All-Electric 1967 Ford Mustang Fastback ใกล้เป็นจริงเข้ามาทุกที แม้จะไม่ใช่ผลงานจากโรงงาน Ford แต่เป็นสำนัก Charge Car ที่ได้ License ในการสร้าง 1967 Ford Mustang Fastback พลังงานไฟฟ้าอย่างเป็นทางการ นั่นแปลว่าเราไม่จำเป็นต้องเสีย Donor car ในการเอามาตัดดัดแปลงแต่อย่างใด สามารถสร้างขึ้นใหม่ได้ทั้งหมด ไม่เสียรถระดับตำนานที่เหลือน้อยลงทุกทีอีกด้วย 1967 Ford Mustang EV by Charge Cars จะมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 63 kWh ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าถึง 4 ตัว ให้ total output มากถึง 536 แรงม้า แรงบิด 1,500 นิวตันเมตร ทำความเร็ว 0-100 km/h ได้ใน 3.99 วินาที ความเร็วสูงสุด 322
หากพูดถึงรถยนต์สภาพยับเยินแต่ทรงมูลค่า หลายคนอาจนึกภาพไม่ออกว่ามันจะเป็นไปได้อย่างไร แต่บอกเลยว่า Lamborghini Countach ปี 1989 สีขาวคันนี้ เตรียมขึ้นแท่นรับตำแหน่งรถเละราคาแรงสุดกู่ ที่นักสะสมตัวยงต่างพากันแย่งชิงอย่างแน่นอน เพราะลำพังชื่อเสียงของตัวรถเองก็มีดีกรี Rare Item แห่งวงการ Supercar อยู่แล้ว ในฐานะโมเดลพิเศษฉลองครบรอบ 25 ปี Lamborghini ซึ่งมีเพียง 658 คันทั่วโลก และยิ่งไปกว่านั้น Lamborghini Countach สีขาวล้วนคันนี้ เป็นสเปคสำหรับตลาดสหรัฐซึ่งมีอยู่แค่ 12 คัน และมันได้ถูกเลือกให้เป็น Hero Car ในหนัง The Wolf of Wall Street โดยผู้กำกับ Martin Scorsese เพื่อสะท้อนภาพไลฟ์สไตล์สุดฟุ่มเฟือยของตัวละครเอกอย่าง Jordan Belfort ที่รับบทโดย Leonardo DiCaprio โดย Lamborghini Countach ตอกเลข VIN ZA9CAOSA6KLA12692 ที่อยู่ในสภาพยับเยินคันนี้
“ผมว่า Lambretta มันเป็นรถที่เท่ และมีสีสันความสนุกอยู่ในตัวเอง ย้อนไปตั้งแต่แลมตัววินเทจที่มีเสน่ห์ในเรื่องของการใช้โทนสีจัดจ้านสนุกสนาน ทำให้สีของรถที่เด่น ๆ ในแต่ละรุ่นแต่ละปี มันถูกบันทึกอยู่ในความทรงจำของคนขี่แลม เป็นเหมือน Colors of Time เป็นสีสันที่ชวนให้นึกถึงช่วงเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน” นี่คือมุมมองที่มีต่อ Lambretta ของ ‘จเด็จ คาลายานนท์’ หรือที่หลายคนรู้จักเขาในชื่อ ‘JDED FEDFE’ ผู้ที่หลงใหลในรถแลมวินเทจ ด้วยเสน่ห์ของสีสันและงานดีไซน์ที่เท่จับใจ จนต้องหามาครอบครองเป็นของตัวเองสักคัน “รักแรกที่มีให้กับ Lambretta เป็นเรื่องของรูปลักษณ์และสีสันที่คลาสสิกโดนใจผมมาก พอได้มาเจอแลมสีม่วงคันนี้จอดอยู่หลังร้านของเพื่อน ก็คุยกันว่าอยากได้ เพื่อนเองก็จอดอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ใช้ เลยส่งต่อให้ในราคามิตรภาพ จากนั้นผมก็เอาไปทำต่อจนกลายเป็นรถที่ใช้จริงในชีวิตประจำวัน” “อย่างที่รู้กันสำหรับคนเล่นรถวินเทจว่าได้รถมาแล้วก็ต้องให้เวลา ใช้เวลาเรียนรู้กับมัน เพราะว่ารถพวกนี้มันจุกจิก ถ้าเจอปัญหาก็ต้องรีบคอยซ่อมรีบแก้ไขถ้าแบบปล่อยทิ้งไว้มันก็จะบานปลาย ต้องแบบค่อย ๆ เรียนรู้ไปกับมันครับ ใช้งานไปเรื่อย ๆ แล้วเราจะรู้จักมันเองมากขึ้นว่าเวลาเกิดปัญหาต่าง ๆ จะต้องรับมือยังไง และที่สำคัญคือต้องอินกับการดูแลรักษามันด้วยครับถึงจะมีความสุข เหมือนอย่าง Lambretta คันที่ผมใช้อยู่ก็ต้องใช้เวลาปรับแต่งกับมันพอสมควร กว่าจะกลายเป็นรถคู่ใจตั้งแต่ช่วงโควิดใหม่ ๆ ผมไปไหนไปกันกับคันม่วงนี้ตลอด ขี่เดินสายตัดผม
ซื้อรุ่นนี้ไม่มีตกยุค 2024 Mazda MX-5 Roadster เปิดหลังคา น้ำหนักเบา ล่าสุดได้รับการอัพเกรดใหม่เพิ่มความทันสมัยเข้าไป ไฟหน้า LED ดีไซน์ใหม่รวมเอา daytime running lights ย้ายจากกันชนเข้าไปไว้ในโคมเรียบร้อยแล้ว กระจังหน้าฝั่งซ้ายติดตั้ง radar sensor สำหรับ Adaptive Cruise Control พร้อม Smart Brake Support หยุดรถอัตโนมัติหากเจอสิ่งกีดขวาง ทำงานที่ความเร็วไม่เกิน 15 km/h และได้ล้อลายใหม่อัพขนาดจาก 16 เป็น 17 นิ้ว ขยับมาดู interior ในที่สุดจอ infotainment ก็ได้เปลี่ยนใหม่เป็นจอขนาด 8.8 นิ้ว พร้อมปรับ interface ใหม่ให้ทันสมัยและตอบสนองได้ดีขึ้น ช่วยปรับลุคให้ภาพรวมดูดีขึ้นเยอะเลยทีเดียว เพิ่มทางเลือกสีภายในโทนเบจเพื่อความ old-school ช่วยให้ห้องโดยสารดูปลอดโปร่งมากขึ้น ด้านการขับขี่ เครื่องยนต์ยังคงให้ output เท่าเดิม แต่มีการอัพเกรดหลายอย่างเช่น asymmetrical
The Theon Design ITA001 ผลงานการสร้างรถคลาสสิค 911 964 Carrera 4 Coupe ใหม่หมดแบบ fully-restored พร้อมอัพเกรดสเปกใหม่ให้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น เริ่มด้วยการลดน้ำหนักบอดี้ผลิตใหม่เสริมความแข็งแรงจาก all-carbon จนเหลือน้ำหนักรวมของเหลวแล้วเพียง 1,152 กิโลกรัม ระบบไฟเดินใหม่หมดเปลี่ยนวัสดุสายไฟเป็น Aerospace-grade ใช้งานได้ยาว ๆ ช่วงล่าง Semi-active suspension และบิ้วเครื่องยนต์ 4.0-liter NA flat-six ใหม่ มอบประสบการณ์ขับที่แตกต่างให้กับ air-cooled Porsche 911 สิ่งอำนวยความสะดวกถูกเสริมเข้าไปเพื่อการใช้งานประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นระบบ dual air-conditioning compressors พวงมาลัยไฟฟ้า electric-power steering pump ซึ่งไม่ใช่แค่ใส่เข้าไปธรรมดา แต่ Theon Design ยังคำนึงถึงการกระจายน้ำหนักที่ยอดเยี่ยมด้วย เครื่องยนต์ air-cooled 4.0-liter engine flat-six ให้กำลัง 400
ไม่เคยอยากถูกหวยขนาดนี้มาก่อน แต่เห็น Porsche 911 GT3 R Rennsport แบบนี้ใครจะห้ามใจไหว นี่คือรุ่นพิเศษ Limited-run เพียง 77 คันในโลก เปิดตัวภายในงาน Rennsport Reunion 7 ดีไซน์รอบคันได้รับอิทธิพลมาจาก Porsche 935 race car อย่างชัดเจน มีเพียงแค่ฝากระโปรงและหลังคาที่ยกมาจาก GT3 R race car บอดี้ที่เหลือรวมถึงซุ้มล้อและ rear wing ขนาดใหญ่เพื่อเพิ่ม downforce มหาศาลได้แรงบันดาลใจจาก Brumos Porsche 935/77 เป็นผลงานที่สร้างขึ้นใหม่จาก carbon fiber ทั้งหมด เครื่องยนต์ 6 สูบความจุ 4.2-liter NA ปรับจูนตามสเปกรถแข่ง 100% มาพร้อมแรงม้าจุก ๆ 620 PS กับรอบเครื่องยนต์สุดจัดจ้านที่ 9,400 rpm
ไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นความลงตัวแบบไม่ล้นของ Novitec และสำหรับ Ferrari 812 Superfast N-Largo S คันนี้เป็นอีกผลงานที่สวยงามลงตัวด้วยชุดแต่ง Widebody ผลิตจาก carbon fiber รอบคันในสีดำล้วนแม้แต่โลโก้ Ferrari ก็ยังดำ มันเท่ขนาดจนลูกค้า VIP ต้องขอร้องให้ทำขายหลังจากเห็นรถเจ้าของสำนักแต่ง โดยมีจำนวนทั้งหมดรวม 3 คันเท่านั้น นอกจากภายนอกที่โดนใจ ภายในเครื่องยนต์ความจุ 6.5-liter V12 NA ก็ได้รับการอัพเกรดจากเดิม 789 horsepower 530 lb-ft ผ่านการจูนระบบไฟฟ้าและ remapp ECU พร้อมทีเด็ดอยู่ที่ Novitec quad-exhaust system เสียงดุดันระดับรถ F1 Car พร้อม output ใหม่ที่ขยับเป็น 829 horsepower 553 lb-ft น่าเสียดายที่ระหว่างเราพิมพ์ถึงตรงนี้ Ferrari 812 Superfast N-Largo S
Nissan Concept 20-23 รถไฟฟ้า sporty urban electric car ที่ได้แรงบันดาลใจจากรถแข่ง Formula E ชื่อ 20-23 มาจากการฉลอง 20 ปี Nissan Design Europe ใน London ส่วน 23 เป็นเลขภาษาญี่ปุ่นดั้งเดิมของแบรนด์ (23 อ่านว่า Ni San) เมื่อรวมกันยังหมายถึงปีปัจจุบัน 2023 อีกด้วย Nissan Concept 20-23 ออกแบบโดยทีมดีไซน์เนอร์รุ่นใหม่เพื่อแสดงให้เห็นทิศทางของ Urban EV ที่ Nissan กำลังก้าวไปในอนาคตโดยไม่ยึดติดกับปัจจุบัน ไฟหน้าและไฟท้าย LED เส้นวงกลมสะท้อนถึงตำนาน GT-R ตัวถังทรง 3-door hatchback ที่เน้นเรื่อง aerodynamic ผ่านช่องดักอากาศแปลกตาทั่วทุกจุดรอบรถ ซุ้มล้อด้านข้างขนาดใหญ่เพิ่มความดุดันให้ตัวรถและป้องกันลมไหลเข้าใต้ท้องรถ ด้านท้ายโชว์ rool spoiler ขนาดใหญ่
คราวก่อนเรานำเสนอ Tesla Cybertruck Police Vehicle ไปแล้ว คราวนี้ขอนำเสนออีกหนึ่งโปรเจคของ Unplugged Performance ที่ได้สร้าง Tesla Model Y Cop Car ขึ้นมาเปิดตัวในงาน Tesla Takeover ในฐานะรถตำรวจ Gen ใหม่ที่จะมาปฏิวัติ public safety บนท้องถนน แต่ก็มีคู่แข่งอย่าง Ford Mustang Mach-E GT ที่ดูจะมีภาษีดีกว่าในฐานะแบรนด์ที่ผูกพันกับตำรวจอเมริกันมานาน นอกจากข้อดีด้านเทคโนโลยีที่พร้อมอัพเกรดได้ไวและทำได้ทันที สามารถรองรับการเชื่อมต่อ Cloud Technology กับรถยนต์ สถานีตำรวจ และฐานข้อมูลกลางของกรมตำรวจแบบ real time ตลอดเวลา มีระบบ autopilot ที่ล้ำหน้าที่สุดช่วยเจ้าหน้าที่ทำงานได้ดีกว่า มีสถานี Supercharger network ที่ครอบคลุม ซึ่งหลายสำนักแต่งรถต่างทยอยอวดผลงาน Tesla Cop Car เพื่อแสดงให้เห็นว่ามันสามารถอัพเกรดได้แค่ไหน ในราคาดัดแปลงที่ต่ำสุด ๆ เพื่อประหยัดภาษีประชาชน
ลบภาพติดตาที่ตำรวจอเมริกันต้องขับ Ford Explorer ออกไป เตรียมเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ของ Next-Gen Police Vehicle ใน Tesla Cybertruck เวอร์ชัน Cop Car โปรเจคที่นำเสนอโดย Oracle บริษัทเทคยักษ์ใหญ่ด้าน cloud technology โดยก่อนหน้านี้ Telsa ก็เคยนำเสนอ Model Y Cop Car เพื่อหวังให้ตำรวจใช้แทนที่ขบวนรถเดิม ซึ่งการทดสอบโดยตัวแทนของ Police Departments ก็ประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม หากขายได้จริงจะถือว่าเป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่มากในอเมริกา รวมถึงประเทศอื่น ๆ ที่จะตามมาในอนาคต โปรเจค Tesla Cybertruck Cop Car ของ Oracle มีจุดเด่นคือความสามารถในการเชื่อมต่อข้อมูลตลอดเวลาระหว่าง Cloud Technology กับ onboard computing system อัพเดทสถานการณ์และเหตุการณ์สำคัญแบบ real time ค้นหาข้อมูลได้แบบไร้ขีดจำกัดระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ Telsa Cybertruck
MGB Coupe ยอดฮิตจาก MG ยุค UK กลับมาใหม่แบบ restomods “LE60” ตัวเล็กแต่ขุมพลังพริกขี้หนู เครื่องยนต์มีให้เลือกสองแบบทั้ง V8 และ Electric ฉลอง 60 ปีให้กับตำนานความคลาสสิคผลิตจำนวนจำกัด 30 คันเท่านั้น MGB LE60 เครื่องยนต์ 4.8-liter V8 พกแรงม้ามา 375 ตัว แรงบิด 403 นิวตันเมตร เกียร์ 5-speed manual ขับเคลื่อนล้อหลังพร้อม limited-slip differential ในบอดี้ที่หนักเพียง 1,122 กิโลกรัม หรือเทียบเท่า Mazda MX-5 ทำความเร็ว 0-100 ใน 4 วินาที รับประกันขับมันส์สะใจแน่นอน ในโมเดลขุมพลังไฟฟ้ามีลูกเล่นน่าสนใจหลายอย่าง โดยเฉพาะฟิลลิ่งการขับที่ตั้งใจทำให้ได้อารมณ์เครื่องยนต์ ICE ให้มากที่สุด มอเตอร์ไฟฟ้าติดตั้งล้อหลัง ใส่ชุด clutch
บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดตัวรถยนต์ The New Range Rover SV (เรนจ์ โรเวอร์ เอสวี ใหม่) พร้อมให้เป็นเจ้าของในราคาเริ่มต้นที่ 16,999,000 บาท รับ Range Rover Care นาน 5 ปี ประกอบด้วย การรับประกันคุณภาพ บริการบำรุงรักษาตามระยะ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมง ระยะเวลา 5 ปี พิเศษสำหรับลูกค้าจองและออกรถตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน – 31 ธันวาคม 2566 สัมผัสประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟเยี่ยมชมโรงงาน ณ ประเทศอังกฤษ ระยะเวลา 3 วัน 2 คืน ข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-666-7500 Range Rover SV