World

Bramble: The Mountain King รวมเหล่าภูติ ผี ปีศาจจากเรื่องเล่าตำนานพื้นบ้าน Nordic Folklore ที่เป็นแรงบันดาลใจให้เกม

By: GEESUCH May 11, 2023

สำหรับชาวด้อมร้อนในของพี่เอก HEARTROCKER ทุกคน คงจะเศร้าไปตาม ๆ กัน เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาอุตส่าห์มีเกมเนื้อเรื่องแบบ Horror มาให้เราดูพี่เอกกรี๊ดสนั่นลั่นจังหวัดทั้งที ดันมาจบแค่ 4 พาร์ทเสียได้ ! แต่ไม่เป็นไร ถึงจะมีแค่ไม่กี่ตอนสั้น ๆ แต่ก็ต้องบอกว่า Bramble: The Mountain King เป็นเกมเนื้อเรื่องอีกเกมที่พี่เอกเลือกได้คุณภาพมาก ๆ ทั้งในด้านของเนื้อหาและเกมเพลย์เลย

(สำหรับคนที่ยังไม่ได้ดูสตรีมเกมนี้) Bramble: The Mountain King เล่าเรื่องของ Olle เด็กชายตัวน้อยที่ต้องออกไปผจญภัยเพียงลำพังเพื่อตามหาพี่สาวที่จู่ ๆ ก็หายตัวไปจากห้องนอนที่อยู่ด้วยกัน ในดินแดนที่ชื่อว่า Bramble ซึ่งเส้นทางที่เด็กน้อยคนนี้ท่องไปเต็มไปด้วยความพิศวง จากป่าใหญ่ที่มีตัวละครในเทพนิยายอย่าง Gnomes น่ารัก ๆ นำเขาไปสู่เหตุการณ์สุดสยองขวัญเจอกับ Trolls กินคน พิธีบูชายัญเด็กจากเหล่าแม่ม่ายสาว ไปจนถึงโรคระบาดที่คร่าชีวิตคนทั้งหมู่บ้าน      

ถ้าคุณไปเปิดดูคลิปของพี่เอกตอนนี้ (ดูเถอะ เชียร์อีกรอบ) จะพบว่า Bramble: The Mountain King เป็นเกมที่มี Mood & Tone แตกต่างจากเกมสาย Horror อื่น ๆ มากทีเดียว นั่นเป็นเพราะแรงบันดาลใจของเกมนี้ได้มาจาก ‘Nordic Folklore’ หรือเรื่องเล่าปรัมปราจากประเทศฝั่งเดนมาร์ก, นอร์เวย์, สวีเดนมาแบบเต็ม ๆ จึงไม่แปลกเลยที่จะมีความเย็นยะเยือก และเสียวสันหลังแบบสไตล์ของแถบเมืองหนาว ซึ่งที่เราใช้คำว่า “แรงบันดาลใจ” นั้น หมายถึงว่ายกเรื่องเล่านั้นมาใส่ในเกมกันเลย แต่ก็เล่าออกมาในแบบเฉพาะตัวของตัวเองนะไม่ใช่ก๊อปปี้

สำหรับคอลัมน์นี้ UNLOCKMEN จะพาไปดูกันว่าเกมอินดี้เล็ก ๆ นี้ยกตำนานพื้นบ้านมาใช้อย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะเล่นเกมนี้แล้วหรือยังไม่ได้เล่น ก็สามารถกดอ่านได้เหมือนกัน 


คุยกับ Fredrik Selldén เจ้าของค่ายเกม Dimfrost Studio และแรงบันดาลใจในวัยเด็กที่ใช้ในการสร้าง Bramble: The Mountain King 

การที่จะเล่าความดีงามของ Bramble: The Mountain King ให้เห็นภาพได้ชัด ๆ (นอกจากดูคลิปพี่เอก) เราต้องขอพาทุกคนย้อนกลับไปในวันที่เกมนี้ยังเป็นเพียงไอเดียที่รอวันตกผลึกกันก่อน

ทุกอย่างเกิดขึ้นในปี 2017 เมื่อเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยทั้ง 4 คนผู้หลงใหลในเกมจากประเทศสวีเดน มีความฝันว่าสักวันหนึ่งจะต้องเปิดค่ายเกมเป็นของตัวเองให้ได้ และด้วยปณิธาณแรงกล้าผสมกับความมานะบากบั่น ทำให้ในปีเดียวกันนั้นเอง พวกเขาก็พัฒนาเกมแรกเป็นของตัวเองที่ชื่อว่า A Writer and His Daughter ออกมาจำหน่ายได้สำเร็จ ก่อนที่จะพัฒนาเกมที่สองที่ชื่อ Bramble: The Mountain King ในเวลาต่อมา พร้อมกับพาสตูดิโอเล็ก ๆ ที่ชื่อ Dimfrost Studio เข้าร่วมเป็นครอบครัวเดียวกับ Zordix แล้วไปไกลกว่าจุดเริ่มต้นความฝันเล็ก ๆ ในห้องนอนมากนัก

ตัดภาพมาในปี 2022 ก่อนที่ Bramble: The Mountain King จะพร้อมวางจำหน่ายในอีก 1 ปีข้างหน้า Fredrik Selldén หนึ่งในเด็กมหาวิทยาลัยของกลุ่มเพื่อนในวันนั้น สู่ CEO ของ Dimfrost Studio ให้สัมภาษณ์กับ The X-BOX Hub ถึงแรงบันดาลใจในการสร้างเกมเอาไว้แบบนี้

“ย้อนกลับไปในช่วงแรก ๆ ที่เริ่มพัฒนาเกมนี้ พวกเราคุยกันว่าโจทย์แรกเลยคือต้องการสร้างเกมที่มีเรื่องราวต่างจากที่คนเล่นคุ้นเคยกัน ดังนั้น เราจึงเริ่มคุยกันถึงสิ่งที่แต่ละคนชอบ แล้วก็ใช้เวลาเพียงไม่นานก็พบจุดลงตัว ตรงที่พวกเราน่าจะเอาเรื่องเล่าในวัยเด็กมาทำกันนะ แล้วพวกเราทั้งหมดก็เริ่มแชร์เรื่องเล่าของ Nordic Folklore ที่เคย ๆ ฟังกันมาในวัยเด็ก เพียงเท่านั้นแหละ มันทำให้เข้าใจทันทีว่าเรื่องเล่าที่ยูนีคที่สุดที่เราจะเล่าให้โลกฟังได้คือเรื่องราวเหล่านี้ จนเกิดเป็นไอเดียของ Bramble: The Mountain King ขึ้น เราตัดสินใจที่จะแบ่งปันเรื่องราวที่เติบโตมาให้เกมเอมร์ทุกคน”

ก่อนจบบทสัมภาษณ์ เมื่อถูกถามในวันที่เกมยังไม่จำหน่ายว่า อยากให้คนเล่นได้รับอะไรจากเกม Bramble: The Mountain King บ้าง หลังจากคำตอบกว้าง ๆ ที่ว่า “เยอะแยะไปหมด !” Fredrik บอกต่อไปว่าเขาอยากให้คนเล่นได้เห็นทั้งสิ่งที่สวยงามและสิ่งที่เลวร้าย .. นั่นคงเป็นเหตุผลว่าทำไมโลกในอาณาจักร Bramble ถึงมีความสวยงามราวกับเทพนิยายดิสนีย์ มีมิตรภาพจากเหล่าตัวละครที่คอยช่วยเหลือกันและกัน ในขณะที่ก็ฉายภาพของกลิ่นคาวเลือดอันน่าสยดยอง และการเติบโตของตัวละครเด็กชายตัวเล็ก ๆ ที่แลกมาด้วยความซึมเศร้าจากความเป็นไปของโลกอันโหดร้าย ซึ่งเราต้องขอ Trigger Warning สำหรับคนที่กำลังจะดูสตรีมหรือเล่นเกมนี้กันก่อน ตัวเกมมีภาพของการสังหาร การฆ่าตัวตายแบบที่ตรงไปตรงมาเอามากเหลือเกิน 

ถ้า Dimfrost Studio ตั้งใจทำเล่าให้เหมือนกับว่านิทานมี 2 ด้าน ก็เป็นการตีโจทย์ที่แตกละเอียดจนต้องปรบมือให้ดัง ๆ ล่ะ 


Nordic Folklore และเหล่าตัวละครในเกมที่หลุดออกมาจากนิทานเก่าแก่หลายร้อยปี

Olle เด็กน้อยตัวเอกของเรื่อง

King Olaf II Haraldsson / St. Olaf

เริ่มกันที่ตัวละครแรกที่ได้แรงบันดาลใจจาก Nordic Folklore ก็คือตัวเอกของเรื่อง 

ใครจะนึกว่าตัวละครเอกหน้าตาน่ารักอย่าง Olle จะมีที่มาจาก King Olaf II Haraldsson หรือในชื่อ St. Olaf ที่รู้จักกันในฐานะนักบุญคาทอลิกคนแรกของประเทศนอร์เวย์ และในตำนานพื้นบ้านชื่อที่ดังที่สุดของเขาคือ ‘นักสังหารโทรล (Trollslayer)’

นั้นอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมเกมนี้ถึงมีความเกี่ยวข้องกับ ‘พระราชา’ หรือสถาบันกษัตริย์ โดยมีโทรลเป็นตัวร้ายของเรื่อง แต่ไม่แค่นั้นนะ ตามตำนานยังเล่าเสริมอีกว่า St. Olaf มีชีวิตเพื่อต่อกรกับสิ่งชั่วร้ายของโลก พร้อมกับรักษาบาดแผลของผู้คนไปด้วยพร้อม ๆ กัน ก็อาจเป็นเหตุผลอีกล่ะว่าว่าทำไมถึงมีโบสถ์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้นักบุญคนนี้มากมายนัก และในเกม Bramble: The Mountain King นอกจากภารกิจตามหาพี่สาวแล้ว ตัว Olle ก็เหมือนมีหน้าที่ปลดปล่อยผู้คน หรือสถานที่จากสิ่งชั่วร้ายในทุกที่ที่เดินทางไปเหมือนกัน 


Näcken ปีศาจร้ายที่ใช้เสียงดนตรีลากคนให้จมลงสู่ทะเลสาป 

Näcken (ในเกม Bramble: The Mountain King)

บอกเลยว่าถ้าได้ดูเกมนี้ไปแล้วครั้งหนึ่ง ไม่มีใครลืมความผีจากปีศาจเล่นไวโอลินที่ชื่อว่า Näcken ได้ลงอย่างแน่นอน ซึ่งตามเนื้อเรื่องในเกมนั้น เจ้าตัว Näcken เคยเป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งที่มีฝีมือในการเล่นไวโอลิน และรักในเสียงดนตรีมาก จนกระทั่งเขาถูกคนในหมู่บ้านรุมทำร้ายร่างกายจนเสียสติ ส่งผลให้เกิดความแค้นใช้พลังของเสียงจากไวโอลินทำให้ผู้คนที่ได้ฟังต้องมนต์สะกด และร่ายรำไปกับเสียงนั้นจนชีวิตดับลง

ตามตำนานเล่าว่า Näcken เป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในหลากเรื่องเล่า ทั้งถูกเชื่อว่าเป็นสิ่งมีชีวิตในตำนานนอร์ส (Norse Mythology) ในเรื่องเล่าตำนานของสแกนดิเนเวีย (Scandinavian folklore) หรือแม้แต่ตำนานของอังกฤษและเยอรมันเองก็มี Näcken ในแบบของตัวเอง ซ้ำยังถูกเรียกด้วยหลายชื่อไม่ว่าจะ Näcken, Näkki, Nøkk แต่สิ่งที่เหมือนกันแม้แต่กับในเกม Bramble: The Mountain King คือการเป็นวิญญาณซึ่งอาศัยอยู่ในทะเลสาป/หนองน้ำ และคอยหลอกลวงมนุษย์เพื่อจับกินเป็นอาหาร   

แต่เราเชื่อว่า Näcken ในแบบฉบับของเกมที่น่าจะตรงที่สุดมาจากเรื่องเล่าของตำนานจากฝั่งแถบสแกนดิเนเวีย ที่เล่าว่า Näcken คือวิญญาณที่ใช้เสียงเพลงจากการสีไวโอลินของตัวเอง ล่อลวงเด็กและผู้หญิงเข้ามาในทะเลสาป ซึ่งว่ากันว่าดนตรีของมันจะมีผลเป็นพิเศษกับสตรีมีครรภ์และเด็กที่ยังไม่ผ่านพิธีชำระล้างบาป 

ว่ากันว่า Näcken มักจะออกมาล่อเหยื่อของตัวเองในช่วงของวันคริสต์มาส และจริง ๆ แล้วไม่ได้มีรูปร่างตายตัว สามารถแปลงกายเป็นสิ่งไหนก็ได้ แต่บ่อยครั้งก็จะแปลงเป็นผู้ชายเปลือยกายสีไวโอลินให้เราเห็นกัน .. ชาวสแกนดิเนเวียเชื่อว่าวิธีการฆ่าหรือหลุดพ้นจากมนตร์สะกดของ Näcken คือต้องเรียกชื่อของมันซ้ำ ๆ หลายครั้ง หรือเรียกชื่อที่เชื่อกันว่าเป็นชื่อจริงอย่าง Nykur และหากอยากได้ทักษะทางดนตรีอันมหัศจรรย์แบบมันเป็นของตัวเอง ต้องแลกเปลี่ยนด้วยการให้วอดก้าสแกนดิเนเวีย, สัตว์สีดำ และเลือด 3 หยดเป็นการตอบแทน


Skogsrå ผีสาวที่ใช้มนตร์สเน่ห์ล่อลวงผู้ชายให้เป็นของตัวเอง

Skogsrå (ในเกม Bramble: The Mountain King)

นี่คือตัวละครภูติ ผี ปีศาจที่เราชอบที่สุดในเกม นอกจากงาน Art Design จะสวยมาก ๆ แล้ว เรื่องราวปูมหลังของตัวละครชื่อ Skogsrå ก็เต็มไปด้วยความสยดสยองสมกับเป็นเรื่องเล่าแบบ Nordic Folklore อย่างแท้จริง

เรื่องราวในเกมเล่าว่า Skogsrå เป็นสาวสวยรูปงามผมยาวหุ่นดีที่บังเอิญผ่านมาในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เธอปรากฎกายด้วยร่างอันเปลือยเปล่าและล่อลวงผู้ชายที่แห่งนั้นไม่เว้นแต่ละวัน เมื่อเหล่าผู้ชายหายสาบสูญไปในป่าลึกหลายคนเข้า เหล่าผู้หญิงในหมู่บ้านก็เริ่มออกตามล่าตัว Skogsrå เกิดเป็นการ ‘ล่าแม่มด’ ขึ้น พวกเธอสังหารคนที่มีหน้าตาหรือรูปร่างคล้ายกับ Skogsrå วันแล้ววันเล่า โดยที่ไม่รู้เลยว่าตัวจริงของแม่มดนั้นหลบอยู่ในป่าลึกต่างหาก       

ในตำนานของสแกนดิเนเวีย เรียกชื่อของปีศาจตัวนี้ด้วย 3 ชื่อ คือ Skogsrå / Hulder / Huldra เธอคือวิญญาณที่คอยพิทักษ์เหล่าสัตว์ป่า แต่ก็มีความซุกซนในตัวโดยการชอบล่อลวงผู้ชายที่ตัวเองชอบไปสุขสมอารมณ์ด้วยกัน แต่ผู้คนเชื่อกันว่าเมื่อมีเพศสัมพันธ์กับ Skogsrå แล้ว ผู้ชายคนนั้นจะกลายเป็นคนที่มีอาการแบบ Dead Inside ตายด้าน เพราะว่าวิญญาณของพวกเขาจะถูกเก็บเอาไว้กับเธอ

 

ว่ากันว่าวิธีหลุดจากมนต์เสน่ห์ของ Skogsrå คือต้องใส่เสื้อกลับด้าน แล้วคุณผู้ชายทั้งหลายก็จะสามารถจำทางกลับบ้านของตัวเองได้อย่างถูกต้อง อีกสิ่งที่เชื่อกันถึงภาพลักษณ์ของ Skogsrå คือเธอเป็นผู้หญิงที่มีด้านหน้าอันสวยงามมาก แต่ด้านหลังกลับมีส่วนที่เปล่ากลวงเหมือนกับต้นไม้ และมีหางที่เหมือนกับหมาจิ้งจอก ซึ่งเป็นักษณะที่ตรงกับตัวละครของเกม Bramble: The Mountain King อย่างชัดเจน   


   Myling เหล่าวิญญาณเด็กหลงทางจากแม่ผู้ผิดมนุษย์ 

ตัวละครวิญญาณที่น่าสงสารที่สุดในเกม และอยู่ในส่วนที่หลอนทั้งหดหู่ที่สุดของเกม Bramble: The Mountain King อย่างพาร์ททำพิธีบูชายันเด็กทารกเพื่อชีวิตใหม่ที่หลงผิดให้กับซาตาน ขอ Trigger Warning กันก่อนเลยว่าถ้าใจไม่แข็งแรงพอ ให้ดูสตรีมพาร์ทนี้โดย Skip ตอนนี้เป็นระยะ ๆ ไปได้เลยครับ

Dimfrost Studio อาจจะไม่ได้บอกอย่างชัดเจนว่า Myling คือวิญญาณที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับวิญญาณเด็กในเกม แต่เราเชื่อว่าเรื่องเล่าของวิญญาณตนนี้ต้องเป็นแรงบันดาลใจให้ไม่มากก็น้อย   

Myling พูดแบบติดปากตามคำภาษาไทยก็คือ ‘ผีเด็ก’ ในตำนานของสแกนดิเนเวียว่ากันว่าคือเด็กที่เกิดจากที่พ่อ-แม่ไม่ต้องการ จึงจัดการฆาตกรรม และฝังอยู่ในที่ที่ไม่ถูกต้อง (อย่างเช่นหนองน้ำในเกม) และเพราะว่าเหล่าเด็กต้องการที่ต้องการสุสานและพิธีศพที่ถูกต้องให้กับตัวเอง พวกเขาจึงมักปรากฎตัวตอนกลางคืนและตามคนที่ผ่านไปผ่านมาเพื่อขอให้นำศพของตัวเองไปฝังในสถานที่ให้ถูกต้องให้หน่อย


Pesta ผีโรคระบาดแห่งความชั่วร้าย   

Pesta (ในเกม Bramble: The Mountain King)

มาถึงผีตัวสุดท้ายของเกมนี้ ที่ Dimfrost Studio ปูทางการปรากฎตัวของคุณยายเอาไว้ได้แบบน่ากลัวสุดขีด คือให้รู้เรื่องราวความเป็นไปแบบเรื่อย ๆ แล้วค่อยโผล่ออกมาในจังหวะที่เหมาะสมที่สุด

Pesta เป็นผีที่เหมือนกับว่ายกเรื่องเล่าของ Nordic Folklore มาบิดนิดเดียวแล้วใช้เลย (เพราะสตอรี่หลอนจัด) ตามเรื่องเล่าเธอเป็นตัวแทนของโรงระบาด กาฬโรค ถึงขนาดถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Plague-hag ซึ่งจะปรากฏกายด้วยร่างของผู้หญิงแก่ชราผิวซีดเซียว (เหมือนกับในเกมเป๊ะ) และมาพร้อมกับเอกลักษณ์คือการถือ ‘คราด’ และ ‘ไม้กวาด’ ว่ากันว่าถ้าเธอไปเยือนที่บ้านของคุณโดยการถือคราดเพียงอย่างเดียว นั่นก็อาจจะเป็นโรคระบาดที่พอจะทนได้ไม่ถึงกับตาย แต่เมื่อไหร่ที่เธอถือไม้กวาดไปด้วยล่ะก็ เตรียมตัวบอกลาชีวิตของตัวเองกันได้เลย   

โรคระบาดที่ Pesta นำมาสู่ผู้คนนั้น ในประเทศเดนมาร์กถูกเรียกด้วยชื่อต่างกันออกไป มีทั้ง Mandeqvæl (การฆ่าล้างมนุษย์) / Mærkedød (การตายที่ทำเครื่องหมายเอาไว้) และ den sorte Død (ความตายสีดำ)

สิ่งที่ Pesta ในเกมเชื่อมโยงกับเรื่องเล่ามาก ๆ คือเรื่องเล่าตอนที่เธอปรากฎตัวที่แม่น้ำแห่งหนึ่งใน Gjerrestad ประเทศนอร์เวย์ บนเรือพายที่มีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังพายข้ามไปที่แม่น้ำ Eskeland ซึ่งด้วยความหวาดกลัวจากชายคนนั้นเพราะรู้ว่า Pesta เป็นใคร เขาร้องขอชีวิตเธอ แต่เธอก็บอกกับเขากลับไปว่า “ข้าไม่สามารถไว้ชีวิตเจ้าได้ แต่ว่าเจ้าจะตายอย่างไม่ทรมาน” แล้วชายหนุ่มคนนั้นก็ไม่สามารถข้ามพ้นแม่น้ำนั้นไปได้ … ใน Bramble: The Mountain King ก็ถอดฉากนี้เข้ามาใส่ได้อย่างสวยงามเอามาก ๆ เลย 


นอกจากเรื่องเล่าของภูติ ผี ปีศาจ และวิญญาณร้ายที่ UNLOCKMEN เลือกมาเล่าในบทความนี้แล้ว ยังมีตัวละครอีกมากมายซึ่งส่งผลต่อเส้นเรื่องหลัก และอารมณ์ในฉากนั้น ๆ ของเกมทั้งแบบที่น่ารักและน่ากลัวสุดขีด ไม่ว่าจะเป็น นางฟ้า / ตัวโนม / ผีหมอตำแย และอื่น ๆ ซึ่งรอใหุ้ณสัมผัสอยู่ เรียกว่าเป็นอีกเกมที่ถึงจะไม่ได้เล่นเองก็คุ้มค่ามากที่จะดูสตรีม และถึงจะเป็นเกมที่เรียกตัวเองว่าอินดี้เล็ก ๆ แต่เขาก็ทำออกมายิ่งใหญ่แบบที่เราอยากจัดให้อยู่ในระดับ AAA ไปเลย นั่นคงเป็นเพราะอย่างที่ Fredrik Selldén ให้สัมภาษณ์ไปในตอนต้น พวกเขาเลือกเล่าเรื่องที่ตัวเองเติบโตมาอย่างจริงใจ และต้องการให้มันเป็นเหมือนนิทานที่มีความหมายกับทุกคนจริง ๆ : )

SOURCE : 1 / 2 / 3 / 4 / 5 / 6 / 7 / 8 / 9

GEESUCH
WRITER: GEESUCH
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line