Films
หล่อ รวย โกง! BILLIONAIRE BOYS CLUB เรื่องจริงสุดฉาวของแชร์ลูกโซ่ครั้งใหญ่ที่ถูกตีแผ่บนแผ่นฟิล์ม
By: PERLE July 23, 2018 114088
‘แชร์ลูกโซ่’ คำ ๆ นี้อยู่คู่กับประเทศไทยมาเป็นเวลานาน ถ้าพูดถึงจุดกำเนิดคงต้องย้อนไปเมื่อพ.ศ.2520 กับคดี ‘แชร์แม่ชม้อย’ ซึ่งกวาดเงินไปมากกว่า 4 พันล้านบาท ด้วยจำนวนเงินมหาศาลนี้เองทำให้แชร์ลูกโซ่ไม่เคยหายไปไหน อาจจะเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนรูปแบบ เปลี่ยนวิธีการ แต่ปลายทางสุดท้ายก็ไม่ต่างกัน และปัจจัยสำคัญที่จะขาดไม่ได้เลยในแชร์ลูกโซ่นั่นคือ ‘ความโลภ’
แน่นอนว่าความโลภเป็นสิ่งสากล ดังนั้นขบวนการแชร์ลูกโซ่จึงไม่ได้มีแค่ในประเทศไทยเท่านั้น และไม่ได้เกิดจากการหลอกคนจนเท่านั้น คนรวยเองก็ตกเป็นเหยื่อของความโลภไม่ต่างกัน
วันนี้ UNLOCKMEN จะพาไปทำความรู้จักกับ Billionaire Boys Club บริษัทแชร์ลูกโซ่ที่สามารถเสกเงินพันล้านขึ้นมาได้ในพริบตา อื้อฉาวจนถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ในชื่อเดียวกันซึ่งกำลังเข้าโรงฉายอยู่ในตอนนี้
เรื่องราวการฉ้อฉลบันลือโลกนี้เริ่มต้นจากชายชื่อ Joseph Henry Gamsky หรือ Joe Hunt นักลงทุนชาวอเมริกันในยุค 80 เขาฉลาดเป็นกรด ทะเยอทะยาน และเชื่อมั่นในตัวเองอย่างสูง เรียกว่าเขามีคุณสมบัติและลักษณะนิสัยที่คนจะประสบความสำเร็จควรมี (ผู้เขียนคิดว่า Joe Hunt และ Jordan Belfort หมาป่าแห่ง Wall Street ที่เรื่องราวของเขาเคยถูกนำมาทำหนังเป็นภาพยนตร์เช่นกันในชื่อ The Wolf of Wall Street รับบทโดย Leonardo DiCaprio มีความคล้ายคลึงกันมากทีเดียว) Joe Hunt ออกจากระบบการศึกษาตั้งแต่อายุ 19 และเริ่มต้นเข้าสู่เส้นทางนักลงทุนทันที
ที่ Chicago ซึ่งเป็นที่ ๆ Joe Hunt เริ่มลงทุน เขาล้มเหลวไม่เป็นท่าเนื่องจากขาดประสบการณ์ แต่เขาก็ได้เรียนรู้อะไรมามากมาย เขารู้แล้วว่าต้องทำยังไงถึงจะประสบความสำเร็จ Joe Hunt จึงตีตั๋วกลับบ้านเกิดที่ Beverly Hills
Beverly Hills ย่านที่อยู่ของเหล่าผู้มีฐานะในรัฐ California และเป็นบ้านเกิดของ Joe Hunt แน่นอนว่าเขาก็เติบโตมาจากครอบครัวคนรวย เรียนในโรงเรียนคนรวย รายล้อมด้วยเพื่อนรวย และนี่แหละคือแหล่งขุมทรัพย์ของเขา Joe Hunt ได้ก่อตั้งบริษัทเพื่อการลงทุนชื่อ BBC ขึ้นมา (ต่อมาเกิดเป็นคำล้อว่า Billionaire Boys Club เนื่องจากภาพลักษณ์ความร่ำรวยของพวกเขา) โดยเริ่มระดมทุนจากกลุ่มเพื่อนและค่อย ๆ ขยายขอบเขตไปเรื่อย ๆ ด้วยคอนเซ็ปต์ที่ว่า
“ถ้าคุณอยากรวยมาลงทุนกับพวกเราสิ ลงทุนน้อยผลตอบแทนมาก”
“คุณเห็นรถที่พวกเราขับมั้ย ถ้าอยากมีรถแบบนี้ขับก็มาลงทุนกับพวกเรา”
“คฤหาสน์หรูหรา ปาร์ตี้บ้าระห่ำ ไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อม”
วิธีการคุ้น ๆ มั้ย เหมือนที่เราเห็นบ่อย ๆ ในบ้านเราตอนนี้ จุดเริ่มต้นมาจากผู้ชายที่ชื่อว่า Joe Hunt นี่แหละ
‘ข้างนอกสุกใส ข้างในเป็นโพรง’ คือคำนิยามระบบการทำงานของแชร์ลูกโซ่ได้เป็นอย่างดี เพราะแชร์ลูกโซ่คือการนำเงินของคนลงทุนใหม่มาจ่ายผลตอบแทนคนลงทุนก่อนหน้าและสร้างภาพให้บริษัทดูร่ำรวย มีเงินส่วนน้อยเท่านั้นที่จะถูกใช้ไปกับการลงทุนจริง ๆ
เช่นเดียวกับบริษัท BBC ของ Joe Hunt โดยเมื่อกลไกการทำงานของมันเป็นแบบนี้ แน่นอนว่าวันหนึ่งที่ไม่สามารถหาผู้ร่วมทุนรายใหม่ได้อีกต่อไปบริษัทก็จะถึงจุดจบ ความก็จะแตกว่าข้างในกลวงโบ๋
แต่ก่อนที่ BBC จะถึงขั้นนั้นก็มีอัศวินขี่ม้าขาวชื่อว่า Ron Levin นักธุรกิจเก๋าประสบการณ์จาก Wall Street ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยพร้อมมอบเงินทุนให้จำนวนหนึ่ง แต่แท้จริงแล้วนี่ไม่ใช่อัศวินขี่ม้าขาวแต่เป็นปีศาจร้าย เพราะ Ron Levin นั้นคือจอมฉ้อฉลตัวพ่อ มีคดีติดตัวยาวไปหางว่าว และเขาคือสาเเหตุสำคัญที่ทำให้ BBC ดำดิ่งสู่จุดวิกฤตไปมากกว่าเดิม
ในประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ผู้ที่ก่อตั้งแชร์ลูกโซ่ทั้งหลายต่อให้ชั่วร้ายเป็นปีศาจยังไงก็จะหยุดแค่การฉ้อโกงเงิน แต่ไม่ใช่สำหรับ Joe Hunt ความโลภและความทะเยอทะยานของเขานั้นสูงเสียจนจะยอมให้มีใครมาขวางทางไม่ได้ ดังนั้นตอนที่เขากำลังเข้าตาจนเขากลับเลือกวิธีการแก้ปัญหาที่ไม่มีใครคาดคิดนั่นก็คือการฆาตกรรม
Joe Hunt มีส่วนร่วมในคดีฆาตกรรมถึง 2 รายซึ่งเหยื่อก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เหล่าผู้ร่วมทุนของบริษัท BBC ที่เริ่มไหวตัวทนกับกลโกงของเขานั่นเอง
นี่คือเรื่องราวคร่าว ๆ ของชายชื่อ Joe Hunt เงินพันล้าน และอาชญากรรมของเขา ยังมีรายละเอียดอีกมากที่ UNLOCKMEN ไม่ได้กล่าวถึง ถ้าใครอยากรู้เรื่องราวของจอมลวงโลกคนนี้สามารถตีตั๋วไปรับชมภาพยนตร์เรื่อง Billionaire Boys Club กันได้เลย