Entertainment

Shiga Hime ความหมายของการมีชีวิตอยู่ของมนุษย์ ที่ถูกตั้งคำถามโดยผู้ไม่ตาย

By: GEESUCH October 26, 2022

ในช่วงเวลาที่ชื่อของ Junji Ito ถูกแปะด้วยป้ายนักเขียนราชาสยองขวัญยุคใหม่ (ยังคงมีผลมาถึงปัจจุบัน) อย่างไร้ข้อกังขาใด ๆ ด้วยองค์ประกอบของผลงานที่สร้างความหวาดกลัวสุดขีด ด้วยจังหวะและงานภาพแสนประณีต กับเรื่องราวที่ไม่มีคนอ่านสามารถจับทางได้สักครั้ง และ UNLOCKMEN เคยพูดถึงเรื่องราวของราชาคนนี้เอาไว้อย่างละเอียดในบทความ NIHON STORIES : ITO JUNJI

 ในคอลัมน์นี้เราจึงไม่ได้จะพูดถึงคุณจุนจิ แต่จะพาไปรู้จักกับมังงะสยองขวัญอีกรสชาติของ Hirohisa Sato นักเขียนที่ค่อนข้าง underrated ในบ้านเรา และเรื่องที่จะพูดถึงก็ติดเรทด้วยภาพของความรุนแรง จนไม่สามารถแปลลิขสิทธิ์เข้ามาอย่างถูกกฎหมายในประเทศไทยได้ ชื่อของมังงะเรื่องนั้นก็คือ Shiga Hime มังงะปี 2016 ว่าด้วยผู้เป็นอมตะและสาวกทาสรับใช้ของพวกเธอ 

ขออนุญาตให้เกร็ดของนักเขียนคนนี้เพื่ออรรถรสสักนิดนึง คุณซาโตะเป็นนักเขียนมังงะที่ปัจจุบันมีผลงานทั้งหมด 3 เรื่อง คือ Suzuki Just Wants a Quiet Life (2014), Shiga Hime (2016), และเรื่องล่าสุด Mother Parasite (2020) ความเก่งกาจก็คือมังงะทั้งหมดของคุณซาโตะมีความแตกต่างด้าน Story ออกจากกันอย่างสิ้นเชิง เขาเป็นคนทำงานศิลปะที่ไม่กลัวเรื่อง Safe Zone และอาจจะเรียกว่าเกลียดสูตรสำเร็จก็ไม่ผิดนัก มีเรื่องนึงพูดถึงนักฆ่าที่อยากอยู่เงียบ ๆ จู่ ๆ อีกเรื่องก็เกี่ยวกับความสัมพันธ์ด้านมืดของแม่กับลูกเสียอย่างนั้น แต่ถึงจะแตกต่างแค่ไหน เอกลักษณ์ที่ไม่เคยหายไปไหนของนักเขียนคนนี้คือการสำรวจความเป็นมนุษย์อย่างลึกที่สุดเท่าที่จะว่ายเข้าไปค้นได้ จนทำให้ตัวของเขามีมิติอย่างล้ำลึกเสมอ

UNLOCKMEN ขอพาทุกคนไปรู้จักกับ Shiga Hime มังงะสาย Horror ของคุณซาโตะที่ให้อะไรมากกว่าความน่ากลัว หรือฉากต่อสู้แบบโหดลากไส้ ในระดับที่เป็นปรัชญาชีวิตเลยก็ว่าได้

 * Spoil Alert : บทความนี้มีการสปอยล์เนื้อหาสำคัญของมังงะ รวมถึงตอนจบของเรื่องด้วย *   

 ** Trigger Warning : มังงะเรื่องนี้เต็มไปด้วยภาพของความรุนแรง และเนื้อหาที่สะเทือนใจอย่างมาก **   

เรื่องย่อ : Blood Race สิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์อมตะที่ไม่ต่างจากแวมไพร์ อาศัยการดื่มเลือดสด ๆ ที่คั้นจากหัวใจของมนุษย์เป็นอาหารเพื่อประทังชีวิต และไม่สามารถให้ร่างกายถูกแสงแดดได้ แต่ทว่า Blood Race เป็นเผ่าพันธุ์ที่ไม่ออกล่าด้วยตัวเองแต่จะใช้ทาสที่เรียกว่า ‘สาวก’ เป็นผู้ออกล่าเหยื่อให้ และตรงนี้เอง ที่ชะตาของเด็กหนุ่มชื่อ ‘โอซามุ’ ผู้เป็นสาวกคนล่าสุดกำลังจะเปลี่ยนไป


ความฝันที่ไม่ได้เลือกเองของเหล่าสาวก

จากที่เล่าไปในเรื่องย่อจะเห็นได้ว่า Blood Race อันตัวละครสำคัญที่ขับเคลื่อนของเรื่องนี้ ถูกเรียกว่าเหล่า ‘สาวก’ (slave) ผู้มีภารกิจคอยล่าหัวใจสด ๆ ให้เจ้านายของตัวเองดื่มประทังชีวิต ซึ่งชัดเจนมากว่าผลงานของคุณซาโตะเรื่อง Shiga Hime ได้รับแรงบันดาลใจโดยตรงมาจากผีของชาวยุโรป ‘แวมไพร์’ อย่างไม่ต้องสงสัย

จุดสตาร์ทของเรื่องเริ่มขึ้นอย่างนี้ เมื่อเด็กหนุ่มวัยมัธยมชื่อ ‘โอซามุ’ ถูก ‘โชอิจิ’ นักเรียนรุ่นเดียวกันหลอกเพื่อเป็นอาหารให้กับ Blood Race ชื่อ ‘มิวาโกะ’ แต่สถานการณ์กลับพลิกผัน มิวาโกะถูกใจโอซามุและจัดการเปลี่ยนเขาให้กลายเป็น Blood Race สาวกคนใหม่ของเธอเสียเอง โอซามุจำเป็นต้อล่าหัวใจให้กับเธอผู้เป็นนาย เพื่อแลกเปลี่ยนกับการยืดชีวิตให้ตัวเองต่อไป 

ทีนี้ ความซับซ้อนของเหล่าสาวกก็เริ่มต้นขึ้น โดยมี ‘แหล่งกำเนิด’ ในการกลายพันธุ์จากมนุษย์สู่การเป็นสาวกเป็นหัวใจหลัก แน่นอนว่าจุดประสงค์ของแต่ละคนนั้นต่างกันออกไป เพราะมันไม่มีคนปกติที่ไหนที่ต้องการจะถูกกัดคอและต้องสาปกลายร่างจากเลือดของ Blood Race หรอก นอกจากจะทรมานแล้ว รูปร่างก็จะกลายเป็นปีศาจอัปลักษณ์จนไม่สามารถเข้าสังคมของมนุษย์ได้อีกเลย 

ข้อแลกเปลี่ยนก่อนจะกลายเป็นสาวกอย่างเต็มตัวนั้น มักจะมาพร้อมกับเรื่องของผลประโยชน์แลกเปลี่ยนระหว่างเจ้านายกับสาวกทุกครั้งไป บางคนทำเพื่อช่วยชุบชีวิตคนรัก บางคนก็เพื่อหล่อเลี้ยงให้ได้มีชีวิตแบบคนปกติในระยะเวลาสั้น ๆ (Blood Race ที่ดื่มเลือดจะสามารถกลับไปมีร่างกายและหน้าตาแบบมนุษย์ได้ในระยะหนึ่ง) และบางคนก็ทำไปเพื่อให้เจ้านายมีชีวิตอยู่ต่อไปจริง ๆ จะเป็นความรักหรือเสน่หาอย่างเต็มใจก็แล้วแต่ เรียกว่าสาวกแต่ละคนก็มีจุดประสงค์ After Life หลังจากที่ไม่ได้เป็นมนุษย์แล้วต่างกัน แต่พวกเขาต้อง ‘ล่า’ หรือก็คือการ ‘ฆ่า’ คนเพื่อให้สำเร็จข้อแลกเปลี่ยนนั้น ๆ ซึ่งตรงนี้เอง ทำให้เราเห็นการเอาตัวรอดแบบมนุษย์ ในขณะที่ร่างกายและจิตใจไม่ได้เป็นมนุษย์อีกแล้ว จนดูเหมือนคำว่าค่อย ๆ กลายเป็นปีศาจ ก็อาจหมายถึงการยอมทิ้งศีลธรรมเดิม ๆ ในการเห็นคุณค่าของชีวิตคนอื่นแบบนี้นี่เอง   

สิ่งที่น่าสนใจสำหรับเราอยู่ตรงตัวละครชื่อ ‘มุซาชิ’ สาวกที่เวลาฆ่าคนเพื่อเอาหัวใจจะต้องขอโทษทุกครั้งไปเหมือนกับการโปรดสัตว์ให้ชีวิตที่ถูกตัวเองพรากไป และตัวของเขาเองมีจุดประสงค์เดียวเพียงเพื่อต้องการให้ ‘จิอากิ’ ผู้เป็นนายของตนมีชีวิตยืนยาวอยู่ตลอดไป ทั้ง ๆ ที่เจ้านายก็ปฎิเสธการฆ่าคนมาอย่างยาวนาน เพราะเหนื่อยที่จะต้องใชีชีวิตแบบ Blood Race ผู้เป็นอมตะอย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ พร้อมคร่าชีวิตคนอื่นอีกแล้ว คำถามเกิดขึ้น “การตัดสินใจของจิอากิคือความหมายของชีวิตมนุษย์หรือปีศาจกันแน่?” อันเป็นคำถามสำคัญของเรื่อง ที่เราก็ตั้งคำถามต่อตัวเองตลอดเวลาระหว่างอ่าน Shiga Hime


‘เลือดแท้’ กับ ‘เลือดผสม’ 

Blood Race ผู้เป็นเจ้านายของเรื่องนี้ถูกแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ ‘เลือดแท้’ กับ ‘เลือดผสม’ ความหมายก็ตรงตัวตามชื่อ เลือดแท้คือเผ่าพันธุ์ Blood Race ที่สืบสายเลือดโดยตรง ส่วนเลือดผสมคือผู้ที่ติดเชื้อจากเลือดแท้มาอีกที ซึ่งแน่นอนว่าอย่างแรกนั้นแข็งแกร่งกว่าอย่างหลังมาก และมิวาโกะที่เป็นเจ้านายของโอซามุพระเอกของเรื่องก็เป็นเผ่าพันธุ์เลือดแท้ จุดประสงค์ในการมีชีวิตอยู่ของเธอจึงแตกต่างกับ Blood Race ตนอื่น 

ชนชั้นทางเผ่าพันธุ์เป็นสิ่งที่ผลต่อความอยู่รอดของตัวละคร และมันยังสะท้อนถึงจุดประสงค์ของชีวิตที่ต่างกัน ในระดับที่เรียกว่า เป็น ‘ศักดินา’ ผู้เพียบพร้อมทุกอย่าง กับ ‘ชาวบ้าน’ ปากกัดตีนถีบเลยก็ว่าได้ แถมเลือดแท้ยังเป็นที่หวาดกลัวเสมอ การแบ่งชนชั้นจึงถูกใช้เล่านิสัยใจคอตัวละครอีกด้วย

จุดที่น่าสนใจอีกอย่างของ Blood Race ผู้เป็นเจ้านายคือทุกคนเป็น ‘เพศหญิง’ ทั้งหมด ความน่าสนใจอย่างแรกคือตัวเอกละครสำคัญในผลงานมังงะของคุณซาโตะมักถูกเล่าด้วยเพศหญิงเสมอ รวมถึง 2 เรื่องที่เรากล่าวมาในข้างต้น คงจะเป็นความหลงใหลบางอย่างในมิติเรื่องเพศของเขา นั่นก็ทำให้ในส่วนความน่าสนใจอีกอย่างคือความเป็น ‘แม่’ ของ Blood Race ในแง่ของการเป็นผู้ให้กำเนิดสาวก แบบเข้มข้นมาก ๆ ในระดับเป็นผู้ให้ ผู้รับ และผู้เรียกคืนเลยทีเดียว 


  ความรักผู้อยู่ตรงกลางระหว่าง 2 โลก และวันจบการศึกษาของชีวิต 

ไม่มีอาวุธใดจะอันตรายได้เท่ากับ ‘ความรัก’ อีกแล้ว เป็นคำพูดที่จริงมากเหลือเกินใน Shiga Hime และในส่วนนี้เอง ตัวละครชื่อ ‘จิกะ’ เป็นทำให้คนอ่านได้รู้ซึ้งยิ่งกว่าใคร 

‘ความรัก’ เป็นเครื่องมือสำคัญของเรื่องนี้ และถูกเล่าเอาไว้ในหลากหลายรูปแบบมาก ๆ ทั้งความเสน่หาที่สาวกมีให้เจ้านาย และที่เจ้านายมีเพื่อต้องการใช้งานบางอย่างจากสาวก แต่ความรักของมนุษย์ด้วยกันเองคือสิ่งที่ทำให้เรื่องราวใน Shiga Hime โกลาหลที่สุด และมีผลสำคัญกับตอนจบของเรื่องที่เรายังไม่สามารถเล่าได้ในบรรทัดนี้ … 

จิกะเป็นแฟนของพระเอกโอซามุของเรา เธอเป็นคนเดียวในเรื่องที่พยายามสืบให้พบว่าทำไมโอซามุจึงกลายเป็น Blood Race แล้วพยายามแก้ไขสิ่งนั้นเพราะความรัก แต่แล้ว เธอถูกเปลี่ยนให้เป็น Blood Race ในช่วงท้ายของเรื่อง และถูกมิวาโกะหลอกใช้ให้โอซามุสู้กับโชอิจิ (ตัวละครต้นเรื่องที่ทำให้โอซามุต้องกลายเป็น Blood Race) ที่ก็รักในจิกะเหมือนกันจนทั้งคู่แหลกสลายไป ความรักของจิกะเป็นเหมือนคำสาปของรัก 3 เศร้านี้ และอาจจะเป็นเพียงไม่กี่สิ่งที่เป็นความจริง และมีความหมายต่อมนุษย์ผู้ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นสาวก ที่ Blood Race ผู้เป็นเจ้านายเล็งเห็นจนนำมาใช้เป็นเครื่องมือ

   

ความสำคัญของตัวละครจิกะ นอกจากจะมีอยู่เพื่อให้โอซามุกับโซอิจิรักและสามารถใช้ชีวิตอยู่บนโลกอันโหดร้ายต่อไปได้แล้ว เธอยังเป็นผู้ตั้งอีกคำถามสำคัญของเรื่องที่ว่า “ถ้าสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้พวกเราจะยังเป็นแบบนี้อยู่ไหมนะ” เมื่อชีวิตถูกวางอยู่บนทางเดินที่ผิดซึ่งใครบางคนกำหนดเอาไว้อยู่ตลอดเวลา การไม่ได้เป็นตัวเองนั้นก็เหมือนกำลังตายทั้งเป็นอยู่ทุกขณะ เมื่อจบคำถามนั้นลง ชีวิตหน้าร้อนของเด็ก ม.ปลาย อายุ 16 ที่ไม่เคยได้ใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการทั้ง 3 คนก็ได้จบลงไปทันที จะเรียกว่า Coming Of Age ก็คงจะไม่ถูกสักทีเดียว มันเหมือนกับค่อย ๆ ตายลงไปอย่างช้า ๆ ทั้งที่ยังไม่ได้เข้าใจเลยว่าความหมายของชีวิตตัวเองคืออะไรมากกว่า


คำถามถึงความหมายของชีวิตอมตะในวันที่ชีวิตไม่มีวันดับสูญ 

หลังจากที่ตัวเอกทั้ง 3 คนของเราแตกสลายไป ในตอนจบของเรื่อง Shiga Hime มิวาโกะได้เฉลยว่าที่เผ่าพันธุ์เลือดแท้อย่างเธอสร้างวัฎจักรการล่าของเหล่าสาวกขึ้นมานั้น ไม่ใช่เพื่อให้ออกหาอาหารแทนหรอก แต่มันคือ ‘เกม’ ที่เปลี่ยนมนุษย์ให้เป็น Blood Race แล้วโยนลงไปในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด ห้ำหั่นกันเองเพื่อแสดงว่าพวกเขายังต้องการที่จะมีชีวิต จนกว่าจะตายจากกันไปทั้งหมด ทั้งใช้ความรักปั่นหัว ใช้ความเชื่อใจล่อลวง ไปจนถึงยื่นข้อเสนอที่ไม่อาจปฎิเสธได้ ด้วยจุดประสงค์สำคัญที่สุดอย่างเดียวเสมอมา 

“อะไรคือความหมายของการมีชีวิตอยู่กันนะ?”  

เกมของมิวาโกะที่มีโอซามุเป็นหมากสำคัญจบลงด้วยเวลากว่า 18 ปี และเราไม่อยากเฉลยตอนจบอันงดงามนี้ เพื่อให้ทุกคนได้อ่านเอาเอง พร้อมกับตีความตอนจบแบบปลายเปิดด้วยประสบการณส่วนตัวของแต่ละบุคคล แต่ขอแชร์มุมมองของเราเองหลังอ่าน Shiga Hime จบที่เชื่อว่า ความหมายของการมีชีวิตอยู่คือการได้ใช้เวลาชีวิตอยู่บนเวลาอันจำกัดอย่างที่ตัวเองต้องการ การมีจุดจบนั้นเป็นสิ่งสำคัญ และชีวิตควรจะต้องมีตอนจบแบบที่ค้างคาให้น้อยที่สุด เพราะความคิดนี้เอง เราจึงเห็นด้วยกับคำพูดของโอซามุที่บอกว่า Blood Race แม้จะเป็นผู้ไม่มีวันตาย แต่ก็คือเผ่าพันธุ์ที่โดดเดี่ยวที่สุดในโลกเพราะคงจะไม่มีทางหาคำตอบจากคำถามของตัวเองได้เลย

GEESUCH
WRITER: GEESUCH
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line