผลิตภัณฑ์นี้มีชื่อว่า Morining Recovery ที่มีส่วนผสมสารสกัด Dihydromyricetin ซึ่งได้จาก Heot Gae Na Mu (ฮอท เก นา มู) พืชท้องถิ่นของเกาหลี กับวิตามินบีรวม และอีกมากมาย ซึ่ง Sisun Lee และทีมงานได้ทดลองส่วนผสมมากมาย จนกระทั่งมาเป็นบรรจุภัณฑ์ที่เสร็จสมบูรณ์ แต่ปัญหาอยู่ที่นาย Sisun Lee ไม่ได้มีเงินทุนมากพอที่จะสามารถผลิตสินค้านี้วางขายในตลาดได้ ทำให้ก่อนหน้านี้ Morning Recovery อยู่ในระหว่างระดุมทาง Indiegogo ซึ่งตอนนี้ก็ทะลุเป้า $25,000 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่า Morning