สำหรับบริษัทสุดเพี้ยนอย่าง Vollebak ที่ในคราวก่อนเราได้นำเสนอผลงานสุดแหวกแนวอย่าง Relax Hoodie มาให้ได้ดูกันไปแล้ว สำหรับ Relax Hoodie บางคนอาจจะมองว่า มันดูปัญญาอ่อนมากกว่าเจ๋ง แต่บางคนอาจจะมองว่าสุดยอดไปเลย แต่เชื่อเถอะว่า ถ้าหากคุณได้เห็นผลงานใหม่ล่าสุดของ Vollebak ที่มีชื่อว่า “The Blood Salt & Dirt Camo” เข้าล่ะก็ ทุกคนจะต้องคิดเหมือนกันว่า มันเจ๋งสุดไปเลย อย่างแน่นอน การเล่นกีฬาและออกกำลังกาย นอกจากจะทำให้เหงื่อของเราเปียกชุ่มเสื้อผ้าแล้ว บางครั้งมันยังทำให้เสื้อเราดูเก่าไปอย่างผิดหูผิดตา เนื่องจากมีอะไรก็ไม่รู้เลอะเทอะเปรอะเปื้อนบนเสื้อจากการออกกำลังกายเต็มไปหมด ส่วนใหญ่แล้วคราบที่พบได้บ่อยจะมีอยู่เพียงไม่กี่อย่าง เช่น คราบดิน หรือ คราบโคลน, คราบเหงื่อ และ คราบขี้เกลือ รวมไปถึงคราบเลือด ที่อาจจะเกิดได้ ถ้าหากเกิดประสบอุบัติเหตุระหว่างการเล่นกีฬา คนส่วนใหญ่จึงรู้สึกกังวัลในเรื่องของเสื้อผ้าที่สกปรก จนรู้สึกไม่มั่นใจ ถ้าหากจะต้องใส่เสื้อผ้าเหล่านั้นไปไหนมาไหน แต่ล่าสุด บริษัท Vollebak ได้เปิดตัวเสื้อออกกำลังที่ใช้นวัตกรรมและหลักการเดียวกับการพรางตัวใน CAMO หรือ ลายพรางมาใช้ในเสื้อผ้าที่ใช้ใส่เล่นกีฬา เพื่อลดปัญหาคราบเลอะที่ไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น คราบดิน,
เด็กสมัยนี้คงไม่รู้จักความคลาสสิคของเกมสไตล์ 8bit โพลีก้อนอีกต่อไป เพราะพวกเขาล้วนเติบโตมากับเทคโนโลยีล้ำสมัยไม่ว่าจะเป็น Xbox หรือ Play Station 4 แต่พวกเราที่เป็นผลผลิตจากยุค 90s กลับโหยหาความเป็นอดีตไม่ว่าจะเป็น Ninetendo , SEGA หรือแม้กระทั่ง Play Station ยุคแรก ๆ ที่ไม่สามารถหาเล่นไม่ได้แล้วในสมัยนี้ แต่ข่าวที่ UNLOCKMEN นำมาฝากถือเป็นข่าวดีสำหรับทุกคน เพราะบริษัท SEGA ผู้ผลิตวิดีโอเกม และซอฟต์แวร์สัญชาติญี่ปุ่น จะพาเราหวนความทรงจำด้วยการนำเอาวิดีโอเกมคลาสสิคในอดีตจากเครื่องเกมของ SEGA อาทิ Megadrive , Dreamcast , Saturn กลับมาให้พวกเราได้เล่นอีกครั้ง SEGA ได้ตั้งโปรเจคที่ชื่อว่า SEGA Forever เพื่อที่จะนำเอาเกมต่าง ๆ มายัดลงไว้ในสมาร์ทโฟนที่รองรับได้ทั้ง iOS และ Android จากข่าวลือเกมที่น่ามาชัวร์สำหรับโปรเจค SEGA Forever ประกอบไปด้วย Soinc the Hedgehog ,
ถ้าใครเคยดูหนังเรื่อง Passengers อาจเคยเห็นจังหวะที่นางเอกแค่เพียงเอ่ยปากพูด ตัวหนังสือก็ถูกพิมพ์ใส่บนหน้าจอดิจิตอลอย่างรวดเร็วง่ายดาย ไม่ต้องลงมือพิมพ์ให้เปลืองเวลา เราเชื่อว่าใครที่ต้องเจอกับการพิมพ์ข้อความเยอะ ๆ ในทุกวัน ล้วนแต่ฝันว่าอยากได้แบบนี้บ้าง แม้จะมีหลากหลาย plug-in หลายแอพฯ ออกมารองรับฟังก์ชั่นการใช้งานนี้บ้างแล้ว แต่มันก็ยังดูไม่สามารถทำงานได้เต็มที่สักเท่าไหร่สำหรับการพิมพ์เอกสาร เพราะว่าอาจต้องพูดผ่านแอปฯ บนสมาร์ทโฟน จากนั้นถึง Copy Text มาใส่ในหน้าเอกสารอย่าง Word เพื่อใช้งานต่ออีกที แค่นี้ก็ดูวุ่นวายแล้วใช่ไหมครับ ดังนั้นบริษัทยักษ์ใหญ่ อย่าง Microsoft เจ้าของโปรแกรมจัดการเอกสาร ชุด Office อย่าง Microsoft word, Excel, Powerpoint ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุดของโลก ได้ออกปลั๊กอินตอบสนองความฝันของเหล่าคนขี้เกียจพิมพ์กันแล้ว Microsoft ออกมาเป็นปลั๊กอินในชื่อว่า “Dicatate” ที่สามารถช่วยเปลี่ยนเสียงพูดเป็นการพิมพ์ ให้ใช้งานได้เลยกับโปรแกรมชุด Office แบบชนิดที่เรียกว่าเราไม่ต้องแตะ Keyboard ในการพิมพ์อีกต่อไปเลยก็ได้ หลักการทำงานก็แค่เพียงเอ่ยปากพูดประโยคที่ต้องการพิมพ์ลงไป ระบบก็จะทำการพิมพ์ข้อความนั้นให้อัตโนมัติเสร็จเรียบในหน้าเอกสารนั้น ๆ ตัวฟีเจอร์ตัวนี้จะเป็นการรวมตัวระหว่าง 2 API อย่าง Bing Speech API
ถึงเราจะรู้ว่าหนึ่งวันมี 24 ชั่วโมงเท่ากันแค่ไหน แต่ยังไง้ ยังไง ช่วงเวลาของวันหยุดก็ดูเหมือนว่าจะผ่านไปเร็วไวกว่าวันธรรมดาไปเสียทุกที ไม่ว่าเราจะพยายามแพลนวันหยุดให้มีประสิทธิภาพมากแค่ไหน แต่พอเย็นวันสุดท้ายก่อนที่จะถึงวันทำงาน เรากลับต้องรู้สึกหดหู่ทดท้อว่าเวลาแห่งการพักผ่านไปไวจนรู้สึกเหมือนไม่ได้หยุดพักเลย! ปัญหาจึงไม่ได้อยู่แค่การจัดการเวลาของเราในช่วงวันหยุด แต่อยู่ที่เซนส์การรับรู้เรื่องเวลาของสมองเราด้วย จะดีสำหรับผู้ชายอย่างเราแค่ไหน ถ้าสามารถปรับการรับรู้เรื่องเวลาของตัวเองให้รู้สึกเหมือนว่ามีเวลาช่วงวันหยุดยาวนานกว่าที่เคย ศาสตราจารย์ David Eagleman นักประสาทวิทยาจาก Stanford University ผู้เขียนหนังสือ The Brain: The Story of You อธิบายเรื่องวิธีการรับรู้เรื่องเวลาของคนเราไว้ง่าย ๆ ว่าเรามักจะรู้สึกว่าเวลาผ่านไปอย่างช้า ๆ เมื่อเราสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ สิ่งใหม่ เนื่องจากสมองเราจะจดจำรายละเอียด จัดระบบ เรียนรู้ประมวลผลกับประสบการณ์ใหม่ทั้งหมด ถ้านึกไม่ออกให้ลองนึกถึงปิดเทอมฤดูร้อนของช่วงวัยเด็กดู แม้จะปิดเทอมแค่สามเดือน แต่ดูเหมือนยาวนานไม่จบสิ้น เริ่มตั้งแต่ฟังผลสอบ เล่นว่าวตอนหน้าร้อน รอคอยการมาถึงของเทศกาลสงกรานต์ ไปจนถึงเริ่มซื้อชุดนักเรียนสำหรับเทอมใหม่ จนกระทั่งเริ่มเปิดเรียน หรือถ้าให้สั้นไปกว่านั้น การเดินทางขาไปมักสร้างความรู้สึกยาวนานกว่าการเดินทางขากลับ (โดยเฉพาะการเดินทางด้วยรถยนต์ รถไฟที่จะได้สัมผัสบรรยากาศใหม่ ๆ สองข้างทาง) เนื่องจากการเห็นสิ่งใหม่ส่งผลให้สมองประมวลผลให้เรารับรู้อะไรที่เราไม่เคยสัมผัสมาก่อน ไม่แปลกอะไรถ้าช่วงวันหยุดที่เราไปเที่ยวในที่ใหม่ ๆ หรือเจอคนที่ไม่ค่อยได้เจอกัน เมื่อเราจะมองย้อนกลับไปแล้วรู้สึกว่าเวลายาวนานคุ้มค่ากว่าที่เคย หรือถ้าไม่ได้ไปที่ใหม่
การที่เราสามารถคาดเดาทิศทางของเทคโนโลยีหรือพฤติกรรมการเปลี่ยนแปลงของมนุษย์ได้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ได้เปรียบในเชิงธุรกิจที่เราจะสามารถคิดค้นนวัตกรรมเจ๋ง ๆ ออกมาเพื่อรองรับความต้องการเหล่านั้น คล้ายกับกรณี Boiler Room ช่องดนตรีออนไลน์ที่กำลังโด่งดังอย่างมากในขณะนี้ ก่อนอื่นเลย เราเชื่อว่าหากคุณไม่ได้สนใจกับเรื่องของดนตรีมากนัก ไม่มีทางที่จะเคยได้ยินชื่อของ Boiler Room อย่างแน่นอน แต่ปัจจุบัน Boiler Room ถือเป็นช่องออนไลน์ที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับดนตรีที่แข็งแกร่งที่สุดช่องหนึ่งทางแพลตฟอร์มออนไลน์ในต่างประเทศ ถ้าจะให้เทียบก็คงเหมือนกับยุคหนึ่งที่เรามี MTV เป็นช่องทางที่ขับเคลื่อนวงการดนตรี Boiler Room เกิดจากความตั้งใจของ Blasie Bellvise ชาวอังกฤษ ที่ไปชักชวนให้ Thristian Richards และ Femi Adeyemi มาลองอัดมิกซ์เทปเพื่อจะลองอัพโหลดบนออนไลน์แม็กกาซีนของตัวเขาเอง ซึ่งนับว่ามันเป็น EP แรกของ Boiler Room ที่ใช้การถ่ายทำอย่างง่าย ๆ ด้วยกล้อง Webcam และอัพโหลดขึ้นทาง Ustrem ทุกอย่างทำขึ้นมาอย่างเรียบง่าย และบ้าน ๆ แต่หลังจากเปิดตัว Boiler Room’s First session ในเดือน มีนาคม
เคยรู้สึกกันบ้างไหมว่าทำไมเมื่อเราเติบโตขึ้นมา โลกดูกว้างขว้างขึ้นก็จริง แต่ความสุขมันกลับไม่ได้มีเพิ่มมากขึ้นเหมือนเมื่อตอนครั้งที่เรายังเด็ก ๆ อาจเป็นเพราะว่าชีวิตวัยเด็กมันเมื่อเป็นเรื่องง่าย ๆ มีเรื่องกังวลใจน้อยและสิ่งเล็ก ๆ ทั่วไปก็ทำให้เรามีความสุขได้อย่างแท้จริง อย่างเช่นเล่นซ่อนหากันกับเพื่อนก็สนุกแล้ว แต่ในทางกลับกันยิ่งเราเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นเท่าไหร่ กลายเป็นสังคมและเรื่องกังวลใจต่าง ๆ เป็นตัวกำหนดนิยามความสุขของเราไปโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นเราควรเริ่มสำรวจตัวเองกันได้แล้วตอนนี้ ว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่ตอนนี้ มันพาชีวิตดิ่งให้แย่ลงหรือเปล่า ถ้าใช่จงหยุดมันซะ ก่อนที่จะสายเกินแก้ และเริ่มปรับบางสิ่งแทนดีกว่า เพื่อเป็นแนวทางการเพิ่มความสุขให้กับชีวิตได้มากกว่าเดิม หยุดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ทำไมคนสองคนถึงไม่เหมือนกัน ทำไมเราไม่เก่งแบบคนนั้นหรือไม่รวยแบบคนนี้ อย่างแรกไม่ควรทำเลย คือหยุดความคิดแย่ ๆ แบบนี้ซะ เพราะว่าการที่คนสองคนไม่เหมือนกัน มันอาจเป็นเรื่องที่ดีก็ได้ที่เราสามารถสร้างเอกลักษณ์ความเป็นตัวเราได้ไม่เหมือนใคร คิดสภาพว่าสังคมถ้ามี 1,1,1,1,1 ไปซะหมด มันก็คงไม่ต่างจากหุ่นยนต์โรงงานเดียวกัน สิ่งที่ควรทำแทน หยุดที่จะเปรียบเทียบเรากับคนอื่น อย่าอิจฉาในสิ่งที่เราไม่มี และเชื่อมั่นในแนวทาง ที่จะสู่จุดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเราจะดีกว่า และเราขอแนะนำว่าลดการเล่น Social Media ลงเป็นอย่างแรก เพื่อให้เราไม่ต้องติดตามความสมบูรณ์ การโอ้อวดของชีวิตคนอื่นให้มากเกินไป และใช้เวลาที่เหลือมุ่งเน้นไปที่การทำให้ชีวิตของคุณดีขึ้นแทน อย่ากลัว คงจะเคยได้ยินคำว่า “ความกลัวเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้น” กันมาบ้างแล้ว ความกลัวเป็นตัวขัดขาความเจริญมากที่สุด เพราะเราจะกลัวไปแทบจะทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เป็นอันทำอะไรกันพอดี เพราะฉะนั้นเราต้องกล้าที่จะผลักดันตัวเองในการเอาชนะความกลัวของตัวเราซะ เพื่อให้รู้ว่าอะไรทำได้บ้างและอะไรทำไม่ได้บ้าง
เป็นข่าวน่าเศร้าสำหรับวงการมายาต่างประเทศ รวมถึงทั่วโลก เนื่องจากนักแสดงมากความสามารถที่สุดคนหนึ่งแห่งยุคอย่าง Daniel Day Lewis เจ้าของรางวัลออสการ์สาขาดารานำชายถึง 3 ครั้ง ซึ่งนับว่าเป็นเพียงคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่สามารถทำได้ ออกมาประกาศลาขาด เตรียมหันหลังให้กับวงการจอเงินเป็นที่เรียบร้อย ข่าวนี้สร้างความช็อคให้กับวงการฮอลลีวู้ดพอสมควรเนื่องจากอายุอานามของเขาก็ยังไม่ได้มากถึงขนาดต้องออกจากวงการ เพราะ Daniel Day Lewis เพิ่งจะอายุได้เพียง 60 ปีเท่านั้น ยังสามารถเลือกบทนำดี ๆ เพื่อสานต่อความสำเร็จต่อไปได้ไม่ยาก นับว่าเป็นการสูญเสียอย่างใหญ่หลวงสำหรับคอหนังที่หลังจากนี้คงไม่มีโอกาสรับชมผลงานใหม่ ๆ จากฝีมือขั้นเทพของเขาอีกแล้ว ดังนั้นเพื่อเป็นการสรรเสริญเชิดชูผลงานของ Daniel Day Lewis ที่ผ่านมา วันนี้ทีมงาน UNLOCKMEN ได้นำเรื่องราวของเขามาฝากกัน หากเราพูดถึง Daniel Day Lewis สำหรับคอหนังที่ไม่ใช่สายดูหนังรางวัลอาจจะไม่ค่อยคุ้นชื่อสักเท่าไหร่ เนื่องจากเขาเป็นนักแสดงคนหนึ่งที่ขึ้นชื่อในเรื่องความติสท์แตก โดยเขาจะใช้ความพิถีพิถันในการเลือกบทบาทสักเรื่องเพื่อมาทำการแสดง ทำให้เราจะไม่ค่อยเห็นหน้าตาของเขาสักเท่าไหร่เมื่อเทียบกับดาราคนอื่น ๆ ที่รุ่นราวคราวเดียวกัน ก่อนอื่นเลย เราอยากจะย้อนเรื่องราวความเป็นมาของเขาเสียก่อน ตัวของ Daniel เริ่มต้นในแวดวงการแสดงด้วยการรับบทเล็ก ๆ ทางโทรทัศน์ และละครเวที ก่อนที่จะขยับขยายขึ้นสู่จอเงินเป็นครั้งแรกในปี 1985 กับบทบาทชายรักร่วมเพศในเรื่อง
Sneakers of the week สัปดาห์นี้ UNLOCKMEN ขอเอาใจสายสเก็ตบอร์ดเสียหน่อย เนื่องจากจริง ๆ แล้ววัฒนธรรมสเก็ตบอร์ดในไทยถือเป็นกลุ่ม sub culture แรก ๆ ที่ขับเคลื่อนวงการสตรีทแฟชั่นในบ้านเรา บวกกับในปัจจุบันหากลองสังเกตดี ๆ ไอเท็มสเก็ตบอร์ดอย่าง Supreme , Palace ต่างได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ดังนั้นเราจึงได้นำรองเท้าสไตล์สเก็ตบอร์ดที่น่าจับตามองมาฝากกัน Nike SB Paul Rodriguez 10th คู่แรกเป็นรองเท้าที่ทาง Nike ได้ทำออกมาเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีที่โปรสเก็ตบอร์ดชื่อดังอย่าง Paul Rodriguez ได้มาร่วมงานกับพวกเขา ซึ่งรองเท้าคู่นี้ถูกออกแบบมาอย่างเรียบง่ายมินิมอลที่สุด ไม่ว่าจะเป็นส่วนหน้าเท้าที่ผลิตจากหนังกลับสีครีม / พื้นขาว และสีน้ำตาลไหม้ / พื้นน้ำตาลอ่อน ที่จะวางขายในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ตามช้อปทั่วโลก รวมถึงอีกหนึ่งสีที่ทำออกมาได้พิเศษสุด ๆ ด้วยดีไซน์สวยสดงดงามคือการนำมาทำในสไตล์รองเท้า Dress Shoes สีน้ำตาลไหม้กับพื้นสีดำ มีจำนวนจำกัดเพียง 10
ถ้าหากใครเคยอ่านบทความของเราก่อนหน้านี้ ที่พูดถึงประวัติ วัฒนธรรม และความเป็นมาของกลุ่ม 1% Motorcycle Club กันมาแล้ว ก็คงจะเข้าใจเรื่องที่เรากำลังนำมาให้ได้ดูกันไม่ยาก แต่สำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร วันนี้เราจะนำทุกคนเข้าไปสู่โลกอีกใบที่มีความเร้าใจ และตื่นเต้นกว่าคนปกติ จากประสบการณ์จริงที่ทีมงาน UNLOCKMEN ของเรา มีโอกาสได้เข้าไปสัมผัสกันมาด้วยตัวเองอย่างใกล้ชิด หากพูดถึง 1% Motorcycle Club เราก็คงจะนึกถึงภาพของแก๊งฝรั่งโหด ๆ และการขี่มอเตอร์ไซค์ Harley-Davidsons ใส่เสื้อ Vest หนัง เหมือนในซีรี่ย์สุดมันส์อย่าง Sons of Anarchy ซึ่งเป็นการถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของ 1% Biker หรือ “One-Percenters” ที่ใช้ชีวิตอยู่กับความรุนแรง ต้องเสี่ยงอันตรายรอบด้าน และยอมแลกทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตเพื่อ Club ของพวกเค้า บางคนอาจจะฟันธงว่าเรื่องราวของ “One-Percenters” และ “Motorcycle Club” เป็นเพียงแค่เรื่องเล่า หรือเป็นบทภาพยนต์ที่ถูกสร้างขึ้นเท่านั้น มันคงไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นบนโลกแห่งความจริงได้หรอก! ทุกข้อสงสัยที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ เราได้ไปหาคำตอบมาให้กับคุณเป็นที่เรียบร้อย แถมยังเป็นในแบบที่ไม่เคยมีใครเคยทำมาก่อนอีกด้วยกับกลุ่ม 1% Motorcycle Club
ช่วงนี้น้ำหนักขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ยังอยากดูเท่ ดังนั้นอาจต้องมีการปรับเปลี่ยนสไตล์แต่งตัวสักเล็กน้อยเพื่อให้กับหุ่นของเรา