Entertainment

แบบนี้ก็มีด้วย! เมื่อเพลง BABY SHARK ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการขับไล่คนไร้บ้าน

By: Synthkid July 22, 2019

บทเพลงและเสียงดนตรีเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในความสุขของมนุษยชาติที่ขาดไปไม่ได้ คนเราฟังเพลงเพื่อหาความรื่นรมย์ในหัวใจ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่พวกเรายึดปฏิบัติมาช้านาน แต่ใครจะเชื่อว่าวันหนึ่ง ‘เพลง’ ที่จรรโลงใจจะกลายเป็นอาวุธในการขับไล่หรือทรมานคนได้ แล้วยิ่งถ้าบอกว่าเพลงนั้นคือเพลงสำหรับเด็กอย่าง ‘Baby Shark’ ฟังดูก็ยิ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่เชื่อเถอะว่าเจ้าเพลงพ่อแม่ลูกฉลามนี้ถูกนำมาเปิดเพื่อขับไล่คนแล้วจริง ๆ !

เพลง Baby Shark

เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ย่าน West Palm Beach ในรัฐ Florida เมื่อมีกลุ่มคนไร้บ้านจำนวนมากถูกทางการขับไล่ไม่ให้นอนบริเวณอาคาร Lake Pavillion ซึ่งเป็นอาคารกระจกใสริมน้ำที่เปรียบดั่งทำเลทองของเมือง แถมยังถูกใช้เป็นสถานที่จัด Event ต่าง ๆ มากกว่า 160 งานในปีที่ผ่านมา

โดยวิธีขับไล่ที่ว่าก็สุดแสนจะอหิงสา ไม่ได้ใช้กำลังบังคับขู่เข็ญแต่อย่างใดทว่าเป็นการเปิดเพลง Baby Shark และ Raining Tacos เพลงฝึกร้องสำหรับเด็กเล็กที่แสนติดหู วนลูปซ้ำ ๆ ไปเรื่อย ๆ จนกว่าพวกเขาจะนอนไม่ได้แล้วลุกหนีไป ซึ่งแน่นอนว่าวิธีนี้แม้มันจะดูไม่ได้รุนแรงยังไง แต่ในสายตาของนักรณรงค์ หรือคอเพลงที่ก็อดรู้สึกเฟลเพราะความไร้มนุษยธรรมแถมยังนำเพลงยอดฮิตในหมู่เด็กไร้เดียงสามาใช้กับจุดประสงค์ที่โหดร้ายไม่ได้


เพลง It’s Raining Tacos

ทำไมถึงต้องลุกมาทำแบบนี้ คนพวกนี้ผิดอะไร? เรื่องนี้มีคำตอบจาก Keith James ผู้จัดการด้านสันทนาการที่ออกมาให้เหตุผลในอีกแง่มุมว่า ผู้คนจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อใช้พื้นที่ตรงนี้ ตัวเขาเองก็ต้องทำหน้าที่ใช้เม็ดเงินที่เสียไปนั้นอย่างคุ้มค่าด้วยการเคลียร์พื้นที่ส่วนนี้ให้สะอาดและพร้อมใช้งาน แต่นี่เป็นแค่มาตรการชั่วคราวเท่านั้น เขาเพียงต้องการให้กลุ่มคนไร้บ้านไปนอนในพื้นที่ที่ทางการจัดไว้ให้ด้วยความเหมาะสมต่างหาก

สิ่งที่น่าสนใจคือการเปิดสองเพลงนี้ดันได้ผลเพราะไม่มีคนไร้บ้านคนไหนมานอนบริเวณนี้อีกเลย (คงจะรำคาญจริง ๆ) สำหรับความเหมาะสมของวิธีการ ก็คงต้องให้วิจารณญาณของท่านเป็นผู้ตัดสิน แต่นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ดนตรีถูกนำไปใช้ในเชิงลบ เพราะการเปิดเพลงวนลูปซ้ำ ๆ ยังเป็นอีกวิธีที่ CIA และคุกบางแห่งในโลกใช้ทรมานนักโทษอีกด้วย


The Real Slim Shady – Eminem 

เพลงฮิตที่พวกเราชื่นชอบอย่าง The Real Slim Shady ของ Eminem, Saturday Night Fever ของ Bee Gees, เพลงเมทัลสนุก ๆ ของ Metallica หรือแม้กระทั้งเพลง I Love You ที่เป็น Theme Song ของเจ้าไดโนเสาร์ Barney ถูกเผยว่าเป็นหนึ่งในลิสต์เพลงที่ CIA ชอบนำไปใช้ทรมานนักโทษเช่นกัน

กระบวนการลงโทษด้วยเสียงดนตรีนี้คือการบังคับให้นักโทษนั่งอยู่ในห้องแคบ ๆ แล้วเปิดเพลงด้วยเสียงที่ดังกว่ามาตรฐานซ้ำ ๆ วนไปวนมา ติดต่อกันยาวนานถึง 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลาร่วมเดือน ซึ่งการกระทำนี้จะส่งผลให้สมองของมนุษย์ทำงานช้าลง ร่างกายอ่อนล้า และความสามารถในการตัดสินใจลดลง ทำให้การสอบปากคำนักโทษง่ายขึ้นนั่นเอง

นอกจากนั้นยังมีงานวิจัยเรื่องเสียงดนตรีเกี่ยวกับพนักงานร้านค้าที่ต้องทำงานช่วงเทศกาลที่แลกโอทีกับมลพิษทางเสียงด้วย ความจำเป็นที่ต้องทนฟังเพลงคริสต์มาสหรือเพลงปีใหม่ซ้ำไปมาตลอดวันแม้ว่าจะเป็นเพลงที่ร่าเริงเชิงบวกแค่ไหนก็ตาม มันส่งผลให้พวกเขารู้สึกรำคาญใจ ขาดสมาธิในการทำงาน ทำให้พวกเขาต้อง ‘แกล้ง’ ทำเป็นไม่ได้ยินเพลงเหล่านั้นจนร่างกายรู้สึกอ่อนเพลียเลยทีเดียว

นอกจากนั้นแล้วการฟังเพลงซ้ำ ๆ ในระดับความดังที่เกินพอ อาจนำไปสู่โรคที่เรียกว่า Musical Ear Syndrome (MES) หรือโรคได้ยินเสียงในหูแบบไม่มีที่มา ซึ่งคนเป็นโรคนี้จะได้ยินเสียงเพลงดังอยู่ในหูตลอดเวลา! โดยเพลงที่วนในหูอาจเป็นเพลงที่เคยได้ยินวัยเด็ก หรือเพลงที่เคยฟังซ้ำ ๆ ไปจนถึงเพลงยอดฮิตแบบ Happy Birthday ก็เป็นได้ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญอธิบายอาการความทุกข์นี้ว่าคนไข้จะได้ยินชัดประหนึ่งมีวงดนตรีมาเล่นข้าง ๆ เลยทีเดียว


เพลง Nyan Cat ติดหูที่เคยเป็นไวรัลทางอินเทอร์เน็ตอยู่ช่วงหนึ่ง

ถึงจะไม่มีใครรู้สาเหตุที่แท้จริงว่าทำไมคนไร้บ้านเหล่านั้นถึงยอมออกจากอาคาร Lake Pavillion ไป เป็นเพราะเขาไม่ชอบเพลง Baby Shark? เป็นเพราะเขาไม่อยากฟังเพลงเดิมซ้ำ ๆ หรือเป็นเพราะแค่เสียงดังเกินไปกันแน่ แต่เชื่อเถอะว่า ‘เสียงเพลง’ ส่งผลต่อร่างกายและจิตใจคุณได้มากกว่าที่คิด แล้วคุณล่ะสามารถฟังเพลงที่ชอบติดกันซ้ำ ๆ ได้มากสุดกี่ครั้ง?

 


Source: 1 / 2 / 3 / 4

Synthkid
WRITER: Synthkid
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line