สำหรับชาวด้อมร้อนในของพี่เอก HEARTROCKER ทุกคน คงจะเศร้าไปตาม ๆ กัน เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาอุตส่าห์มีเกมเนื้อเรื่องแบบ Horror มาให้เราดูพี่เอกกรี๊ดสนั่นลั่นจังหวัดทั้งที ดันมาจบแค่ 4 พาร์ทเสียได้ ! แต่ไม่เป็นไร ถึงจะมีแค่ไม่กี่ตอนสั้น ๆ แต่ก็ต้องบอกว่า Bramble: The Mountain King เป็นเกมเนื้อเรื่องอีกเกมที่พี่เอกเลือกได้คุณภาพมาก ๆ ทั้งในด้านของเนื้อหาและเกมเพลย์เลย (สำหรับคนที่ยังไม่ได้ดูสตรีมเกมนี้) Bramble: The Mountain King เล่าเรื่องของ Olle เด็กชายตัวน้อยที่ต้องออกไปผจญภัยเพียงลำพังเพื่อตามหาพี่สาวที่จู่ ๆ ก็หายตัวไปจากห้องนอนที่อยู่ด้วยกัน ในดินแดนที่ชื่อว่า Bramble ซึ่งเส้นทางที่เด็กน้อยคนนี้ท่องไปเต็มไปด้วยความพิศวง จากป่าใหญ่ที่มีตัวละครในเทพนิยายอย่าง Gnomes น่ารัก ๆ นำเขาไปสู่เหตุการณ์สุดสยองขวัญเจอกับ Trolls กินคน พิธีบูชายัญเด็กจากเหล่าแม่ม่ายสาว ไปจนถึงโรคระบาดที่คร่าชีวิตคนทั้งหมู่บ้าน ถ้าคุณไปเปิดดูคลิปของพี่เอกตอนนี้ (ดูเถอะ เชียร์อีกรอบ) จะพบว่า Bramble: The Mountain
‘ฝันร้าย ฝันร้าย และฝันร้าย’ คงจะเป็นหนึ่งในคำที่เหมาะที่สุดสำหรับแฟนผลงานมังงะสยองขวัญของอาจารย์อิโต้ จุนจิ เพื่อใช้นิยาม Junji Ito Maniac: Japanese Tales of the Macabre ออริจินอลซีรีส์ของ Netflix ซึ่งดัดแปลงมาจากรวมเรื่องสั้น One-Shot เลื่องชื่อ ‘คลังสยอง’ ที่หลอนกันมาตั้งแต่เวอร์ชั่นมังงะ และหลอนทะลุขึ้นอันดับ 1 ซีรีส์ของไทยในช่วงเวลานี้ (24/01/2023) สำหรับคอมังงะที่อยากรู้จักอาจารย์ Junji Ito ให้มากขึ้น สามารถอ่านบทความ NIHON STORIES ของ UNLOCKMEN จะอ่านก่อนหรือหลังบทความนี้ก็ได้เลย : https://www.unlockmen.com/nihon-stories-ito-junji/ แล้วถ้าพูดมังงะเรื่องไหนก็ได้ของอาจารย์อิโต้ จุนจิกันบ้างล่ะ ฝันร้ายของพวกคุณคือเล่มไหนกัน ? สาวแววตาเสน่ห์สุดอันตราย ‘โทมิเอะ (Tomie)’ เหล่าซากปลาเน่าใน ‘ปลามรณะ (Gyo)’ หรือความตายสุดเซอร์เรียลแบบหัวลอยได้ใน ‘ลูกโป่งหัวมนุษย์ (Hanging Balloons)’ แต่เชื่อได้เลย คำตอบต้องไม่ได้มีน้อยกว่า 1 เรื่องแน่
ก่อนนอนคุณสตรีมมิ่งอะไรดูเพื่อให้นอนหลับสนิทกันครับ ส่วนตัวผมนั้นเช่าหอพักอยู่กับรูมเมท ที่จะต้องเปิดเรื่องเล่าประสบการณ์ผีจากทางบ้าน The Ghost Radio ฟังทุกคืนราวกับว่าเป็นพิธีกรรมบางอย่างเพื่อให้ตาปิดได้สนิท แต่มีอยู่คืนนึงครับ ตอนเวลา 00:40 ตามเวลานัด เพื่อนคนนี้ก็เร่ง Volume ให้เสียงของพี่แจ็คได้ขับกล่อมเหมือนคืนก่อน ๆ ซึ่งผมที่กำลังพยายามข่มตาหลับถึงกับต้องเปิดตาพร้อมเงี่ยหูฟังไปด้วย เพราะเรื่องเล่าในคืนนั้นเกิดขึ้นในหอที่พวกเราทั้งคู่อาศัยอยู่ แล้วจู่ ๆ คนเล่าคนนั้นก็บอกว่าได้ยินเสียงหัวเราะทุกคืนตอนเวลา 00:40 จากห้องที่หมายเลขเดียวกับที่เราทั้งคู่นอนอยู่! ในตอนนั้นเอง ผมถึงกับสะดุ้งขึ้นมาเพื่อจะคุยกับรูมเมทว่าจะเอายังไ ง… ในเตียงนอนของรูมเมทของผมว่างเปล่า มีเพียงเสียงหัวเราะที่ไม่มีต้นตออย่างน่ากลัวอยู่ตรงนั้น เป็นยังไงบ้างครับกับเรื่อง (แต่ง) ผีของผม ถ้าได้โทรไปเล่าให้ฟังเองจะน่ากลัวกว่านี้อีกนะ นี่ล่ะที่เขาเรียกว่าถ้าเราโตขึ้นมาในประเทศไทยที่มี Soft Power เรื่อง ‘ผี’ เราก็จะมีทักษะในการเล่าเรื่องผีติดตัวไปโดยปริยาย แต่ต้องบอกก่อนนะครับถึงผมจะสนใจเรื่องผี แต่ตัวเองก็กลัวผีมาก ๆ แล้วเรื่องผีในบ้านเรานี่มีทุกรูปแบบ และเยอะแบบไม่จบไม่สิ้นจริง ๆ ลองดูจากข้อมูลปี 2018 ที่ The MATTER ทำเอาไว้ ก็จะเห็นว่าเพียงรายการผีรายการเดียวในไทย ก็มีเรื่องเล่าที่ไม่ซ้ำกันเต็มไปหมด เอาจริง ๆ การเล่าเรื่องผีให้น่ากลัวก็เป็นศิลปะแบบเดียวกับอาชีพ Comedian
เมื่อไม่กี่วันก่อนได้ดู ‘ศิลปะล่ะ’ ของช่อง RUBSARB production คลิป Katsushika Hokusai ผู้วาด The Great Wave off Kanagawa แล้วทำเอาสายเสพมังงะของเรากรี๊ดแตกมากกก ก็เรียกว่าสนใจศิลปะในยุคเอโดะทันที เรื่องก็คือ นี่ไปศึกษาเพิ่มเติมมาแล้วเจอว่าศิลปินสมัยนั้นเขาก็เริ่มวาดงานแบบ Horror กันแล้วเว้ย แล้วศิลปิน Utagawa Kuniyoshi เป็นหนึ่งในมาสเตอร์ของสายนี้ ซึ่งภาพวาดผีของเขามันน่าหลงใหลมากเลยอะ UNLOCKMEN ขอส่งท้ายวันฮาโลวีนด้วยเรื่องราวกับผลงานของ Utagawa Kuniyoshi และภาพผี ๆ ของเขา ที่น่ากลัว สวยงาม และเต็มไปด้วยเรื่องราวเบื้องหลังอันน่าขนลุก Ukiyo-e คืออะไร? Ukiyo-e อ่านว่า ‘อุกิโยะเอะ’ เป็นศิลปะที่ได้รับความนิยมอย่างมากของญี่ปุ่นในช่วงยุคเอโดะ (ค.ศ. 1603 – ค.ศ. 1868) วิธีการสร้างผลงานของภาพชนิดนี้เต็มไปด้วยความซับซ้อน ต้องใช้ทั้งความรู้เฉพาะทางในการแกะสลักบล็อกไม้ (woodblock print) การใช้สีในหลาย ๆ ประเภท และการพิมพ์ แต่ถ้าให้อธิบายสั้น
ในช่วงเวลาที่ชื่อของ Junji Ito ถูกแปะด้วยป้ายนักเขียนราชาสยองขวัญยุคใหม่ (ยังคงมีผลมาถึงปัจจุบัน) อย่างไร้ข้อกังขาใด ๆ ด้วยองค์ประกอบของผลงานที่สร้างความหวาดกลัวสุดขีด ด้วยจังหวะและงานภาพแสนประณีต กับเรื่องราวที่ไม่มีคนอ่านสามารถจับทางได้สักครั้ง และ UNLOCKMEN เคยพูดถึงเรื่องราวของราชาคนนี้เอาไว้อย่างละเอียดในบทความ NIHON STORIES : ITO JUNJI ในคอลัมน์นี้เราจึงไม่ได้จะพูดถึงคุณจุนจิ แต่จะพาไปรู้จักกับมังงะสยองขวัญอีกรสชาติของ Hirohisa Sato นักเขียนที่ค่อนข้าง underrated ในบ้านเรา และเรื่องที่จะพูดถึงก็ติดเรทด้วยภาพของความรุนแรง จนไม่สามารถแปลลิขสิทธิ์เข้ามาอย่างถูกกฎหมายในประเทศไทยได้ ชื่อของมังงะเรื่องนั้นก็คือ Shiga Hime มังงะปี 2016 ว่าด้วยผู้เป็นอมตะและสาวกทาสรับใช้ของพวกเธอ ขออนุญาตให้เกร็ดของนักเขียนคนนี้เพื่ออรรถรสสักนิดนึง คุณซาโตะเป็นนักเขียนมังงะที่ปัจจุบันมีผลงานทั้งหมด 3 เรื่อง คือ Suzuki Just Wants a Quiet Life (2014), Shiga Hime (2016), และเรื่องล่าสุด Mother Parasite (2020) ความเก่งกาจก็คือมังงะทั้งหมดของคุณซาโตะมีความแตกต่างด้าน Story ออกจากกันอย่างสิ้นเชิง
อาจจะดูช้าไปสักนิด แต่เกมที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยในตอนนี้คือ The Quarry สำหรับแฟนคลับหนังระทึกขวัญแนว ‘ฆาตกร 1 คน vs. กลุ่มวัยรุ่น’ นี่คือเกมของคุณครับ เพราะเกมนี้เขาสร้างองค์ประกอบต่างๆ แบบบูชาหนังไล่เชือด 80s เลย ทั้งรูปแบบตัวละครเด็กเนิร์ด, สาวพรหมจรรย์, นักกีฬาซื่อบื้อ มาพร้อมกับพื้นหลังที่ถูกจัดขึ้นในค่ายกลางป่า ติดริมทะเลสาป / The Quarry เล่าเรื่องของกลุ่มวัยรุ่น 9 คน ที่ใช้เวลาปิดเทอมฤดูร้อนก่อนจะเข้าสู่ชีวิตมหาวิทยาลัย เป็นอาสาสมัครพี่เลี้ยงเด็กของค่ายที่ชื่อว่า Hackett’s Quarry แต่ในคืนก่อนกลับบ้านพวกเขากลับต้องเจอกับเรื่องราวที่ไม่มีวันลืม … The Quarry เป็นเกมที่มีฉากจบมากถึง 186 แบบ! ด้วยระบบเกมส์แบบเลือกเส้นทาง (Interactive) คำถาม-คำตอบที่ผู้เล่นเลือกจะมีผลต่อเส้นเรื่องและตัวละครเสมอ ซึ่งนับว่าผู้สร้างฉลาดมากที่เลือกระบบนี้กับเกมส์ที่ได้แรงบันดาลใจจากหนังแนวเล่นกับจริยธรรมของคนดูตั้งแต่เปิดเรื่อง เพราะวัฒนธรรมการดูหนังไล่เชือดจะบังคับให้เราเป็นนักสืบ และเดา+คิดว่าใครจะอยู่ใครจะไปเสมอ แต่ใน The Quarry จิรยธรรมนี้คุณต้องเป็นคนกำหนดเอาเองล่ะ ว่าจะรักษาขนบ Final Girl แบบคลาสสิกเอาไว้มั้ย? สำหรับคนที่เล่นหรือดูแคสเกม The Quarry จบแล้วยังอารมณ์ค้าง
ใครที่ชื่นชอบการดูหนังสยองขวัญได้เวลาเปิด Netflix แล้ว เพราะเดือนนี้ทาง Netflix ได้ต้อนรับเทศกาลฮัลโลวีนโดยการขนสารพัดหนังและซีรีส์ชวนขนลุกมาให้เราดูกันอย่างจุใจ ซึ่งเรามีหนังและซีรีส์ทั้งหมด 10 เรื่องที่อยากแนะนำให้ไปดูกัน สำหรับใครที่ใจกล้าก็ควรดูให้ครบทุกเรื่องไปเลย There’s Someone Inside Your House หนังเรืองนี้เป็นหนังแนวเชือดสับที่สร้างโดยโปรดิวเซอร์ซีรีส์และภาพยนตร์เขย่าขวัญชื่อดังอย่าง Stranger Things และ The Conjuring ซึ่งเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนักเรียนมัธยมในเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งของรัฐเนแบรสกา เมื่อใกล้ถึงวันจบการศึกษาที่ทุกคนรอคอย ‘มาคานี่’ เด็กสาวชั้นม. 6 ก็พบกับเหตุการณ์ไม่คิดไม่ฝัน เมื่อเพื่อนร่วมชั้นของเธอถูกฆาตกรสุดโหดไล่ล่า ฆาตกรคนนี้จะใส่หน้ากากที่เป็นใบหน้าของเหยื่อทุกครั้งที่ออกล่า และเปิดโปงความลับดำมืดของเหยื่อให้ทุกคนรับรู้ มาคานี่และผองเพื่อนต้อหาตัวฆาตกรให้เจอก่อนจะกลายเป็นเหยื่อรายต่อไป สามารถรับชมได้แล้วตั้งแต่วันนี้ No One Gets Out Alive หนังที่เล่าเรื่องราวชวนขนลุกของบ้านที่มีวิญญาณหลอน ผ่าน ‘แอมบาร์’ สาวเม็กซิโกที่ลักลอบเข้ามาในอเมริกา เพื่อตามหาความฝันแบบอเมริกันชน ด้วยเงินติดตัวเพียงเล็กน้อย เธอจึงจำใจเช่าห้องพักซอมซ่อแห่งหนึ่งในคลีฟแลนด์ ซึ่งที่บ้านหลังนั้นเอง พอถึงเวลากลางคืนเธอก็ต้องพบกับเหตุการณ์ชวนขนหัวลุก ไม่ว่าจะเป็น ได้ยินเสียงสะอื้นของผู้เช่าห้องคนอื่น ฝันร้ายสุดสะพรึง และเสียงประหลาดที่ดังจากห้องใต้ดิน ทำให้เธอนอนไม่หลับ
หนังสยองขวัญเป็นอีกแนวที่มีพัฒนาการไปตามสังคมอย่างเห็นได้ชัด ไม่ใช่แค่พล็อตผีแว้บไปมาอย่างแต่ก่อน แต่มีเนื้อเรื่องที่แยบยลมากขึ้น ถึงขั้นฟิวชั่นกับสิ่งมีชีวิตนอกโลก หรือผีกับเทคโนโลยีเลยก็มี หนังสยองขวัญจึงสามารถแตกสาขาออกไปได้อีกเยอะมาก ๆ แต่ไม่ได้จะมาชวนดูหนังสยองขวัญเพื่อกระตุกต่อมผวาแบบในเรื่องที่กล่าวมาเท่านั้น UNLOCKMEN อยากชวนหนุ่ม ๆ มาเสพความเท่บนความสยองของหนังผี ที่มีตัวละครสุดเท่อยู่ในนั้นจนโดดเด่นเกินเนื้อเรื่องด้วยซ้ำไป Bram Stoker’s Dracula (1992) Director : Francis Ford Coppola หนังสยองขวัญสุดคลาสสิกที่ยังคงความสยองขวัญข้ามกาลเวลามาจนถึงทุกวันนี้ หยิบมาดูกี่ทีก็ยังคงขนลุกในบรรยากาศที่ชวนให้มองซ้ายมองขวาอยู่ตลอด เนื้อเรื่องนั้นก็ยังเบสออนเรื่องราวของเคาต์แดร็กคิวล่าเหมือนเช่นเรื่องอื่น แต่ความพิเศษคือ เรื่องราวโรแมนติกที่สอดแทรกเข้าไปในเส้นเรื่องได้อย่างแนบเนียน และเป็นปมที่คอยขับเคลื่อนให้ตัวละครเรื่องนี้เดินหน้าต่อ ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้เป็นหนังรักแต่อย่างใด เมื่อดูเรื่องนี้จบ แล้วอาจจะเปลี่ยนมุมมองต่อตัวละครแดร็กคิวล่านี้ไปเลยก็ได้ เราจะได้เห็นความหล่อระกับพระกาฬของ Gary Oldman ในบท Dracula ที่เชื่อว่าสาวน้อยสาวใหญ่ ไม่ว่าสมัยก่อนหรือตอนนี้ ต่างต้องส่งสายตาหวานปิ๊งให้กับมาดของท่านเคาต์อย่างแน่นอน Constantine (2005) Director : Francis Lawrence ความเท่ของการปราบผีระดับตำนาน เรื่องราวของ John Constantine (Keanu Reeves) เขาไม่ได้เป็นนักบุญ แต่เขาคือผู้ที่เคยผ่านความตาย และมีพรสวรรค์ในการเห็นสิ่งใด ๆ ที่ไม่ใช่มนุษย์ เขาใช้ชีวิตเพื่อกำจัดพวกเกเรกลับนรกไม่ให้เหลือซาก จนเขาได้ไปเจอกับตำรวจสาวที่ขอร้องให้เขาช่วยสืบเกี่ยวกับคดีการฆ่าตัวตายของน้องสาวฝาแฝดของเธอ แต่เรื่องมันไม่ง่ายขนาดนั้น
กระแสบ้านผีสิงกลืนกินคนของซีรีส์ดังทาง NETFLIX อย่างเรื่อง The Haunting of Hill House ที่สร้างปรากฏการณ์เรื่องราวสุดหลอนของครอบครัวให้กลับมาลุกโชนอีกครั้ง ด้วยดราม่ารสเข้ม ช่วยผูกปมของเรื่องให้มีมิติมากขึ้น ลูกเล่นของผีที่สลัดเอา Jump Scare เก่า ๆ ออกไป (แต่ก็ยังมีบ้างตามประสา Horror) UNLOCKMEN เลยอยากจะชวนหนุ่ม ๆ มาดูหนังบ้านผีสิงสุดหลอน พร้อมเนื้อหาเข้ม ๆ ที่จะปั่นประสาทจนคืนนี้เราต้องระแวงหลังทุกครั้งแม้อยู่ในบ้านตัวเอง Paranormal Activity (2007) Director : Oren Peli การเล่าเรื่องของเรื่องนี้ ถือว่าค่อนข้างแตกต่างจากเรื่องอื่น ๆ ในตอนนั้น ทำให้เรื่องนี้เป็นกระแสอยู่พักนึง เรื่องราวของคู่รัก Katie และ Micah ที่ย้ายมาอยู่บ้านหลังใหม่ในแคลิฟอร์เนีย แล้ว Katie รู้สึกถึงความไม่ปกติในตอนที่เธอใช้ชีวิตในบ้านหลังนี้ เธอเองเชื่อว่ามีสิ่งลี้ลับติดตัวเธอมาตลอด และมันยิ่งสำแดงชัดเจนขึ้นในตอนที่อยู่ในบ้านหลังนี้ จนต้องตั้งกล้องไว้ในบ้านเพื่อมองหาสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้น ความหลอนมันอยู่ตรงที่เราจะไม่ได้เห็นผีเป็นตัว ๆ หรือ Jump Scare เลยสักนิด แต่จะเป็นสิ่งเล็ก ๆ
บางครั้งความบังเอิญก็นำเราไปพบกับสิ่งที่ดีเกินความคาดหมาย เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นจากยามดึกคืนหนึ่ง เรานอนไถโทรศัพท์ก่อนนอนอยู่บนเตียงเรื่อยเปื่อย ไม่มีจุดมุ่งหมายใด ๆ แต่ก่อนเราจะตัดสินใจล็อกหน้าจอและข่มตานอน สายตาแว่บหนึ่งของเราดันไปสะดุดกับคลิป ๆ หนึ่งที่เพื่อนของเราแชร์ลงใน Feed Facebook เป็นคลิปเกี่ยวกับคอนเทนต์ลึกลับที่มีคำโปรยและหน้าปกค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียว ด้วยความที่เราชอบคอนเทนต์แนวนี้เป็นทุนอยู่แล้ว จึงลองกดเข้าไปดูแบบไม่คาดหวังใด ๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากคอนเทนต์แนวนี้ของไทยส่วนใหญ่ที่เราดูมักจะเป็นการมานั่งอ่านข้อมูลใน Wikipedia ให้ฟัง ดังนั้นสำหรับช่อง ‘The Common Thread’ นี้ที่ดูไม่คุ้นตาเอาเสียเลย ยอด Subscribe ยอด View ก็น้อย จึงไม่แปลกที่เราจะไม่คาดหวัง แต่หลังจากที่ดูคลิปแรกจบ เราถึงกับอุทานในใจว่า ‘เหี้ย แม่งทำโคตรดีเลยว่ะ’ The Common Thread มีความแตกต่างจากช่องอื่น ๆ อย่างชัดเจน ด้วยการหาแหล่งข้อมูลนับสิบ ๆ แหล่ง ก่อนจะมานั่งเรียบเรียง ตัดอะไรที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ออกไปทีละอย่างเพื่อมุ่งหาความจริงหรือสิ่งที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด เราสถาปนาตัวเองเป็นแฟนคลับช่องนี้ในทันที และด้วยเหตุนี้เราจึงไม่ลังเลที่จะชวน ‘ฟาโรห์-เตชภณ คำสีแก้ว’ แห่ง The Common Thread มาพูดคุยเจาะลึกกันทันที ถึงเวลานัดสัมภาษณ์ ฟาโรห์มารอเราอยู่ก่อนแล้ว และด้วยความบังเอิญอีกอย่างคือการที่เรากับเขาเคยเรียนในคณะเดียวกัน การสร้างความคุ้นเคยก่อนการสัมภาษณ์จึงเป็นไปอย่างลื่นไหล