CARS
BMW 507 ROADSTER จากความผิดพลาดในอดีต สู่ตำนานที่สวยงามในปัจจุบัน
By: Chaipohn March 13, 2019 141078
ทุกครั้งที่เราเห็นรถยนต์คลาสสิกสุดสวยในวันนี้ ทำให้เราจินตนากรถึงภาพที่หรูหราราวกับถนนที่โรยด้วยกุหลาบในอดีต แต่ในความเป็นจริงแล้วรถยนต์ที่เกิดขึ้นในช่วงหลัง World War II หลายคันกลับมีประวัติที่ไม่ได้สบายอย่างที่เราคิด เนื่องจากเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นฟูขาดความเสถียร ประชาชนต้องคิดหนักในการใช้จ่าย รวมถึงวัตถุดิบที่ทีขีดจำกัดเป็นอย่างมาก เรียกว่าจะสร้างอะไรขึ้นมาเหมือนต้องเทเงินทุนกันหมดหน้าตัก เดินหมากผิดนิดเดียวอาจะสะเทือนถึงขั้นล้มละลายได้
เช่นเดียวกับ BMW 507 สุดคลาสสิกคันงามคันนี้ ในอดีตมันคือรถยนต์ที่ทำให้ BMW ต้องสั่นสะเทือนเกือบถึงขั้นล้มละลาย แต่ในวันนี้มันคือหนึ่งใน Iconic Car ประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของ BMW พร้อมมูลค่าซื้อขายที่ไปไกลถึงราว 70 ล้านบาท
BMW 507 เป็นรถ Roadster ที่ถือกำเนิดขึ้นในช่วงปี 1956 – 1959 ราว 10 ปีหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของ Germany แม้หลายบริษัทจะเริ่มฟื้นตัวจากร่องรอยแผลจากสงครามมาบ้างแล้ว แต่ก็ยังมี resource ที่จำกัดมาก ส่งผลถึงค่ายรถยนต์แบรนด์ต่าง ๆ ที่มุ่งผลิตรถยนต์เรียบง่าย ราคาไม่แพง เพื่อตอบโจทย์วิถีชีวิตของผู้คนมากที่สุด ยกตัวอย่างเช่น Isetta รถทรงไข่ที่เกิดขึ้นในขณะที่ผู้คนหันไปเลือกใช้ Scooter ในการเดินทาง หลังจาก BMW ค่อย ๆ ฟื้นตัวจากการผลิต R24 motorcycle และ BMW 501, 502 ทุกอย่างกำลังไปได้ดี จนกระทั่งการมาถึงของ Max Hoffman
ในยุคนั้นการส่งออกรถยนต์ไปทำตลาดนอกประเทศต้องทำผ่านตัวกลาง และ Max Hoffman คือ Importer รายใหญ่ที่นำ BMW เข้าไปจำหน่ายในประเทศอเมริกา แน่นอนว่าต้องมีอำนาจและสนิทสนมกับผู้บริหาร BMW พอสมควร อยู่มาวันนึง Hoffman นำเสนอไอเดียให้กับ BMW ว่าควรจะผลิตรถยนต์ Roadster หรูจากพื้นฐานของ BMW 502 ออกมาบ้าง เพื่อเติมช่องว่างระหว่าง Mercedes-Benz 300SL ที่แพงระยับถึง $6,800 ซึ่งก็เป็นไอเดียของ Max Hoffman คนนี้เช่นกัน
แน่นอนว่าไอเดียนี้ได้รับไฟเขียว เรื่องจาก BMW มองว่าตัวเองก็ยังขาดรถ Roadster ในตลาดอยู่พอดี ซึ่ง BMW ต้องคุมต้นทุนการผลิตให้ได้ตามที่แพลนไว้เพื่อทำราคาขายให้ต่ำกว่า 300SL แต่สุดท้ายต้นทุนของ BMW 507 กลับพุ่งสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ และความฝันที่เดิมพันเอาไว้ในวันนั้นก็พังทลายลง
จากที่แพลนราคาขายของ BMW 507 เครื่อง 3.2-liter V8 ที่คันละ $5,000 และวางแผนการผลิตไว้ปีละ 5,000 คัน กลายเป็นว่าราคารถเมื่อนำเข้าอเมริกาพุ่งไปสูงถึงคันละ $10,500 ทะลุไปเป็นเท่าตัว กลายเป็นแพงว่า 300SL ไม่ต้องเดาเลยว่าคนซื้อที่กำเงินไว้รอยังต้องถอยหนี แม้จะเป็นที่นิยมของ Celebrity ระดับโลกหลายคนที่ไม่สนราคามากกว่าความเท่ในยุคนั้น ไม่ว่าจะเป็น Elvis Presley ที่ถอยไปเก็บถึง 2 คัน แต่สำหรับประชาชนมีเงินทั่วไป มันยังดูห่างไกลซะเหลือเกิน
ยอดขายของ BMW 507 จึงสะดุดจน BMW สะเทือนถึงหัวใจถึงขั้นเกือบล้มละลาย ผลิตขายไปจำนวนทั้งหมดได้เพียง 252 คันเท่านั้น และหยุดการผลิตปิดสายพาน BMW 507 ไปในปี 1959 โชคยังดีที่ BMW 700 เครื่อง 700cc และ BMW New Class เครื่อง 1.5-liter ที่ราคาถูกกว่า ถูกผลิตออกมากอบกู้สถานการณ์ สร้างยอดขายได้ดีหลายแสนคันจน BMW ฟื้นขึ้นได้ในที่สุด
แม้ BMW 507 จะประสบปัญหาจนผลิตได้เพียง 252 คันในยุคนั้น แต่มันกลับส่งผลดีในฐานะผู้นำด้านคุณภาพและเทคโนโลยีของค่ายในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี และด้วยจำนวนที่มีน้อยมาก ทำให้ปัจจุบัน BMW 507 กลายเป็นรถหายากที่นักสะสมตามหา และมูลค่าปัจจุบันของมันมีราคาสูงถึง $2,750,000 หรือมากกว่า 70 ล้านบาทเลยทีเดียว