แฟนคลับรู้กันดีว่าราชานิยายสยองขวัญ ‘สตีเวน คิง (Stephen King)’ เขียนเรื่องราวโดยการเอาปากกาจุ่มหมึกตรา ‘ชีวิตจริง’ ของตัวเองเสมอ อย่าง Carrie นิยายเล่มแรกที่เปลี่ยนชีวิต ในปี 1974 ได้แรงบันดาลใจมากจากเพื่อนผู้หญิงในโรงเรียนคนหนึ่งของคิง ที่มีแม่เป็นคนแปลก ๆ ให้ลูกแต่งตัวมาโรงเรียนด้วยชุดแบบเดียวกันตลอดทั้งเทอม และเมื่อเธอซื้อเสื้อผ้าใหม่ใส่มา กลับโดนเพื่อนทั้งโรงเรียนบูลลี่ หรือในเรื่องสั้น The Body (ที่ถูกทำเป็นหนัง coming of age ชื่อ Stand By Me ในปี 1986) ก็มาจากความทรงจำเรือนลางตอน 4 ขวบของคิง ที่เพื่อนของเขาถูกรถไฟชนจนเสียชีวิต และในปี 1983 เองก็ไม่ต่างกัน เมื่อคิงได้บังเอิญอ่านข่าวเกี่ยวกับรถผีสิงที่น่ากลัวที่สุดของอเมริกาตอนช่วงยุค 60s มันช่วยทำให้เขาประกอบรถของตัวเองขึ้นมาบ้าง-รถที่แฟนคลับหนังสือของเขาติดตาไม่มีลืมคันนั้นใช้ชื่อว่า Christine ส่วนรถต้นขั้วความสยองขวัญคือ The Golden Eagle รถที่ว่ากันว่าฆ่าคนไปกว่า 32 ศพ ! Chapter 1 The (3)
สำหรับชาวด้อมร้อนในของพี่เอก HEARTROCKER ทุกคน คงจะเศร้าไปตาม ๆ กัน เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาอุตส่าห์มีเกมเนื้อเรื่องแบบ Horror มาให้เราดูพี่เอกกรี๊ดสนั่นลั่นจังหวัดทั้งที ดันมาจบแค่ 4 พาร์ทเสียได้ ! แต่ไม่เป็นไร ถึงจะมีแค่ไม่กี่ตอนสั้น ๆ แต่ก็ต้องบอกว่า Bramble: The Mountain King เป็นเกมเนื้อเรื่องอีกเกมที่พี่เอกเลือกได้คุณภาพมาก ๆ ทั้งในด้านของเนื้อหาและเกมเพลย์เลย (สำหรับคนที่ยังไม่ได้ดูสตรีมเกมนี้) Bramble: The Mountain King เล่าเรื่องของ Olle เด็กชายตัวน้อยที่ต้องออกไปผจญภัยเพียงลำพังเพื่อตามหาพี่สาวที่จู่ ๆ ก็หายตัวไปจากห้องนอนที่อยู่ด้วยกัน ในดินแดนที่ชื่อว่า Bramble ซึ่งเส้นทางที่เด็กน้อยคนนี้ท่องไปเต็มไปด้วยความพิศวง จากป่าใหญ่ที่มีตัวละครในเทพนิยายอย่าง Gnomes น่ารัก ๆ นำเขาไปสู่เหตุการณ์สุดสยองขวัญเจอกับ Trolls กินคน พิธีบูชายัญเด็กจากเหล่าแม่ม่ายสาว ไปจนถึงโรคระบาดที่คร่าชีวิตคนทั้งหมู่บ้าน ถ้าคุณไปเปิดดูคลิปของพี่เอกตอนนี้ (ดูเถอะ เชียร์อีกรอบ) จะพบว่า Bramble: The Mountain
‘ฝันร้าย ฝันร้าย และฝันร้าย’ คงจะเป็นหนึ่งในคำที่เหมาะที่สุดสำหรับแฟนผลงานมังงะสยองขวัญของอาจารย์อิโต้ จุนจิ เพื่อใช้นิยาม Junji Ito Maniac: Japanese Tales of the Macabre ออริจินอลซีรีส์ของ Netflix ซึ่งดัดแปลงมาจากรวมเรื่องสั้น One-Shot เลื่องชื่อ ‘คลังสยอง’ ที่หลอนกันมาตั้งแต่เวอร์ชั่นมังงะ และหลอนทะลุขึ้นอันดับ 1 ซีรีส์ของไทยในช่วงเวลานี้ (24/01/2023) สำหรับคอมังงะที่อยากรู้จักอาจารย์ Junji Ito ให้มากขึ้น สามารถอ่านบทความ NIHON STORIES ของ UNLOCKMEN จะอ่านก่อนหรือหลังบทความนี้ก็ได้เลย : https://www.unlockmen.com/nihon-stories-ito-junji/ แล้วถ้าพูดมังงะเรื่องไหนก็ได้ของอาจารย์อิโต้ จุนจิกันบ้างล่ะ ฝันร้ายของพวกคุณคือเล่มไหนกัน ? สาวแววตาเสน่ห์สุดอันตราย ‘โทมิเอะ (Tomie)’ เหล่าซากปลาเน่าใน ‘ปลามรณะ (Gyo)’ หรือความตายสุดเซอร์เรียลแบบหัวลอยได้ใน ‘ลูกโป่งหัวมนุษย์ (Hanging Balloons)’ แต่เชื่อได้เลย คำตอบต้องไม่ได้มีน้อยกว่า 1 เรื่องแน่
ก่อนนอนคุณสตรีมมิ่งอะไรดูเพื่อให้นอนหลับสนิทกันครับ ส่วนตัวผมนั้นเช่าหอพักอยู่กับรูมเมท ที่จะต้องเปิดเรื่องเล่าประสบการณ์ผีจากทางบ้าน The Ghost Radio ฟังทุกคืนราวกับว่าเป็นพิธีกรรมบางอย่างเพื่อให้ตาปิดได้สนิท แต่มีอยู่คืนนึงครับ ตอนเวลา 00:40 ตามเวลานัด เพื่อนคนนี้ก็เร่ง Volume ให้เสียงของพี่แจ็คได้ขับกล่อมเหมือนคืนก่อน ๆ ซึ่งผมที่กำลังพยายามข่มตาหลับถึงกับต้องเปิดตาพร้อมเงี่ยหูฟังไปด้วย เพราะเรื่องเล่าในคืนนั้นเกิดขึ้นในหอที่พวกเราทั้งคู่อาศัยอยู่ แล้วจู่ ๆ คนเล่าคนนั้นก็บอกว่าได้ยินเสียงหัวเราะทุกคืนตอนเวลา 00:40 จากห้องที่หมายเลขเดียวกับที่เราทั้งคู่นอนอยู่! ในตอนนั้นเอง ผมถึงกับสะดุ้งขึ้นมาเพื่อจะคุยกับรูมเมทว่าจะเอายังไ ง… ในเตียงนอนของรูมเมทของผมว่างเปล่า มีเพียงเสียงหัวเราะที่ไม่มีต้นตออย่างน่ากลัวอยู่ตรงนั้น เป็นยังไงบ้างครับกับเรื่อง (แต่ง) ผีของผม ถ้าได้โทรไปเล่าให้ฟังเองจะน่ากลัวกว่านี้อีกนะ นี่ล่ะที่เขาเรียกว่าถ้าเราโตขึ้นมาในประเทศไทยที่มี Soft Power เรื่อง ‘ผี’ เราก็จะมีทักษะในการเล่าเรื่องผีติดตัวไปโดยปริยาย แต่ต้องบอกก่อนนะครับถึงผมจะสนใจเรื่องผี แต่ตัวเองก็กลัวผีมาก ๆ แล้วเรื่องผีในบ้านเรานี่มีทุกรูปแบบ และเยอะแบบไม่จบไม่สิ้นจริง ๆ ลองดูจากข้อมูลปี 2018 ที่ The MATTER ทำเอาไว้ ก็จะเห็นว่าเพียงรายการผีรายการเดียวในไทย ก็มีเรื่องเล่าที่ไม่ซ้ำกันเต็มไปหมด เอาจริง ๆ การเล่าเรื่องผีให้น่ากลัวก็เป็นศิลปะแบบเดียวกับอาชีพ Comedian
วงการดนตรีเพลงร็อกและเมทัล นอกจากจะโดดเด่นด้วยความหนักหน่วงของตัวดนตรีแล้ว เรื่องภาพลักษณ์ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากเช่นกัน บางวงก็อาจจะแต่งตัวเท่ ๆ ธรรมดา บางวงก็ฉีกออกไปทางแฟนซีราวกับหลุดออกมาจากภาพยนตร์ระทึกขวัญประสาทเลยทีเดียว จะมีวงอะไรที่น่าสนใจบ้าง Unlockmen ลองคัดมาให้ชมทั้งหมด 5 ศิลปินแล้วครับ SLIPKNOT วงแรกที่นึกถึงคงหนีไม่พ้น 9 หน้ากากนรกจากเมืองไอโอว่า นามว่า “Slipknot” วงดนตรีที่มีสมาชิกร่วมกันถึง 9 คน เกือบเทียบเท่ากับทีมฟุตบอลอยู่แล้ว พวกเขาเดบิวต์อัลบั้มแรกที่มีชื่อเดียวกับวงกับค่าย Roadrunner Records เมื่อปี 1999 มาพร้อมกับภาพลักษณ์สุดหลอนกับการปิดบังใบหน้าภายใต้หน้ากากอันน่าสะพรึงกลัว ซึ่งแต่ละคนก็มีคาแรคเตอร์ของหน้ากากแตกต่างกันออกไป เท่านั้นยังไม่พอพวกเขายังสวมใส่ชุดหมีสีแดงที่เหมือนกับนักโทษ หรือให้มองอีกมุมก็เหมือนผู้ป่วยโรคจิตด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ทำให้วง Slipknot สร้างภาพจำให้กับแฟนเพลงได้อย่างรวดเร็ว และสุดท้ายพวกเขาก็ก้าวขึ้นมาเป็นวงเมทัลที่โด่งดังไปทั่วโลกได้เป็นผลสำเร็จ สำหรับหน้ากากของ Slipknot มีการเปลี่ยนแปลงเสมอในทุก ๆ อัลบั้ม เท่บ้าง แย่บ้าง สลับกันไป แต่ถ้าถามว่าเวอร์ชั่นไหนประทับใจมากที่สุด ก็กล้าตอบได้เต็มปากว่าอัลบั้มแรกครับ MARILYN MANSON อีกหนึ่งศิลปินที่มีพร้อมภาพลักษณ์ชวนช็อก คงหนีไม่พ้น Marilyn Manson ที่โดดเด่นด้วยการเมคอัพที่ดูชวนสยองด้วยการเขียนตา ทาปาก ใส่คอนแทคเลนส์ รวมไปถึงคอสตูมที่หลุดโลกแบบสุด
บางครั้งความบังเอิญก็นำเราไปพบกับสิ่งที่ดีเกินความคาดหมาย เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นจากยามดึกคืนหนึ่ง เรานอนไถโทรศัพท์ก่อนนอนอยู่บนเตียงเรื่อยเปื่อย ไม่มีจุดมุ่งหมายใด ๆ แต่ก่อนเราจะตัดสินใจล็อกหน้าจอและข่มตานอน สายตาแว่บหนึ่งของเราดันไปสะดุดกับคลิป ๆ หนึ่งที่เพื่อนของเราแชร์ลงใน Feed Facebook เป็นคลิปเกี่ยวกับคอนเทนต์ลึกลับที่มีคำโปรยและหน้าปกค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียว ด้วยความที่เราชอบคอนเทนต์แนวนี้เป็นทุนอยู่แล้ว จึงลองกดเข้าไปดูแบบไม่คาดหวังใด ๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากคอนเทนต์แนวนี้ของไทยส่วนใหญ่ที่เราดูมักจะเป็นการมานั่งอ่านข้อมูลใน Wikipedia ให้ฟัง ดังนั้นสำหรับช่อง ‘The Common Thread’ นี้ที่ดูไม่คุ้นตาเอาเสียเลย ยอด Subscribe ยอด View ก็น้อย จึงไม่แปลกที่เราจะไม่คาดหวัง แต่หลังจากที่ดูคลิปแรกจบ เราถึงกับอุทานในใจว่า ‘เหี้ย แม่งทำโคตรดีเลยว่ะ’ The Common Thread มีความแตกต่างจากช่องอื่น ๆ อย่างชัดเจน ด้วยการหาแหล่งข้อมูลนับสิบ ๆ แหล่ง ก่อนจะมานั่งเรียบเรียง ตัดอะไรที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ออกไปทีละอย่างเพื่อมุ่งหาความจริงหรือสิ่งที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด เราสถาปนาตัวเองเป็นแฟนคลับช่องนี้ในทันที และด้วยเหตุนี้เราจึงไม่ลังเลที่จะชวน ‘ฟาโรห์-เตชภณ คำสีแก้ว’ แห่ง The Common Thread มาพูดคุยเจาะลึกกันทันที ถึงเวลานัดสัมภาษณ์ ฟาโรห์มารอเราอยู่ก่อนแล้ว และด้วยความบังเอิญอีกอย่างคือการที่เรากับเขาเคยเรียนในคณะเดียวกัน การสร้างความคุ้นเคยก่อนการสัมภาษณ์จึงเป็นไปอย่างลื่นไหล
ค่ำคืนวันปล่อยผีนี้ ถ้าเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าเกินกว่าจะออกไปปาร์ตี้ดูผีสาวหุ่นแซ่บออกอาละวาด และง่วงเกินกว่าจะเปิดหนังสยองขวัญหลอนตัวเองที่นอนดูนิ่ง ๆ UNLOCKMEN อยากชวนมาเล่นเกมสุดสยองที่จะสร้างความหลอนให้ผู้ชายอย่างเราได้ตาสว่างไปยันเช้า สำหรับใครที่เคยสบประมาทไว้ว่าเกมมันก็แค่เกมหลอกเด็กแหละวะ ไม่น่าจะมีอะไร เราอยากให้ลอง 5 เกมนี้ก่อน แล้วเราจะรู้ว่าผู้ชายอย่างเราก็เผลอกรีดร้องด้วยความกลัวออกมากับเขาได้เหมือนกันโว้ย! Outlast 1-2 ถ้าพูดถึงเกมสุดหลอนทุกคนคงต้องนึกถึง Outlast เป็นลำดับแรก ๆ Outlast เป็นเกมแนวเอาตัวรอดแบบมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (first person survival) ที่เนื้อเรื่องให้เรารับบทเป็นนักข่าวอิสระที่เข้ามาสืบสวนอะไรบางอย่างในโรงพยาบาลจิตเวชแห่งหนึ่งซึ่งห่างไกลจากตัวเมือง ในเกมเราจะไม่สามารถสู้กับตัวประหลาดและสิ่งลี้ลับได้เท่าไรนัก แต่จะเน้นไปที่การใช้อาศัยจังหวะหลบ คอยย่อง คอยหนี ทุกย่างก้าวของคุณอาจจะทำให้จบชีวิตลงได้ง่าย ๆ และนี่คือความหลอนของมัน ที่นอกจากจะมีบรรยากาศที่ชวนขนหัวลุกแล้ว ยังให้อารมณ์ความอึดอัดกัดกินเราจนทำให้หายใจไม่ทั่วท้องด้วย ส่วน Outlast ภาค 2 เราจะได้ไปสืบสวนคดีฆาตกรรมสาวท้องปริศนา และเกิดอุบัติเหตุต้องแยกทางกับภรรยาระหว่างทาง จนต้องไปเจอกับหมู่บ้านที่มีความเชื่อชวนขนหัวลุก Outlast ถือเป็นเกมอินดี้ที่ประสบความสำเร็จและได้รับเสียงตอบรับที่ดีมาก และสำหรับคนขวัญอ่อน เกมนี้จะทำให้คุณต้องหวีดร้องออกมาแบบไม่กลัวเสียความเป็นชาย เพราะมันโคตรน่ากลัวและบีบรัดหัวใจผู้ชายอย่างเราจริง ๆ Resident Evil 7 เกมแฟรนไชส์ยิงซอมบี้ระดับตำนานที่ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง Resident Evil ไม่ได้มีแค่เดิน ๆ บู๊
เวียนมาถึงอีกแล้วสำหรับวันที่หลายคนรอคอย มีกิจกรรมตื่นเต้นให้ทำมากมายไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัวแฟนซีสยองขวัญมาประชันกัน หรือสำหรับเด็ก ๆ ก็คงเป็นการตระเวนเดินเคาะประตูบ้านขอขนมลูกกวาดให้สมใจ แน่นอนว่าเกริ่นมาขนาดนี้แล้ว วันที่เราจะพูดถึงคงเป็นวันอื่นไปไม่ได้นอกจากวันที่ 31 ตุลาคมของทุกปี ‘วันฮัลโลวีน’ นั่นเอง แม้ว่าบ้านเราจะไม่ได้อินกับวัฒนธรรมจากโลกตะวันตกนี้เท่าไรนัก แต่ในเรื่องการปาร์ตี้บอกเลยว่าประเทศไทยไม่เป็นสองรองใคร และทุกปีเมื่อเทศกาลแห่งฟักทองนี้มาถึง ทุกผับทุกบาร์ต่างก็จัดปาร์ตี้สยองขวัญออกมาแข่งกันเต็มที่ ไม่มีใครยอมใคร ดังนั้นเราจึงอยากแนะนำปาร์ตี้ฮัลโลวีนที่น่าสนใจให้เพื่อน ๆ UNLOCKMEN เก็บเข้าลิสต์ไปเป็นตัวเลือก จะได้เตรียมตัวปล่อยของกันตั้งแต่เนิ่น ๆ Trasher Halloween : Bitchy Land ปาร์ตี้แรกที่เราอยากแนะนำคือ Trasher Halloween : Bitchy Land เพราะ Trasher คือทีมจัดอีเวนต์ปาร์ตี้ที่ขึ้นชื่ออยู่แล้วเรื่องความมันส์และรักษามาตรฐานนี้มาอย่างยาวนาน แต่กลุ่มเป้าหมายหลักของปาร์ตี้ Trasher คือสาว ๆ และ LGBT มาโดยตลอด ซึ่งครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ดูได้จากโปสเตอร์และธีมงานที่จะมีการเปิดเพลงของ Beyonce, Rihanna, Britney Spears, Ariana Grande, Cardi B, Nicki Minaj ดังนั้นงานนี้อาจจะไม่เหมาะกับหนุ่ม ๆ เท่าไร แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไปไม่ได้ เพราะเราเองก็เคยหลงไปปาร์ตี้ของ Trasher แบบงง
ตามพฤติกรรมปกติของคนเรา เมื่อหวาดกลัวสิ่งใดมักจะหนีจากมันไปให้ไกล ไม่เอาตัวเองไปยุ่งเกี่ยวกับมันอีก เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ที่สามารถเข้าใจได้โดยไม่ต้องมีหลักการอะไรมาอธิบาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเช่นนั้นเสมอไป เพราะบางสิ่งยิ่งน่ากลัวเรายิ่งชอบ บางคนหนักถึงขั้นเสพติด แต่ยิ่งเสพก็ยิ่งกลัว เป็นความย้อนแย้งอันน่าฉงน แน่นอนว่าเรากำลังพูดถึง ‘เรื่องลี้ลับ’ หรือ ‘เรื่องผี’ อยู่นั่นเอง คุณเชื่อเรื่องผีหรือเปล่า? คุณเคยเจอผีมั้ย? 2 คำถามยอดฮิตที่เชื่อว่าแทบทุกคนต้องเคยเจอ ซึ่งแน่นอนว่าคำตอบก็จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือกลุ่มที่เชื่อกับกลุ่มที่มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องไร้สาระ ผีจะมีจริงได้ยังไง แต่สิ่งที่แปลกสำหรับเรื่องนี้คือบรรดาสื่อให้ความบันเทิงไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ หรือแม้กระทั่งเรื่องเล่าทางวิทยุที่เกี่ยวกับสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติกลับเป็นคนกลุ่มแรกที่ชอบเสพมันมากกว่า ทั้ง ๆ ที่เสพไปก็กลัวไป ส่วนคนกลุ่มหลังมักจะมองว่าเป็นเรื่องน่าเบื่อหรือปาหี่แหกตาเสียมากกว่า ทำไมคนจึงชอบเรื่องผีกันนักนะ? ทั้ง ๆ ที่อาการใจเต้นรัว เลือดสูบฉีด หรือนอนไม่หลับหลังจากเสพเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่น่าอภิรมย์เท่าไร คำถามนี้อาจจะไม่มีคำตอบที่แน่นอน เนื่องจากความชอบของแต่ละคนเป็นเรื่องปัจเจก เราไม่สามารถนำปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งไปตัดสินรสนิยมความชอบของทุกคนบนโลกได้ อย่างไรก็ตามก็มีหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่พอจะอธิบายเรื่องนี้ไว้อยู่บ้าง Astara March ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาได้เขียนบทความเกี่ยวกับความกลัวของมนุษย์ลงในวารสาร Inside Science โดยมีเนื้อหาใจความสำคัญดังนี้ เมื่อมนุษย์เผชิญหน้ากับสิ่งน่ากลัว สมองของเราจะหลั่งสารอะดรีนาลีนออกมา ซึ่งสารนี้จะส่งผลให้เรารู้สึกตื่นเต้น หัวใจเต้นเร็ว เลือดสูบฉีด เป็นการตอบสนองโดยอัตโนมัติของร่างกายไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอันตรายหรือไม่ เปรียบเทียบให้เห็นภาพง่าย ๆ ระหว่างงูและเรื่องผี ทั้ง 2 สิ่งสามารถทำให้สมองเราหลั่งอะดรีนาลีนได้ทั้งคู่